ครืนนนน
“ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ โดยภาคกลางจะมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ...”
เสียงพยากรณ์อากาศในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาดังขึ้นภายในร้านแทนที่เพลงคลาสสิคเบา ๆ ที่เจ้าของร้านสาวมักจะเปิด เนื่องจากหลายวันมานี้มีฝนตกหนักมากทำให้ไม่ค่อยมีลูกค้าฝ่าฝนเข้ามาเท่าไร ถ้ามีลูกค้ามาส่วนใหญ่ก็สั่งกลับบ้านเพราะไม่อยากติดฝนอยู่ข้างนอกนาน ๆ ทำให้ร้านที่เคยมีคนพลุกพล่านก็ดูเงียบสงบอย่างน่าประหลาด
“หน้าร้อนแท้ ๆ ฝนยังตกหนักได้ขนาดนี้เลย”
มีนาบ่นขณะปิดร้าน ประเทศไทยแม้จะเป็นช่วงหน้าร้อนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีฝนตก บางครั้งเมื่อร้อนเข้ามาก ๆ ก็จะมีพายุลงมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ยังดีที่ร้านนี้ในส่วนของชั้น 2 หญิงสาวได้ดัดแปลงเป็นส่วนของที่อยู่ไปในตัว ทำให้ไม่ต้องไปเช่าที่อื่นให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ตามปกติแล้วหญิงสาวจะปิดร้านเกือบเที่ยงคืน เพราะยังไงแถวนี้ก็ใกล้มหาวิทยาลัย มีทั้งนักศึกษา ครูหรือแม้คนทำงานที่เพิ่งเลิกงานหาตัวช่วยยามดึก ทำให้บางวันแม้จะดึกดื่นแค่ไหนก็ยังคึกคักไปด้วยสายนกฮูกที่ไม่หลับไม่นอน แต่วันนี้ร้างคนตั้งแต่หัวค่ำเนื่องจากฝนยังไม่หยุดหญิงสาวจนตัดสินใจปิดร้านเร็วกว่าปกติ
ยังไงร้านนี้ก็มีนาก็ทำคนเดียวอยู่แล้ว จะเปิด จะปิดตอนไหนก็แล้วแต่อารมณ์ไม่ต้องดูหน้าเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะงุ่นง่าน เสียงในที่กระทบอยู่ด้านนอกเป็นเหมือนเสียงสีขาวขับกล่อมให้ความทรงจำเก่าวิ่งเข้ามาหาจนมือสั่น มีนาเลยลงไปข้างล่างเพื่อชงกาแฟให้ตัวเองสักแก้วโดยเปิดไปแค่ตรงเคาน์เตอร์เท่านั้น
เปรี้ยงงงง!
เสียงฟ้าผ่าดังกระหึ่มราวกับฟ้ากำลังถล่มทำให้มีนาหลับตาลงด้วยหัวใจสั่นคลอ แสงสีขาวสาดซัดราวกับแสงแฟลชทำให้ร้านสว่างไสวไปหมด มันชวนให้คิดถึงเรื่องในวันวานอย่างห้ามไม่ได้
...
แชะ!
แสงแฟลชมากมายถ่ายเข้ามาที่นักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน แต่ก็สามารถชนะรายการแข่งขันการออกแบบแอปพลิเคชันที่มีตัวแทนจากหลากหลายบริษัทเข้ามาแข่งขันได้ การแข่งขันครั้งนี้ทางงานได้ให้ข้อมูลมาเพียงราคาวัตถุดิบของสปอนเซอร์พร้อมกับโจทย์ให้ออกแบบแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลที่มีมาให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งไม่มีผลงานไหนจะโดดเด่นและใช้งานได้จริงเท่ากับผลงานของมีนา
มีนาได้นำข้อมูลทั้งหมดเอามาออกแบบเป็นแอปเปรียบเทียบวัตถุดิบในการผลิตสินค้าในโรงงานตามราคาตลาดในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยเหลือในการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสมในราคาที่ไม่เกินงบ แล้วยังเป็นการช่วยโปรโมตบริษัทขายวัตถุดิบด้วยการให้จ่ายเงินเพื่อยิงโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อชิงอันดับสูง แถมยังมีตัวกรองช่วยเหลือในการค้นหาวัตถุดิบที่ตรงต่อความต้องการมากที่สุด
