Share

บทที่ 4 พบ (อดีต) สามีชั่ว

last update Last Updated: 2025-06-11 13:58:05

ส่วนไป๋เหยานั้น ตอนนี้เธอพอจะคลายความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ไปได้บ้างแล้ว หญิงสาวถอนหายใจออกมาแล้วจึงมองไปที่สมุดจดบันทึกที่มู่จินนำมามอบให้พร้อมรอยยิ้ม แต่ไหนแต่ไรมู่จินก็ใส่ใจเธออย่างนี้มาโดยตลอด

 ไม่นานนักไป๋เหยาก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดในบริเวณตัวบ้าน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าเป็นรถของคุณแม่นั่นเอง ไป๋เหยารีบวางหนังสือลงและเดินออกไปรับคุณแม่ของเธอทันที

เมื่อออกไปก็เห็นว่าไป๋เย่รั่วก็กลับมาแล้วเช่นเดียวกัน รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋เหยาจืดจางไปชั่วขณะ ไม่นานนักเธอก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

คุณนายไป๋ยิ้มให้ลูกสาวเล็กน้อย

"เสี่ยวเหยา ลูกหายดีแล้วหรือยัง อย่าเพิ่งรีบออกมาเดินตากลมสิจ๊ะ"

ไป๋เหยาอมยิ้ม และเดินเข้าไปคล้องแขนคุณแม่ของเธออย่างออดอ้อน

"หนูหายดีแล้วค่ะ พรุ่งนี้จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแล้ว อยู่บ้านน่าเบื่อจะตายไป"

คุณนายไป๋พยักหน้า เธอเองก็ไม่อยากให้ไป๋เหยาขาดเรียนนาน ๆ เช่นเดียวกัน สองแม่ลูกสนทนากันต่อครู่หนึ่ง คุณนายไป๋จึงนึกขึ้นมาได้ว่าไป๋เย่รั่วก็อยู่ด้วย

"จริงสิ แม่ซื้อผลไม้กับของกินมาเยอะแยะเลย ลูกไปช่วยพี่เขาเก็บของเข้าบ้านเถอะ จะได้ไปช่วยแม่เตรียมมื้อเย็น"

"แม่คะ หนูยังปวดไปทั้งตัวอยู่เลย ให้พี่เขายกเข้ามาเองเถอะค่ะ คนงานในบ้านก็มี ถ้าพี่เขาทำไม่ไหวก็เรียกให้คนมาช่วย แต่ของแค่นี้เองพี่คงทำได้ใช่ไหม"

ไป๋เหยาพูดพร้อมกับส่งยิ้มสดใสให้พี่สาว เธอเห็นเพียงไป๋เย่รั่วกำลังยิ้มตอบเธออย่างอ่อนโยน ไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจอะไร

"ได้จ้ะ เธอรีบเข้าไปพักเถอะ"

        "ค่ะพี่"

        ไป๋เย่รั่วรับคำทั้งที่ในใจมีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด แต่เธอจะปฏิเสธอะไรได้ เธอยังต้องอยู่ที่บ้านนี้ต่อไปซ้ำยังไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ จะทำอะไรก็ต้องมองหน้าคนในบ้านก่อนเสมอ

        ไป๋เหยายกยิ้มมุมปาก ต่อไปนี้เธอจะไม่ช่วยอะไรไป๋เย่รั่วอีก ให้หล่อนได้ทำเองเสียบ้าง

วันนี้กว่าคุณพ่อของเธอจะกลับมาก็ค่ำมากแล้ว เธอและคุณแม่จึงทานมื้อเย็นกันก่อน ไป๋เหยาไม่ได้รู้สึกหิวมากนัก เธอกินไปเพียงไม่กี่คำก็ขอตัวไปพักผ่อน ในขณะที่หญิงสาวกำลังจัดหนังสือเพื่อเตรียมไว้สำหรับไปเรียนวันพรุ่งนี้ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ไม่นานก็เห็นไป๋เย่รั่วที่เดินเข้ามา

ไป๋เหยาไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ น้ำเสียงที่ถามพี่สาวก็ยังคงเป็นปกติ

"พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมาหาฉันล่ะ"

ไป๋เย่รั่วยิ้ม และเดินเข้ามากอดน้องสาว 

"เสี่ยวเหยา พี่ขอโทษนะ เรื่องวันนั้นพี่รู้สึกผิดมากจริง ๆ"

