“ย่าลำเอียงมาก เด็กบ้านใหญ่ไม่เห็นต้องมาทำอะไรแบบนี้เหมือนเราเลย” หลิวอิ๋งอีช่วยพี่สาวลากรถลากไปด้วยบ่นไปด้วย
คนเป็นพี่สาวหัวเราะให้กับคำพูดของน้องสาว ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอาจจะไม่คิดเรื่องพวกนี้แต่น้องสาวเธอรู้หลายอย่าง “หลานชังแบบเราจะไปทำอะไรได้ล่ะ”
“ก็จริง”
หลิวเหอสวี่ที่เห็นพี่สาว น้องสาว สนทนากันสองคนไม่สนใจตัวเองก็พยักหน้าตาม “อือ ๆ”
ทั้งสองเห็นน้องชายที่อยากเข้าร่วมวงสนทนานี้ก็หัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมขยี้ศีรษะเหอสวี่อย่างเอ็นดู ก่อนจะรีบลากรถขนหญ้าเอาไปให้หมูหลังบ้าน อันที่จริงอาหารที่เหมาะกับหมูคือพวกธัญพืช แต่หลิวตานไม่ได้บอกย่าของเธอให้เปลี่ยนเพราะเธอไม่ได้รับส่วนแบ่งตรงนี้ ถ้าเลี้ยงหมูตัวใหญ่ก็จะได้ราคาเพิ่มแต่เธอไม่คิดจะให้บ้านใหญ่ได้รับมัน
‘ภารกิจที่ 1 เสร็จสิ้นได้รับการหมุนวงล้อเสี่ยงโชคหนึ่งครั้ง’
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นขณะที่หลิวตานให้อาหารหมูเสร็จสิ้น แต่เธอยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจกับระบบ เสียงของย่าหลิวก็ดังขึ้นจนเธอต้องยกนิ้วปิดหูด้วยความรำคาญ
“หายไปไหนมาเป็นชั่วโมงแบบนี้! แอบอู้ใช่ไหม หน็อย ฉันไม่ออกมาดูก็เลยไม่ทำงานกันสินะ ไปเก็บฟืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! ไม่มีฟืนพวกแกสามพี่น้องก็ไม่ต้องกินข้าว” เสียงย่าหลิวตะโกนด่าทอออกมาหลังบ้านที่สามพี่น้องเอาหญ้าให้หมูแล้ว
หลิวตานกรอกตามองบน “ฉันไปตัดหญ้านะคะ ไม่ใช่ไปขโมยมาจะได้รวดเร็วขนาดนั้น”
“เถียง? ฉันเลี้ยงหมาป่าตาขาวอยู่หรืออย่างไร”
“เฮ้อ”
หลิวตานถอนหายใจไม่อยากเสวนากับย่า อีกทั้งยังมีหลิวอี้ผิงผู้เป็นหลานสาวสุดที่รักของย่าที่ยืนยิ้มเยาะอยู่ จริง ๆ ไม่ใช่ว่าไม่กล้าต่อกรแต่เธอขี้เกียจ อีกอย่างไม่อยากอยู่ที่บ้านมองคนให้เกะกะสายตาจึงพาน้องชายน้องสาวไปหาอะไรกินด้วย มื้อเช้ามีเพียงแผ่นแป้งแข็งเท่านั้น ส่วนมื้อกลางวันอย่าฝันไปเลยว่าย่าหลิวจะให้พวกเธอได้กิน
ฟืนช่วงนี้ไม่ได้หายากแต่ก็ไม่ง่ายเหมือนฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากมันเข้าสู่ช่วงฝนตกแล้วถ้าเก็บไม่ทันมันก็จะเปียก อีกอย่างต่อไปมันก็จะหนาวหลายคนที่มีห้องเก็บฟืน โรงเก็บฟืนจะพากันเก็บฟืนช่วงนี้ หลิวตานจึงตัดสินใจพาน้องเข้าป่าไปด้วยกัน
“เดินระวังกันด้วย อาสวี่ เสี่ยวอี พี่สาวว่าพวกเธอขึ้นไปนั่งบนรถลากจะดีกว่า” หลิวตานบอกน้องทั้งสองคนเพราะกลัวว่าจะถูกสัตว์โจมตี ลำพังตัวเองสามารถเอาตัวรอดได้แต่น้องไม่ใช่
“หนัก” หลิวเหอสวี่รีบส่ายหน้า
หลิวอิ๋งอีเห็นด้วยกับพี่ชายคนรอง หล่อนพยักหน้าแล้วบอก “ไม่เอาหรอก พี่ใหญ่จะหนัก”