นับว่าเป็นผลงานที่ทำให้หลายบริษัทจับตามอง เนื่องจากใช้งานได้สะดวก ส่งเสริมการขาย และยังพัฒนาต่อยอดได้มาก เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์พร้อมมันสมอง เมื่อได้รับคำชมขนาดนี้สำนักข่าวหลายแห่งก็เข้ามารุมถามอย่างกระตือรือร้น
“คุณมีนาจากบริษัท ATR ใช่ไหมคะ! ไม่ทราบแอปนี้จะได้จดลิขสิทธิ์ในนามของตัวเองหรือบริษัทค่ะ”
“แอปนี้จะมีการขายสิทธิ์ในอนาคตไหมคะ หรือจะเปิดให้ติดตั้งฟรี”
“ไม่ทราบว่าจะพัฒนาต่อแค่ไหนถึงจะพร้อมเปิดให้ใช้จริงได้ครับ”
การชนะการแข่งขันครั้งแรกหลังจากที่เรียนจบมา ทำให้มีนาได้รับชื่อเสียงพอสมควร แอปตัวนั้นค่อนข้างเป็นที่สนใจในบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายที่มีฟังก์ชั่นมากมายที่ลดการเสียเวลาและน่าเชื่อถือ บริษัทวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ก็ติดต่อเข้ามาจำนวนมากเพราะต้องการเป็นลงในแอปนี้
ทำให้มีนากับบริษัทที่เธอทำงานอยู่ก็ต้องคุยกันเรื่องสนธิสัญญาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในแอปนี้กันข้ามเดือนกว่าจะลงตัวได้ ซึ่งมีนาจะได้ส่วนแบ่งของผลกำไร 2% ต่อเดือนโดยมีข้อแม้ว่าจะเข้ามาช่วยเหลือหากพบปัญหาอะไรขึ้นมาได้ตลอดเวลา จากนั้นค่อยจะส่งต่อให้กับส่วนเดฟ[1]ของบริษัทดูแลต่อ แล้วมีนาก็ค่อยย้ายไปบริษัทอื่นที่เห็นช่องทางในการเติบโตอย่างไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน
...
กลิ่นของกาแฟที่ได้ที่แล้วทำให้มีนาดึงตัวเองออกมาจากความทรงจำเก่า ๆ ได้ มันเป็นช่วงแรกที่เธอเริ่มทำงาน ไฟในตัวเธอยังลุกโชนที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เมื่อสร้างสิ่งน่าอัศจรรย์ได้อย่างหนึ่งแล้ว ก็จะย้ายไปที่อื่นที่ให้เงินดีกว่าเพื่อท้าทายตัวเอง ทำให้เธอมีคนรู้จักค่อนข้างกว้างขวาง มีความสัมพันธ์ที่ดีแม้จะย้ายบริษัทไปก็ตาม เนื่องจากยังมีสัญญาการดูแลเก่า ๆ แบบนี้อยู่
“อืม...อุ่น ๆ แบบนี้เหมาะกับวันฝนตกน่าดูเลยนะเนี่ย”
หญิงสาวพูดอย่างพอจับลาเต้นุ่มละมุนในมือ ก่อนจะปิดไฟในร้านข้างร้านแล้วเดินกลับชั้น 2 แล้วนั่งมุมข้างหน้าต่างวงกลมที่มองไปข้างนอกได้อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้เธอเคยมั่นใจในตัวเองมากถึงขั้นมีอีโก้สูงในความสามารถและแอปของตัวเองว่าดีที่สุด ไม่มีอะไรผิดพลาด แล้วก็มีประโยชน์กับทุกคนที่ใช้งานมัน เธอตั้งใจศึกษาทุกเทคโนโลยีถึงขั้นเริ่มวิจัยด้วยตัวเอง ว่าจะมีอะไรที่ทำให้แอปทำงานได้ดีขึ้น
ซึ่ง...มันก็ทำให้เธอยิ่งมีชื่อเสียงขึ้นไปอีก
เสียงฝนตกกระทบเข้ากับกระจกทำให้หญิงสาวที่กำลังหลับตาดื่มด่ำไปกับรสชาติของลาเต้ในมือนึกถึงเสียงตบมือที่ดังอย่างยาวนานเพื่อแสดงความยินดีด้วย
...
แปะๆๆๆ
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของสื่อทุกคนนะคะ วันนี้เป็นการเปิดตัวแอปพลิเคชันตัวใหม่ที่จะช่วยเหลือนักช้อปทุกคนได้อย่างแน่นอน...”
