ขณะที่จ้าวเจินเจินกำลังกังวลว่าองค์ชายคังจะสงสัยตนเองจริง ๆ ก็ได้ยินเซียวหลินเทียนตะโกนอย่างเย็นชา “พอแล้ว!”“เสด็จพี่สอง กวนอิ่งเป็นสุนัขบ้า จะจับใครก็ไล่กัดคนนั้น!”“คำพูดของคนเช่นนี้จะเห็นเป็นจริงมิได้หรอก หากเสด็จพี่อยากรู้ความจริงก็ไปแจ้งทางการเถิด!”เซียวหลินเทียนกล้าเดิมพันว่าองค์ชายคังไม่มีทางไปแจ้งทางการหรอกสิ่งที่กวนอิ่งทำกับกวนผิงก่อนหน้านี้ทำให้ไทเฮากับองค์จักรพรรดิมิพอพระทัยแล้ว!หากองค์ชายคังยังอยากแต่งงานกับกวนอิ่ง ก็จะมิกล้าทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หรอก!พอจ้าวเจินเจินได้ยินเซียวหลินเทียนหยุดกวนอิ่งไว้มิให้มาแว้งกัดตนก็ลอบถอนหายใจโล่งอกเซียวหลินเทียนยังคงมีความรู้สึกต่อตนอยู่จริง ๆ แม้ว่าตนจะวางแผนจัดการเขา แต่เขาก็มิได้พูดเรื่องของนางออกไปเพื่อชื่อเสียงของนาง!จ้าวเจินเจินมองไปทางองค์ชายคังอย่างเงียบ ๆ ภาวนาขออย่าให้องค์ชายคังเชื่อคำพูดของกวนอิ่ง แล้วรีบปล่อยเซียวหลินเทียนไปเสีย!มิฉะนั้นหากไปแจ้งทางการจริง ๆ แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะอยากปกป้องตน แต่สิ่งที่นางทำก็ไม่มีทางจะตรวจไม่พบ!บัดนี้จ้าวเจินเจินไม่มีกะจิตกะใจที่จะวางแผนจัดการเซียวหลินเทียนกับกวนอิ่งแ
“อิ่งเอ๋อร์ ข้าจักมิสนใจเจ้าได้เยี่ยงไรเล่า!”องค์ชายคังกอดกวนอิ่งอย่างอ่อนโยน พลางหันกลับมากับเอ่ยกับเส้าเจิ้งซาน“ท่านลุง ท่านพาพวกเขาไปที่ห้องส่วนตัวห้องอื่นก่อนเถิด! อีกประเดี๋ยวข้าจักตามไป!”“องค์ชาย… องค์ชาย...”กวนอิ่งทนไม่ไหวแล้ว ยังไม่ทันที่พวกเส้าเจิ้งซานจะออกไป นางก็ฉีกทึ้งอาภรณ์ขององค์ชายคังอย่างบ้าคลั่ง ปากก็ร้องครวญครางไปเรื่อยเปื่อยคนของราชการเห็นดังนั้นก็หน้าแดงเขินอายทันที ไม่รอให้เส้าเจิ้งซานเอ่ยเรียก พวกเขาก็วิ่งออกไปแล้ว“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ห้ามผู้ใดแพร่งพรายเด็ดขาด!”เส้าเจิ้งซานเดินตามออกมาแล้วปิดประตูพลางเอ่ยเตือนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างดุร้ายเขาเป็นลุงขององค์ชายคัง ไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่กระจายแล้วส่งผลกระทบต่อองค์ชายคัง!บริกรตกใจกลัวจนตัวสั่นไปหมด และพยักหน้าพวกคนของราชการยังคงต้องพึ่งพาองค์ชายคังอยู่พลันรีบพยักหน้ารับปากทันใดจ้าวเจินเจินเห็นภาพกวนอิ่งฉีกทึ้งอาภรณ์ขององค์ชายคังก็โกรธมากจนตัวสั่นนางสารเลวผู้นี้ ต่อหน้าทุกคนกลางวันแสก ๆ ยังกล้าเกาะแกะองค์ชายคังเช่นนี้ ช่างต่ำเสียจริง! ต่ำตมนัก!จ้าวเจินเจินลืมไปสนิทเลยว่านางเองต่างหากที่เป
