بيت / รักโบราณ / ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย / บทที่ 8 ดูเหมือนว่าเราจะมีวิธีหาเงินกันแล้ว

مشاركة

บทที่ 8 ดูเหมือนว่าเราจะมีวิธีหาเงินกันแล้ว

last update آخر تحديث: 2025-10-26 19:43:24

บทที่ 8 ดูเหมือนว่าเราจะมีวิธีหาเงินกันแล้ว

       หลังจากเดินออกมาได้ไม่นานเปาหลงก็ปาดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วกลับมายิ้มร่าให้นางดังเดิมเสมือนว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ห๊ะ!…แสดงหรือนั่น 

“เปาเปาไม่เสียใจแล้วหรือ” ลี่อิงอดไม่ได้ที่จะต้องถามออกไป อารมณ์เปลี่ยนง่ายดายเช่นนี้ทำให้นางตกใจอยู่ไม่น้อย

“ไม่ขอรับ”

“ดีแล้วเช่นนั้นไปช่วยข้าเลือกของเข้าบ้านเถิด” 

สรุปว่าคงเป็นการแสดงจริงๆ  

       บางครั้งเสิ่นลี่อิงก็ลืมไปเช่นกันว่าเด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะ สามารถเป็นคู่ปรับที่สร้างความปั่นป่วนให้กับหนิงอ๋องได้อย่างเจ็บแสบ จนกระทั่งเสียรู้เพราะเล่ห์เหลี่ยมจากประสบการณ์มีไม่เท่าพ่อ

.

.

.

“หลงจู๊ มีฟูกขายหรือไม่ ข้าพึ่งย้ายมา ที่บ้านมีแต่เครื่องเรือนพื้นฐาน ยังขาดหลายสิ่งนัก” เสิ่นลี่อิงส่งรอยยิ้มกระจ่างแจ้งออกไปให้ชายในร้านที่ยิ้มหน้าบานเมื่อได้ยินว่าบ้านของนางยังขาดของหลายสิ่ง แม้นางจะนำชุดของบ่าวมาสวมใส่ หากแต่สะอาดสะอ้านเนื้อผ้าคุณภาพดีย่อมสะท้อนให้ผู้คนคิดว่านางมีเงิน

“เชิญ เชิญ แม่นางมาเลือกซื้อให้ตนเองหรือซื้อให้เด็กน้อยผู้นี้ด้วยขอรับ”

“ซื้อให้เปาเปาด้วย” เปาเปาที่ได้รับคำสั่งว่าให้ช่วยนางเลือกซื้อหาสิ่งของเข้าบ้านตอบออกมาอย่างแข็งขัน

“แม่นางสั่งสอนได้ดี ฉะฉาน ฉะฉาน” 

“ขอบคุณหลงจู๊ ฟูกสองหลัง สามารถไปส่งที่บ้านได้หรือไม่” หากไม่ได้เสิ่นลี่อิงก็คิดแล้วว่านางจะไปจ้างเกวียนที่หน้าตลาดด้วยตัวเอง

“หากซื้อของครบห้าตำลึงเงิน สามารถให้ทางร้านไปส่งให้ได้ แต่ฟูกสองหลังมีราคาสามตำลึงเงินเท่านั้น แม่นางต้องการอย่างอื่นหรือไม่”

“เปาเปาอยากได้อะไรหรือไม่”

“ม่าน” เด็กน้อยชี้ไปยังม่านฉากกั้นห้องอันหนึ่ง

“ได้ ฉากกั้นนั้นเท่าไรหรือ”

“แปดร้อยอีแปะ หากนำไปสองชุดข้าลดให้หนึ่งร้อยอีแปะ”

“สองเลยก็ได้ไม่มีปัญหา คันฉ่องอันนั้นเล่ากี่ตำลึง”

“นั่นราคาสูงสักหน่อยสองตำลึงทองขอรับ”

