Share

บทที่ 872

Author: หว่านชิงอิ๋น
“ไม่มี”

“ข้าเพิ่งรู้เบาะแสบางอย่างก็เท่านั้น”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่ลั่วเยวี่ยอิงมิยอมเชื่อง่าย ๆ นางร้องไห้อย่างน้อยใจ และดึงแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนเอาไว้ “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องมิอยากรักษาตาให้หม่อมฉันหรือ”

“หม่อมฉันรู้ว่าที่ผ่านมามันเป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมด หม่อมฉันรู้ว่าตัวเองผิด หม่อมฉันจะมิกล้าอีกแล้ว”

“หากหม่อมฉันตาบอด หม่อมฉันคงมิอาจมีชีวิตอยู่ได้”

“ท่านอ๋องบอกความจริงกับหม่อมฉันเถิดเพคะ หากท่านมิคิดจะรักษาดวงตาของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็จะไปตายเดี๋ยวนี้เลย”

"จะได้มิต้องให้คนอื่นมารังแกตอนที่หม่อมฉันตาบอด..."

ลั่วเยวี่ยอิงพูดและร้องไห้สะอึกสะอื้นมากขึ้นกว่าเดิม

ลั่วชิงยวนถูกรบกวนจนปวดหัว พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นนั่ง หยิบถ้วยชาข้างเตียงแล้วขว้างไป

“ถ้าอยากร้องไห้นักก็ออกไปร้องไห้ข้างนอกซะ”

ถ้วยชาแตกลงที่เท้าของลั่วเยวี่ยอิง ทำให้ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้หนักขึ้นอีก

ฟู่เฉินหวนปวดหัวอย่างหนัก เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้น เขารีบยกมือขึ้นจับหัวตัวเอง

รู้สึกเหมือนมีหนามมากมายแทงเข้าไปในสมองของเขา เจ็บปวดแทบทนมิไหว

หลายครั้งที่เขาอยากจะรับปากลั่วเยวี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 873

    เขาถามอย่างเป็นกังวล “ท่านอ๋อง ท่านจะมิทรงให้หมอหลวงตรวจดูจริง ๆ หรือ?”เหตุการณ์เมื่อครู่ ท่านอ๋องมิเคยเป็นเช่นนี้มาก่อน เหมือนกับกลายเป็นคนละคน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูโหยวก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อยดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชาเล็กน้อย เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ห้ามพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้กับใครทั้งนั้น”“นอกจากเจ้าและเซียวชูแล้ว ข้ามิต้องการให้คนที่สี่รู้เรื่องนี้”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูโหยวก็พยักหน้า“"พ่ะย่ะค่ะ”“แต่ท่านอ๋อง สถานการณ์ของท่านร้ายแรงขนาดนี้ ต้องหาทางแก้ไขพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนหลับตาลงอย่างหนักใจ “แก้มิได้หรอก”ผ่านมาตั้งนานแล้วเขายังมิรู้เลยว่าร่างกายของตัวเองมีปัญหาอะไรครั้งหนึ่งเขาเคยสงสัยด้วยว่า เขาตกหลุมรักลั่วเยวี่ยอิงจริง ๆ หรือไม่แต่เขาคิดว่าการจะรักใครสักคนก็ควรยอมรับข้อบกพร่องทั้งหมดของนางได้ ตอนที่นางทำอะไรมิงามก็มินึกรังเกียจ และมิถือสาเวลาที่นางใช้เล่ห์กลแต่สำหรับลั่วเยวี่ยอิง ​​เขามิสามารถโน้มน้าวตัวเองว่าชอบนางได้เลยเขาเกลียดความเสแสร้งและเล่เหลี่ยมของนางแต่เขาก็เสียสติบ่อยครั้ง ทนมิได้ที่จะมิปกป้องนาง และกังวลเรื่องนางเขารู้สึกว่ามีบางอย่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 874

