แชร์

มีวิญญาณติดมาไหมคะ

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-04 20:09:26

ป้าตงเคาะประตูหน้าห้องเรียกปลุกเจียอีให้ตื่น “คุณหนู จะสายแล้วนะคะ”

“อืม...เช้าแล้วเหรอ” เธอขยี้ตาอย่างงัวเงีย

หลังจากเมื่อคืนที่ฝันแปลกๆ จนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก หลังจากหลับต่อเธอก็ไม่ได้ฝันอะไรอีกเลย

“ป้าตง หนูตื่นแล้วค่ะ” เธอตะโกนบอกตอบไป เพื่อให้ป้าตงหยุดเคาะห้องเธอเสียที

“คุณหนู คุณท่านกับคุณนายเดินทางไปต่างประเทศแล้วนะคะ เมื่อคืนเห็นคุณหนูเข้านอนแล้ว พวกคุณท่านเลยไม่ได้มาบอก”

“ขอบคุณค่ะป้า”

เธอคิดจะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่เรื่องปิ่นที่ได้มาเสียหน่อย แต่ทั้งสองดันเดินทางไปตรวจดูงานเสียก่อนที่เธอจะได้เอ่ยพูด

“อาหรัน วันนี้เธอว่างไหม” เจียอีโทรหาเพื่อนสาวของเธอทันทีเมื่ออาบน้ำเสร็จ

“ว่าง เธอจะให้ฉันพาไปหาหมอเหรอ”

“ไม่ใช่ ไปวัด”

“ห๊า!!! ไปวัด ไปทำไม”

“ฉันว่าปิ่นที่ได้มาเมื่อวาน ต้องมีวิญญาณติดมาด้วยแน่” เจียอีจึงเล่าเรื่องความฝันของเธอให้อาหรันฟัง

“งั้นไปเลย”

“ได้ ถ้างั้นฉันไปรับเธอที่บ้านเลยแล้วกัน เตรียมตัวไว้เลย” เจียอีกดวางโทรศัพท์ แล้วเธอก็เดินลงไปกินมื้อเช้าที่ด้านล่าง พร้อมทั้งบอกกล่าวป้าตงไว้เรื่องที่เธอจะออกไปด้านนอกกับอาหรัน

“คุณหนูให้ลุงฟางขับรถพาไปไม่ดีกว่าเหรอคะ” ป้าตงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้หนูอยากขับเอง” เธอยิ้มหวานให้ป้าตง ก่อนจะเร่งความเร็วในหารกินอาหาร แล้วรีบร้อนออกไป

โดยไม่ลืมที่จะหยิบกล่องไม้ที่มีปิ่นอยู่ด้านในใส่ลงในกระเป๋าไปด้วย

วัดที่เจียอีเธอไปอยู่นอกตัวเมืองไปไม่ไกลมากนัก ที่บ้านของเธอมักพามาที่นี่อยู่เป็นประจำ เมื่อมาถึงสามเณรเห็นเธอก็เดินเข้ามารับ แล้วพาไปพบเจ้าอาวาสทันที

“สีกามู่ วันนี้มาด้วยเรื่องอะไร” ท่านเจ้าอาวาสยิ้มมองเจียอีอย่างเมตตา

พอเห็นว่าเธอหยิบกล่องไม้ออกมาจากกระเป๋า สีหน้าของเจ้าอาวาสก็เคร่งเครียดขึ้นทันที พร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก

“นี่ค่ะ คือหนูคิดว่าปิ่นที่เพิ่งจะได้มามีวิญญาณติดมาด้วย” เจียอีเลื่อนกล่องไม้ไปตรงหน้าของเจ้าอาวาส

พอเจ้าอาวาสเปิดออกดู สองสาวก็ยืดคอขึ้นเพื่อจะดูว่าจะมีแสงสีขาวของวิญญาณพุ่งตามออกมาด้วยหรือเปล่า

“ปิ่นหยกมรกตนี่ ไม่มีวิญญาณอย่างที่สีกามู่คิด เพียงแต่เรื่องความฝันอีกไม่นานก็จะได้พบความจริง”

สองสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ทั้งสองอยากรู้ก็คงมีเพียงแค่ว่ามีวิญญาณหรือไม่มีเท่านั้น เรื่องความฝันเจียอีเธอไม่ค่อยจะสนใจมากนัก ถึงยังไงก็เป็นแค่ความฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง

“ขอบพระคุณมากค่ะ ค่อยยังชั่วหน่อย” เธอยิ้มออกมา ก่อนจะพากันกลับออกจากวัดไป

เจียอีกับอาหรันยังเที่ยวเล่นที่นอกเมืองจนเกือบเย็นถึงได้พากันกลับ พอส่งอาหรันเสร็จแล้วเธอก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันที

กล่องไม้ยังคงอยู่ในกระเป๋าไม่ได้เอาออก พอรู้ว่าไม่มีวิญญาณแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นจะต้องกลัวอีกต่อไป จึงยังไม่ได้เอาไปเก็บที่ห้องเก็บเครื่องประดับเหมือนชิ้นอื่น เจียอีหยิบออกมาชื่นชมแล้ววางทิ้งไว้ที่ข้างหมอน ก่อนที่เธอจะหลับไป

เจียอีกลับเข้าสู่ความฝันอีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้ ตัวเธอไม่ได้ยืนมองดูหญิงสาวผู้นั้นแล้ว แต่เธอเป็นหญิงสาวผู้นั้นเสียอีก เรื่องราวฉายภาพตั้งแต่เธออายุยังน้อย ที่ถูกบิดามารดาเลี้ยงดูมาพร้อมกับพี่สาวฝาแฝดอย่างรักใคร่

“หย่าเออร์ อีเออร์ เจ้ามีกันเพียงแค่สองคนพี่น้องต้องรักกันให้มากเล่า” มารดาเอ่ยสั่งสอนออกมา

เจียอี แม้อยากจะเอ่ยถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ และมาอยู่ในร่างของสตรีนางนั้น ทั้งชื่อแช่ของเธอและหญิงสาวที่เธอเห็นในความฝันยังเป็นชื่อเดียวกันอีก แต่เธอก็ไม่อาจจะถามออกมาได้ ได้แต่ปล่อยให้ปากน้อยๆ หัวเราะพูดคุยไปตามเรื่องราวที่ความฝันพาไป

มู่เฟยหย่ากับมู่เจียอี เป็นฝาแฝดที่มีใบหน้าเหมือนกันยิ่งนัก จะต่างก็ที่ดวงตาของทั้งสอง หากผู้ใดได้พบเห็นซึ่งๆ หน้า ย่อมต้องแยกออกได้ในทันที

มู่เฟยหย่ามีดวงตาหงส์ที่เพียงแค่ชายตามองบุรุษก็แทบจะยอมสยบที่แทบเท้าของนาง ต่างกับมู่เจียอีที่ดวงตาของนางเปล่งประกายเจิดจ้า ราวกับมีดวงดาวนับพัน ดูน่าทะนุถนอมยิ่งนัก

ทั้งนิสัยก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแม้จะถูกเลี้ยงดูมาเช่นเดียวกันก็ตาม มู่เจียอีมักยอมให้พี่สาวเช่นมู่เฟยหย่าเกือบจะทุกเรื่อง เสื้อผ้า เครื่องประดับนางมักจะให้พี่สาวเป็นคนที่เลือกก่อนและมู่เฟยหย่านางก็ต้องการเช่นนั้น

ของที่เหลือทั้งหมดจะตกเป็นของนาง บางครั้งบิดามารดาก็เห็นใจบุตรสาวคนเล็ก จึงมักจะแอบเลือกบางชิ้นเก็บไว้ให้นางในภายหลัง แต่พอมู่เฟยหย่ารู้เรื่องเข้าก็อาละวาดเสียยกใหญ่จนตอนหลังบิดามารดาไม่คิดจะทำเช่นนี้อีก

นางมักจะพูดว่าบิดามารดารักน้องมากกว่านาง เช่นนี้แล้วพ่อแม่คนใดจะทนฟังได้ จึงได้แต่เห็นใจมู่เจียอีและปลอบใจนางแทน ถึงแม้จะถูกพี่สาวเอาเปรียบแต่ความรักที่นางมีให้พี่สาวก็ไม่น้อยลงเลย

เจียอีที่เห็นเรื่องราวต่างๆ นางยังคิดเลยว่าทนไปไม่อย่างไร หรือเพราะนางเกิดมาเป็นลูกคนเดียวจึงไม่ต้องแบ่งสิ่งของให้ใคร เลยไม่อยากจะทนมองความเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวของมู่เฟยหย่า

