LOGIN“ก็ปล่อยไว้เช่นนี้ ไม่เห็นต้องทำสิ่งใด”
เหตุที่เสียนอ๋องเอ่ยถามกับนางเช่นนั้นเป็นเพราะก่อนหน้านี้เสิ่นลี่อิงได้ขอให้ญาติผู้พี่ของตนคุ้มกันตัวนาง และตู้เปาหลงไปส่งที่จวนหนิงอ๋อง และขอให้เขาสร้างสถานะใหม่ให้ตนเอง นางจะเข้าไปในวังหนิงอ๋องในฐานะหมอหญิงลี่อิง ผู้ช่วยชีวิตอ๋องน้อยแห่งจวนหนิงอ๋องเอาไว้
แผนการนี้ถูกเสียนอ๋องคัดค้านในคราแรกเกรงว่าการกระทำของนางอาจดูไม่เหมาะสม แต่เมื่อเสิ่นลี่อิงยกเหตุผลว่าคนที่วางยาได้ทั้งหนิงอ๋องและลูกในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งยังเป็นยาพิษชนิดเดียวกันย่อมต้องเป็นฝีมือของคนภายในเป็นแน่ หากนางเทียวไปเทียวมาเพื่อทำการรักษา ตัวผู้บงการก็จะสามารถสั่งให้คนของตนวางยาซ้ำได้อยู่ดี จะดีกว่าหากนางอยู่ในเรือนเพื่อให้ทุกอย่างแก้ไขได้ทันท่วงที และนางยังสามารถปกปิดเรื่องที่ ‘เสิ่นลี่อิง’ ยังมีชีวิตอยู่ได้อีกด้วย
.
.
.
“ของในบ้านเจ้าเหตุใดจึงมีน้อยนัก” เสียนอ๋องอดถามไม่ได้เมื่อเห็นว่าของในบ้านที่ญาติผู้น้องของเขาจะนำติดตัวไปด้วยมีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เขารู้สึกงุนงงว่านางอยู่อาศัยโดยมีแค่เครื่องเรือนพื้นฐานเช่นนี้ได้อย่างไร
“ข้ามาอยู่ได้ยังไม่นานจะมีของมากมายได้อย่างไร”
เมื่อเห็นว่าในบ้านไม่มีอะไรแล้ว นางก็เดินพาเสียนอ๋องทะลุออกไปหลังบ้านก็พบกับเปาเปาที่ยืนควบคุมองครักษ์สองนายให้ขุดพืชผักที่นางปลูกเอาไว้ในที่ดินรอบบ้านอยู่
“เปาเปา เก็บสิ่งใดไปแล้วบ้าง”
“เก็บเห็ดไปแล้วขอรับ เหลือเพียงพืชผักพวกนี้”
นางพยักหน้ายิ้มให้เด็กน้อยตรงหน้าที่ช่วยแบ่งเบาจัดแจงได้เก่งกาจนัก คราแรกนางไม่คิดจะขุดสิ่งที่ปลูกแล้วออกไป แต่เมื่อเปาหลงต้องการนำไปด้วยนางก็จะปล่อยให้เขาจัดการ
“เจ้าดูแลเขาได้ดี” เสียนอ๋องที่มองดูอยู่ห่างออกมากล่าวขึ้น
“ขอบคุณ”
สิ่งของในบ้านนางถูกขนออกไปพักที่จวนเสียนอ๋องจนหมด เหลือไว้เพียงเครื่องปรุงและวัตถุดิบไว้สอนทำอาหารแก่ชาวบ้านที่เหลือ ลี่อิงนัดแนะให้พวกเขามาเรียนรู้ให้เสร็จสิ้นเสียในวันนี้เลย
คนจากแต่ละสกุลจะได้เรียนรู้อาหารที่แตกต่างกันออกไป เทียบเคียงสูตรเป็นวัตถุดิบที่พวกเขาเสาะหากันได้ บ้างก็ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารประเภทต่างๆ บ้างได้เรียนการทำของหมักดองเปรี้ยวเค็มหลากหลาย บ้างก็เป็นวิธีการทำเครื่องปรุงอย่างน้ำปลา และน้ำจิ้มมะเขือเทศ ผงโรยปรุงรส ส่วนสกุลกู้ของช่างกู้นางสอนพวกเขาทำชะลอมดักปลาแทนการทำอาหารเพื่อให้เข้ากับความถนัดของพวกเขา ทั้งอุปกรณ์นี้ยังมีประโยชน์นัก