หลังจากนั้นมีนาที่ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีก็ทำการอธิบายถึงแอปพลิเคชันตัวใหม่ ที่ได้รับการทุนการพัฒนามาจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อด้านความหรูหราและล้ำสมัยมากที่สุดในไทย
แอปทำงานเกี่ยวกับการแจ้งราคาสินค้าในรถเข็นที่หยิบมาจากภายในห้างสรรพสินค้า โดยใช้เซ็นเซอร์จากที่จับในการช่วยรวบรวมข้อมูล ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถรู้จำนวนเงินที่จะต้องจ่ายได้ตลอดเวลา รวมไปถึงการแสดงถึงส่วนลดที่ใช้ได้ ของแถมจากสินค้าที่ร่วมรายการหรือโฆษณาโปรโมชั่นเสริมที่ลูกค้าอาจจะต้องการ
จากการได้ทดลองใช้มา 3 เดือน พบว่าแอปนี้มีส่วนในการช่วยเพิ่มยอดการเข้ามาใช้งานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี แถมยังกระตุ้นยอดขายของร้านค้าอื่น ๆ ภายในห้าง แถมยังเป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ต จนห้างอื่น ๆ ติดต่อเข้ามาผ่านบริษัทที่มีนาทำงานอยู่เพื่อต้องการแอปพลิเคชันที่คล้าย ๆ กันที่ห้างของตนด้วย มาช้ากว่าไม่เป็นไรแต่ไม่มีไม่ได้!
นี่คือยุคดิจิทัลที่ทุกคนต้องการความสะดวกสบายมากที่สุดในการใช้บริการ อะไรที่ใช้ทางลัดได้ทุกคนก็จะใช้ อะไรช่วยลดเวลาที่ยุ่งยากได้ก็จะทำ แถมถ้าต่างคนต่างได้ผลประโยชน์ด้วยล่ะ? มันไม่นับว่าวิน-วิน ทั้งสองฝ่ายหรือไง
ทำให้ไม่นานแอปนี้ก็ได้ใช้งานภายในห้างขนาดใหญ่ทุกแห่งภายในประเทศ
...
“อ่า...ไม่แปลกเลยที่จะยิ่งขึ้นไปสูงเร็วเท่าไรก็ยิ่งตกลงมาแรงเท่านั้น”
หญิงสาวพูดกับตัวเองอย่างขมขื่นแล้วมองไปทางกระจกที่ฟ้าฝนยังกระหน่ำลงมาไม่หยุด
ยิ่งคิดย้อนไปเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไร้เดียงสามากเท่านั้น ด้วยการที่เธอทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทีมทนายเป็นของตัวเอง เวลาร่างสัญญาอะไรเธอก็ต้องจ้างทนายส่วนตัวจากข้างนอกเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้สัญญาที่ทำด้วยกันโปร่งใส เป็นธรรม ตรงไปตรงมาทั้งผลประโยชน์ที่เธอได้รับ และภาระงานที่เธอต้องรับผิดชอบ
ด้วยปันผลกำไรจากผลงานเก่าที่มีนาเคยพัฒนาเอาไว้ ต่อให้ไม่ทำงานเลยก็อยู่ได้สบาย ตอนนี้ทุกแอปที่เธอเคยเขียนก็ยังทำงานอยู่ แถมยังได้รับผลตอบลัพธ์ที่ดี ดังนั้นเธอจึงย้ายไปบริษัทอื่น ๆ ที่ยื่นข้อเสนอดี ๆ มาจนเป็นนิสัยเพราะต้องการความตื่นเต้น ท้าทายตัวเอง และเมื่อชนะ ก็ยิ่งกระหายความท้าทายมากยิ่งขึ้นไปอีก
จนกระทั่ง...เมื่อสองปีก่อนได้มีบริษัทสตาร์ตอัพเข้ามายื่นข้อเสนอให้เธอ
หากเป็นช่วงหลังจบใหม่ ๆ มีนาคงไม่สนใจบริษัทสตาร์ตอัพแบบนี้อย่างแน่นอน แถมเงินเดือนสตาร์ตก็น้อยกว่าที่หญิงสาวสมควรได้รับ ด้วยประสบการณ์และผลงานที่มีในอดีตมีนาต้องได้เงินเดือนขั้นต่ำเทียบเท่าระดับซีเนียร์[2]ของบริษัท แต่ว่าเธอกลับได้เทียบเท่าจูเนียร์[3]เท่านั้น
เพียงแต่บริษัทนี้มีเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปันผลกำไรของแอปที่หญิงสาวเขียนขึ้นมา มีนาจะได้รับส่วนของกำไรสูงกว่าบริษัทขนาดใหญ่ประมาณสิบเท่าได้ ซึ่งฝ่าย HR ของพวกเขาก็มีฝีปากที่ดีทำให้หญิงสาวรู้สึกว่ารับได้กับข้อเสนอแบบนี้ จึงตกลงร่วมงานกับพวกเขา
ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดที่เธอตัดสินใจ
พูดตามตรงถ้ามีนาไม่ได้ถือตัวมากเกินไป มั่นใจมากเกินไปและรู้สึกท้าทายกับสิ่งแปลกใหม่มากเกินไป หญิงสาวอาจจะได้ไปทำงานบริษัทที่อื่น หรือ ได้ไปพัฒนาแอปตัวอื่น หรือ...