       เสิ่นลี่อิงคำนวณเงินในใจตอนนี้ทั้งหมดราคาสี่ตำลึงเงิน ห้าร้อยอีแปะ อีกเพียงห้าร้อยอีแปะทางร้านก็จะไปส่งโดยไม่คิดเงิน แต่คันฉ่องนั้นนางก็อยากได้เก็บไว้เหลือเกินอันใหญ่ส่องได้ทั้งตัว และในบ้านก็ยังไม่มีคันฉ่อง

“หากข้ารับคันฉ่องด้วยนอกจากนำไปส่งแล้วหากข้าฝากนำของอื่นๆ ขึ้นเกวียนไปส่งด้วยได้ข้ารับทันที”

“เรื่องเพียงเท่านี้สำหรับลูกค้าชั้นดีย่อมทำให้ได้ แม่นางแจ้งเวลาที่จะให้ขนไปให้ได้เลย”

“ยามเว่ยแล้วกัน ไปส่งที่บ้านท้ายหมู่บ้านหยาง เดี๋ยวข้าทยอยให้พ่อค้าแม่ค้านำของมาส่ง จะให้บอกว่าของลี่อิง สองตำลึงทอง สี่ตำลึงเงิน ห้าร้อยอีแปะ เจ้านับดูว่าครบถ้วนหรือไม่”

       เสิ่นลี่อิงจับจูงเปาหลงน้อยออกมาจากร้านเครื่องเรือนเพื่อไปร้านของแห้งต่อทันที 

“ข้าเอาข้าวสารสิบจิน เกลือหนึ่งจิน น้ำตาลสองจิน มีแป้งหรือไม่”

“มีแป้งเสี่ยวไม่จินละหกสิบ แป้งยวี่หมี่ สามสิบ แป้งนั่วหมี่และแป้งไป่หมี่จินละห้าสิบ”

“เอาด้วยอย่างละสองจิน”

“ข้าวสารจินละสี่สิบอีแปะ เป็นสี่ร้อย เกลือสองร้อยอีแปะ น้ำตาลจินละแปดสิบ แป้งอีกสามร้อยแปดสิบ ทั้งหมด…”

“หนึ่งตำลึงเงิน กับหนึ่งร้อยสี่สิบอีแปะ” เปาเปาชูนิ้วป้อมๆ ขึ้นมาให้คำตอบกับแม่ค้าร้านของแห้ง เรียกให้ทุกคนหันมามองเด็กน้อยที่คิดเลขโดยไม่พึ่งพาลูกคิด

       แม่ค้าแผงของแห้งเคาะลูกคิดได้คำตอบแล้วก็ชื่นชมออกมา “ถูกต้องๆ กระเทียมกับหอมแดงนี้ ข้าแถมให้ไปด้วย ฉลาดจริงๆ”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ พอมีคนขนไปส่งที่ร้านเครื่องเรือนตรงหัวมุมซ้ายได้หรือไม่ ตัวข้ากับเด็กเล็กคงจะหอบหิ้วกันไม่ไหว”

       แม่ค้าร้านของแห้งยินดีนำไปส่งให้นาง และจะให้ลูกชายเป็นผู้ขนไปส่งให้ หลังจัดของเสร็จ ลี่อิงจึงเดินออกมาซื้อของร้านอื่นต่อไป นางเดินมาจนถึงร้านอาภรณ์ก็คิดว่าควรซื้อหาให้เปาหลงเพิ่มสักหน่อยจึงได้หยิบติดไม้ติดมือมาด้วยสองชุด พร้อมรองเท้าอีกคนละสองคู่ รวมเป็นสามตำลึงเงิน 

       ระหว่างจ่ายเงินเสิ่นลี่อิงลอบสังเกตสินค้าประทินผิวก็พบว่ามีน้อยนัก ทั้งยังมีราคาแพงลิ่ว ส่วนอาภรณ์และรองเท้า นางเทียบเคียงจากความทรงจำคุณหนูเสิ่นคนเก่าก็รู้สึกว่าพอรับได้ ไม่แพงไม่ถูก ส่วนราคาของอื่นๆ คุณหนูเสิ่นไม่รู้เลย