ไป๋เหยาส่งเสียงเหอะในลำคอ เธอรู้สึกอยากจะอาเจียนให้กับท่าทางเสแสร้งของไป๋เย่รั่วเสียจริง ๆ 

แต่ตอนนี้ยังไม่อาจทำได้ เธอต้องค่อย ๆ จัดการไป๋เย่รั่วให้รู้สำนึกทีละน้อย

"ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ พี่ไม่ต้องกังวลนะ ว่าแต่พี่เถอะ มีอะไรรึเปล่า"

ไป๋เย่รั่วเมื่อได้ยินไป๋เหยาถามขึ้นก็เม้มริมฝีปากแน่น เธอขยับเข้ามาใกล้น้องสาวเล็กน้อย

"คือว่า พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนเธอไปกับพี่หน่อยได้ไหม มีรุ่นพี่คนหนึ่งที่รู้จักกับพี่ อยากจะเจอเธอ เขาแอบชอบเธอมานานแล้วแต่ไม่กล้าพูด ถ้าเธอไม่อยากพบเขาพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่พี่รับปากเขาเอาไว้แล้วว่าจะให้เขาได้พบเธอ เพราะเขาเคยช่วยพี่เอาไว้ตอนที่พี่ถูกเพื่อนในมหาวิทยาลัยกลั่นแกล้ง พี่ก็เกรงใจเขาน่ะ"

ไป๋เย่รั่วลอบสังเกตท่าทีของไป๋เหยา แต่ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติอะไร

"รุ่นพี่เหรอคะ เขาเป็นใคร แล้วพี่รู้จักเขาตอนไหน เขาเป็นคนดีหรือเปล่า"

"เขาชื่อหลัวจิ้ง เป็นรุ่นพี่ของพี่เอง แต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอีกที่หนึ่ง เป็นมหาวิทยาลัยเล็ก ๆ เขาช่วยพี่หลายครั้ง พวกเรามีโอกาสได้พูดคุยกันจนสนิทสนมกัน แล้วเขาก็บังเอิญเห็นเธอตอนที่มารับพี่ เขาอยากรู้จักกับเธอ นี่เสี่ยวเหยา แม้ว่าฐานะของเขาจะเทียบเราไม่ได้ แต่เขานิสัยดีมากเลยนะ รู้จักเขาเอาไว้ก็ไม่เสียหายตรงไหนนี่ คนเราน่ะต้องสร้างมิตรเอาไว้ดีกว่าสร้างศัตรู"

ไป๋เหยาเมื่อได้ยินชื่อของหลัวจิ้ง เธอก็แอบกำมือแน่น 

ในชาติก่อนก็เป็นไป๋เย่รั่วแนะนำให้เธอได้รู้จักกับหลัวจิ้ง ก่อนหน้านี้เธอไปรับไป๋เย่รั่วที่ร้านขนมและเห็นไป๋เย่รั่วกำลังสนทนากับหลัวจิ้ง ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นเพื่อนของพี่สาวจึงตอบตกลงไปพบเขา จากนั้นเธอก็ตกหลุมรักเขาหัวปักหัวปำ นอกจากหน้าตาเขาจะหล่อเหลาแล้วยังเอาใจเก่ง ดูแลเธอทุกอย่าง เธอเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนต่อโลก ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนและไว้ใจไป๋เย่รั่วมากเชื่อว่าพี่สาวย่อมไม่แนะนำคนไม่ดีให้เธอ และสุดท้ายแล้วเธอก็พบจุดจบเช่นนั้น

ไป๋เหยายิ้มเย็นในใจ ที่แท้พี่สาวใจชั่วก็วางแผนมาโดยตลอด ตั้งแต่แรกเริ่มไป๋เย่รั่วไม่เคยจริงใจกับเธอเลย หล่อนรวมหัวกับหลัวจิ้งมาหลอกเธอให้ตายใจ เพื่อหวังจะแย่งทุกอย่างของเธอไป

ไป๋เย่รั่วจิตใจอำมหิต ค่อย ๆ ลงมืออย่างไม่รีบไม่ร้อนเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต

สุดท้ายก็จัดการเธออย่างแยบยล!