“ตามใจ” ในเมื่อทั้งสองบอกแบบนั้นหลิวตานไม่เซ้าซี้ต่อ หันมองไปรอบ ๆ เพื่อหาสถานที่เหมาะ ก่อนพากันมาหยุดที่ริมน้ำในป่า มันเป็นต้นน้ำที่ไหลลงไปใช้งานในหมู่บ้าน ซึ่งเธอเห็นตาน้ำที่อยู่ไม่ไกลจึงพาน้องมาอีกทางเพื่อจับปลามาทำอาหารกิน
“เสี่ยวอี พาอาสวี่ไปเก็บฟืนรอบ ๆ นี้หน่อย ไม่ต้องไปไกล อีกอย่างอย่าลงน้ำกัน” หลิวตานบอก
“ค่ะ”
ไม่ใช่ครั้งแรกของการเข้าป่าหลิวตานจึงไว้ใจให้น้องสาวที่อายุห้าขวบดูแลพี่ชาย ส่วนตัวเองถอดเสื้อตัวนอกแขวนเอาไว้แล้วหาเหยื่อเพื่อจับปลา เพราะการต้องเอาตัวรอดและทักษะชีวิตมานานหลายปีเธอจึงไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่เป็น ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็จับปลาตัวใหญ่ได้ถึงสองตัว และเพียงเท่านี้มันก็เพียงพอต่อสามพี่น้องแล้ว
จัดการก่อไฟเพื่อย่างปลาให้สุก นำเสื้อตัวในมาผึ่งแดดให้แห้งและเอาตัวนอกที่ไม่ได้ใส่ลงน้ำมาสวมก่อน หากกลับไปด้วยร่างกายที่เปียกมีหวังโดนด่าแน่
“หอมมาก” หลิวอิ๋งอีที่เดินกลับมาถึงหลังพี่ชายเอ่ยขึ้น
“ไปล้างมือแล้วรีบกลับมากิน พี่จะเก็บไว้ให้แม่ด้วย หลังจากนั้นพวกเราจะกลับบ้าน”
“ค่ะ”
เด็กตัวเล็ก ๆ เพียงสามคนปลาหนึ่งตัวกินยังไม่หมดเลย หลิวตานหาใบไม้ที่ไม่มีกลิ่นมาทำเป็นกระทงเพื่อใส่เนื้อปลา ล้างปาก ล้างมือ ก่อนพากันไปเก็บฟืนต่อจะได้กลับบ้าน
“เรื่องที่เราได้กินปลาต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามบอกคนอื่นแต่ว่าบอกแม่ได้แค่ตอนที่มีพวกเราเท่านั้น” หลิวตานสั่งย้ำน้องทั้งสองคนระหว่างเดินทางกลับ
คนอื่นเธอสามารถตบตาพวกเขาได้แต่แม่ไม่สามารถทำได้ในเมื่อเอากลับไปให้แม่ด้วย แต่หลิวตานคิดว่าไม่ปิดบังเวลาทำอะไรจะได้ง่าย และเชื่อว่าแม่ต้องเข้าใจ
“วันนี้พวกเราจะไม่นอนในบ้าน” หลิวตานกล่าวยิ้ม ๆ มองลูกเล่นน้ำในสระปูน“เอ๋ ไม่นอนในบ้านแล้วนอนที่ไหนคะ” นอกจากบ้านพักเวลามาที่นี่พวกเขาไม่เคยไปนอนที่ไหนเลยหลิวตานไม่ตอบแต่พยักหน้าสั่งสามีให้เริ่มทำที่นอนพักของคืนนี้ทันที ลานดินไม่มีหญ้าหรือกิ่งไม้เคยขวางเหมือนอดีตถูกปูด้วยผ้าผืนบาง ก่อนเต็นท์ถูกนำมากางทับ ผ้านิ่มถูกปูไว้ด้านในเพื่อนให้ลูกได้นอนนิ่ม ๆ พร้อมกับเตรียมก่อไฟไว้ข้างนอกนี่คือสิ่งที่หลิวตานเพิ่งได้รับมาจากระบบ เธอเลยอยากลองใช้ไหน ๆ ก็มีสถานที่ให้ใช้ และลูกของเธอดูตื่นเต้นมาก ถึงขั้นอาบน้ำและรีบมาดู“ว้าว! ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“ถ้าเคยเห็นสิแปลก” หลิวตานพึมพำแม้แต่เธอเองยังเคยเห็นเต็นท์ไม่กี่ครั้งและใช้งานไม่เป็น โชคดีว่าสามีของเธอคือทหารและการใช้ของพวกนี้เขาคุ้นเคยอยู่บ้างเลยไม่ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าได้มันมาจากไหนและต้องกางเต็นท์ยังไง“ยังดีนะครับว่าฝนไม่ตก ไม่อย่างนั้นคงน่าเสียดายแย่” สือหยวนเฟิ