รู้แต่ราคาเสื้อผ้า เครื่องประดับ คุณหนูของแท้

       แม้จะบอกว่าร้านอาภรณ์และเครื่องประทินผิวมีของน้อยแล้ว ร้านเครื่องปรุงก็มีของให้เลือกน้อยยิ่งกว่า นางจึงซื้อน้ำมันงา น้ำส้มสายชู ซีอิ๊ว และเครื่องเทศบางอย่างมาในราคาแปดร้อยอีแปะ และให้ไปส่งที่ร้านเครื่องเรือนเช่นเดิม

“พี่สาว เนื้อๆ” เปาหลงที่เห็นร้านขายเนื้อสัตว์ก็ชี้มือให้นางเข้าไปซื้อทันที

“ได้เลย เจ้าชอบไก่หรือหมู”

“ชอบทั้งหมด”

       เสิ่นลี่อิงซื้อเนื้อหมูมาสามจินในราคาหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ และเนื้อไก่อีกสามจินแปดสิบอีแปะ ส่วนไข่ไก่นางมิได้ซื้อมาเพราะบ้านของจินเหมยเลี้ยงไก่ขายไข่ด้วย ซื้อหากับนางย่อมเหมาะสมกว่า และวันนี้นางซื้อเนื้อไปเยอะเช่นนี้ ก็เพื่อชวนนางมากินฉลองเล็กๆ ต้อนรับชีวิตใหม่ร่วมกัน

“เปาเปาเจ้าช่วยข้าคิดที เราสองคนจะค้าขายสิ่งใดในเมืองแห่งนี้ดี”

“ขายนมได้หรือไม่ อร่อย”

“ข้าทำมาขายไม่ได้น่ะสิ มีน้อยอยู่”

“มีน้อยไม่ขาย เปาเปากิน”

“ไม่ขาย ไม่ขาย”

เครื่องปรุงก็ใช้เวลาหมักนานเกินไป กว่าจะได้ขาย เหล้าก็เหมือนกัน

“หรือข้ากลับไปลองทำอาหารให้เจ้ากินดีหรือไม่ หากอร่อยค่อยเอามาขาย”

       เปาหลงพยักหน้ารัว ไม่นานนักก็ล่วงเลยเข้ายามอู่ เสิ่นลี่อิงจึงพาเปาหลงมานั่งทานอาหารที่ร้านบะหมี่ นางอยากศึกษารสชาติของคนที่นี่ว่ากินกันอย่างไร รักอยากจะขายอาหารย่อมต้องทำรสให้ถูกลิ้นคน

“เถ้าแก่ ขอบะหมี่หมูสองถ้วย”

“ได้เลยๆ บะหมี่หมูร้อนๆ น้ำซุปเคี่ยวอย่างดี”

บะหมี่ต้นตำรับโบราณแท้ๆ หากินที่ไหนไม่ได้แล้ว เพราะคนทำตายหมด

       บะหมี่สองชามที่มีควันหอมกรุ่นลองขึ้นมาแตะจมูกวางอยู่บนโต๊ะเล็กของร้านข้างทาง เสิ่นลี่อิงพิจารณาองค์ประกอบในชามที่มีความเรียบง่ายอยู่ เส้น ผัก และเนื้อหมูสับ กับลูกชิ้นสองลูก เมื่อซดน้ำไปคำแรก นางสัมผัสได้ถึงความหวานจากการเคี่ยวน้ำแกงได้นานจนดึงความกลมกล่อมออกมาจากไขกระดูกได้มากมายนัก

“เถ้าแก่ บะหมี่นี่น้ำแกงอร่อยจริงๆ หากมีเสี่ยวหลงเปามาขายเพิ่มท่านคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า”

“แม่นางน้อย เสี่ยวหลงเปาที่ว่านี่มันคือสิ่งใดกัน”

“อ้อ จะว่าอย่างไรดี มันคือแผ่นแป้งคล้ายซาลาเปาที่ห่อน้ำแกงไว้ น้ำแกงร้านท่านคือตัวชู หากนำมาขายเป็นจุดเด่นย่อมได้เงิน”

“เลวไหลน้ำเหลวๆ จะเอามาใส่แป้งห่อได้อย่างไร ฮ่าๆ แต่ก็ขอบใจที่ชอบน้ำแกงบะหมี่ของข้า”

