Home / รักโบราณ / ยากจะหวนคืน / ตอนที่2 || นี่หรือคือสิ่งชดเชยของท่าน?

Share

ตอนที่2 || นี่หรือคือสิ่งชดเชยของท่าน?

last update Last Updated: 2025-09-02 11:08:37

สองปีผ่านไป…

ในที่สุดข่าวจากแคว้นเป่ยฉีก็มาถึงมหานครเสียนหยางและจวนติ้งอันโหวในเทียนตูตามลำดับอีกครั้งซึ่งคราวนี้มิใช่ข่าวร้ายเช่นครั้งก่อนๆ แต่เป็นข่าวดี ข่าวที่บอกเล่าว่ากองทัพของชินอ๋อง ซ่างกวนไท่ ได้ชัยชนะเหนือฝ่ายกบฏอ๋องเผ่ากั๋วเซาพร้อมขับไล่เผ่าต่างๆ อีกสามเผ่า ที่ร่วมมือกับเผ่ากั๋วเซาให้แตกฝ่ายถอยร่นขึ้นไปทางเหนือกว่าห้าร้อยลี้สำเร็จแล้ว

"ฮูหยินเจ้าค่ะ ฮูหยิน"

เพ่ยเจียว สาวใช้คนสนิทของหลี่หมิ่นถัง รีบร้อนนำข่าวที่ได้ยินมาจากเรือนของเหล่าฮูหยินเย่มารายงานผู้เป็นนายของตนเองทันทีที่ได้ฟังว่ากองทัพของชินอ๋องคว้าชัยชนะศึกยาวนานสามปีสักครา

"เอะอะอันใดกันเพ่ยเจียว"

ผิงเซียง สาวใช้อีกคนของหลี่หมิ่นถังที่กำลังเช็ดฝุ่นตรงมุมห้องอดจะถามสหายของตนเองออกไปก่อนผู้เป็นนายเสียมิได้ ส่วนหลี่หมิ่นถังกำลังตรวจบัญชีกองสูงท่วมศีรษะด้วยใบหน้าอ่อนโยน

"ข่าวดีเจ้าค่ะ เป็นข่าวดี"

เพ่ยเจียวใบหน้าแดงก่ำ คาดว่าคงวิ่งมาเต็มกำลัง หลี่หมิ่นถังจึงปิดสมุดบัญชีที่ตรวจเสร็จเป็นเล่มสุดท้ายลงทันทีเพราะนางเองก็คาดหวังว่าจะเป็นข่าวดีจากชายแดนเสียที

"ข่าวดีอันใด" เสียงหวานถามออกไป ถึงภายนอกของนางดูค่อนข้างใจเย็นแต่ใครเลยจะรู้ในใจของคนรอคอยเช่นนางนั้นร้อนรนเพียงใด

"ข่าวดีว่ากองทัพของชินอ๋องซ่างกวนไท่ชนะศึกแล้วเจ้าค่ะ และอีกไม่นานท่านโหวก็จะกลับมาถึงเทียนตูแล้ว"

สองปี สองปีเต็มที่สามีจากไปชายแดน ทว่าจดหมายกลับน้อยครั้งจะส่งตรงมาถึงตนเอง นับไม่นับมาก็ห้าฉบับถ้วน คราวนี้เขาจะกลับมาเมืองหลวงก็ยังส่งข่าวผ่านมารดาของเขา นางที่เป็นภรรยาต้องรู้สึกอย่างไร?

ก็เจ็บปวดไปเท่านั้นนะสิ...

'อย่าคิดมากจนตนเองเป็นทุกข์สิหมิ่นถัง เจ้าโตแล้ว บางทีท่านพี่คงกำลังวุ่นวายจึงรวบรัดส่งมาเพียงฉบับเดียว'

หมิ่นถังเตือนสติตนเองให้คิดในแง่ดีเอาไว้ นางจะไม่คิดด้านลบทำร้ายจิตใจของตนเองเด็ดขาด คนอื่นหมื่นแสนคิดทำร้ายความรู้สึกของเรายังไม่ร้ายเท่าตัวเราคิดทำร้ายทำลายตนเอง ท่านย่าและท่านแม่ของนางสั่งสอนมาเช่นนี้ เพราะนับตั้งแต่ตอบรับคำสู่ขอหลี่หมิ่นถังนางก็เลือกแล้ว นางเลือกจะรักและปักใจกับเย่จื่อเฉินแล้วนางจะไม่คิดเองเออเองทำร้ายใจของตนเองเด็ดขาด

