“แม่ขา หนูไปเรียนก่อนนะคะ” เสียงเล็ก ๆ เจื้อยแจ้วที่หน้าห้องครัว ขณะที่ชนิตากำลังสาละวนจัดการจานชามบนโต๊ะ
“จ้ะ เดียร์มารับแล้วเหรอ ลูก” หญิงสาวถามถึงเพื่อนสนิทของลูกสาวที่มักจะมารับลูกสาวเธอไปเรียนด้วยกันเป็นประจำ
“เมื่อกี้ เดียร์โทรมาบอกว่า วันนี้ พี่ดิวขับรถมาค่ะ น่าจะถึงหน้าคอนโดแล้วค่ะ แม่” เนชิตา หรือ น้องเนย ลูกสาวคนเดียวของเธอรายงานข้อมูลอย่างครบถ้วน
“จ้ะ ตั้งใจสอบนะ ลูก จะได้ต่อม. 4 ที่เดิมได้” มารดากำชับอย่างเป็นห่วง
“ค้าบบบบบ” ลูกสาวลากเสียง ก่อนจะยกมือไหว้ลามารดา “งั้นหนูไปก่อนนะคะ”
เมื่อเสียงตึงตังจากการวิ่งเงียบลง พร้อมเสียงปิดประตูห้อง ชนิตาจึงลงมือล้างจานในอ่างจนเรียบร้อย ก่อนจะไปเก็บเสื้อผ้ามาซักตามกิจวัตร ระหว่างที่รอเครื่องซักผ้าทำงาน เธอจึงได้นั่งพัก
แล้วเรื่องค่าเช่าห้อง เราจะทำยังไงดี...
ในอดีต เธอกับข้ามภพเคยเป็นแฟนกันมาก่อน จนเธอได้รู้จักกับเคน หนุ่มหล่อบาดใจ คารมดีที่เอาอกเอาใจเก่ง จนเธอเลือกตัดความสัมพันธ์กับข้ามภพ แล้วมาคบกับเคนแทน จนยาวม
ณ เวลา 2 ทุ่ม 20 นาทีภากรเพิ่งเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาในห้องอาหารอย่างสบายตัว ก่อนจะเหลียวมองหาหญิงแพรวตามที่มารดาสั่ง แต่ก็ไร้วี่แววหญิงคนดังกล่าว เหลือเพียงมารดาบังเกิดเกล้าของเขาที่นั่งหน้าตึงอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างชายหนุ่มยกยิ้มเย็น ก่อนจะเดินเข้าไปหา แม่ของเขาก็เป็นแบบนี้ตลอด ชอบนัดให้เขาดูตัว แต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะมีใครเป็นตัวเป็นตน เพราะเขายังสนุกกับการที่เล่นกับสาว ๆ ในโรงแรมแบบนี้ถ้ามีเจ้าของขึ้นมา คงจะเซ็งตายชัก...“ไหนหญิงแพรวล่ะครับ แม่” ภากรลากเก้าอี้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามมารดา“แม่นัดแก 6 โมง แล้วนี่มัน 2 ทุ่มกว่าแล้ว ต่อให้ไม่ใช่หญิงแพรว ใครเขาจะมานั่งรอแกล่ะ” มารดาเขาบ่น พร้อมมองตาขวางด้วยความหงุดหงิดและเสียหน้า“ก็แม่เล่นนัดผม โดยที่ไม่รอผมตอบเลยนี่ครับ” เขาตอบ พร้อมยกมือเรียกบริกร แล้วเริ่มสั่งอาหารด้วยความหิว “เอาสเต๊กเนื้อมาให้ฉันจานหนึ่ง”“แกว่าง” หญิงวัยกลางคนรีบบอก “ฉันไปหาแกที่ห้องแล้ว แม่เลขาบอกว่า แกออกไปดูงานตั้งแต่บ่าย”