บิดาของมู่เจียอี เป็นรองเจ้ากรมพิธีการ นับว่ามีหน้ามีตาอยู่ไม่น้อย ภายหลังเมื่อฮูหยินสวีอายุมากเกินกว่าที่จะมีบุตรได้ นายท่านมู่จึงรับสาวใช้ข้างกายของฮูหยินมาเป็นสาวใช้ข้างห้อง เพื่อให้กำเนิดบุตรชายสืบสกุล และยกบุตรชายให้เป็นบุตรของสวีซื่อ

แต่ด้วยน้องชายที่มีอายุต่างจากพวกนางนับสิบปี จึงมิได้ใกล้ชิดหรือสนิทสนมกันมากนัก

ภาพต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปจนเข้าสู่วัยสาว หลังจากที่ปักปิ่นไปแล้ว มู่เฟยหย่าได้หมั้นหมายกับหวงเต๋อฟานบุตรชายท่านแม่ทัพใหญ่ ที่ตอนนั้นเป็นถึงรองแม่ทัพแล้ว

“อีอี เจ้าชอบพอผู้ใดแล้วหรือยัง” มู่เจียอีที่ทำท่าเขินอาย แม้แต่เจียอียังรับรู้ได้ว่านางคงมีคนในใจแล้ว เพียงแต่ใบหน้านั้นไม่ชัดจนเธอไม่รู้ว่ามีใบหน้าเช่นไร

“ยังเจ้าค่ะ ข้าอยากจะอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ไปอีกสักสองปี” แต่ตัวนางก็ยังเอ่ยปฏิเสธออกมา

“ดีเลยน้องรอง พอพี่ออกเรือนไปก็ยังมีเจ้าที่อยู่ดูแลท่านพ่อท่านแม่ หากจะรอพึงซวนเออร์ก็คงอีกนาน” มู่เฟยหย่าเห็นดีกับน้องสาวทันที

“เจ้าค่ะ” นางรับคำเสียงอ่อนเช่นเคย

เจียอีที่ทนฟังอยู่อยากจะร้องแหม...ออกมาดังๆ ตัวเองแต่งได้แต่น้องสาวห้ามแต่งหรือไง

ภาพเปลี่ยนไปตอนที่มู่เจียอีรีบร้อนไปหาพี่สาวที่เรือน หลังจากที่รู้ข่าวว่านางล้มป่วยหนัก

“พี่หญิงเหตุใดท่านถึงได้เป็นเช่นนี้” ใบหน้ามู่เฟยหย่าที่ไร้สีเลือดทำให้มู่เจียอีหลั่งน้ำตาออกมาอย่างปวดใจ

“อีอี พี่คงอยู่ได้อีกไม่นาน พี่มีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วย เจ้าต้องรับปากข้า”

“เรื่องใดเจ้าคะ” นางบีบมือพี่สาวแน่น

“ข้าอยากให้เจ้าแต่งเข้าตระกูลหวง เพื่อดูแลชุนเออร์แทนข้า”

“พี่หญิง!!! ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ขะ ข้าเลี้ยงอาชุนให้ได้ แต่จะให้แต่งเข้าตระกูลจ้าวคงไม่ดีนัก” เจียอีที่ฟังอยู่ถึงกับตกตะลึงนิ่งค้าง เธอได้แต่ภาวนาในใจ อย่ารับปากนะมู่เจียอี

“มิต้องจัดงานแต่ง เจ้าเข้ามาอยู่ในนามข้าเลย ข้ามิอยากให้ท่านพี่ แต่งสตรีอื่นเข้ามาในจวน ข้าไม่ไว้ใจผู้ใดให้มาดูแลอาชุน อีอี เจ้าต้องช่วยข้า” มู่เฟยหย่าไอจนเลือดออกมาไม่น้อย ยิ่งทำให้เจียอีตื่นตกใจจนรีบรับปากพี่สาวทันที

“ได้ ได้ ข้าจะเข้ามาอยู่ดูแลอาชุน ท่านพี่ท่านต้องรักษาตัวให้หายเล่า” นางยังคงหวังว่าเมื่อพี่สาวหายดีนางก็คงได้กลับไปใช้ชีวิตของนาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   บทส่งท้าย