"เช่นนั้นก็ดูแลภายในจวนอย่าให้มีส่วนใดไม่เรียบร้อย ประเดี๋ยวพี่จื่อเฉินกลับมาคงต้องต้อนรับแขกอีกมาก"

แน่นอนว่าตกแต่งจวนย่อมต้องใช้เงิน แต่เงินส่วนกลางของสกุลเย่ล้วนอยู่ในมือของเหล่าฮูหยินเย่ พอหมิ่นถังเอ่ยปากอีกฝ่ายกลับไม่ยอมมอบให้ หมิ่นถังจึงต้องหยิบส่วนของตนเองออกมาใช้จ่ายเหมือนเดิมถึงจะไม่พึงใจแต่หลี่หมิ่นถังกลับไม่พูดหรือแสดงออกมาแม้แต่น้อยยังคงให้เกียรติมารดาสามีอย่างดีเช่นเดิม

"ฮูหยินเจ้าค่ะ คราวก่อนสินเดิมของท่านก็หมดไปแล้วคราวนี้ยังจะนำเงินส่วนตัวของท่านออกมาตกแต่งจวนใหม่อีกเช่นนี้เงินเก็บในยามฉุกเฉินก็แทบจะไม่เหลือแล้วนะเจ้าค่ะเช่นนี้มันออกจะเกินไปหรือไม่"

ผิงเซียงอดจะทักท้วงเสียมีได้ เพราะอยู่ด้วยกันมาแต่เด็กนิสัยของหลี่หมิ่นถังนั้นเป็นอย่างไรผิงเซียงย่อมรู้ โดยเฉพาะนิสัยเก็บเงินเอาไว้ในยามตกยาก แต่ครั้งนี้นายหญิงของตนเองกลับนำเงินออกมาใช้ทั้งหมด เช่นนี้ช่างเกินไปแล้วจริงๆ

"ไม่เป็นอันใดหรอก หมดก็หมดไป ปีนี้ร้านขายโอสถของข้าในเสียนหยางกำลังรุ่งเรืองจึงมีกำไรมาก เก็บสะสมไม่เกินปีหน้าก็มากกว่าเงินที่นำออกมาซ่อมแซมจวนคราวนี้แล้ว"

เพ่ยเจียวอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าหากเย่ฮูหยินหรือบัดนี้คือเหล่าฮูหยินเย่กับคุณหนูสามเย่ยังครอบครองอำนาจในทรัพย์สินสกุลเย่ไม่ยอมปล่อยวางเช่นนี้อีกสิบปี คุณหนูของพวกตนคงยากจะเก็บออมเงินได้มาก หรือต่อให้เก็บได้มากแค่ไหนก็จะหมดลงเช่นนี้เสมอ แต่นางก็ไม่กล้าจะกล่าวออกไป

อีกสองเดือนกองทัพชินอ๋องเดินทางกลับถึงเสียนหยางและอีกสามวันติ้งอันโหวก็กลับมาถึงเทียนตูด้วยตำแหน่งแม่ทัพปกป้องเทียนตูแทนอดีตติ้งอันโหวผู้เป็นบิดาที่ลาจากไป หลี่หมิ่นถังไปรอรับเช่นครอบครัวของทหารคนอื่นๆ แต่ใครจะคิด นางจะพบเข้ากับภาพบาดตาบาดใจจนโลหิตไหลลงมาท่วมหัวใจตั้งแต่เขายังไม่ลงจากหลังม้า

"ฉินซวงเอ๋อร์คืออนุที่ข้าแต่งเมื่อปีก่อนที่เป่ยฉีน่ะหมิ่นถัง นับจากนี้ก็ฝากนางเอาไว้กับเจ้าดูแลด้วย ซวงเอ๋อร์คารวะฮูหยินเสียสิ"