“ครับ แม่” ภากรกดรับสาย แล้วกดเปิดลำโพง ก่อนจะกลับมาสนใจร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่างอีกครั้ง“ทำไมรับสายแม่ช้าจัง” เสียงมารดาบังเกิดเกล้าดังลอดขึ้นมาทันทีปัก!! ปัก!! ปัก!!“ผมกำลังประชุมครับ แม่” ภากรตอบกลับอย่างไม่มีติดขัด ก่อนจะทิ้งตัวลงทาบทับ กระซิบที่ริมหูอีกฝ่าย “อย่าส่งเสียงนะ คนสวย”“อื้อออออ” กนกพรรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง สะกดกลั้นเสียงครางตามคำสั่ง“อ้าว งั้นแม่จะบอกเราสั้น ๆ แล้วกัน”ตับ!! ตับ!! ตับ!!“ครับ แม่” ภากรขานรับ ก่อนจะก้มลงงับยอดถันมี่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าอีกหนอย่างหมั่นเขี้ยว โดยที่สะโพกสอบก็ยังคงกระแทกกระทั้นเข้าหาอีกคนอย่างไม่ให้เสียจังหวะ“วันนี้ 6 โมงเย็น แม่นัดหญิงแพรวให้มากินข้าวกับลูกที่โรงแรมของเรานะ อย่าผิดนัดล่ะ แค่นี้แหละ” จบคำ มารดาเขาก็ตัดสายไปทันที โดยที่ไม่รอให้บุตรชายรับคำแต่อย่างใด ซึ่งภากรก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาโฟกัสแต่หญิงสาวใต้ร่างเท่านั้น“อ่า อะ นะ นาย อ๊า~~” กนกพรครางหวิว ก่อนจะย
“นกจะทำให้นายตื่นเต้นกว่านี้อีกนะคะ” สิ้นเสียงหวาน มือเรียวก็ประกบใบหน้าคมแล้วรั้งมารับจูบร้อนแรงจากเธออีกหนคราวนี้ เธอแทรกลิ้นเล็กเข้าไปบุกรุกอีกฝ่ายคืน ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นจนแทบเป็นบ้ากับการถูกท้าทายกลับจุ๊บ จ๊วบ จุ๊บสองลิ้นนัวเนียกันในโพรงปาก เสียงดูดดุนริมฝีปากดังแทรกออกมา ปลายลิ้นหนาชอนไชกวาดความหวานไปทั่วโพรงปาก โดยที่มีลิ้นเล็กตามติดไม่ลดละ หวังกระตุ้นไฟสวาทจากชายหนุ่มให้ลุกโชนภากรละริมฝีปากจากอีกฝ่าย ก่อนจะกดลากลงตามซอกคอที่คนตัวเล็กแอ่นอกเปิดทางให้เขาเชยชมอย่างเต็มใจ จนยอดอกที่เริ่มแข็งเป็นไตถูไถไปตามเรือนกายแกร่ง“อ๊ะ นะ นายคะ อ่า” ภากรซุกซอกคอขาวเนียน โดยที่สองมือเลื่อนมากอบกุมอกเต่งตึง ก่อนจะบดขยี้อย่างมันมือเล็บเล็กจิกระบายความเสียวลงบนไหล่กว้าง ยิ่งเมื่อเขาลากปลายลิ้นลงมาครอบครองยอดถันสีชมพูกลางอกแผล็บ แผล็บ แผล็บร่างเล็กยิ่งบิดกายตามแรงปลุกเร้า เสียวซ่านจนต้องขยำเส้นผมของนายจ้างระบายความเสียวในตัว ทั้งกดศีรษะเขาลงมา พร้อมทั้งดันอกอิ่มตัวเองให้เข้าปากเขามากยิ่งขึ้น มือสากเลื่อ
“ใช่ค่ะ นาย” กนกพรตอบอย่างเขินอาย เพราะเจ้านายหนุ่มเอาแต่มองเธอไม่วางตา แถมยังมองด้วยสายตาโลมเลีย ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีก“ชื่อเล่นชื่ออะไรล่ะ เราน่ะ “แหม จะให้เรียกกนกพรทุกครั้งก็คงจะไม่ไหว“ชื่อ นก ค่ะ นาย” เด็กสาวยืนกุมมือไว้แน่น เมื่อรับรู้ถึงสายตาที่ค้างอยู่ที่หน้าอกหน้าใจของเธอ“รู้เรื่องฉันมาบ้างแล้วใช่ไหม” ภากรเลิกอ้อมค้อม เพราะตัวตนใต้กางเกงของเขาเริ่มบิดตัวประท้วงขึ้นมา ว่าเขาช้าเกินไปแล้ว“เอ่อ ค่ะ” กนกพรพยักหน้า เพราะตั้งแต่ที่เธอเข้ามาทำงานใหม่ ๆ บรรดารุ่นพี่ก็ลือกันให้ทั่วว่า ถ้าหากเจ้านายหนุ่มมาตรวจงานแล้วถูกใจใคร ก็จะพายิ้มอย่างเมามัน