    วันที่นางเดินทางกลับบ้านเดิม ข้าวของที่ตำหนักอ๋องจัดเตรียมไปมอบให้บ้านพระชายาก็มากกว่าห้าคันรถม้า คนไม่น้อยที่ต่างอิจฉาในวาสนาของรองเจ้ากรมมู่ที่มีบุตรสาววาสนาดีเช่นเจียอีและอีกไม่นานตำแหน่งเสนาบดีที่ว่างอยู่คงตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน สิ่งที่ชาวเมืองกับพวกขุนนางคิดไว้ก็ไม่ผิดไปจากนั้น เมื่อพระราชโองการแต่งตั้งรองเจ้ากรมมู่ ขึ้นเป็นเสนาบดีแทนที่ตำแหน่งของเสนาบดีกงที่ว่างอยู่ หลังจากที่เจียอีนางแต่งออกไปได้เพียงห้าวันเท่านั้นก่อนวันที่มู่เฟยหย่าจะออกเรือน เจียอีกลับไปนอนที่จวนตระกูลมู่ โดยไร้เงาเว่ยอ๋องติดตามไปด้วย เพราะน้องจะนอนกับพี่สาวของนางก่อนที่นางจะแต่งออกไป“อีอี แล้วท่านอ๋องยอมปล่อยเจ้ามาได้อย่างไร” มู่เฟยหย่าเอ่ยถามน้องสาวอย่างสงสัย เมื่อได้ข่าวจากเสี่ยวถิงเรื่องที่เว่ยอ๋องเป็นเงาคอยติดตามน้องสาวของนาง“ก็ข้าจะมานอนกับพี่หญิง แล้วเขาจะมาเพื่ออันใดเล่าเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาร่วมดื่มสุรามงคลก็พอแล้ว” นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจให้นางได้หยุดพักหายใจบ้างเถิด ในแต่ละคืนเขาเคี่ยวกรำนางไม่น้อย ยิ่งรู้ว่านางจะกลับจวนตระกูลมู่เพื่อมานอนกับมู่เฟยหย่า ก่อนวันแต่งของนางเขาก็บังคับให้นางพาเข้

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   น้ำวิเศษ วิเศษสมชื่อนัก

    เว่ยอ๋องอยู่ในชุดมงคลสีแดง ปักลายพยัคฆ์คำรามสูงส่งดูน่าเกรงขามยิ่งนัก ตลอดทางนางกำนัลขันทีต่างโปรยเงินตำลึงและขนมหวานไปตลอดทางองครักษ์กองทัพพยัคฆ์ของเขาก็อยู่ในชุดมงคลสีแดงเช่นกัน ต่างแบกเกี้ยวมงคลแปดคนหามหลังใหญ่ ทั้งแบกสินสมรสที่ยาวหลายลี้เจียอีถูกจางมามา ประคองออกจากเรือนของนางมาที่ส่วนหน้า เพื่อทำพิธีกราบลาบิดามารดาเว่ยอ๋องทำทุกอย่าง อย่างเร่งรีบ ก่อนจะอุ้มเจ้าสาวไปขึ้นเกี้ยว โดยไม่รอให้น้องชายแต่งมารดาของเจียอีเดินไปส่งนางแต่ก่อนที่เขาจะวางนางลงบนเกี้ยวเขาเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวออก เพื่อดูว่าเป็นเจียอีหรือมู่เฟยหย่ากันแน่“ว้ายยยย” จางมามากรีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นเว่ยอ๋องเปิดผ้าคลุมหน้าดู ก่อนจะที่จะวางเจ้าสาวลงในเกี้ยว“ท่านนี่มัน” เจียอีทุบที่แขนของเขาอย่างมันเขี้ยว“เปิ่นหวางต้องตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อน” เขายกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะปิดหน้านางไว้เช่นเดิมพิธีกราบไหว้ฟ้าดินที่ตำหนักอ๋องมีฮ่องเต้และไทเฮาเสด็จออกจากวังหลวงมาร่วมงานเว่ยอ๋องยังสร้างความตกตะลึงให้คนที่มาร่วมงาน เมื่อเขาประกาศสาบานต่อหน้าฟ้าดิน“ข้าเยี่ยนเซวียน สาบานต่อหน้าฟ้าดิน ทั้งชีวิตนี้จะมีเพียงมู่เจียอี เป็นภ