แต่ชาตินี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว

อยากเจอเธอหรือ ได้เลย เธอจะไปเจอเขา แต่ครั้งนี้หลัวจิ้งคนบัดซบผู้นั้นจะต้องจำไปจนวันตายอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นว่าไป๋เหยาไม่ตอบ ไป๋เย่รั่วก็ร้อนใจเป็นอันมาก เธอกลัวว่าแผนการของตนเองจะไม่สำเร็จ

ทว่าไม่นานไป๋เหยาก็ตอบเธอ

"ได้ค่ะ ฉันจะไปกับพี่"

"จ้ะ อย่างนั้นพี่ไปนอนแล้วนะ"

"ค่ะ"

ไป๋เหยาพยักหน้ารับคำ เมื่อไป๋เย่รั่วหันหลังเดินจากไป แววตาของไป๋เหยาก็เย็นชาขึ้นมาทันที

ด้านไป๋เย่รั่วนั้นเมื่อกลับมาถึงห้องของตนแล้วเธอก็รู้สึกพอใจมาก อีกไม่นานไป๋เหยาก็จะเดินเข้าไปติดกับดักของเธอแล้ว

เธอจะคอยดูว่าระหว่างเธอที่เป็นลูกบุญธรรมแต่ปฏิบัติตัวดีมาตลอด กับไป๋เหยาที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริงแต่กลับใจแตก ทำเหมือนอีตัวที่ไปนอนกับผู้ชายได้ง่าย ๆ จนตั้งท้องขึ้นมา ใครจะดีกว่ากัน!

แรกเริ่มที่มาอยู่ที่บ้านตระกูลไป๋ ไป๋เย่รั่วคิดว่าเธอจะได้ทุกอย่าง เธอถูกทอดทิ้งมาตั้งแต่เด็กและมีปมในจิตใจ เมื่อได้มองเห็นเด็กคนอื่น ๆ มีบ้าน มีครอบครัวที่รักใคร่ แต่เธอกลับถูกทอดทิ้ง เธอก็คิดว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

จนกระทั่งวันหนึ่งสวรรค์ก็เมตตาเธอ เมื่อประธานไป๋และคุณนายไป๋มาที่นี่เพื่อรับเด็กไปอุปการะ เพราะพวกเขามีลูกยาก อยากได้เด็กสักคนไว้คอยเป็นเพื่อนลูกสาวตน และเธอก็ได้รับเลือก เมื่อเข้ามาอยู่ในฐานะบุตรสาวบุญธรรมเธอก็ได้ใช้แซ่ไป๋ ใช้ชีวิตเป็นคุณหนูที่สุขสบายเฉกเช่นลูกสาวบ้านอื่น

ไป๋เย่รั่วมีใจริษยามาตั้งแต่เด็ก เธอมองโลกในแง่ร้ายมาโดยตลอด เห็นใครดีกว่าไม่ได้ เมื่อมาเจอไป๋เหยาเธอจึงคิดในใจมาโดยตลอดว่าสักวันเธอจะทำให้ไป๋เหยาหายไป และคนที่ได้ครอบครองสมบัติทุกอย่างของตระกูลไป๋ก็คือเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้พบกับหลัวจิ้ง ตอนนั้นเธอเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอและเขายังไม่มีความสัมพันธ์เกินเลย เพียงแค่คบหากันเท่านั้น 

หลัวจิ้งเป็นเพียงลูกพ่อค้าธรรมดาคนหนึ่ง เขาเองก็มีใจทะเยอทะยานเช่นเดียวกับเธอ เมื่อเขาคบหากับเธอและบังเอิญได้เจอกับไป๋เหยาก็รู้สึกชอบพอในตัวไป๋เหยา จึงเริ่มเสนอแผนการดีดีให้กับเธอ แรกเริ่มเธอไม่เห็นด้วยเพราะรู้สึกหึงหวงเขา แต่ชายหนุ่มบอกว่าหากเธอและเขาอยากสบายก็ต้องใช้ไป๋เหยาเป็นตัวเบิกทางที่ดีที่สุด

ไป๋เย่รั่วคิดทบทวนก็รู้สึกว่าคำพูดของหลัวจิ้งค่อนข้างสมเหตุสมผล เธอจึงยอมเปิดทางให้หลัวจิ้งและไป๋เหยาได้เริ่มทำความรู้จักกัน