หลังจากนี้การค้าขายอาหารหรือการเพาะเห็ดของแต่ละครอบครัวจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องไปพยายามด้วยตนเองแล้ว ล่วงเลยไปยามห้ายรถม้าจากจวนอ๋องที่ขนของล่วงหน้าไปแล้วก็วนกลับมารับนางและเปาหลงไปพักอาศัยในจวนเสียนอ๋องชั่วคราว
เรือนผิงกั๋ว จวนเสียนอ๋อง
“พี่สาวเราจะได้ไปหาท่านพ่อกันจริงหรือ”
“จริงสิ เสียนอ๋องท่านอาของเจ้าเป็นผู้คุ้มกันไปเองเช่นนี้ ย่อมต้องปลอดภัย”
“คิดถึงท่านพ่อ”
“ข้ารู้แล้ว ท่านพ่อเองก็คงคิดถึงเจ้าเช่นกัน รอพระชายาเอกอาการดีขึ้นพวกเราก็สามารถออกเดินทางกันได้ทันที”
เด็กน้อยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มแก้มปรินอนยิ้มอยู่บนเตียงพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “เจอพ่อ เจอพ่อ” จนนางนึกเป็นห่วง แม้เสิ่นลี่อิงจะบอกเปาเปาน้อยไปว่าท่านพ่อของเขาโดนพิษแบบเดียวกับที่เขาได้รับก่อนมาเจอนาง เปาเปาก็ไม่ได้มีอาการหวาดกลัวแต่อย่างใด ทั้งยังบอกลี่อิงว่านางเก่งกาจ แค่เพียงไปถึงบ้านของเขา ท่านพ่อของเด็กน้อยก็ต้องหายดีแน่นอน ดูเหมือนเสิ่นลี่อิงจะสอนวิชาการชื่นชมได้ดีจนเกินไปเสียแล้ว
นางถึงกับต้องกุมขมับในความมั่นใจของเปาเปา พิษนี้เป็นพิษร้ายแรงแม้นางจะรักษาได้แต่ระยะเวลาที่หนิงอ๋องต้องใช้ชีวิตอยู่กับพิษยาวนานกว่าเปาหลงมาก ร่างกายภายในจะแปรเปลี่ยนไปมากเพียงใดก็มิอาจล่วงรู้ได้เลย
ยิ่งใกล้ต้องเดินทางเสิ่นลี่อิงก็ยิ่งทิ้งความสงสัยเรื่องหนิงอ๋อง และการถูกพิษของหนิงอ๋องออกไปจากความคิดไม่ได้มากกว่าเดิม
หากท่านอ๋องต้องพิษเพราะนางมาที่นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่หากตามเรื่องราวเดิมท่านอ๋องต้องโดนเล่นงานจากพิษนี้อยู่แล้ว หมายความว่ามีตัวละครลับที่นางไม่รู้จักมาก่อนสามารถถอนพิษนี้ได้
ตัวละครลับที่แก้พิษได้คือใครกัน
นางคิดไปก็รู้สึกปวดหัวจึงพาเปาหลงเข้านอน แล้วไปตรวจอาการหลี่เจียอีและดูแผลของนางให้ตนเองหายฟุ้งซ่านไปเสีย “พวกเขาดูแลพระชายาได้ดีนักเพคะ แผลนี้ก็รักษาความสะอาดได้น่าชื่นชม”
“ขอบใจเจ้ามาก หากมีสิ่งใดที่ข้าตอบแทนได้ ข้ายินดีทำเพื่อเจ้าทุกสิ่ง” หลี่เจียอีที่ถูกนางจับวัดไข้วัดความดันพูดออกมา
“อีกไม่นานก็หายแล้ว วันมะรืนท่านจะต้องลุกเดิน หากนอนนานเกินไปจะฟื้นตัวช้า เจ็บเพียงไรก็ต้องอดทน”
.