จุกเสียดราวกับนางถูกกำปั้นลึกลับต่อยลงมายังลิ้นปี่ จุกแน่นจนพูดสิ่งใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว รับอนุหรือแต่งอี้เหนียงฮูหยินเอกเช่นนางสมควรรับรู้ ทว่าสองปี จดหมายห้าฉบับจื่อเฉินไม่เคยบอกกล่าวแก่นางเลยว่าเขาคิดจะรับอี้เหนียง ถึงบุรุษที่ออกรบสามารถรับสตรีบำเรอไม่ก็อี้เหนียงได้แต่ส่วนใหญ่ต้องแจ้งกับฮูหยินที่รอคอยอยู่ทางบ้านให้ยินยอมเสียก่อน แต่นี่เย่จื่อเฉินรับฉิงซวงเอ๋อร์เป็นอี้เหนียงตั้งแต่ปีก่อนนางกลับไม่เคยรับรู้แม้แต่น้อย ยามกลืนน้ำลายลงคอจึงคล้ายกับหมิ่นถังจะได้กลิ่นคาวเลือดพุ่งขึ้นจมูก ผ่านไปอึดใจหนึ่งจึงรู้สึกตัวว่านางกัดเนื้อภายในปากจนได้เลือดเสียแล้ว

"หมิ่นถังข้าพูดกับเจ้าอยู่นะ ซวงเอ๋อร์ก็คุกเข่าให้เจ้ากับนานแล้ว"

จื่อเฉินแลเห็นว่าฮูหยินของตนเองเอาแต่ยืนหน้าซีดเซียวจึงได้ย้ำกับนาง ยิ่งฉิงซวงเอ๋อร์หันมองเขาอย่างจะขอความเห็นใจเขาจึงเอื้อมมือไปจับข้อมือของอีกฝ่ายให้รู้สึกตัว

" ได้เจ้าค่ะพี่จื่อเฉิน ลุกขึ้นเถอะซวงเอ๋อร์ ข้าจะดูแลเจ้าเอง"

แล้วหลี่หมิ่นถังยังจะตอบอันใดที่มากกว่านี้ไปได้ สัญญารอคอยของนางยังมีค่ากับเขาอยู่หรือไม่หลี่หมิ่นถังอยากจะถาม แต่กลับไม่ทันได้เอ่ย มารดาของสามีก็ดึงเข้าไปพูดคุยในเรือนของนางเสียแล้ว

นี่หรือคือการตอบแทนน้ำใจของนางจากสามี การตอบแทนที่นางรอเขากลับมาถึงสองปี ตอบแทนที่นางดีกับครอบครัวของเขาและนี่หรือที่เย่จื่อเฉินเอ่ยเอาไว้ก่อนจะจากไปเป่ยฉีว่าให้นางรอเขายามกลับมาจะชดเชยให้ การรับอี้เหนียงกลับมาคือการชดเชยจริงเย่จื่อเฉินกึช่างอำมหิตเกินไปแล้วจริงๆ

“ฮูหยินเจ้าค่ะ...”

ผิงเซียงและเพ่ยเจียวย่อมเห็นถึงความเจ็บปวดในแววตาของผู้เป็นนายของตนเองเกินกว่าใครอื่น รักและรอคอยมาถึงสองปี แต่ติ้งอันโหวกลับทำเช่นนี้ตอบแทนนายหญิงของพวกนาง คนเฝ้ารอจะเจ็บช้ำเพียงใดเขาเคยคิดบ้างหรือไม่

“ข้าไม่เป็นอันใด เพ่ยเจียวไปบอกพ่อบ้านเฉียงให้เขาจัดเรือนให้อับอี้เหนียงฉิงซวงด้วยนะ”

เจ็บปวดราวกับดวงใจถูกบดขยี้แต่ด้วยฐานะของฮูหยินของติ้งอันโหว นางจะแสดงออกมาโจ่งแจ้งมิได้ เจ็บช้ำ และปวดใจแทบแดดิ้นเพียงใดหลี่หมิ่นถังก็ทำได้เพียงเก็บซ่อนมันเอาไว้