เธอเชื่อว่าหลัวจิ้งไม่มีทางทรยศเธอ แม้แต่ตอนที่เขารู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของบ้านตระกูลไป๋เขาก็ยังไม่รังเกียจเธอ เขารักเธอจากใจจริง

หญิงสาวยกยิ้มมุมปาก เรื่องนี้ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป จะรีบร้อนไม่ได้เป็นอันขาด

เช้าวันต่อมาไป๋เหยาไปเรียนตามปกติ เพราะได้สมุดจดบันทึกของมู่จินทำให้เธอเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนในวันนี้ได้อย่างรวดเร็วขึ้น  หลังเลิกเรียนมู่จินบอกว่ามีเรื่องต้องไปจัดการที่บ้านนิดหน่อย คงไม่ได้ไปเดินเล่นกับไป๋เหยา ไป๋เหยาพยักหน้าแล้วบอกว่ามีเรื่องที่ต้องทำเช่นกัน มู่จินจึงวางใจและกลับบ้านไป

ไป๋เหยามาตามนัดที่ให้ไว้กับไป๋เย่รั่ว ตอนนี้พี่สาวกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้หน้ามหาวิทยาลัย ข้างกายมีคนที่ไป๋เหยาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

หลัวจิ้ง!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   ตอนจบ

    ตอนนี้ทุกอย่างที่เมืองตงฉางราบรื่นดี ใช้เวลาร่วมเดือนงานก่อสร้างก็คืบหน้าไปมาก มู่เฉินที่เห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเป็นห่วงแล้ว จึงคิดจะเดินทางกลับเมืองหลิงชุน เขาเองก็ไม่ค่อยอยากอยู่ที่ตงฉางมากนัก ที่นี่เงียบเกินไปเขาที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมานานปีจึงไม่ค่อยคุ้นชินเท่าใดนักเขาพาไป๋เหยาและมู่จินขับรถกลับเมือง หลิงชุนด้วยกันในเช้าวันต่อมา มู่จินมองเพื่อนรักและน้าเล็กของตนพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย เรื่องระหว่างคนทั้งสองเธอรู้หมดแล้วและไม่ได้คัดค้านอะไร ออกจะดีใจมากด้วยซ้ำที่จะได้เพื่อนรักมาเป็นน้าสะใภ้ของตนเองคนทั้งสามกลับมาถึงเมืองหลิงชุนในช่วงเย็นของวันนั้น คุณนายไป๋ไม่ได้ซักถามอะไรลูกสาวบอกเพียงให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและมากินมื้อเย็นด้วยกัน ไป๋เหยาเม้มริมฝีปากยังไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าช่วงที่อยู่เมืองตงฉาง เธอและมู่เฉินมีความสัมพันธ์กันหลายครั้งแล้ว แม้จะมั่นใจว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธอ แต่ไป๋เหยาก็ยังรู้สึกประหม่าเหลือเกินด้านมู่เฉินนั้นเมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลมู่เขาก็จัดการเก็บของตนเองเอาไว้ในห้องและไปอาบน้ำ หลังจากเปลี่ยนชุดและลงมาที่ด้านล่างก็พบว่าเป็นเวลามื้อเย็นแล้ว

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   บทที่ 23 ช่วยทำมากกว่าจะจูบได้ไหม

    ท้ายที่สุดมู่เฉินก็ตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้กับสำนักงานตำรวจเมืองตงฉางและส่งตัวหลัวจิ้งให้ทางการทันที ตำรวจเข้าค้นที่เกิดเหตุและส่งหญิงสาวเหล่านั้นกลับบ้าน อีกทั้งยังเอาผิดพ่อแม่ของเธอที่ขายลูกสาวอย่างผิดกฎหมาย ถูกปรับหลายร้อยหยวน มู่เฉินที่ตามไปดูเหตุการณ์รู้สึกเวทนาพวกเขาไม่น้อย เพราะความยากจนทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจทำแบบนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจจ่ายค่าเสียหายแทนพวกเขาเป็นเงินหลายพันหยวน และหางานให้หญิงสาวเหล่านั้นทำ ตอนนี้ที่เมืองตงฉางมีโรงงานตระกูลมู่ที่สร้างเสร็จและกำลังเปิดรับคนเข้าไปทำงาน เขาจึงให้พวกเธอไปสมัครงานที่โรงงานของเขาจะได้มีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวส่วนหลัวจิ้งนั้นยังคงไม่ซัดทอดไปถึงใครทั้งนั้น เขาปิดปากเงียบและถูกจับกุมตัวเอาไว้ทางด้านเฉียนฟานที่เพิ่งเดินทางมาถึงและทราบเรื่องก็ลอบก่นด่าหลัวจิ้งเป็นร้อยครั้งที่ทำงานได้อย่างบัดซบที่สุด ซ้ำยังถูกตำรวจจับตัวได้อีก ครั้งนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากต้องล่าถอยและรีบกลับเมืองหลิงชุนไปก่อนเดิมทีเขาคิดว่านอกจากจะมารับตัวหญิงสาวพวกนั้นไปแล้วยังคิดจะมาดูมู่เฉินเสียหน่อยว่ามันทำอะไรไปบ้าง ที่สำคัญเด็กสาวคนนั้นก็ตามมันมาด้วย เขาเองพอจะรู้