“ทำได้จริงๆ ท่านเพียงแค่ต้องแยกน้ำแกงหนึ่งส่วนมาต้มใส่หนังหมูครึ่งส่วน เคี่ยวจนน้ำลดลงเหลือสองในสามส่วน แล้วท่านก็มากรองหนังหมูออกให้เหลือเพียงน้ำแกงทิ้งไว้หนึ่งคืน น้ำแกงของท่านจะแปรเป็นเนื้อวุ้น สามารถตักใส่แผ่นแป้งได้แล้ว”

“ทำได้จริงหรือ”

“จริงเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ นำไปลองดูก่อน นอกจากวุ้นน้ำแกงท่านก็ใส่หมูลงไปด้วยเล็กน้อย ห่อแล้วน้ำมานึ่ง เท่านี้วุ้นก็จะแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นน้ำแกงอยู่ภายในเสี่ยวหลงเปาของท่านแล้ว”

“เหตุใดเจ้าไม่ทำขายเองเล่าหากทำได้จริง”

“หากข้าทำเองทั้งหมดจะเป็นงานใหญ่เกินไป แต่ท่านขายบะหมี่อยู่แล้ว เพียงแค่เพิ่มขั้นตอนไม่กี่อย่างเท่านั้น”

“งั้นหากข้าขายน้ำแกงให้เจ้าเล่า ทำได้ก็นำกลับมาส่งให้ข้าขาย ไม่คิดค่าฝาก”

“วันนี้ขอเพียงเล็กน้อยไปลองทำมาให้ชิมก่อนได้หรือไม่ ยังไม่ซื้อ”

“วันนี้ไม่ขายอยู่แล้ว น้ำแกงข้ามีไม่พอขายให้เจ้า เอาไปสองถ้วยพอ ข้าหาอะไรมาใส่ให้เจ้าก่อน พรุ่งนี้อย่าลืมนำมาให้ชิมเล่า ค่าบะหมี่ไม่คิดเงิน ถือเป็นของขวัญวันพบหน้า”

“ขอบคุณเถ้าแก่”

       นางบอกเปาหลงให้รีบกินให้เสร็จ และรับน้ำแกงที่ถูกเทใส่หม้อขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ผูกเชือกเป็นหูหิ้วติดตัวมาและเดินกลับไปซื้อหนังหมูครึ่งจินเพื่อมาทำเสี่ยวหลงเปา ส่วนซึ้งนึ่งเหมือนนางจะเห็นว่ามีอยู่แล้ว

“พี่สาว ขายเสี่ยวหลง..เปา หรือ”

“ใช่แล้ว หากทำสำเร็จก็ดูเหมือนว่าเราจะมีวิธีหาเงินกันแล้ว”

“ดียิ่ง มีเงินคือเก่ง”

“ฮ่าๆ ถูกต้องๆ มีเงินคือเก่ง” เสิ่นลี่อิงหัวเราะร่วนดูเหมือนจากอัจฉริยะนักวางแผนชิงอำนาจทางการเมืองจะเบนเข็มมาเป็นนักหาเงินเสียแล้ว

_______

ยามเว่ย หมายถึงเวลา 13:00 - 14:59 น.