“โธ่คุณหนูรอง...” ผิงเซียงเอ่ยพึมพำแผ่วเบา น้อยครั้งที่พวกนางจะเรียกหลี่หมิ่นถังว่าคุณหนูรองต่อหน้าผู้อื่นนับตั้งแต่อีกฝ่ายได้ขึ้นมาเป็นเย่ฮูหยินของติ้งอันโหว ทว่าวันนี้ทั้งสองสาวใช้หัวใจแตกสลายไปกับนายหญิงของพวกตนจึงเอ่ยเรียก คุณหนูรอง ขึ้นมา

“ข้าจะไปตรวจบัญชีเจ้ารั้งอยู่ที่จวนก็แล้วกันเพ่ยเจียว หากติ้งอันโหวหรืออี้เหนียงฉิงต้องการสิ่งใดเจ้าก็ดูแลด้วย อ๋ออย่าลืมกำชับท่านพ่อบ้านเฉียงว่าต้องจัดเตรียมเรือนให้อี้เหนียงฉิงอย่างดี หากนางขาดสิ่งใดก็จัดการหามาให้นางได้เลยไม่ต้อรอถามข้า”

ก่อนจะออกจากจวนไปตรวจบัญชีของกิจการสกุลเย่หลี่หมิ่นถังก็ยังหันมาสั่งกำชับคนของตนเองให้ดูแลฉิงซวงกับเย่จื่อเฉินให้ดี กิจการของสกุลเย่นี้นอกจากร้านค้าสองร้านที่มีมาก่อนหลี่หมิ่นถังจะแต่งงานมา

บัดนี้ยังมีร้านขายข้าวสารที่หลี่หมิ่นถังเพิ่งเปิดขึ้นมาใหม่ เนื่องจากสกุลเย่มีที่ดินอยู่ร่วมสองพันหมู่แต่เดิมปล่อยให้เช่าบ้างทิ้งให้รกร้างบ้าง พอหลี่หมิ่นถังเข้ามาบริหารและดูแลจึงเห็นสมควรว่าน่าจะปลูกข้าว แล้วแปรรูปเป็นข้าวสารออกมาวางขาย เพราะนางสำรวจแล้วในเทียนตูนี้มีร้านขายข้าวสารเพียงร้านเดียว

แล้วก็ไม่ผิดหวังในเวลาปีเศษร้านขายข้าวสารฝูเล่อขายดีขึ้นเป็นลำดับ จากขายเพียงข้าวสาร หลี่หมิ่นถังก็เริ่มให้มีแป้งไม่ใช่เพียงแค่แป้งจากข้าว จากข้าวโพดนางก็เริ่มทดลองทำขึ้นมาแล้วเช่นกัน คนงานพร้อมที่ดินพร้อมแถมยังมีหน้าร้านนี่สำหรับแม่ค้าเช่นนางนับว่าประเสริฐยิ่ง

ภายในใจของหลี่หมิ่นถังชอกช้ำเพียงใดแต่งานในมือหญิงสาวไม่เคยละเลย เพราะหลายปากหลายท้องขึ้นอยู่กับนาง ดังนั้นตลอดทั้งวันนอกจากตรวจบัญชีที่ร้านฝูเล่อแล้วนางยังต้องเข้าไปในไร่และแปลงปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด ข้าวฟ่าง กับพืชผักอีกหลายชนิด เพื่อดูว่าแปลงใดเก็บเกี่ยวได้แล้วบ้าง กว่าจะกลับมถึงจวนก็มืดค่ำ

แต่แทนที่กลับจวนมานางจะพบหน้าของสามีเช่นเย่จื่อเฉินกลับผิดหวังเพราะเพ่ยเจียวรายงานว่าติ้งอันโหวไปกินข้าวมื้อเย็นกับอี้เหนียงฉิงแล้วก็ไม่กลับออกมาอีกเลย คาดว่าคงจะค้างเสียที่เรือนของอี้เหนียงฉิงแล้วเป็นแน่

เจ็บใดไหนเลยจะเจ็บเท่าถูกสามีเมินเฉย...