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 22 สามีเก่าที่ไม่มีวันกลับใจได้

    ทางด้านไป๋เหยานั้นหลังจากที่ได้สติกลับมาแล้ว เธอรู้สึกว่าปวดไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณศีรษะนั้นเจ็บมากที่สุด เธอพยายามหยัดกายลุกขึ้น หญิงสาวมองไปรอบ ๆ บริเวณ พบว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ไม่ไกลกันนักมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยหลายคนที่นั่งรวมตัวกันอยู่อีกมุมหนึ่ง พวกหล่อนมองไป๋เหยาอย่างหวาดหวั่น มีบางคนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดไป๋เหยาขมวดคิ้วมุ่น นี่มันเรื่องอะไรกันเธอพยายามคิดทบทวนถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เดิมทีเธอออกมาเก็บผ้าพันคอ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนใช้ของแข็งฟาดเข้ามาที่ท้ายทอยจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่เสียแล้วหัวใจของไป๋เหยาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหนและใครกันที่เป็นคนจับตัวเธอมาไป๋เหยาพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เธอไม่ใช่คนในพื้นที่ อีกทั้งยังไม่ใช่คนที่นี่แล้วทำไมถึงถูกจับตัวมากันนะ เธอมองพลางคิดจะหาทางหนีทีไล่ จึงขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวเหล่านั้นแล้วสอบถาม"ขอถามหน่อยค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่กันเล่า"หญิงสาวเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีอายุยังไม่ถึงสิบแปดปี พวกเธอมองไป๋เหยาอย่างหวาดกลัว

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   บทที่ 21 เมืองตงฉาง

    สองวันต่อมามู่เฉินและไป๋เหยาก็เดินทางไปเมืองตงฉางพร้อมกัน การเดินทางครั้งนี้มีมู่ จินร่วมเดินทางไปด้วย มู่เฉินกลัวว่าระหว่างที่เขาต้องไปทำงานไป๋เหยาจะเหงา จึงให้มู่จินมาอยู่เป็นเพื่อนกับเธอ อีกทั้งเขาต้องการให้คนบ้านตระกูลไป๋มั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเธอคุณนายไป๋ยิ้มแล้วมองลูกสาวที่ออกไปพร้อมมู่เฉินและมู่จิน เดิมทีเธอยังค่อนข้างหนักใจที่ไป๋เหยาตกลงคบหากับมู่เฉินที่มีอายุห่างกันหลายปี แต่เมื่อเห็นว่าลูกสาวมีความสุขและมู่เฉินก็ดูแลไป๋เหยาเป็นอย่างดี เธอและสามีก็พอจะวางใจลงได้ไม่น้อยระยะทางจากเมืองหลิงชุนและตงฉางนับว่าต้องใช้เวลาเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่มู่เฉินไม่ได้รีบร้อนเดินทางด้วยเครื่องบิน จึงถือโอกาสนี้นั่งรถส่วนตัวมาเพื่อจะได้ชมทิวทัศน์ข้างทางไปด้วย "นี่เหยาเหยา เธอลองกินขนมอบดูสิ ร้านนี้อร่อยมาก"มู่จินเอ่ยพร้อมกับยื่นห่อขนมมาให้เพื่อนรัก ไป๋เหยารับมากินชิ้นหนึ่งพบว่ารสชาติดีจริง ๆมู่เฉินหันไปมองหลานสาวของตนเอง และพูดขึ้นมา"จินจินตัวแสบ เธอกินเยอะจนแก้มบวมแล้ว อย่ามาชวนเสี่ยวเหยาของฉันกินเยอะเหมือนเธอสิ"มู่จินหันมาถลึงตาใส่น้าเล็กของตนพร้อมกับยื่นมือมาตีแขนมู่เฉินอย่า