    “หากเจ้าต้องการสนหิมะเขาฉีซาน ก็ไปงานเลี้ยงกับข้า”นี่คือลายมือของฟู่เฉินหวนข่มขู่นางอีกแล้วนางมิรู้ว่าคราวนี้ฟู่เฉินหวนต้องการทำอะไรอีก แต่นางก็ยังตัดสินใจไปด้วยไม่มีทางหลีกหนีได้อยู่ดีแต่คาดมิถึงว่าฟู่เฉินหวนจะพาลั่วเยวี่ยอิงเข้าวังไปด้วยตอนนี้ชื่อเสียงของลั่วเยวี่ยอิงฉาวโฉ่ นางมิรู้ว่าฟู่เฉินหวนพานางมาด้วยเพราะเหตุใด เพียงเพื่อให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาหรืออย่างไรแต่อย่างไรนางก็มิใช่คนที่ถูกหัวร่อใส่อยู่ดี ลั่วชิงยวนจึงมิสนใจวันนี้ลั่วเยวี่ยอิงแต่งตัวงดงาม นางยังสวมอาภรณ์สีสันสดใสที่นางสวมในงานชมบุปผาครั้งก่อน ด้วยความหวังที่จะให้ตัวเองเด่นกว่าลั่วชิงยวนเมื่อเห็นท่าทางภาคภูมิใจของนาง ลั่วชิงยวนรู้สึกขบขันและมิสนใจ สิ่งที่นางต้องการตอนนี้คือสนหิมะเขาฉีซานนางมิอยากเป็นคนไร้ค่าไปตลอดชีวิตหลังจากเข้าไปในวังหลวง มีหลายคนระหว่างทางที่เห็นลั่วเยวี่ยอิงอยู่ข้างกายฟู่เฉินหวน สายตาของพวกเขาแปลกและเต็มไปด้วยการนินทา“มิใช่ว่าก่อนหน้านี้ลั่วเยวี่ยอิงไปยั่วยวนคุณชายสกุลเหยียนหรอกหรือ? หลังจากก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่เช่นนั้นนางกล้าเข้ามาในวังได้อย่างไร?”"ช่างไร้ยางอาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 875

    ในที่สุด สายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่ฟู่เฉินหวน“ท่านดูเหมือนจะมีฝีมือมิธรรมดา สถานะก็มิธรรมดา ข้าหล่างมู่ต้องการท้าทายท่านและหวังว่าจะได้ประลองฝีมือกับท่าน!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนในท้องพระโรงก็ตกตะลึงจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็หัวเราะ“องค์ชายหล่างมู่ เหตุใดมิท้าทายคนอื่นเล่า?”“นี่คืออ๋องผู้สำเร็จราชการแห่งแคว้นเทียนเชวียของเรา ฝีมือของพระองค์เกรงว่าท่านจะรับมือมิไหว”หล่างมู่ยังคงมั่นใจ ยิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นก็ดี ข้ามาที่นี่ก็เพื่อท้าทายคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเทียนเชวียของเจ้า!”คำพูดโอหังนัก!หลายคนคิดว่าองค์ชายหล่างมู่มั่นใจถึงเพียงนี้ ฝีมือก็คงมิธรรมดาฟู่เฉินหวนยืนขึ้นอย่างช้า ๆ และเดินไปที่ท้องพระโรง “เจ้าอยากแข่งขันอย่างไร?”หล่างมู่ตอบว่า “วันนี้เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดิ มิเหมาะที่จะใช้ดาบอาวุธ เรามาประลองมือเปล่ากันดีหรือไม่!”“ตามที่ท่านปรารถนา” ดวงตาของฟู่เฉินหวนสงบนิ่ง มิแสดงอารมณ์ใด ๆจากนั้นองค์ชายหล่างมู่ก็กำหมัดแน่น และโจมตีฟู่เฉินหวนทันทีฟู่เฉินหวนเบี่ยงหลบไปด้านข้าง องค์ชายหล่างมู่ยกมือขึ้นฟาดใส่ ฟู่เฉินหวนเอนหลังหลบ ฝีเท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 876

    แววตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา และมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงลั่วเยวี่ยอิงยกยิ้มและเหลือบมองลั่วชิงยวนอย่างยั่วยุ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองนางจงใจทำเช่นนี้!“หืม? ผู้ใดหรือ? มิทราบว่าข้าจะได้ชมความงดงามบ้างหรือไม่!”องค์ชายหล่างมู่ตั้งหน้าตั้งตารออย่างมากทุกคนในท้องพระโรงมีสีหน้าประหลาดใจ สายตาต่างมองมาที่ลั่วชิงยวนใครจะมิรู้ว่าคนที่ร่ายรำเทพเหมันต์ในเมืองหลวงได้เพียงผู้เดียวนั้นคือแม่นางฝูเสวี่ย พระชายาอ๋องที่นั่งอยู่ที่นี่!ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เย็นชาเช่นกันแต่ลั่วเยวี่ยอิงยังพูดต่อ “นั่นคือพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการของเรา ลั่วชิงยวน!"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ องค์ชายหล่างมู่ก็มองลั่วชิงยวน และทำความเคารพอย่างสุภาพ เขาพูดว่า “มิทราบว่าวันนี้ข้าจะขอให้พระชายาร่ายรำเทพเหมันต์เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของข้าที่เดินทางมาหลายพันลี้ได้หรือไม่!”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชา มิอยากตอบตกลงความปรารถนาของเขาเกี่ยวอะไรกับนางด้วยเล่านอกจากนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ จะให้นางซึ่งเป็นถึงพระชายาอ๋องร่ายรำต่อหน้าคนจากเผ่าอนารยะได้เช่นไร“ท่านอ๋อง มิทราบว่าจะขอให้พระชายาร่ายรำเทพเหมันต์ได้หร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 877

    “ขึ้นอยู่กับการแสดงของเจ้า”คำพูดเย็นชาเหล่านั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดในใจลั่วชิงยวนยืนขึ้นและเดินเข้าไปในท้องพระโรงสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวน นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ฝูเสวี่ยร่ายรำเทพเหมันต์หลังจากเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของนางนอกจากนี้ยังมีผู้คนที่เคยชมการร่ายรำเทพเหมันต์ที่หอฝูเสวี่ยแต่ความรู้สึกแตกต่างไปจากครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณ ท่านอ๋อง!” องค์ชายหล่างมู่ก็แสดงความเคารพต่อฟู่เฉินหวนด้วยความตื่นเต้นทำให้บรรยากาศยิ่งซับซ้อนและยากจะอธิบายยิ่งขึ้นฟู่จิ่งหลีกล่าวอย่างรวดเร็ว “นี่มิใช่เพื่อให้องค์ชายหล่างมู่พอใจ แต่องค์จักรพรรดิมิเคยเห็นการระบำเทพเหมันต์ ท่านอ๋องเพียงต้องการใช้สิ่งนี้แสดงความยินดีกับองค์จักรพรรดิเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพก็เท่านั้น"ฟู่จิ่งหานที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พูดทันที “ใช่! ข้าเคยได้ยินเรื่องระบำเทพเหมันต์มานานแล้วแต่มิเคยเห็นมาก่อน"“ของขวัญจากอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาในวันนี้ ข้าพอใจมาก!”คนอื่น ๆ ก็พากันเห็นด้วย ทำให้ความหมายของการร่ายรำนี้ถูกดึงกลับมาเมื่อเสียงเพลงดังขึ้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มร่ายรำแม้ว่านางจะรู้ทุกย่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 878

    ฟู่เฉินหวนหันไปมองนางเมื่อมองดูสายตาของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนาวสั่นในใจ“นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชาหัวใจของฟู่เฉินหวนสับสน แต่มิกล้าแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย น้ำเสียงของเขาสงบและเย็นชา ปราศจากความอบอุ่นโดยสิ้นเชิงสายตาของเขาก็เย็นชาเช่นกัน“อย่างไรก็ไม่มีอะไร เจ้าไปพักสักสองวันก็มิเป็นอะไรหรอก”ดวงตาของลั่วชิงยวนแดงก่ำทันที “มิเป็นอะไรหรือ?”นางหัวเราะกับตัวเอง “ก็ดี ถ้ามิเป็นอะไร”จากนั้นดวงตาของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ในเมื่อท่านอ๋องทรงคิดว่ามันมิเป็นไรจริง ๆ เช่นนั้นก็มิเป็นไร”“หม่อมฉันจะไป”ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา องค์ชายหล่างมู่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “เยี่ยมมาก! ขอขอบคุณท่านอ๋องที่ยอมเสียสละ!”คำพูดเหล่านี้เปลี่ยนการแสดงออกของฟู่เฉินหวนทันทีฟู่จิ่งหลีกังวล และรีบพูดว่า “นี่ นี่ นี่ นี่มิเรียกว่าการเสียสละ พระชายาเพียงไปฝึกทักษะดนตรี นางยังคงเป็นพระชายาอ๋องอยู่!"องค์ชายหล่างมู่ยิ้มอย่างเชื่องช้า “ใช่ ใช่ ใช่ ข้าพูดผิดไปเอง”จากนั้นองค์ชายหล่างมู่ก็กลับไปนั่งลงที่เดิมทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ มีการร้องเพลง ร่ายรำในวังห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 879

    ลั่วชิงยวนติดตามองค์ชายหล่างมู่และองค์หญิงหล่างชิ่นออกจากวังหลวง ขึ้นรถม้า และมุ่งหน้าไปยังที่พักของพวกเขาระหว่างทาง องค์ชายหล่างมู่เยินยอลั่วชิงยวนหลายครั้ง แต่ลั่วชิงยวนเพียงยิ้มเบา ๆ และมิตอบอะไรกลับไปหล่างชิ่นยังกล่าวอีกว่า “พระชายา เจ้าเป็นสตรีที่สวยที่สุดที่ข้าเคยเห็นในแคว้นเทียนเชวีย! เจ้างดงาม อ๋องผู้สำเร็จราชการมิคู่ควรกับท่าน เหตุใดมิไปกับเราที่เผ่านอกด่านเล่า เจ้าจะกลายเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ที่สุดในเผ่านอกด่านของเราอย่างแน่นอน!”ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆ “ขอบพระทัยองค์หญิงหล่างชิ่นสำหรับความมีน้ำพระทัยของท่าน แต่หม่อมฉันเกิดและโตที่นี่ ที่นี่คือบ้านของหม่อมฉัน”“ก็ได้ เราจะมิบังคับ” หล่างชิ่นมิได้พูดอะไรมากเมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่หล่างชิ่นและคนอื่น ๆ อาศัยอยู่ มันเป็นบ้านธรรมดา ๆ ดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่พวกเขาเช่าชั่วคราวเมื่อมาถึงเมืองหลวงในจวนมีทหารองครักษ์ประมาณสามสิบถึงสี่สิบนาย คงเป็นพวกที่ตามมาด้วยในหมู่พวกเขายังมีสตรีสองสามคน ดูเหมือนจะเป็นนางรับใช้ทุกคนสุภาพต่อลั่วชิงยวนมาก และยังแบ่งปันอาหารอันโอชะของเผ่านอกด่านกับลั่วชิงยวนอีกด้วยแม้ว่าพวกเขาจะใจดีมากแต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 880

    หล่างชิ่นกล่าวว่า “แยกกันปฏิบัติการ ต้องสืบให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนคุ้มกันเบี้ยหวัดทหาร และเส้นทางที่พวกเขาใช้ด้วย”“คราวนี้ ข้าจะทำให้ฉินเชียนหลี่ตายอย่างไร้ที่ฝัง!”น้ำเสียงที่โหดเหี้ยมอย่างยิ่งทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นสะท้านเบี้ยหวัดทหาร?พวกเขากำลังหมายตาเบี้ยหวัดทหารจริง ๆเป้าหมายคือฉินเชียนหลี่!นางว่าแล้ว คนเหล่านี้จะประพฤติตนนอบน้อมเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเข่นฆ่าผู้คนราวกับผักปลา?ดูเหมือนวันนี้ที่แกล้งแสดงความสามารถในท้องพระโรงแล้วพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชให้กับฟู่เฉินหวนก็เป็นการแกล้งทำตัวให้อ่อนแอ เพื่อให้พวกเขาประมาทชายแดนอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ การสื่อสารช้าอยู่แล้วหากมีการแทรกแซงข่าวกรองอีก ฉินเชียนหลี่จะตกอยู่ในอันตราย และทางราชสำนักอาจมิสามารถให้ความช่วยเหลือทันเวลา!ลั่วชิงยวนมิกล้าคิดไปไกลกว่านี้ตอนนี้นางรู้สึกขนหัวลุกทันใดนั้นก็มีแมวป่าตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากมุมห้องส่งเสียงร้องออกมาจู่ ๆ ห้องก็เงียบลงหัวใจของลั่วชิงยวนเต้นตุบ ขยับเท้าแต่ละก้าวย่างอย่างระมัดระวังเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้ามินานประตูก็เปิดออกคนข้างในออกมาตรวจสอบอาศัยประโ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status