“คุณหนูรอง...” ผิงเซียงเรียกผู้เป็นนายหญิงของตนเองในยามที่หลี่หมิ่นถังยืนแน่นิ่งราวกับวิญญาณลอยออกจากร่างไปแล้ว

“ข้าไม่เป็นอันใด เพ่ยเจียวไปเตรียมน้ำเถอะข้าอยากอาบน้ำแล้วจึงค่อยกินข้าว”

ระหว่างรอเพ่ยเจียวไปเตรียมน้ำอาบผิงเซียงก็ตรงเข้ามาช่วยนายหญิงของตนเองผลัดเปลี่ยนชุด พอก้าวขาลงไปแช่ในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ หลี่หมิ่นถังก็ไล่สองสาวใช้คนสนิทให้ออกไปจากห้องอาบน้ำทัน

“แต่ว่า...”

“ออกไปเถิด ไปเตรียมมื้อค่ำให้ข้าก็ได้ ข้าอยากแช่น้ำลำพัง”

ความจริงก็คือหลี่หมิ่นถังยากจะเก็บน้ำตาเอาไว้ได้อีกแล้ว วันนี้สามีเพิ่งกลับมาจากไปรบไกล ไปนานตั้งสองปี แต่ราตรีแรกที่กลับถึงจวน เย่จื่อเฉินกลับค้างเสียที่เรือนของอนุภรรยา ปล่อยให้นางที่เป็นภรรยาเอกอยู่อย่างเดียวดายไม่เหลียวแล ให้มีจิตใจแกร่งดังหินภูผาก็ยากจะไม่หวั่นไหว

น้ำตาที่ไหลออกมามากมายหลังจากสองสาวใช้คนสนิทออกจากห้องอาบน้ำไปตามคำสั่งของนาง ยากจะฝืนทนเก็บซ่อนมันเอาไว้ได้อีกต่อไป หัวใจของนางยังเป็นเพียงก้อนเนื้อธรรมดาไม่ใช่ก้อนศิลาจะได้ไม่รู้สึกรู้สา ตรงกันข้ามวันนี้หลี่หมิ่นถังเจ็บปวดจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปหมด

กำแพงสูงที่นางสร้างให้คนภายนอกและคนสนิทเห็นมาตลอดทั้งวันพังทลายลงสิ้น ร่างเล็กมุดลงไปในถังน้ำแล้วก็กรีดร้องมันออกมา นางกรีดร้องอยู่ภายใต้สายน้ำ นางก็แค่สตรีผู้หนึ่งเจ็บช้ำก็อยากจะร้องไห้ แต่ด้วยภาระหน้าที่กับศักดิ์ศรีจึงมิอาจแสดงออกมาได้อย่างโจ่งแจ้ง คงมีเพียงระบายออกในยามอยู่ในถังไม้ใบใหญ่นี้แล้วที่หลี่หมิ่นถังสามารถตะโกนมันออกมาจนสาใจ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยากจะหวนคืน   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษหลังแต่งงาน จีม่อชงก็ทำดังที่เคยบอกกับหลี่หมิ่นถังเอาไว้ คือไม่เคยเอ่ยปากให้ฮูหยินของตนเองเลิกทำการค้า ตรงกันข้ามเขายังส่งเสริมนางอีกด้วย ส่วนเหล่าฮูหยินจีมารดาของสามียิ่งไม่เคยเข้ามาวุ่นวายภายในจวนฉางเล่อกั๋วกง และการดำเนินชีวิตคู่ของบุตรชายคนโตเช่นเหล่าฮูหยินจวนอื่นดังนั้นชีวิตหลังแต่งงานของหลี่หมิ่นถังจึงสงบสุขเกินจากที่นางใฝ่ฝันไปมากโขยามเช้าตื่นมาพร้อมกันกินข้าวมื้อเช้าด้วยกัน จากนั้นจึงต่างแยกย้ายหลี่หมิ่นถังไปตรวจงานที่ร้านในบางวันบางวันก็ไปตรวจดูยังไร่และนาที่ปลูกข้าวปลูกผัก ส่วนจีม่อจงนั้นไปที่ค่ายทหารปกป้องเมือง บางวันก็ไปที่ศาลาว่าการ สลับก็เช่นหนี้เจ็ดวันสองสามีภรรยาจะหยุดพักอยู่ที่จวนสองวันเพราะหลี่หมิ่นถังนั้นต้องดูแลจวนรวมไปถึงดูแลสามีเช่นกันเรียกว่าถึงจะทำงานนอกจวนแต่งานในจวนและหน้าที่ภรรยานางก็ไม่เคยละเลย ถึงจะมีบ้างที่อาจความเห็นไม่ตรงกัน ตามประสาคนที่เติบโตมาต่างกัน แต่คงเพราะต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่แล้วทั้งคู่โกรธเคืองกันจึงไม่เคยข้ามวันข้ามคืนหนึ่งปีแรกทั้งสองสามีภรรยาตกลงกันว่าจะยังไม่รีบมีทายาท เพราะจีม่อชงเองนั้นอยากใช้เวลาอยู่กับเพียงสองคนหวานชื่นสักป