.
.
เมื่อวันมะรืนมาถึงเสียนอ๋องได้นำของมีค่า เครื่องประดับสวยงามออกมาเตรียมไว้ให้หลี่เจียอีเป็นรางวัล แลกกับการเดินแต่ละก้าว ของส่วนนี้จะถูกแยกเป็นของส่วนตัวของนางรวมไปกับสินเดิมของพระชายาเอกเอง เสียนอ๋องจะไม่มีสิทธิ์แตะต้องของเหล่านี้อีก ทั้งยังสร้างราวไม้ไว้ให้นางจับประคองพยุงตัวยามเดินในสวนอีกด้วย
เสิ่นลี่อิงที่เห็นภาพนี้ถึงกับหัวเราะออกมาเพราะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดในนิยายจึงไม่เห็นเสียนอ๋องสนใจผู้ใดเป็นพิเศษ ที่แท้ความรักที่มีให้กับพระชายาหลี่ผู้นี้มีมากมายถึงเพียงนี้นี่เอง
“เสียนหวางเฟยท่านไม่ต้องฝืนตัวเอง เดินเท่าที่ไหวต้องทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายเจ็บวันนี้เดินได้น้อยก็ไม่เป็นไร” นางให้กำลังใจหญิงสาวที่พึ่งผ่าตัดมา
หลี่เจียอีพยักหน้าและจับราวค่อยๆ เดินออกไปทีละก้าวโดยมีเปาหลงคอยเป็นผู้ช่วยนับก้าว ไม่ให้ท่านอาของตนบิดพลิ้วลดจำนวนสมบัติที่จะประทานให้มารดาของน้องน้อยคนใหม่ของเขา
เปาเปานี่ก็ไปเรื่อยตลอด
เสิ่นลี่อิงขบขันนักกับท่าทางจริงจัง ตะโกนร้องให้คนทั้งเรือนทราบจำนวนก้าวและให้บ่าวที่พอรู้หนังสือเดินจดตามคำบอกตนเอง
“ห้าก้าวแล้ว!”
.
.
.
วันเวลาที่เรียบง่ายและมีความสุขเช่นนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลี่เจียอีอาการดีขึ้นไม่มีสิ่งใดที่น่าเป็นห่วงแล้ว เสียนอ๋องจึงสั่งให้คนจัดขบวนเพื่อจะนำเสิ่นลี่อิงและตู้เปาหลงไปส่งให้ถึงจวนหนิงอ๋องด้วยตัวเอง เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของญาติผู้น้องที่มีพระคุณคนนี้ตัวเขาและพระชายาย่อมเต็มใจ ส่วนหลี่เจียอีนั้นได้มารดาของตนมาดูแลเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่สามีไม่อยู่
“ได้เวลาไปกันแล้ว นั่งรถม้านี้อีกเพียงสิบห้าวัน เราก็จะไปถึงจวนของเจ้ากันแล้ว”
“พี่สาวที่จวนเปาเปา พี่สาวนอนกับเปาเปาเหมือนเดิมได้หรือไม่”
“เรื่องนี้ไว้รอไปถึงค่อยถามผู้อื่นว่าทำได้หรือไม่ก็แล้วกัน ขึ้นไปได้แล้วเจ้าเด็กคนนี้”
เสิ่นลี่อิงอุ้มเปาเปาน้อยขึ้นไปบนรถม้าคันเดียวกับนาง แยกกับเสียนอ๋องที่อยู่บนรถม้าอีกคัน และแล้วเมื่อทุกคนอยู่ในตำแหน่งที่ควรอยู่ล้อก็เริ่มหมุนนำพานางไปยังจวนของว่าที่สามีในท้ายที่สุด
____
ยามห้าย หมายถึง 21.00 - 22.59 น.