กวนอิ่งซุกเข้าไปในอ้อมแขนขององค์ชายคังแสร้งเอ่ยอ่อนแอ“ในตำหนัก มีองค์ชายปกป้องหม่อมฉันอยู่ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายหม่อมฉัน!”“องค์ชายเพคะ เมื่อหม่อมฉันแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายคัง ก็จะต้องใช้ทรัพย์สินของตระกูลกวนมาสนับสนุนองค์ชายสุดกำลังแน่นอนเพคะ!”องค์ชายคังนึกถึงคำพูดของมารดา และเห็นว่ากวนอิ่งรีบร้อนจะเข้าตำหนักจึงเอ่ยเสียงนุ่มนวล“เช่นนั้นคืนนี้ก็ตามข้ากลับตำหนักเถอะ! ข้าทำผิดกับเจ้าไปแล้ว… ก่อนหน้านี้ข้าก็อยากแต่งเจ้าเข้าตำหนักอย่างมีพิธีรีตองอยู่แล้ว!”ทันทีที่กวนอิ่งเห็นว่าบรรลุเป้าหมายก็แนบกายเข้าไปพลางเอ่ย“อิ่งเอ๋อร์เข้าใจเจตนาขององค์ชายเพคะ… เรื่องพิธีการมิสำคัญ ขอเพียงได้อยู่กับองค์ชาย อิ่งเอ๋อร์ก็พอใจแล้วเพคะ!”กวนอิ่งก็อยากจะแต่งงานกับองค์ชายคังอย่างมีพิธีรีตองเช่นกัน แต่ตำแหน่งพระชายารองจะต้องมีพิธีรีตองเพียงใดกันเชียว!นางคิดอย่างร้ายกาจ รอให้นางเข้าตำหนักองค์ชายคังก่อน นางจะหาทางปลิดชีพจ้าวเจินเจิน จากนั้นจะให้กำเนิดบุตรชายให้องค์ชายคัง!ถึงเวลานั้น ตัวนางเองก็จะอาศัยความสำคัญของบุตร ขอให้องค์ชายคังจัดงานแต่งงานอีกครั้งจากนั้นจะมีพิธีแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายคัง
ลู่หนานพาเซียวหลินเทียนกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้อย่างรีบร้อนเขาบังคับรถม้าตรงไปที่เรือนของเซียวหลินเทียน และรีบให้จูเผิงไปตามหาจ้าวซวนอย่างเร่งด่วนลู่หนานกับเฉาอี้เพิ่งจะพาเซียวหลินเทียนเข้ามาในห้องนอน จ้าวซวนก็กระหืดกระหอบเข้ามาลู่หนานเห็นเขาก็เอ่ยอย่างกังวลทันที“พี่จ้าว ท่านอ๋องกระอักเลือด!”“เจ้ารีบไปเชิญพระชายามาเร็วเข้า!”จ้าวซวนเห็นรอยเลือดขนาดใหญ่บนหน้าอกของเซียวหลินเทียน และใบหน้าแดงปานโลหิต จึงพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น!เขาโกรธมากจนอยากจะอัดลู่หนานให้เละสักที เรื่องที่เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารครั้งที่แล้วไม่เพียงพอให้ลู่หนานระวังตัวอีกหรือ?กล้าออกไปข้างนอกกับเซียวหลินเทียนเป็นการส่วนตัวโดยไม่รายงาน นี่ลู่หนานคิดจะปลิดชีพท่านอ๋องหรือไร?“ประเดี๋ยวข้าจักชำระความกับเจ้าทีหลัง!”จ้าวซวนทิ้งคำพูดดุร้ายนี้ไว้ แล้วรีบวิ่งไปหาหลิงอวี๋ครั้งที่แล้วหลิงอวี๋ช่วยหลู่ชิ่งไว้ ในช่วงสองวันมานี้ก็มาตรวจและเปลี่ยนยาให้หลู่ชิ่งทุกวัน แต่พวกทหารองครักษ์ใต้บังคับบัญชาของเขาล้วนไม่อยากพบหลิงอวี๋แม้ว่าพวกเขาจะมิกล้าพูดคำพูดแย่ ๆ ต่อหน้าหลิงอวี๋อีก แต่การแสดงออกทางสีหน้าว่าดูถูกนั