  • ยากจะหวนคืน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานมือแกร่งสองข้างยกขึ้นประคองใบหน้างดงามเอาไว้อย่างมั่นคง เรียวปากแกร่งค่อยๆ แนบชิดลงไปบนริมฝีปากจิ้มลิ้มสีหวานคืนกลับไปช้าๆ แสนอ่อนโยน“ข้าอนุญาตจุมพิตเจ้านะหมิ่นเอ๋อร์”กระซิบชิดกับกลีบปากอวบอิ่มขออนุญาตนางสมกับเป็นจีม่อชงที่หลี่หมิ่นถังคุ้นเคยมาตลอดหนึ่งปีเศษเขาเป็นเช่นนี้อบอุ่นอ่อนโยนอีกทั้งสุภาพราวกับบัณฑิตผู้คงแก่เรียนทั้งที่แท้จริงเขาคือทหารมาทั้งชีวิตสังหารคนมายากจะนับซากศพได้หมดว่ามีเท่าใด แต่กับนางเขาถนอมราวกับว่านางคือไข่มุกล้ำค่า“อื้อ...”นางตอบรับคำเขาแล้วจุมพิตอ่อนหวานจึงเริ่มต้นขึ้น และหลี่หมิ่นถังเพิ่งถ่องแท้ว่าจุมพิตลึกซึ้งระหว่างชายหญิงนั้นแท้จริงแล้วหาใช่เพียงเรียวปากแนบกันอย่างที่ตนเองเข้าใจเท่านั้นร่างอรชรสะดุ้งในยามที่ลิ้นแกร่งสอดแทรกเข้ามาหยอกล้อลิ้นนุ่มของตนเอง นางเผลอกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว ผ่านไปครู่เดียวจีม่อชงจึงได้ถอยห่างเปิดโอกาสให้คนไม่ประสาได้หายใจ“อย่าเกร็ง ห้ามกลั้นหายใจ”เขายังกระซิบกระซาบชี้แนะผู้อ่อนด้อยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแปร่งหูไปจากเดิมมาก ปีนี้หลี่หมิ่นถังยี่สิบเกือบยี่สิบเอ็ดแล้ว นางนับว่าเป็นสตรีแกร่งและมากความสามารถ ทว่าเรื่องระห