ก่อนจะให้ทิปอย่างงาม ซึ่งพี่บางคนอยู่มานานกว่าเธอ ยังไม่มีโอกาสเลยแต่นี่ เธอเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ โอกาสทองก็หล่นมาอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว แถมเห็นรถเข็นคู่ใจก็มาจอดสนิทตรงทางออก พร้อมประตูบานใหญ่ที่ปิสนิทดเรียบร้อย ทำเอาใจเธอลิงโลดอย่างที่สุด“แล้วเธอโอเคหรือเปล่า” ภากรยังคงถามถึงความสมัครใจ&ldquo
กว่าที่จารวีจะให้ภากรเซ็นเอกสารครบทุกแฟ้มก็เสร็จเกือบเที่ยง ชายหนุ่มจึงสั่งอาหารเที่ยงมารับประทานที่ห้องทำงานอย่างง่าย ๆแกร๊ก“อา นายจะไปไหนเหรอคะ” จารวีถามเสียงหวาน เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง“ว่าจะไปเดินดูงานเสียหน่อยน่ะ” ภากรบอกยิ้ม ๆ “ไม่ได้ไปดูงานเลยช่วงนี้”ยิ้มแบบที่ทุกคนในโรงแรมรู้จักดียิ้มที่หมายความว่า หากเขาเดินไปเจอใครที่เข้าตา ก็พร้อมที่จะพาไป ‘ยิ้ม’ ด้วยกันอย่างเต็มที่และให้ทิปตอบแทนน้ำใจอย่างงามลับหลังร่างชายหนุ่ม จารวีรีบกดโทรศัพท์แจ้งเพื่อนสาวทันที“ไงแก” ภัทราวดีรับสาย“แก นายกำลังจะไปตรวจงาน” จารวีบอกสั้น ๆ เพียงเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นรหัสลับที่รู้กันทั้งโรงแรม“เค” เพื่อนสาวรับคำสั้น ๆ ก่อนจะพิมพ์แชทเข้ากลุ่ม ‘ยังไม่ยิ้ม’ กลุ่มลับของพนักงานสาวทุกคนในโรงแรมที่ยังไม่มีโอกาสได้รับทิปอย่างงามจากเจ้านายหนุ่ม และถ้าใครเคยได้แล้วก็ต้องออกจากกลุ่มทันที เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ลิ้มลองบ้างเพียงแ
“อืมมมมมม” ร่างบางขยับตัวอย่างว่าง่าย เธอเริ่มส่ายสะโพกควงไปมา ทำเอาภากรต้องกัดฟันกลั้นเสียงคราง เมื่อสะโพกผายร่อนวนไปมายั่วอารมณ์เขา“อา แน่นอะไรอย่างนี้” ภากรเลื่อนมือมาขยำแก้มก้นสาวอย่างหมั่นเขี้ยว แต่การทำแบบนั้น ไม่ได้ช่วยให้เขาหายเสียวขึ้นบ้างเลย “อา ตาผมเอาจริงแล้วสินะ”สิ้นคำพูด เขาเลื่อนมือไปใต้แก้มก้น ก่อนจะออกแรงยกร่างเธอขึ้นลง กระแทกกระทั้น ทะลวงเข้าไปตามที่ใจคิดตับ!! ตับ!! ตับ!!“อ่ะ อา อึกกกกก นายยยยย” มือเล็กจิกลงบ่ากว้างของนายจ้าง ในขณะที่ทั้งร่างสั่นคลอนตามแรงโยก ขดเลือดรอบด้านขูดปากทางสวาทของเธอจนรู้สึกเสียวสะท้าน ส่งผลให้ด้านในพากันตอดสิ่งแปลกปลอมระรัว“อา จา จุ๊บ จ๊วบ” ภากรโน้มตัวเข้าหาเลขาสาว ซุกหน้าลงที่ซอกคอขาวเนียน กดริมฝีปากทิ้งรอยแดงไปทั่วคอระหง“อ๊า~~ นาย จาจะ อ๊ะ อา” หญิงสาวเริ่มเกร็งปลายเท้า เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแตะขอบฟ้า และภากรเองก็รู้สึกได้เช่นกัน แต่ชายหนุ่มกลับช้อนร่างจารวีให้กลับขึ้นไปนอนแผ่บนโต๊ะทำงานอีกครั้ง“อ๊ะ น