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   เจ้าของปิ่นมรกต

    เจียอีเดินเข้าไปโอบกอดมู่เฟยหย่าไว้แน่น พร้อมทั้งตบที่หลังของนางเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“ไม่ต้องร้องแล้วเจ้าค่ะ ไม่ว่าท่านจะฝันเห็นสิ่งใด แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว” มู่เฟยหย่าเอ่ยขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมาและร้องไห้ออกมาเสียงดัง จนบ่าวที่อยู่ในเรือนอดที่จะร้องไห้เพราะสงสารคุณหนูของตนไม่ได้สุดท้ายเจียอีก็พูดจนมู่เฟยหย่ายอมรับเครื่องประดับทั้งหมดไว้ สองพี่น้องจึงได้กลับมาคุยเล่นเช่นเดิมได้อีกครั้ง เมื่อเอ่ยเรื่องที่ติดค้างในใจออกมาเว่ยอ๋องที่ถูกคุมตัวอยู่ภายใต้สายตาของไทเฮา เขาหงุดหงิดใจไม่น้อยที่ไม่ได้แอบไปหาเจียอีนางที่เรือน“เหอะ ท่าทางเช่นนี้ไม่ใช่รังแกอีอีนางไปแล้วเล่า” เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้องโถงไทเฮาก็เอ่ยตำหนิบุตรชายออกมาวันนั้นที่จัดการเรื่องในวังหลวงเสร็จ เว่ยอ๋องหายตัวออกไปจากวังหลวงทั้งคืน กลับมาอีกทีก็ฟ้าสว่างแล้ว จะไม่ให้ไทเฮาสงสัยได้อย่างไร“ลูกเป็นเช่นนั้นรึอย่างไรเล่าเสด็จแม่” เว่ยอ๋องเกาจมูกแก้เก้อ“เพ้ย ไม่เป็นเช่นนั้นแล้วจะเป็นเช่นใด” ไทเฮาถลึงตามองบุตรชายตัวดีของนาง“เสด็จแม่ ให้ลูกกลับตำหนักเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เขานอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว เมื่อไม่มีเนื้อชิ้นงามอยู่ในอ้อมแขน

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   เพราะท่านเป็นพี่สาวของข้า

    นางถูกเขาวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม สายตาของเว่ยอ๋องมองเรือนร่างของนางอย่างปรารถนา ก่อนจะเริ่มเล้าโลมนางอีกครั้งเจียอีหลุดเสียงครางออกมาด้วยความรู้สึกที่เสียวซ่านยามลิ้นร้ายของเขาเลียไปทั่วเรือนร่างของนาง นิ้วมือของเขาก็รุกเข้าไปในส่วนที่คับแคบของนางอย่างต่อเนื่อง จนเจียอีกระตุกเกร็งขึ้นมาอย่างสุขสมเมื่อโดนรังแกทั้งด้านบนและด้านล่างเช่นนี้เมื่อเห็นว่านางพร้อมแล้ว เว่ยอ๋องปลดเสื้อผ้าที่เกะกะออกอย่างรีบร้อน ก่อนจะจ่อลำทวนไปที่ช่องรักของนาง เพียงส่วนหัวที่เข้าไปด้านใน เจียอีก็สะดุ้งสุดตัวไปด้วยความเจ็บปวด“โอ๊ยยย เอาออกไปเถิด ข้าเจ็บ” นางร้องออกมาอย่างน่าสงสาร แต่เว่ยอ๋องจะยอมตามใจนางในเรื่องนี้ได้อย่างไร“เพียงครู่เดียวเจ้าก็ไม่เจ็บแล้ว” เขาค่อยๆ กดลำทวนเข้าไปช้าๆ เพื่อให้เจียอีนางปรับตัว ทั้งยังเล้าโลมนางไปด้วยเพื่อให้นางคลายความเจ็บปวด"อื้มมมม" นางร้องออกมาเบาๆ เมื่อหายเจ็บปวดแต่แทนที่ด้วยความคับแน่นแทน“หายเจ็บแล้วใช่หรือไม่” เขาจูบที่ข้างริมฝีปากของนางอย่างรักใคร่“อืม” นางพยักหน้าอย่างเขินอายท่าทางน่าเอ็นดูเช่นนี้ ทำให้เว่ยอ๋องใจอ่อนยวบ เอวหน้าเริ่มขยับทำหน้าที่ของมันอย่างรู้งาน