  • ยากจะหวนคืน   ตอนที่20||วิวาห์ที่รอคอย

    ตอนที่20||วิวาห์ที่รอคอยหลังจากนั้นอีกเจ็ดวันทางสกุลจีก็ส่งแม่สื่อมาขอเทียบวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากของหลี่หมิ่นถังซึ่งคือ3หนังสือ6พิธีการตรงตามธรรมเนียมทุกสิ่งทุกอย่างพอดวงชะตาของทั้งสองนับว่าเป็นคู่สวรรค์สร้างแล้วจีม่อชงจึงเข้าเฝ้าฉางตี้ฮ่องเต้เป็นการเฉพาะซึ่งก็ไม่มีอันใดมากเขาเพียงตรงไปขอสมรสพระราชทาน เนื่องจากต้องการให้เกียรติฝ่ายหลี่หมิ่นถังอย่างถึงที่สุด และสมรสพระราชทานนี้ แต่งงานแล้วชาตินี้ก็มิอาจหย่าขาดจากกันได้หากว่าฝ่ายเจ้าสาวไม่ได้ทำผิดด้วยโทษเจ็ดขับ“ได้สิ แต่นอกจากสมรสพระทานราช เจิ้นจะมอบบรรดาศักดิ์กั๋วกงให้กับเจ้าด้วย”เพราะสกุลจีนับว่ามีคุณต่อแผ่นดินต้าเซี่ยมากล้นไหนจะยังเป็นสกุลเดิมของฮองเฮา บรรดาศักดิ์กั๋วกงนี้ย่อมเหมาะสมยิ่ง ดังนั้นอีกสามวันต่อมานอกจากพระราชโองการสมรสพระราชทานให้แก่คุณหนูรองหลี่ได้แต่งงานกับใต้เท้าจีแล้ว ยังมีพระราชโองการออกมาอีกสองฉบับหนึ่งมอบบรรดาศักดิ์ให้กับจีไท่เว่ย เป็นฉางเล่อกั๋วกงซึ่งควบคุมกองกำลังหน่วยอวี้หลินมีกำลังพลเจ็ดหมื่น อีกหนึ่งฉบับนั้นก็มอบบรรดาศักดิ์ให้กับผู้บังคับการหน่วยพยัคฆ์ทมิฬซานจี หรือจีหย่วนโจวให้เป็นเซี่ยอันโหวผู้ควบคุ

  • ยากจะหวนคืน   ตอนที่19||อย่าโทษข้าล้วนเป็นพวกเจ้าที่เลือกเอง

    ตอนที่19||อย่าโทษข้าล้วนเป็นพวกเจ้าที่เลือกเองพอถึงวันนัดหมายจีม่อชงก็ทำตามสัญญาโดยการมารับหลี่หมิ่นถังไปพบเย่จื่อเฉินและหลี่เหม่ยหลิน พร้อมกับข่าวที่ว่าทั้งสองจะไม่ตาย มีแต่นามเท่านั้นที่ถูกประหาร ทว่าตัวจริงยังมีชีวิตอยู่ แต่มีชีวิตอยู่แบบตายทั้งเป็นซึ่งเป็นดังนี้หลี่หมิ่นถังพึงใจเสียยิ่งกว่าให้ทั้งสองถึงแก่ความตาย คนพวกนั้นสมควรได้รับมัน เพราะนางเลือกจะจากมาแล้วแต่กลับเป็นคนสกุลเย่ที่ไม่ยอมปล่อยเอาแต่คิดจะดึงนางไปลงนรก ดังนั้นจีม่อชงคืนสนองด้วยนรกบนดินคืนกลับไปนางพึงใจยิ่งสถานที่กักขังทั้งสองไม่ใช่เรือนจำของหน่วยพยัคฆ์ทมิฬอีกแล้ว หากแต่เป็นเรือนรกร้างท้ายในที่ดินส่วนตัวของจีม่อชงเอง ที่ดินนั้นตั้งอยู่ทิศใต้ของเสียนหยาง ที่แห่งนี้มีเอาไว้ปลูกข้าวและพืชผักสำหรับเลี้ยงคนภายในจวนจีไท่เว่ย มีเวรยามเข้มงวดยากจะหลบหนีได้แต่ถึงจะคิดหลบหนีจริงทั้งเย่จื่อเฉินกับหลี่เหม่ยหลินก็คงยากจะทำได้เนื่องจากขาสองข้างถูกตีจนหัก เดินเหินยังยากคิดหนียังจะทำได้อย่างไร ทุกจวนที่มีอำนาจในมือล้วนมีด้านมืดอยู่ทั้งสิ้น จวนจีไท่เว่ยเองก็ไม่ยกเว้น“ไม่พบกันแค่ไม่ถึงสิบวัน ดูพวกเจ้าสุขสบายไม่น้อยเชียวนะ”แค่เพี

  • ยากจะหวนคืน   ตอนที่18||อยู่มิสู้ตายจึงเหมาะสม

    ตอนที่18||อยู่มิสู้ตายจึงเหมาะสมซึ่งจีหย่วนโจวก็ไม่จำเป็นต้องรอดูสิ่งที่พี่ชายของเขาต้องการอยู่นาน เพราะแค่เพียงส่งตัวของหลี่เหม่ยหลินเข้าไปภายในห้องคุมขังที่เย่จื่อเฉินอยู่ไม่ถึงอึดใจ ก็ได้ยินเสียงของหลี่เหม่ยหลินสอบถามเอาความจริงจากฝ่ายเย่จื่อเฉินดังขึ้นทันที"หมายความว่าอย่างไร?"จีหย่วนโจวคิดว่าจะไม่ถามหากแต่ก็อดใจไม่ไหว จีม่อชงทำเพียงยกยิ้มเหี้ยมโหดแล้วกอดอกพิงกำแพงรอฟังเรื่องสนุก ทำเอาจีหย่วนโจวถึงกับขนลุกกับรอยยิ้มดังกล่าว เติบโตมาด้วยกันอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไรมีหรือจะไม่ทราบยิ่งพวกเขาพี่น้องสนิทสนมกลมเกลียวยิ่งเท่าทันทันไปทุกสิ่งและไม่ต้องรอนาน เพราะสุดท้ายเสียงเอ็ดอึงทั้งด่าทอและตบตีของชายหญิงคู่ก็ดังก้องไปทั่ว ราวกับต่างฝ่ายต่างโกรธแค้นกันมานาน ทั้งที่ไม่นานมานี้สองคนนี้ยังร่วมมือกันทำชั่วอยู่โดยแท้ นี่กระมังจึงมีคำกล่าวว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร"ต้าเกอท่านอำมหิตเกินไปแล้ว"ถึงจะกล่าวดังนั้นแต่จีหย่วนโจวกับกล่าวออกมาด้วยสีหน้าพึงใจยิ่ง เข้าใจกระจ่างก็เป็นในยามนี้ที่เอง ไม่ต้องลงมือแต่กลับได้ผลที่ตนเองต้องการ เหี้ยมโหดสมกับเป็นมือขวาของปีศาจดำเสียจริง พี่ใหญ่ของเขาก็เป็นคน

  • ยากจะหวนคืน   ตอนที่17||ค่อยๆ เปิดใจเจรจา

    ตอนที่17||ค่อยๆ เปิดใจเจรจาพอตกถึงปลายยามเว่ย จีม่อชงก็มาเยี่ยมหลี่หมิ่นถังดังที่เขากล่าวกับนางเอาไว้เมื่อช่วงสาย และไม่ใช่แค่เขาผู้เดียวที่มาหากแต่ยังมีเหล่าฮูหยินจีติดตามมาด้วยเพราะต่างคำนึงถึงความเหมาะสมอย่างไรระหว่างจีม่อชงกับหลี่หมิ่นถังยังไม่ได้หมั้นหมายไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งอาจถูกคนนำไปนินทาเอาได้และคนเช่นจีม่อชงย่อมพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อรักษาชื่อเสียงของสตรีในดวงใจ“ลำบากเหล่าฮูหยินจีแล้ว”ก่อนจะไปเยี่ยมหลี่หมิ่นถงย่อมต้องแวะไปเยี่ยมเหล่าฮูหยินหลี่ ตามมารยาทแต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะอย่างไรจีม่อชงกับเหล่าฮูหยินจีล้วนมาเยี่ยมคนป่วยทั้งสองจากใจ ถึงเหล่าฮูหยินหลี่จะฟื้นนานแล้วแต่หญิงชรายังดูอิดโรยอยู่มากเห็นแล้วเหล่าฮูหยินจีก็คิดว่าตนเองนั้นโชคดียิ่งที่บุตรชายและหญิงของตนรักใคร่กลมเกลียวตนจึงไม่เคยทุกใจเช่นนี้“เหล่าฮูหยินหลี่กล่าวเกรงใจไปแล้ว ไม่ลำบากแม้แต่น้อย นี่คือโสมแดงบำรุงโลหิตได้ดีเยี่ยมข้านำมาฝากทั้งเหล่าฮูหยินหลี่และหมิ่นถังคิดว่าทั้งสองสมควรบำรุงให้มาก”โสมแดงนี้นับเป็นของหายาก แต่เพราะจีเมี่ยวหลัวเป็นถึงฮองเฮาเมื่อได้ข่าวว่าเหล่าฮูหยินหลี่ล้มป่วยถึงนางเป็นหวู่โจวชอบผ่าศพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status