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 20 จูบ

    อากาศยามเช้าวันนี้ค่อนข้างดี มู่เฉินตื่นนอนแต่เช้า หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินลงมารับมื้อเช้า เมื่อมาถึงห้องอาหารก็พบกับคุณพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ชายหนุ่มทิ้งกายลงนั่งฝั่งตรงหน้าผู้เป็นพ่อพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม"ข่าววันนี้ไม่ดีเหรอครับ ทำไมพ่อหน้าเครียดแบบนั้น"มู่เฉิงพับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับลูกชาย"หลายวันมานี้คล้ายพันธบัตรที่พ่อซื้อไว้เหมือนจะราคาตกลงไปไม่น้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคายังขึ้นอยู่เลย อย่างนั้นคงต้องพักเอาไว้ก่อน ไม่ลงทุนเพิ่มแล้ว"มู่เฉินพยักหน้าช้า ๆ สมัยนี้คนชอบลงทุนซื้อพันธบัตรเก็บไว้ ช่วงไหนราคาขึ้นก็มีความสุขดีใจกันยกใหญ่ ช่วงไหนที่ราคาตกขาดทุนก็ถึงกับยิ้มไม่ออก เขาเองก็มีซื้อเอาไว้บ้างแต่ไม่ได้ลงทุนมากนัก"การลงทุนล้วนมีความเสี่ยงพ่อก็ระวังด้วยครับ ว่าแต่แม่กับพี่ล่ะ ออกไปแล้วเหรอครับ""อืม ออกไปที่โรงแรมแต่เช้าแล้ว แกรีบกินเถอะ พ่อมีเรื่องจะพูดกับแกหน่อย""ครับ"มู่เฉินพยักหน้าพร้อมกับรีบกินอาหารเช้าหลังจากที่เห็นว่าลูกชายกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เฉิงก็เข้าเรื่องทันที"แกจะไปที

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 19 แม่บังเกิดเกล้า

    เมื่อหญิงวัยกลางคนผู้นั้นพูดว่ามู่เฉินคือลูกชายของเธอ ทุกคนในงานต่างแตกตื่นเป็นอย่างมาก แต่ไป๋เหยากลับมองด้วยแววตาที่เรียบเฉยชาติก่อนตอนที่เธอเริ่มจะล้มป่วยและยังไม่ได้นอนติดเตียงก็พอรู้ข่าวของมู่เฉินจากหน้าหนังสือพิมพ์อยู่แล้วแม่ที่แท้จริงของเขามีชื่อว่าจ้าวเหมย เธอทำงานอยู่ในบาร์เหล้าและมีความสัมพันธ์กับประธานมู่จนตั้งครรภ์ จากนั้นพวกเขาก็บีบบังคับเอาลูกของเธอมาเลี้ยง และขู่จะทำร้ายเธอ อีกทั้งยังบอกให้เธอรับเงินไปและอย่าเสนอหน้ากลับมาอีกเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่และเป็นเรื่องฉาวโฉ่ที่ตระกูลมู่ไม่ต้องการให้คนนอกรับรู้ เพราะค่อนข้างส่งผลกระทบต่อหน้าตาของคนในตระกูลเป็นอย่างมากตอนแรกเธอรู้ว่าแม่ของเขาไม่ใช่คุณนายมู่ แต่ไม่เคยถามเขา เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่เมื่อได้เปิดใจคบหากัน มู่เฉินก็เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังทั้งหมด เธอรู้สึกสงสารเขามาก ทั้งที่มีแม่ แต่แม่กลับไม่เคยรักเขาซ้ำร้ายยังใช้เขาเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองอีกด้วยเธอมองจ้าวเหมยอีกครั้งและไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาประธานมู่และคุณนายมู่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี มู่เฉิงพ่อของมู่เฉินถึงกับหันมามองคนใช้ในบ้านอย่างค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status