บทที่ 28 ดาวนำโชคทำงานอีกครั้งบรรยากาศไม่เย็นไม่ร้อนทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่ลำบากนัก รถม้าที่ภายในตกแต่งมาอย่างดี ทำให้การเดินทางครั้งนี้สะดวกสบาย และช่วงเวลาพักม้าก็เป็นช่วงเวลาทองให้นางได้เก็บของป่าติดตัวไปด้วย แม้จะยังไม่พบอะไรที่รู้สึกว่าล้ำค่า แต่นางก็คิดว่าก่อนถึงจวนหนิงอ๋องรถม้าคงเต็มไปด้วยของให้นางและเปาเปาได้ใช้เล่นสนุกมากมายตู้เปาหลงแม้จะยังเล็กนักแต่เพราะการอบรมที่เข้มงวดให้เหมาะสมกับฐานะของเจ้าตัวที่ได้รับมาตั้งแต่ก่อนพบกับนาง ทำให้เปาเปาน้อยไม่งอแงเท่าที่นางคาดไว้ ทั้งยังดูเพลิดเพลินกับการเล่นแป้งนวดแบบที่เด็กๆ ในภพเดิมของนางเล่นกัน“นี่ๆ ดูเปาเปาปั้น” เด็กน้อยนำสัตว์ประหลาดสีเขียวมายื่นไว้ตรงหน้านาง
บทที่ 27 เตรียมตัวเดินทาง“ก็ปล่อยไว้เช่นนี้ ไม่เห็นต้องทำสิ่งใด”เหตุที่เสียนอ๋องเอ่ยถามกับนางเช่นนั้นเป็นเพราะก่อนหน้านี้เสิ่นลี่อิงได้ขอให้ญาติผู้พี่ของตนคุ้มกันตัวนาง และตู้เปาหลงไปส่งที่จวนหนิงอ๋อง และขอให้เขาสร้างสถานะใหม่ให้ตนเอง นางจะเข้าไปในวังหนิงอ๋องในฐานะหมอหญิงลี่อิง ผู้ช่วยชีวิตอ๋องน้อยแห่งจวนหนิงอ๋องเอาไว้แผนการนี้ถูกเสียนอ๋องคัดค้านในคราแรกเกรงว่าการกระทำของนางอาจดูไม่เหมาะสม แต่เมื่อเสิ่นลี่อิงยกเหตุผลว่าคนที่วางยาได้ทั้งหนิงอ๋องและลูกในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งยังเป็นยาพิษชนิดเดียวกันย่อมต้องเป็นฝีมือของคนภายในเป็นแน่ หากนางเทียวไปเทียวมาเพื่อทำการรักษา ตัวผู้บงการก็จะสามารถสั่งให้คนของตนวางยาซ้ำได้อยู่ดี จะดีกว่าหากนางอยู่ในเรือนเพื่อให้
บทที่ 26 รับผลกรรมที่ก่อเสิ่นลี่อิงเบื่อแสนเบื่อกับการทะเลาะกับคนในหมู่บ้านแห่งนี้เต็มที พวกเขาเห็นนางไม่เอาเรื่องจนเด็ดขาดก็เลยตามหาเรื่องไม่ยอมหยุดหย่อน พอครั้งนี้นางเลือกตีให้น่วมเป็นตัวอย่างก็ยังกล้าหาเรื่องลำบากใจมาให้นางอีก คงเป็นเพราะฉินเปาที่ไม่ยอมบอกสาเหตุที่ถูกลี่อิงตีจนเกือบตายอยากตายกันไปข้างก็จัดให้ได้!“มาคร่ำครวญเอาอะไรไม่ทราบ”“เจ้า!” ทันทีที่เสิ่นลี่อิงก้าวลงมาจากรถม้าผู่จานก็พุ่งเข้ามาหวังทำร้ายนางทันที แต่ก่อนจะได้ฟาดฝ่ามือลงมาก็ถูกสกัดไว้เสียก่อนจากองครักษ์ที่ติดตามมาด้วย“เจ้า ตีลูกข้าปางตาย นังปีศาจ เจ้ามันโหดร้ายเกินคน”
บทที่ 25 เสียนหวางเฟยจะคลอดบ่าวที่วิ่งมาตามคือท่านพ่อบ้านประจำจวน พระชายาเอกของเสียนอ๋องมาเจ็บท้องคลอดในวันนี้พอดีในระหว่างที่กำลังรับรองแขกสำหรับงานเลี้ยงหลอกๆ ครั้งนี้การเข้าป่าจนโดนตามฆ่าในครั้งนั้นของเสียนอ๋องก็เพื่อตามหาสมุนไพรชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กพลิกตัวกลับได้ง่าย เพราะหญิงในสกุลหลี่ของพระชายาผู้นี้ ครึ่งหนึ่งคลอดลูกตายด้วยสาเหตุเดียวกัน คือเด็กไม่พลิกตัวเสิ่นลี่อิงเองก็ไม่เข้าใจนักว่าเหตุใดเขาจึงไม่บอกนางตั้งแต่คืนวันนั้น แต่หากจะให้นางคาดเดาก็คงเหมือนดังเช่นนางที่มิรู้ว่าผู้ใดสามารถไว้ใจเต็มสิบส่วนได้บ้าง&
บทที่ 24 ข่าวใหญ่จากจวนอ๋องคืนนั้นเสิ่นลี่อิงไปลอบดักฟังที่บ้านของฉินเปา ได้ยินแต่เสียงป้าผู่และสามีก่นด่ากัน“ลูกชายของท่านเข้าเมืองทีไรไม่ยอมกลับบ้าน ใช้การไม่ได้”“ผู่จานเจ้านั่นแหละอบรมฉินเปาอย่างไร”ลี่อิงที่ได้ยินว่าพวกเขาไม่ได้กำลังร้อนใจว่าลูกชายไม่กลับบ้าน แต่กลับทะเลาะกันเสมือนเป็นพฤติกรรมปกติของบุตรชาย นางก็กลับไปนอนเล่นอย่างสบายใจ ต่อให้พรุ่งนี้พบตัวแล้วมาโวยวายนางก็ไม่กลัว อย่างไรชาวบ้านที่ขายไข่ไก่ย่อมต้องเข้าข้างนางที่เป็นลูกค้าบ้างเมื่อสบายใจแล้วจึงนึกได้ว่าเห็ดป่าที่เพ
บทที่ 23 จัดการเด็ดขาดเสิ่นลี่อิงกำลังจับจ้องไปยังถังเห็ดที่เรียงรายอยู่ภายใน เห็ดทั้งหมดเติบโตแล้ว รวมถึงเห็ดหลินจือที่พึ่งนำลงถังไปท้ายสุดด้วย แต่เพราะน้ำกลิ่นจันทร์ในถังเห็ดหลินจือมีปริมาณมากกว่าถังอื่นๆ เห็ดหลินจือจึงโตทันเห็ดชนิดอื่นเป็นที่เรียบร้อย การเพาะเห็ดในถังของนางได้ผลนางนำมีดออกมาตัดเห็ดแยกตามสายพันธุ์และนางเก็บหลินจือส่วนหนึ่งไว้ในมิติสำหรับขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนถังต่อไปด้วย แต่นางก็ยังเหลือเห็ดป่าไว้จำนวนหนึ่งไม่ได้ตัดไปทั้งหมดโชคดีอะไรขนาดนี้เนี่ยเมื่อตัดเห็ดออกมาได้ตามต้องการแล้ว นางก็หัน