เสี่ยวไม่ หมายถึงสาลี

แป้งยวี่หมี่ หมายถึงข้าวโพด

นั่วหมี่ หมายถึงข้าวเหนียว

ไป่หมี่ หมายถึงข้าวขาว

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง

    บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง เวลาของความสุขผันผ่านไปรวดเร็วเพียงชั่วกระพริบตา ชินอ๋องและพระชายาอยู่ในวัยใกล้ฝั่งเสียแล้ว บุตรล้วนเติบใหญ่ให้ได้ภาคภูมิใจมีครอบครัว และหลานมากมายให้ชื่นใจ ส่วนตนและฮูหยินคู่ใจก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ แต่การหวนย้อนคิดเหล่านี้ ทำให้ชินอ๋องนึกถึงภาพฝันที่เคยอยู่เป็นเพื่อนยามค่ำคืนเสมอมา ตู้หนิงหลงในวัยชรากลับมาฝันถึงแม่นางผู้หนึ่งมาติดต่อกันหลายคืนแล้ว ความฝันนี้เป็นฝันเช่นเดียวกับยามเยาว์วัย เขามักจะฝันเห็นนางยิ้มหัวเราะ บางคราก็โกรธเกรี้ยว สลับกับการไปช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายร่วมกับแม่นางผู้นั้น เหตุการณ์ในฝันนั้นไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก แต่สุดท้ายก็มักจะจบลงเช่นเดิมคือ เขาและนางไปช่วยดับไฟสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นไปด้านบน แม่นางผู้นั้นจะตกลงในหลุม จากนั้นเขาก็จะตกลงมาเช่นกัน แต่ร่างของชินอ๋องในฝันนั้น จะถูกโลหะแท่งใหญ่ปักทะลุอก กระอักเลือดออกมาคำโต จนแม่นางผู้นั้นกรีดร้องออกมาคล้ายดวงใจแตกสลาย ทว่าครานี้ฝันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ภาพที่ปรากฏยังคล้ายเดิม เพียงแต่ไม่มีร่างที่สมควรจะเป็นตัวของเขาอยู่ในฝันนั้น

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย

    บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย ตู้หนิงหลงผู้เป็นถึงชินอ๋องกำลังรอดักเรียกบุตรชายผู้เป็นรุ่ยอ๋อง เพราะยามกลับมาถึงจวนทีไร ก็มาในสภาพคลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นผงทุกวัน ทั้งยังมีข่าวคราวหนาหูเกี่ยวกับว่าที่รุ่ยหวางเฟยให้ได้ยินนั่นอีก แต่เมื่อจะเรียกมาสอบถามกลับหลบหนีหายไปทุกครั้ง จนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ต้องมายืนพิงกำแพงจวน รอบุตรชายกลับมาด้วยตนเอง“เปาหลง” ชินอ๋องเอ่ยเรียก ตั้งมั่นว่าครานี้ต้องรู้เรื่องราวให้ได้ อ๋องน้อยผู้นี้บิดพลิ้วหนีคนที่สั่งให้มาตาม ปิดโอกาสสืบความใดไปเสียหมด“ท่านพ่อ! เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ ข้าตกใจหมด” เปาเปาที่แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เมื่อยามอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยง ก็กลับไปมีท่าทีเป็นเด็กเล็กๆ ไปทุกครา“ตามพ่อมา” หนิงหลงไม่ลื่นไหลไปกับบทสนทนาที่พยายามจะนอกเรื่องหาทางหลีกหนี เมื่อกล่าวจบก็พยักหน้าให้ทหารหิ้วปีกมุ่งไปที่ห้องหนังสือ“ท่านพ่อ ทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่รักษาภาพพจน์ข้าบ้างหรือ บุตรชายของท่านเป็นถึงรุ่ยอ๋องเชียวนะ” เปาหลงโวยวายเมื่อถูกลากเข้าจวน และยกทั้งร่างมาวางไว้ในเรือนกลางของผู้เป็นพ่อ... เปาหลงที่หันมองหาทางหนีทีไล่ ถอนหายใจอย่า

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดง

    บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดงวันมงคลของเสิ่นลี่อิงและองค์ชายเก้าเกิดขึ้นในวันที่ถัดมาจากวันที่ครบพันปีหนึ่งวันพอดิบพอดี เมื่อเซียนลี่บอกให้ตู้หนิงหลงผู้นี้รอไปพันปี เขาก็ทำเช่นนั้นตามข้อตกลงแต่องค์ชายผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมรับต่อหน้าคนรักอยู่ดีว่าการตัดสินใจให้เป็นคนรักกันไปพันปีของนางเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว หากขืนยอมรับไปเขาได้รับคำย้ำเตือนไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่แน่ ว่าทำอันใดก็ให้เชื่อนางจึงจะออกมาดีตู้หนิงหลงกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหอด้วยใจระทึก เขาถูกพี่ชายทั้งหลายล้อเลียนว่าเป็นเด็กแก่แดดแต่งงานตัดหน้าทุกคน และถูกบังคับให้กินเหล้าหลายจอกจนทรงตัวแทบไม่อยู่&nbs