“เขาก็แค่ไม่อยากเล่นกับลูกคนงานคนอื่น ทั้งที่เขาก็เป็นแค่ลูกคนงานเหมือนกัน”หลิวตานเอ่ยปราม “เจียวมิ่ง แม่ไม่เคยสอนให้ลูกแบ่งชนชั้นกับใครนะ”คำว่าลูกคนงานทำให้หลิวตานรับไม่ได้จริง ๆ ที่คำนี้มันออกมาจากปากลูกของเธอเอง เพราะหลิวตานสอนให้ลูกใช้ชีวิตกับฟาร์มตลอดและการแบ่งชนชั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบ และในอดีตเธอโดยกระทำเช่นนี้มาก่อนอีกด้วย“ขอโทษครับ”“ไม่ใช่แค่ขอโทษ ลูกไม่ควรไปพูดคำนี้กับใคร ถ้าแม่ไม่ใช่เจ้าของฟาร์มเป็นแค่คนงาน ลูกก็ต้องเป็นลูกคนงานเหมือนคนอื่น” หลิวตานสอนลูกชายสือเจียวมิ่งนั่งก้มหน้า สือเจียวเจี้ยก็อยากเข้าไปปลอบพี่ชายแต่ถูกบิดาห้าม หลิวตานปล่อยให้เขานั่งสำนึกผิดเกือบสิบนาทีถึงได้ชวนสามีกลับบ้านบ้านพักท้ายฟาร์มถูกสร้างขึ้นหลายหลังเป็นบ้านหลังเล็กมีหนึ่งห้องนอนเพราะว่าทุกคนในฟาร์มชอบมาฉลองกันที่นี่ ตอนแรกหลิวตานต้องการต่อเติมแต่เธอมองว่าถ้าต่อเติมบ้านพักท้ายฟาร์มมันจะกลายเป็นบ้า
สือหยวนเฟิงได้ยินก็ไม่ลืมคนเก่าแก่ “ลุงเจา ลุงหลี ครอบครัวลุงชาง ป้าเฉวียน แล้วก็พี่ชายชาง พวกเขาทำงานในฟาร์มตั้งแต่ฟาร์มเปิดรับคนงาน 20 คน ตอนนี้เพิ่มมาอีกหลายร้อยคน ผมคิดว่าควรมีของขวัญให้พวกเขาบ้างนะครับ”ทั้งห้าคนคือคนที่อยู่กับฟาร์มนานที่สุดและลุงเจาปีนี้ยังได้เป็นหัวหน้าคนงานปีสุดท้ายก่อนส่งต่อให้พี่ชายชางเพื่อการประสานงานรวดเร็ว แต่ลุงเจายังคงทำงานในฟาร์มเป็นผู้ช่วยของหลิวตงตง โดยที่ลุงเจาเข้าใจทุกอย่าง“แน่นอนค่ะ”นอกจากลุงเจา ลุงหลี ทั้งสามคนคือครอบครัวเดียวกัน นอกจากเงินเดือนจะเพิ่มหลิวตานก็เตรียมโบนัสประจำปีเอาให้ทั้งห้าคนอีกด้วย และมีการปรับเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเหมาะสม หลิวตานคิดว่าปีหน้าจะเปิดรับเพิ่มอีกประมาณ 200 คน และหยุดการขยายฟาร์มไปก่อนจนกว่าคนจะเพียงพอช่วงบ่ายสี่พ่อแม่ลูกพากันเข้าฟาร์มหลิว แต่ละคนแต่งตัวเต็มยศบ่งบอกว่าจะเข้ามาทำงาน และไม่รู้ว่าที่ผ่านมาระบบสงสารหลิวตานหรืออะไร ตั้งแต่ท้องลูกตอนนั้นการที่สามีเข้ามาช่วยทำภารกิจมันสาม
เกือบบ่ายสองรถยนต์สองคันมุ่งหน้าตามกันไปยังท้ายฟาร์ม หลิวตานกับเพื่อนไปรถคันเดียวกันโดยมีสือหยวนเฟิงเป็นคนขับ อีกคันคือน้องของหลิวตานกับสือหยวนเฟิง มีหลิวต้าสยงเป็นคนขับ“อากาศเย็นจริง ๆ พวกเราไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้กันหลายเดือนเลย!” หลิวอิ๋งอีสูดดมอากาศเข้าปอดแล้วพูดออกมาด้วยความดีใจ หล่อนยุ่งกับการเรียนนอกจากกินอาหารร่วมโต๊ะกับครอบครัว ที่เหลือคงเป็นการอยู่ในบ้านอ่านหนังสือชุยเฟิงเอ่ยแซว “แหม ว่าที่คุณหมอนาน ๆ ถึงมีเวลามาเลี้ยงฉลองกับคนอื่นอย่างเธอ ไม่แปลกที่ไม่ได้มานาน”ในขณะที่คนอื่นเรียนจบกันว่าที่คุณหมออย่างหลิวอิ๋งอี หลิวต้าสยง ยังต้องเรียนต่อกันอีกเกือบสองปี ซึ่งสาขาที่ทั้งสองเลือกเรียนใช้เวลาเรียนนานกว่าสาขาอื่นอยู่แล้ว“คุณอายังโทรมาถามเลยว่าต้าสยงเรียนจริงไหม” หลิวตานหัวเราะ“ถามว่าเรียนจริงไหมยังดีกว่าถามหาภรรยานะครับ เฮ้อ” หลิวต้าสยงถอนหายใจ ปีนี้เขาอายุยี่สิบหกปีถ้าอยู่ที่หมู่บ้านคงมีลูกจนโตแล้ว ค่านิยมของเมืองใหญ่กับชนบทไม่เหมือนกัน เขาไม่จำเป็นต้องรีบมีลูกขนาดนั้น&nbs
นับว่าฟาร์มหลิวได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ฟาร์มเก่าแก่อยู่มานานหลายสิบปียังถูกเขี่ยออกจากสิบอันดับของฟาร์มใหญ่ได้ จริง ๆ หลายปีมานี้ฟาร์มหลิวต้องพิสูจน์ตัวตนมานาน ลูกค้าหาย ถูกยกเลิกคำสั่งซื้อ ถูกใส่ร้ายเรื่องผักไม่สดและปีนี้หลิวตานยังได้น้องชายมาช่วยงานในฟาร์มทันทีที่เขาเรียนจบ การเติบโตของฟาร์มจึงขยายเพิ่มปัจจุบันคนงานในฟาร์มมีจำนวนมากกว่า 500 คน แบ่งเป็นทำงานในสำนักงานเกือบยี่สิบคน ทำงานในโรงผลิตเครื่องปรุงรสจำนวน 120 คน พนักงานแปรรูปผัก 50 คน ที่เหลือคือคนงานในฟาร์มบ้านหลิวประสบความสำเร็จแน่นอนว่างานเลี้ยงถูกจัดขึ้นด้วยความยิ่งใหญ่ ครบรอบสิบปีของฟาร์มทั้งทีร้านค้าพันธมิตร ลูกค้ารายใหญ่ และคนสำคัญถูกเชิญมาร่วมงาน งานจัดขึ้นตอนเช้าเพราะว่าตอนบ่ายหลิวตานกับพี่น้องนัดกันไปเล่นน้ำตกท้ายฟาร์ม“แม่”เสียงของลูกสาวตัวน้อยทำให้หลิวตานละมือจากงานตรงหน้า หันไปคุยกับลูกสาว “เจียวเจี้ยมีอะไรหรือเปล่าคะลูก”ปีนี้เด็กแฝดของหลิวตานกับสามีอายุ 5 ขวบแล้ว ทั้งสองเป็นเด็กฉลาดที่ทุกคนพบเห
ถึงเวลาลูกตื่นช่วงเลิกงานของทุกคน หลิวตาน สือหยวนเฟิงมุ่งหน้าไปยังจุดหมายหลังบอกคนในครอบครัวเอาไว้ ยังดีว่าคนงานช่วยดูแลบ้านให้ทุกวันจึงไม่ต้องทำความสะอาดอะไร “พาลูกไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเอาถุงตาข่ายใส่ตะไคร้หอมสับติดตัวลูกด้วย ฉันจะต้มนมให้ลูกหน่อย” หลิวตานบอกสามี“ครับ”นมวัวไม่ควรอุ่นบ่อย ๆ และต้องอุ่นให้ถูกวิธีไม่ให้สารอาหารลดลง ทุกวันจะมีนมวัวมาส่งที่ฟาร์มหลิว หลิวตานซื้อให้ลูกวันต่อวันและนำนมดิบมาต้มเอง เธอไม่รู้ว่าถ้าให้ฟาร์มวัวต้มมาให้สารอาหารยังเหลือไหม แม้ยุ่งยากหน่อยแต่ว่าเพื่อประโยชน์เธอยอมใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำนมพร้อมให้ลูกได้ดื่ม บางส่วนเก็บใส่ตู้เย็นพอนมในขวดใกล้หมดค่อยนำนมออกมาละลายในน้ำอุ่น หลิวตานลงมือทำเองทุกขั้นตอน“พ่อกับลูกกลับมาได้แล้ว!”ช่วงนี้เพิ่งพ้นปีใหม่มาได้ไม่นานและอากาศไม่ร้อนไม่เย็น การเล่นน้ำตกและยิ่งมีเด็กเล็กมาด้วยยิ่งไม่ควร แต่ว่าหลิวตานเตรียมน้ำอุ่น ๆ ให้ลูกเล่นหน้าบ้าน“แม่”