หลิงซวนเลิกคิ้ว อยากจะด่าลู่หนานลู่หนานกลัวว่าหลิงอวี๋จะโกรธ จึงรีบเอ่ย“พระชายา พระชายาเข้าไปดูก็จะรู้ หลิงซวนอย่าเข้าไปจะดีกว่า หากนางเห็นเข้าคงมิเป็นการดีขอรับ!”หลิงอวี๋เลิกคิ้ว มองลู่หนานอย่างประหลาดใจ ครั้งนี้นางไม่โกรธเพราะว่าหลิงอวี๋รู้จักลู่หนาน เขาถือว่าชีวิตของเซียวหลินเทียนล้ำค่ายิ่งกว่าชีวิตของเขาเอง!การที่เขาพูดเช่นนี้ มิใช่เป็นการห้ามหลิงซวนมิให้รักษา แต่...เซียวหลินเทียนที่อยู่ในห้องอาจจะมีบาดแผลที่ไม่สะดวกจะให้หลิงซวนเห็นจริง ๆ!“หลิงซวน เจ้ารออยู่ข้างนอก! ข้าเข้าไปดูเอง!”หลิงอวี๋หยิบล่วมยาจากมือของหลิงซวนแล้วเดินเข้าไปเมื่อเดินเข้าไปใกล้เตียง หลิงอวี๋ได้กลิ่นคาวแปลก ๆ แรกเริ่มนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกระทั่งได้ยินเสียงโอดครวญของเซียวหลินเทียน และได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของเซียวหลินเทียน นางก็เข้าใจได้ทันทีใบหน้าของหลิงอวี๋แดงขึ้นทันที บัดนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดลู่หนานถึงไม่ให้หลิงซวนเข้ามาหลิงซวนเป็นสตรี หากให้นางเห็นภาพนี้เข้า ไม่เพียงแต่เซียวหลินเทียนเท่านั้นที่จะกระอักกระอ่วน แต่หลิงซวนก็จะกระอักกระอ่วนไปด้วย!หลิงอวี๋รีบหยิบยาแก้พิษออกมาแล้วโน้มต
อาการบาดเจ็บภายในเช่นนี้ก็ดูไม่เหมือนถูกทุบตีเลย!หรือว่าจะทำร้ายตัวเอง? หรือมีอุบัติเหตุอื่น?หลิงอวี๋คิดไม่ออกว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นจึงลุกขึ้นยืนพวกเขาจะเป็นเช่นไรก็มิได้เกี่ยวอะไรกับนาง นางมารักษาเซียวหลินเทียนก็เพราะเห็นแก่จ้าวซวน!เซียวหลินเทียนพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุใดนางต้องกังวลแทนเขาด้วยว่าผู้ใดเป็นคนวางแผนจัดการเขา?หลิงอวี๋เบ้ปากอย่างยินดี หึ สมน้ำหน้า!เซียวหลินเทียนควรจะได้ดื่มด่ำรสชาติของการถูกคนที่ไว้ใจมากที่สุดวางแผนร้ายใส่เสียบ้าง!เพื่อเลี่ยงให้บุรุษผู้นี้คิดว่าใต้หล้านี้มีเพียงแค่จ้าวเจินเจินที่เป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด!ในใจเขา หลิงอวี๋เป็นสตรีเลวทรามตลอดไป!หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว จึงหยิบล่วมยาของตนขึ้นมาแล้วเดินออกไป“พระชายา… ท่านอ๋องเป็นเยี่ยงไรบ้างขอรับ?”จ้าวซวนก้าวไปหาอย่างร้อนใจยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ดวงตาที่เฉียบคมของหลิงซวนก็เห็นอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของหลิงอวี๋ จึงกรีดร้องด้วยความโกรธขึ้นมา“อาจารย์ อ๋องบัดซบนั่นตีท่านหรือ? บัดซบ… ท่านมาช่วยเขา เขาก็ยังกล้าตีท่านอีก! ข้าจะจัดการให้ท่านเอง…”หลิงซวนพุ่งเข้าไปข้า