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   หรือว่าเรื่องที่เห็นเคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ตอนที่เว่ยอ๋องเดินเข้ามาในห้องขัง นางถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัว เพราะมีดสั้นที่อยู่ในมือของเขา“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใด ถึงได้ใจกล้าเช่นนี้” เว่ยอ๋องเอ่ยเสียงเหยียบเย็นที่ดูราวกับจะมาเอาชีวิตของนางไปเขาเดินช้าๆ มาหยุดนั่งย่องๆ ที่ตรงหน้าของนาง แม้แต่เสียงร้องขอชีวิตก็ไม่อาจจะเปล่งออกมาได้“ยิ่งเห็นใบหน้าเจ้า เปิ่นหวางอยากจะอาเจียนออกมา”ยามที่มีดสั้นบรรจงเฉือนเนื้อส่วนใบหน้าของมู่เฟยหย่าออกทีละนิด มันแสนเจ็บปวดจนนางต้องกรีดร้องออกมา นางโดนทรมานเช่นนั้นอยู่นับสองชั่วยาม ก่อนจะมีหมอมารักษานาง เพื่อยื้อไม่ได้ตายเร็วเกินไปนางถูกทรมานจนไม่อาจนับวันคืนได้ จนวันหนึ่งนางก็จบชีวิตลงอย่างน่าสมเพชภายในคุกใต้ดินของตำหนักอ๋องแม้แต่หลุมฝังศพ เว่ยอ๋องก็ไม่ยอมให้นางได้อยู่ เขาสั่งให้องครักษ์นำร่างของมู่เฟยหย่าไปโยนทิ้งที่สุสานศพไร้ญาติ โดยไม่มีการฝังแต่อย่างใด ปล่อยให้หมาป่ากัดกินเนื้อส่วนที่เหลือของนางมู่เฟยหย่าสะดุ้งเฮือกขึ้นมานั่งหอบหายใจ อยู่ที่บนเตียงของนาง เสียงกรีดร้องของนางทำให้คนในตระกูลมู่ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากวังหลวงต่างรีบร้อนเข้ามาดูนาง“หย่าหย่า เจ้าเป็นอันใด” สวีซื่อเดินเข้าไปจับ

  • ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป   ได้โปรด ลืมตาตื่นเถิด

    เจียอีรีบเดินไปที่บ่อน้ำอย่างร้อนใจ นางไม่เคยพบเจอว่าผู้ใดที่แช่น้ำในบ่อแล้วจะเรียกไม่ฟื้น“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเพคะ” นางเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่น ทั้งยังประคองใบหน้าของเขาไว้แล้วตบเรียกสติเบาๆเว่ยอ๋องที่ยังคงวนเวียนอยู่ในภาพฝัน เงยหน้าขึ้นมาจากหลุมศพของเจียอี แล้วมองหาเสียงเรียกของนาง“อีอี เป็นเจ้ารึ เจ้าอยู่ที่ใด” เขาลุกขึ้นมองหา โดยที่ยังได้ยินเสียงเรียกที่ร้อนใจของนางอยู่ไม่ขาด“ท่านอ๋อง ได้โปรด ลืมตาตื่นเถิดเพคะ” เจียอีจรดหน้าผากของนางติดกับหน้าผากของเว่ยอ๋อง แล้วเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่นเทาน้ำตาของเจียอีไหลรินลงที่ใบหน้าที่หลับใหลของเว่ยอ๋อง นางยังคงเอ่ยเรียกเขาไว้ไม่ขาด เพียงไม่นานเว่ยอ๋องก็ลืมตาตื่นขึ้นมา“อีอีรึ” เขากะพริบตาที่พร่ามัว ด้วยไม่เชื่อว่าตรงหน้าของเขาจะเป็นนางไปได้“ท่านฟื้นเสียที” นางยิ้มออกทั้งน้ำตาด้วยความดีใจเพิ่งจะได้รู้ว่าต้องการเขามากเพียงใด ก็ต่อเมื่อเรียกเขาแล้วไม่มีการตอบโต้กลับ ในภพที่แล้วคู่ชะตาของเขาจะใช่นางรึไม่ ตอนนี้เจียอีไม่สนใจแล้ว นางต้องการเพียงแค่เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พอ“อีอี เปิ่นหวางมิได้ฝันใช่หรือไม่” เขาดึงนางเข้ามากอดไว้แน่น เขาแยกไม่ออกแล้วว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status