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปี

    บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียนจวินองค์ชายเก้าตู้หนิงหลงทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ เขากล่าวต่อหน้าผู้คนทั้งท้องพระโรงว่าต้องการสมรสพระราชทานให้เสิ่นลี่อิง มาเป็นพระชายาเอกในองค์ชายเก้า แรกเริ่มนางก็คิดหวังว่าอาจมีองค์เทพที่กล่าววาจาคัดค้านว่าเซียนเล็กๆ เช่นนาง แม้จะผลคะแนนแซงหน้าบุตรหลานชาวสวรรค์แต่กำเนิด แต่ที่มาไร้ความสูงส่งเช่นนี้ก็ไม่ใคร่ว่าจะเหมาะสมแต่ทว่าเรื่องนี้ก็ผิดความคาดหมายของเสิ่นลี่อิง เพราะนอกจากจะไม่มีใครคัดค้านแล้ว ยังเห็นดีเห็นงามว่าควรมีเซียนตัวเล็กตัวน้อยแต่งเข้าราชวงศ์ในตำแหน่งใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเผ่าสวรรค์นั้นไม่คิดรังเกียจแบ่งแยกผู้ใดเอ้า! จะมาใช้ข้าเป็นโครงการป

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 13 ภารกิจจบการศึกษา

    บทพิเศษ 13 ภารกิจจบการศึกษาเสิ่นลี่อิงที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันที่ต้องไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สองวันก่อนท่านอาจารย์ให้ทั้งสามสุ่มเลือกภารกิจที่พวกตนต้องรับผิดชอบ โดยที่จะไม่มีอาจารย์ท่านใดคอยช่วยเหลือนาง หนิงหลง และหลิวหยาง หากไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจนถึงตายไม่แน่ว่าทั้งสามโชคดีหรือร้าย เพราะภารกิจที่สุ่มได้มานั้นเป็นสัตว์อสูรที่มีผู้พบเห็นน้อยมาก ความรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรชนิดนี้มีเพียงหนึ่งบรรทัด ความอันตรายไม่แน่ชัดนัก เป้าหมายคือการจับเป็นเพื่อนำมาศึกษาหากให้ไปกำจัดอสูรร้ายคงง่ายกว่าเพราะทำจากระยะไกลได้“พี่สาววันนี้มีพี่หานมารอท่านด้วยอีกคน รีบออกมาเถิด องค์ชายเก้าดูกระวนกระวายใจ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 12 ม้ามืด

    บทพิเศษ 12 ม้ามืดฟ้าสดใสเปล่งประกายครึ่งปีที่ผ่านมาองค์ชายเก้ามันหาเรื่องราวให้ได้มาอยู่ใกล้เสิ่นลี่อิง หากนางรำคาญก็จะเปลี่ยนเป้าหมายไปตีสนิทเปาหลงแทน อ้างความเป็นพ่อลูกในภพมนุษย์จึงทำให้รู้สึกอยากสนิทด้วย“นี่วังของท่านไม่มีท้อให้กินหรือ เหตุใดต้องมาแย่งของเซียนเล็กๆ อย่างข้ากับพี่สาวด้วย” เปาหลงที่เห็นองค์ชายตู้หนิงหลงกินอย่างอิ่มเอมก็อดจิกกัดออกไปไม่ได้“วันนี้เป็นวันสอบทฤษฎี ข้าก็ต้องมาสอดส่องว่าคู่แข่งของข้าทำสิ่งใด” หนิงหลงยักไหล่คล้ายว่าตนไม่ได้ทำอันใดแปลกประหลาด“อย่างไรอันดับหนึ่งสองและสามก็ย่อมได้ไปสอบปฏิบัติเพื่อโอกาสที่จะจบการศึกษาเร็วกว่าเพื่อนในรุ่นครึ่งปีอยู่แล้ว

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status