“ท่านอ๋อง กระหม่อมตรวจสอบแล้ว กวนอิ่งอาศัยอยู่ในเรือนที่เป็นสินสอดของจ้าวเจินเจินพ่ะย่ะค่ะ นางยังมีความขัดแย้งกับจ้าวเจินเจิน และยังเฆี่ยนตีคนในเรือนกับนางรับใช้ของจ้าวเจินเจินด้วย!”จ้าวซวนเอ่ยอย่างใจเย็น “การต่อสู้ระหว่างสตรีนั้นมิเหมือนกับดาบจริงระหว่างบุรุษพ่ะย่ะค่ะ...”“บางที พระชายาคังอาจกังวลว่าหากกวนอิ่งแต่งงานเข้ามาในตำหนักองค์ชายคังแล้วจะแย่งความเป็นที่โปรดปรานกับตน กลัวว่าจักควบคุมนางมิได้จึงวางแผนใส่ร้ายกวนอิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”“เช่นนั้นเหตุใดจึงเป็นข้าเล่า? หากจ้าวเจินเจินอยากใส่ร้ายกวนอิ่งก็แค่หาบุรุษใดก็ได้ให้นางก็ได้นี่!”เซียวหลินเทียนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสตรีที่เขาเคยรักมากจะผลักเขาไปหาสตรีอื่น!จ้าวซวนมองเซียวหลินเทียน พลางเอ่ยเบา ๆ “ท่านอ๋อง ลู่หนานบอกเรื่องที่หอริมธาราวันนั้นกับผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว...”“กระหม่อมได้แต่เดาว่าพระชายาคังกลัวว่าท่านอ๋องกับพระชายาอ๋องอี้จักเปิดโปงในสิ่งที่นางทำ ดังนั้นจึงรีบร้อนตีตัวออกหากจากท่านอ๋อง!”“ท่านอ๋องปราดเปรื่องและเป็นเทพสงคราม แต่มิได้มีประสบการณ์ในเรื่องระหว่างบุรุษสตรีนัก ท่านอ๋องมิเข้าใจหัวใจของสตรีนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได
พอจ้าวซวนพูดมาเช่นนั้นสีหน้าของเซียวหลินเทียนก็มืดมนความอับอายที่หลิงอวี๋นำมาให้ตนจะทิ้งมันลงเช่นนี้ได้หรือ?แต่จ้าวซวนพูดถูก ไม่ว่าเมื่อก่อนหลิงอวี๋จะทำผิดต่อตนเช่นไร นางก็ช่วยตนไว้สองครั้ง เช่นนั้นความแค้นทั้งหมดควรลบมันไปได้แล้ว!“ท่านอ๋อง… ท่านอ๋องกังวลว่าหากทำดีกับพระชายาแล้วนางจักได้คืบเอาศอกใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จ้าวซวนยิ้มขมขื่น “กระหม่อมรู้สึกว่า ท่านอ๋องมิจำเป็นต้องมีความกังวลเช่นนี้เลย!”เซียวหลินเทียนมองเขาอย่างสงสัยจ้าวซวนเอ่ยเสียงเบา “ท่านอ๋องโดนวางยาประเภทนั้น… เมื่อครู่ครั้นพระชายามา ท่านอ๋องก็กัดนางจนเจ็บตัว!”“หากพระชายายังมีความคิดเกินเลยกับท่านอ๋องอยู่ เช่นนั้นคงมิขัดขืนแล้วปล่อยเลยตามเลยไป… ก็จบแล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่พระชายามิได้ทำเยี่ยงนั้น! กลับให้ยาแก้พิษแก่ท่านอ๋องแทน!”เซียวหลินเทียนหน้าแดงทันทีเขา… เขากัดหลิงอวี๋หรือ?“ท่านอ๋องพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมไปจัดการเรื่องต่าง ๆ เอง!”จ้าวซวนกลัวว่าเซียวหลินเทียนจะอาย จึงถอยออกไปอย่างรู้งานเซียวหลินเทียนรู้สึกอายมากจริง ๆ ทั้งยังโกรธอยู่เล็ก ๆ ด้วยหลิงอวี๋เห็นด้านที่น่าเกลียดของเขาจริง
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี