Share

8.รักในวัยเยาว์

Author: BoxJellyfish
last update Last Updated: 2025-12-15 03:53:46

#ย้อนอดีต#

*บ้านแยมสมัยเด็ก..อำเภอเหลามาจะฟัง*

"ลูกชิ้นทอด~ ไก่ทอดไหมคะ~" เสียงเจื้อยแจ้วกล่าวแว่วดังเป็นระยะ ผู้คนกำลังเดินขวักไขว่เลือกซื้ออาหารกัน หลังเวลาเลิกงานของแต่ละครอบครัว

บ้านของแยมตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน ซึ่งบริเวณใกล้เคียงบ้านไม้ ล้วนเปิดร้านขายอาหารและเครื่องดื่มกัน ท่ามกลางเสียงจอแจเหล่าผู้คนส่วนใหญ่ ทำให้เธอต้องนั่งถอนหายใจแทน เพราะมันกลบเสียงเล็กได้อย่างมิดชิด

"แยม!!! นั่งหงอยเป็นอะไรไปลูก~" ลิ้นจี่กล่าวถามลูกสาวอย่างสงสัย กลัวจะมีใครกล้ามารังแกเด็กขี้แยถึงร้าน เพราะรับนิสัยไม่สู้คนมาจากผู้เป็นแม่ตั้งแต่เกิด

"แม่คะ~ หนูตะโกนจนเสียงแหบแห้ง ร้านของเรายังเงียบกริบอยู่เลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก้มหน้าสำนึกผิด

"มันใช่ความผิดของหนูซะที่ไหนล่ะ ถ้าวันนี้ขายไม่หมด พรุ่งนี้เราก็ขายใหม่ได้ สำคัญสุดคือกำลังใจรู้ไหมลูกรัก~" ลิ้นจี่กล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู เธอให้กำลังใจลูกสาวตนเอง พร้อมดึงสาวน้อยไปโอบกอดจนแน่น

"แม่~ จะไปหาพี่ลำไยกันเลยไหม" ขวานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม คุณพ่อทำงานรับจ้างตกแต่งสวนซึ่งอยู่ไม่ไกลบ้าน จึงกลับมาเร็วเป็นเรื่องปกติ

"ใช่สิ!!! พ่อจะไปกับแม่ด้วยเหรอ นึกว่าจะอยู่เฝ้าร้านกับลูกเสียอีก" ลิ้นจี่กล่าวถามพร้อมยิ้มหวาน เดินไปหยิบน้ำมาให้สามีดื่มแก้เหนื่อย

"พ่อแค่จะมารับไปส่งเท่านั้นน่ะ จะปล่อยลูกสาวอยู่บ้านคนเดียวได้อย่างไรกัน อีกอย่างพี่ก้านไม่ค่อยสบาย พี่ลำไยคงลำบากไม่น้อย แม่ไปช่วยดูแลสุขภาพพี่สาวหัวรั้นหน่อย หากล้มป่วยทั้งคู่คงจะแย่เอาได้" ขวานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เขารีบกระดกดื่มน้ำเปล่าจากภรรยา พร้อมนำแก้วไปวางบนโต๊ะทันที

"พ่อกับแม่ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวถ้าหนูขายหมดเกลี้ยงก็จะปิดร้านแล้ว จะเตรียมล็อกกลอนประตูหน้าต่างให้เอง อย่ากังวลกันเลยนะคะ ฝากความคิดถึงคุณลุงและคุณป้าแทนด้วยนะคะ" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงอย่างเด็กรู้ความ

"เอาอย่างนั้นก็ได้ลูก~ สักประมาณสี่โมงเย็น.. เตรียมตัวเก็บร้านเลยนะ ไม่ต้องรอขายหมดก็ได้ ส่วนของเหลือนำไปบริจาคเด็กกำพร้าภายในหมู่บ้านก็ได้จ้า!!!" ลิ้นจี่กล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู

"อย่าไปไหนไกลบ้านนะลูก!! พ่อจะรีบกลับมา" ขวานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมทิ้งท้าย

"วางใจเถอะค่ะ!!!" แยมตอบกลับพร้อมโบกมืออำลาด้วยรอยยิ้ม

พ่อและแม่ขับรถยนต์ออกไปได้ไม่นาน เสียงคนโวยวายกันลั่นเต็มถนนสองฝั่ง เหตุเพราะมีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง กำลังตีกันซึ่งไม่ไกลจากบ้านแยมสักเท่าไร เมื่อหรี่ตามองถึงได้รู้ว่าใครเป็นผู้ถูกกระทำ

ด้วยความฉลาดของแยม เธอรีบนำโทรศัพท์เชื่อมต่อลำโพงไร้สาย พิมพ์ค้นหาเสียงไซเรนรถตำรวจทันที ซึ่งผลลัพธ์ดีเยี่ยมพวกเด็กวัยรุ่นหลายคน วิ่งกันป่าราบจนเหลือแต่คนเจ็บสองคนนอนบนพื้น

เธอวิ่งหน้าตาตื่นไปช่วยพยุงร่างทั้งคู่อย่างว่องไว หากแก๊งอริมันเกิดฉลาดย้อนกลับมา คงช่วยเหลือพวกเขาได้ยากแล้วจริงๆ

"ขอบคุณแยมมากนะ หากไม่ได้เธอ!!! เราสองคนได้หยอดน้ำข้าวต้มกันแน่นอน" บรรเจิดกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง

"บ้านเธอมีอะไรให้กินบ้างไหม เราหิวมากเลยตอนนี้~" ยูโรกล่าวถามพร้อมเสียงท้องร้องจ๊อก

"มีอยู่แล้วแหละ!!! แต่พวกนายต้องจ่ายเงินด้วยนะยะ ของซื้อของขายน่ะ" แยมกล่าวพร้อมยืนเท้าสะเอวรอคำตอบ

"ฉันเหมาหมดเลย รีบไปเอามาเถอะ" ยูโรกล่าวด้วยความหิวโหย

"พูดจากับผู้หญิงให้มันดีหน่อยเถอะ คิดจะจีบเขาแต่พูดเพราะๆ ไม่เป็นอีกไอ้นี่!!!" บรรเจิดกล่าวตำหนิเพื่อนซี้

"เอาตังค์มึงมาจ่ายให้เธอก่อนเลย เร่งไปรับกูมามีเรื่องด้วยเนี่ย ไม่ได้หยิบเงินหรือโทรศัพท์ออกมาจากบ้านเลย" ยูโรกล่าวสวนทันควัน

"ไอ้เวรนี่!!! จะโชว์สาวว่าเหลือ!!! เสือกไม่พกเงินสักบาท พวกอรินั่น!!! ไม่ใช่เพราะมึงอยากเอาคืนที่มันเคยลักพาตัวแยมไปเหรอ สรุปคือ..ไม่ใช่เรื่องของกูเลยด้วยซ้ำ" บรรเจิดกล่าวค่อนแคะเพื่อนรักอย่างเอือมระอา ซึ่งยูโรเงียบสงบก่อนจะหาเรื่องใหม่มาพูดแทน

"ถ้าพ่อแม่มึง..ท่านไปชวนพ่อแม่กู!!! ให้เข้าร่วมบริจาคมูลนิธิแก่จังหวัดอีก กูจะไม่ให้เขาเซ็นเลย หึ!!! พากูมาหาเท้าละยังพูดเยอะ แม้ว่ากูจะมีเรื่องแก้แค้นไอ้คนพวกนั้น แต่มึงก็อยากหาที่ระบายอารมณ์ไม่ใช่เหรอ ยังจะโบ้ยเป็นความผิดกูทั้งหมดอีก" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ขี้บ่นฉิบหาย~" บรรเจิดกล่าวพร้อมทำหน้ามุ่ย หยิบแบงก์ภายในกระเป๋ามาจ่าย เนื่องจากอดทนเถียงสู้เพื่อนรักไม่ไหว

"ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว!!! ฉันให้กินฟรี~ แค่พูดล้อเล่น..จริงจังกันอยู่ได้ ทนฟังพวกนายมานานแล้ว!!!" แยมกระแทกเสียงใส่ พร้อมยกจานไก่ทอดและไส้กรอกทอด เอามาวางให้พวกเขา

"ของซื้อของขาย~ เดี๋ยวพ่อแม่เธอตำหนิเอาได้น่ะ รับไปเถอะครับ" บรรเจิดกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติ แยมก็ไม่อยากพูดอะไรเยอะจึงให้ทั้งสองช่วยออกแรงทำงานแทนค่าอาหารของเธอ

"ไม่ต้องจ่ายหรอก แค่ช่วยทำงานให้ก็พอ!! เก็บร้านและล้างอุปกรณ์ทั้งหมด เดี๋ยวฉันไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้ หากพวกนายกลับบ้านสภาพนี้.. พ่อแม่พวกนายได้เป็นห่วงตายพอดี" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงเอือมระอา ไม่เข้าใจความคิดพวกเขาเลย เป็นเพราะอะไรถึงได้มีเรื่องไม่หยุดหย่อน

คราวก่อนช่วงจะปิดเทอมใหญ่ ต้องไปเยี่ยมและเฝ้าไข้อยู่โรงพยาบาล ตั้งนานจนเกือบเป็นเดือน โชคดีพ่อแม่ของแยมท่านพอเข้าใจอยู่ ไม่เช่นนั้นคนเกเรคงได้นอนเปื่อยเพียงลำพัง

ย้อนกลับไปตอนที่เขาถูกตี จนสลบคาที่ตรงบริเวณใกล้โกดัง 1 เดือนก่อน.. (ต่อความเดิมจากบทที่ 5)

*บ้านแยมสมัยเด็ก... อำเภอเหลามาจะฟัง*

เวลาช่วงสายของวัน..

บรรเจิดเพื่อนซี้ของยูโร ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาดักรออยู่หน้าบ้านแยม พร้อมข่าวว่า..ยูโรยังไม่ฟื้นดี หลังออกมาจากโรงพยาบาล แม้จะผ่านมาหนึ่งเดือนเต็มแล้วก็ตาม แยมจึงโกหกพ่อแม่ว่าต้องไปทำรายงานบ้านเพื่อน ทั้งที่ความจริงคืออยากไปดูว่าเขาเป็นอย่างไร ถึงการโกหกจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร แต่ใครจะกล้าพูดตรงๆ ว่าเป็นห่วงผู้ชายน่ะ

*บ้านยูโรสมัยเด็ก...อำเภอเหลามาจะฟัง*

แยมยืนมองคฤหาสน์หลังโตของยูโรด้วยความทึ่ง ไม่เคยคิดว่าคนภายในรั้วโรงเรียนเธอ ต่างชอบพากันซุบซิบว่าเขาร่ำรวย... จะเป็นเรื่องจริงขนาดนี้

"เธอเดินเข้าไปเองเถอะ เราต้องไปทำธุระสำคัญต่อ" บรรเจิดยิ้มหวานก่อนกดกริ่งเรียกคนภายในบ้าน แล้วขี่มอเตอร์ไซค์จากไปโดยไม่หันกลับมา

เพียงแค่ไม่กี่นาที.. คนรับใช้ก็ขับรถกอล์ฟมารับแยมเข้าไป พร้อมท่าทีสุภาพจนเธอต้องรู้สึกเกร็งเหงื่อไหลซึมเล็กน้อย

เฟอร์นิเจอร์หรูหราตลอดทางเดินเกินกว่าจะเป็นของจริง เธอเคยเห็นแค่เพียงตามละครหลังข่าว พอเข้าไปภายในห้องหนึ่งก็พบยูโรนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว แสงจากจอโทรทัศน์ส่องหน้าเขาเป็นระยะ

"มาแล้วเหรอ~" เขาทักทายอย่างสบายๆ ราวกับตนพักอยู่รีสอร์ต

"นายหายดีแล้วเหรอ" แยมถามพร้อมเลิกคิ้ว เธอยืนกวาดสายตามองขนมกับผลไม้และท่าทางผ่อนคลายของเขา

"ฉันยังเจ็บหัวอยู่เลย~ ถึงต้องให้ไอ้บรรเจิดไปลากเธอมาดูแลนี่ไง ไม่ได้ให้มาจ้องจับผิดกันนี่นา" เขาตอบกลับหน้าตาย แกล้งหลับตาแอบเหล่มองแยมอย่างเลิ่กลั่ก

"นายเลิกแสดงได้แล้ว!!! มีอะไรก็พูดมาเลย ฉันต้องรีบกลับบ้านอีกนะ" แยมวางมาดเข้มแอบเป็นห่วงอยู่ลึกๆ แต่ยังมีความน้อยใจแฝงอยู่

"แค่คิดถึง..." ยูโรพูดเสียงเบาแต่อีกฝ่ายได้ยินชัดเจน เนื่องจากเป็นจังหวะเงียบสงบของหน้าจอโทรทัศน์

"ในฐานะอะไร!!! คนที่หายหัวไปเกือบสัปดาห์เต็ม หรือคนที่บอกว่า..ไม่สนใจฉันตอนถูกจับตัว" เธอโต้กลับเสียงขุ่นจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง เพราะความรู้สึกเธอไม่ใช่สิ่งที่ควรนำมาล้อเล่น

"เธอก็ยังได้กินช็อกโกแลตอร่อยๆ ทุกวันนี่นา~ ฉันเป็นคนสั่งให้เรไรเอาไปมอบให้กับมือเธอเอง ไม่เชื่อก็ไปถามเพื่อนเธอดูสิ ถ้าฉันจะทิ้งเธอจริง คงไม่คิดฝ่าวงล้อมเท้าเข้าไปช่วย แล้วโดนตีจนสลบหรอกมั้ง" ยูโรหัวเราะเบาๆ

ซึ่งทำให้แยมต้องชะงักประโยคเหล่านั้นจากปากเขา ใจเธอสั่นไหวอย่างไม่รู้ตัว เพราะได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เขากระทำลับหลังเธอทั้งหมด

"แต่เรไรเขา..ช่างเถอะ!!! แล้วทำไมนายต้องแกล้งป่วย" เธอฝืนใจถามต่อ เพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกตัวเองไม่ให้เขาจับพิรุธได้

"เพราะอยากเห็นหน้าเธอน่ะสิ!!! ถ้าไม่ทำแบบนี้~ เธอก็คงไม่คิดจะมาหาฉันหรอก" ยูโรตอบกลับเหมือนคนน้อยใจ

"ครั้งนี้ยังคิดจะหนีฉันอีกไหม" แยมถามด้วยความรู้สึกขุ่นเคือง

"ฉันไม่เคยคิดจะหนีเธอเลยนะ คราวนั้นฉันแค่กลัวเธอจะเดือดร้อน เพราะเธอสำคัญกับฉันมากน่ะสิ!!! จะให้ไอ้พวกเวรนั่นรู้ไม่ได้" เขารีบสวนทันควัน ราวกับอยากปรับความเข้าใจต่อกัน แยมสบสายตาเขาก่อนจะหลบอย่างรวดเร็ว ยามนี้ใจเธอกำลังเต้นถี่ระรัวดั่งกลองชุด

“นายชอบฉันจริงเหรอ” แยมเอ่ยถามเขาด้วยความลังเล เพราะข้อต่อรองสามวันเพียงแค่อยากไล่เขาไปไกลๆ ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะจริงจังด้วยซ้ำ

"พูดมาตั้งเยอะแยะ.. มันยังชัดไม่พออีกหรือยังไง ใช่!!!! ฉันชอบเธอ" ยูโรขมวดคิ้วราวกับไม่เข้าใจว่าเธอสงสัยอะไรกันแน่ จังหวะเดียวกันห้องพลันเงียบสงบลง คำว่า..ชอบของเขา มันดังก้องกังวานอยู่ภายในสมองเธอ จนไม่รู้จะตอบกลับอย่างไรดี

"ไม่รู้ว่าเธอจะยกโทษให้กันได้ไหม แต่เธอไม่ต้องแกล้งสร้างเกราะป้องกันฉันอีกแล้ว ฉันเองก็จะไม่โกหกความรู้สึกตัวเองอีกเหมือนกัน" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจังกว่าทุกครั้ง จนแยมเริ่มใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย

"พูดแบบนี้~ มันทำให้ฉันดูเหมือนคนใจโลเลเลยนะ ความจริงฉันตั้งใจมาเอาเรื่องนายต่างหาก" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอหลบสายตาลงต่ำแต่ก็แอบคลี่ยิ้มหวาน ยูโรยื่นช็อกโกแลตมอบให้แก่เธอ

"ถ้าอย่างนั้นเธออย่าใจแข็งเลย เดี๋ยวขนมมันจะละลายก่อน" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แยมรับมาแล้วนั่งลงอยู่ตรงข้างเขาทันที

"ฉันจะดูแลนายแค่วันเดียว!!! ไม่ได้จะมาเป็นพยาบาลประจำ!!!" แยมเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เธอยกฝ่ามือเล็กปิดบริเวณครึ่งใบหน้า เพราะไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอกำลังยิ้มอยู่

"แค่นี้..ก็มากพอแล้ว ขอบใจนะที่มา" เขาพูดเบาๆ จ้องเธอตาไม่กะพริบ

"เพราะฉันเป็นห่วงนายนั่นแหละ... คนอะไรบื้อชะมัด~" แยมหันหลังให้ เขาพร้อมบ่นพึมพำ

หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบที่แสนจะอบอุ่นผ่านไป..

"นี่...เธอจะลองคบกับฉันดูไหม" ยูโรถามขึ้นอีกครั้ง

"แน่ใจเหรอ~ ว่านายไม่ได้พูดเพราะรู้สึกผิด" แยมถามด้วยน้ำเสียงยานคางแอบชะงักอยู่เล็กน้อย พร้อมหัวใจกลับมาเต้นแรงอีกหน

"แน่ใจที่สุด!!! ฉันชอบเธอมานานแล้ว คราวนี้จะไม่หายตัว และจะไม่ทิ้ง จะดูแลเธอด้วยความรู้สึกจริงๆ " เขาตอบกลับด้วยความมั่นใจ

"อย่าพูดอะไรเสียงดังนักสิ..." แยมกำลังหลบสายตาเขาพร้อมทั้งหน้าแดงระเรื่อ

"งั้นตกลงนะ" เขายื่นนิ้วก้อยให้เธอ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันทุกสิ่งรอบตัวล้วนหยุดนิ่ง

"เงื่อนไขฉันเยอะมากนะ ห้ามก่อกวน ห้ามหายหน้า ห้ามทำให้ฉันต้องร้องไห้ และอีกหลายอย่างมากมาย ขอเก็บเอาไปคิดทบทวนอีกครั้ง ค่อยมาบอกนายทีหลังแล้วกัน" แยมกลอกตาเสมองด้านข้าง ก่อนจะเกี่ยวก้อยกลับอย่างเขินๆ

"รับคำครับแฟน~" ยูโรตอบกลับพร้อมยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดี

"หากนายยังพูดอีก!!! ฉันไม่คบละนะ!!!" เธอผลักเขาเบาๆ ด้วยความเขินอาย

"โอเค~ ไม่พูดแล้วครับ คุณแยมแฟนยูโร" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงทะเล้น

"กินไปเงียบๆ เลย!!! ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวลุยสวน แม่บ้านของนายทำได้หรือเปล่า พวกเรามากินอาหารด้วยกันสักมื้อ~ คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ" แยมยิ้มหวาน พร้อมแกะช็อกโกแลตยัดเข้าปากยูโร

"ได้หมดเลย แค่เธอนั่งรออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว" ยูโรกล่าวพร้อมวิ่งกระโดดโลดเต้นออกไป แยมนั่งบนโซฟาตัวยาวอย่างผ่อนคลาย และแอบหัวเราะเขาเบาๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   18.โลกที่ไม่คุ้นชิน

    แสงไฟระยิบระยับจากโคมระย้าคริสตัล ทอดเงาวูบไหวตามบนเพดานสูงของห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆ แทรกอยู่ระหว่างเสียงหัวเราะและคำอวยพร จากแขกผู้มีเกียรติยามค่ำคืนนี้งานวันเกิดของบรรเจิด ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติยศ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเป็นบุตรชายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากแต่ยังเพราะเขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ด้วย ซึ่งคือ..รองผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างเป็นทางการแยมยืนอยู่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง เธอสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน แม้จะดูน่ารักเข้ากับรูปร่างเพรียวบางแต่ก็เรียบหรู สองมือประคองกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมผูกโบสีทองแน่นความรู้สึกประหม่าแล่นวาบภายในกลางอก เมื่อสายตาเธอกวาดมองบรรยากาศล้อมรอบตัว แขกภายในงานล้วนเป็น.. นักการเมืองกับข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชื่อดัง ทุกคนดูสง่างามและคุ้นเคยกับโลกใบนี้ ต่างจากเธอที่ยังรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเสมอแต่แล้วสายตาแยมก็หยุดลงที่ร่างสูงโปร่ง เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการ บรรเจิดยืนอยู่กลางกลุ่มผู้ใหญ่ สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มสุภาพ ดวงตาอบอุ่นเป็นประกายแม้จะต้องรับมือกับคำยินดีและคำอวยพรไม่ขาดสาย เขายังคงดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ราวกับไม่ใช่งานให

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   17.ช่วยกันโกหกดีไหมนะ

    *ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*แสงไฟบนหน้าจอกระทบแว่นตาเกือบหนึ่งชั่วโมง แยมนั่งตรวจสอบบัญชีอย่างมีสมาธิ จู่ๆ สมองของเธอกลับมีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพนด้าเสียอย่างนั้นเธอกดบันทึกไฟล์เอกสารและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะใช้สองมือเล็กดันโต๊ะสำนักงาน จนเก้าอี้ล้อเลื่อนถอยหลังอย่างเชื่องช้า แอบชำเลืองสายตามองสาวน้อย อยู่ตรงบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์"เจ๊มีอะไรหรือเปล่าคะ หนูทำบัญชีไม่เรียบร้อยใช่ไหมคะ" แพนด้าวิ่งพรวดพราดมาใกล้บริเวณโต๊ะที่แยมนั่ง ด้วยท่าทางตื่นตระหนกเพราะกลัวโดนดุแยมเอื้อมแขนยาวไปตรงแผ่นหลังสาวน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือลูบแผ่วเบา ราวกับปลอบโยนไม่ให้แพนด้าตื่นเต้นเกินเหตุ"เจ๊..แค่มีคำถามที่สงสัยต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แพนด้ากลับยืนขนลุกซู่ราวกับถูกกดดัน"เจ๊รีบถามมาเลยเถอะ ท่าทางแบบนี้ของเจ๊ มันทำให้หนูอึดอัดเกินไปนะคะ" แพนด้าตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เปลี่ยนทิศทางสายตาเบนลงต่ำแทน"เจ๊ยังจำได้อยู่นะ คราวก่อน..แพนด้ามาคุยเล่นกับเจ๊น่ะ เหมือนจะมีเพื่อนหนุ่มจอมเกเรตามจีบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดันมาคบหากับยอดได้ล่ะ แค่ยังสงสัยว่าหนูไม่ได้คบซ้อนใช

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   16.มาเป็นแฟนกันเถอะ

    *อาคารสองชั้นสุดหรู*เสียงเครื่องยนต์จอดนิ่งและดับสนิทลงท่ามกลางความมืดมิด แยมเปิดประตูฝั่งคนขับออกมายืนเท้าสะเอวมองอย่างชั่งใจ หัวคิ้วคนสวยขมวดมุ่นเธอเบะปากราวกับโมโหยูโรอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าสองขาเรียวเล็กกลับเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เธอแบกร่างกายอันหนาเตอะของชายขี้เมาออกมาทันที"เอามา!" แยมตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมแสดงสีหน้าโกรธเคือง เธอยื่นฝ่ามือเล็กแบออกอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับโดนอีกฝ่ายเอาคางมาเกยแทน"จะเอาหัวใจของผมเหรอครับคนสวย~" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคางเขายิ้มหวานอย่างกวนอารมณ์"นายอยากตายมากนักเหรอ ฉันเป็นใครกันแน่ นายช่วยลืมตาดูหน่อยเถอะนะ" แยมสวนกลับทันควัน เพราะคิดว่าเขายังเอาแต่คิดถึงสาวร้านคาราโอเกะอีก"คุณเป็น..ภรรยาของผมน่ะสิ!" ยูโรยิ้มแป้นตาแทบปิด เตรียมจะยกฝ่ามือหนาลูบละไล้ดวงหน้าเห่อร้อนของเธอ แต่แยมเลือกที่จะผลักเขานอนลงกับพื้นปูนซีเมนต์แทน"ส่งกุญแจมาสักที! ยุงกัดจะตายอยู่แล้วเนี่ย!" แยมตวาดใส่แก้เขินอาย เธอยืนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกอดอกตนเอง หวังเพียงให้ดวงใจเต้นอย่างสงบลงเขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เธออย่างว่าง่าย เมื่อประตูบานเล็กถูกเปิดออกแยมจึงลากยูโรเข้

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   15.ภาพสะท้อน

    *ร้านคาราโอเกะ*แสงไฟนีออนดวงสีชมพูม่วงกะพริบระยิบระยับ เสียงดนตรีจากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะ ยูโรนั่งอยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์บาร์แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่เคยว่าง เขาคอยรินซ้ำจนของเหลวสีทองขลุกขลิกเกือบล้นขอบแก้วภายในหัวใจของเขา.. ยังคงวนเวียนกับภาพแยมกำลังยืนหัวเราะเคียงข้างบรรเจิด หรือว่าเธอไม่เห็นความหมายของการรอคอยที่เราทำมาตลอดเลย เขาเอาแต่นั่งตัดพ้อตัวเองอยู่ซ้ำๆหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอสวมชุดกระโปรงสีทองแบบกระชับลำตัว เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงด้านข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแสนหวานช่างเย้ายวนราวกับกลิ่นไวน์เก่าแก่"ยูโร! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายคนนั่งสับสน เธอกำลังเท้าคางมองแววตาเป็นประกาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจำได้ "เรไร" อดีตเพื่อนสนิทของแยมสมัยเรียนมัธยม พวกเธอทั้งสองเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และยังเคยเป็นแฟนเก่าของเขาด้วยเช่นกัน"อืม!" ยูโรตอบเสียงแหบแสนจะแผ่วเบาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์"นายมานั่งดื่มคนเดียว แต่ทำไมหน้าตาบึ้งตึงเชียว" เรไรหัวเราะน้อยๆ มือเรียวแตะไหล่เขาเป็นเชิงหยอกล้อ ยูโรไม่ได้ผลักไสเพราะเคยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว เพียงปล่อยให้เ

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   14.ความลับของยอด

    *ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*เสียงกระดิ่งเหนือประตูไม้เริ่มดังเมื่อมีลูกค้าเปิดเข้ามาอีกครั้ง กลิ่นหอมกรุ่นจากขนมปังสดกับใบตองที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งร้าน ผสมกับเสียงเครื่องคิดเลขดังไม่หยุด ทำให้บรรยากาศดูคึกคักกว่ายามปกติแยมจัดเรียงขนมปังกรอบลงตะกร้าใหญ่ พลางเหลือบมองนาฬิกาแขวนบนฝาผนังเป็นระยะ เข็มสั้นชี้ที่เลขห้าเข็มยาวเกือบแตะเลขสิบสอง ใจเธอเต้นแผ่วแรงด้วยความคาดหวังอีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ยูโรก็คงมารออยู่ตรงหน้าร้านเหมือนทุกวัน ตั้งแต่เขาออกจากโรงพยาบาลมา ทั้งสองมักจะเดินเล่นรับลมยามเย็นด้วยกัน จนเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันเลยเหล่าลูกน้องต่างกระวีกระวาดทำงาน เพราะใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้วเช่นกัน คงไม่อยากทำงานล่วงเวลาเหมือนอย่างเคย ทุกสิ่งเป็นได้แค่เพียงความคิดเท่านั้น เมื่อได้ยินเสียงสวรรค์จากลูกค้ารายสุดท้ายมาเยือน"สวัสดีครับแยม~" เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นบริเวณตรงหน้าประตูหญิงสาวเงยใบหน้าขึ้นมอง เห็นร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนพับสีขาวกับกางเกงผ้าเรียบ "บรรเจิด" เพื่อนสมัยมัธยมและเป็นคนที่เคยทำให้หัวใจเธอแกว่งไกวอยู่พักหนึ่ง เขากำลังยืนยิ้มอย่างจริงใจ"อ้าว! บรรเจิด! มาซื้อของเหรอ หายหน้าห

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   13.มื้ออาหารพ่อแม่(แฟนไม่เคยเก่า)

    *ภัตตาคารสุดหรู*เสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวมองแล้วย่อมอบอุ่นสายตา ภายในภัตตาคารหรูหราริมแม่น้ำถูกตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง ประกายวิบวับจากแชนเดอเลียร์เหนือศีรษะห้อยระย้าจากบนเพดาน ส่องแสงกระทบแก้วไวน์จนระยิบระยับ แยมเอาแต่ยืนเกร็งตัวอยู่ด้านหน้า ใจเธอเต้นแรงราวกับเด็กที่ถูกครูใหญ่เรียกพบ"ไม่ต้องกังวลนะหนูแยม พ่อแค่พามาทานอาหารอร่อยกัน ปล่อยตัวตามสบายเถอะนะ" เสียงสุภาพของเปโซเอ่ยขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ผมขาวแซมขมับแต่งตัวด้วยสูทเข้ารูป ดูภูมิฐานจนใครๆ ต้องเหลียวมองข้างกายคือดีนาร์ เธอเป็นภรรยาของเขา หญิงวัยกลางคนที่ยังคงงดงามในชุดกระโปรงผ้าไหมสีงาช้าง ใบหน้าสงบและอ่อนโยน เธอยื่นมือมาสัมผัสแขนแยมเบาๆ แทนกำลังใจ"แม่เองก็ตั้งใจอยากจะเจอหนูมานานแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยนะ" ดีนาร์กล่าวพร้อมยิ้มหวานแยมกะพริบตาปริบๆ มือเรียวกำสายกระเป๋าสะพายไหล่จนแน่น เธอสวมชุดกระโปรงเรียบง่ายที่พยายามเลือกอย่างคัดสรรให้ดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่คู่ควรกับสถานที่และบรรยากาศเลย เพราะออกจากโรงพยาบาลมาได้ ก็ถูกคุณแม่ของยูโรแปลงโฉมภายในห้างสรรพสินค้าทันที"ขอบคุณมากเลยค่ะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status