ทำงานกับบริษัทที่มีจิตสำนึกมากกว่านี้
เพราะพวกเขาได้ใช้โค้ดทุกบรรทัดที่เธอบรรจงเขียน ข้อมูลการวิจัยทุกอย่างที่เธอตั้งใจทำ ทุกอย่างที่เธอสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานที่คิดว่าจะสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยและสนับสนุนผู้คนให้ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นนั้นมันกลับต่างออกไป
มันไม่ได้ให้การสนับสนุน มันกลับควบคุมและทำร้ายอย่างเลือดเย็นต่างหาก...
[1] เดฟ หรือ Dev เป็นคำย่อจากคำว่า Developer หรือนักพัฒนา ที่ใช้ในวงการเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์
[2] เงินเดือนของ Software Developer ระดับ Senior ในประเทศไทยโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 90,000 - 153,000 บาทต่อเดือน
[3] เงินเดือนระดับจูเนียร์ สำหรับ Software Developer ในประเทศไทยโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 - 45,000 บาทต่อเดือน
“ครับ ผมกำลังจะกลับแล้วจริง ๆ ครับแม่”แทนที่เติบโตขึ้นจนไม่เหลือคราบของเด็กเนิร์ดคนเดิมพูดอย่างอ่อนโยนกับปลายสายขณะที่เก็บกระเป๋าของตัวเอง “ก็ตั้ง 5 ปีแล้วนะที่แกไม่ได้กลับมาน่ะแทน” “แม่ครับ ผมกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านทุกปีเถอะ ปีที่แล้วผมยังดื่มกับพ่อจนแม่ถ่ายภาพที่เลื้อยไปกับพื้นลงเฟซ ผมไม่ลืมนะครับ” “ก็ใครใช้ให้พ่อกับแกเมาขนาดนั้นล่ะ แล้วมันก็ไม่เหมือนกันนะ แกมาแป๊บเดียวก็ไม่เหมือนกลับมาหรอก”“ก็ได้ครับ ตอนนี้ผมก็กำลังกลับไปไงครับ คราวนี้ผมอยู่ยาวแน่เพราะผมกำลังจะย้ายไปคุมงานที่ไทย”ด้วยความที่แทนทำงานด้านวิศวกรฮาร์ดแวร์มากว่า 5 ปีก็ขึ้นซีเนียร์มากประสบการณ์ได้ ทำให้ทางสาขาใหญ่ตัดสินใจส่งเขากลับไปคุมบริษัทที่บ้านเกิดอย่างประเทศไทยหลังจากที่ชายหนุ่มส่งคำขอไปพักใหญ่ มันเป็นการเลื่อนตำแหน่งที่แทนพอใจมากที่สุดเพราะเขาเองก็คิดถึงครอบครัวมากเช่นกัน“จะกลับมาตรงเวลาไหม” พ่อถามแทรกขึ้นมาในสาย“ไม่แน่ใจครับ ถ้าเที่ยวบินไม่มีปัญหาก็ตรงเวลา”“งั้นพวกเราจะไปรอแกนะ”“ขอบคุณครับ และ...คราวนี้ผมคงไม่คิดจะไปทำงานต่างประเทศสักพักแล้วล่ะ”“ให้มันได้อย่างนั้นสิ แ
แทนทำการศึกษาและหาแนวทางในการใช้โค้ดนี้อย่างพิถีพิถันเพื่อไม่ให้ความคาดหวังของพี่มีนาที่มอบมันให้เขาต้องสูญเปล่า แถมเขายังยุ่งกับการฝึกงานที่ต้องใช้ความพยายามหนักมาก ไม่ว่าจะเรื่องภาษา ระบบการทำงาน สิทธิของพนักงานและรวมไปถึงการทำงานจริง ๆ ที่กินเวลาของเขาไปมากทำให้กว่าจะมีเวลาจริง ๆ ก็เป็นหลังจากที่ผ่านโปรไปแล้ว จากนั้นก็ต้องมาคิดว่าแอปนี้ควรจะปล่อยแค่ในไทยเท่านั้นหรือเปล่า? ตลอดเวลาที่เขาทำงานอยู่ที่นี่ก็พอจะมีเวลาเดินหาย่านของกิน ทำให้ทราบว่าแถวนี้มีร้านกาแฟเป็นหลักเป็นแหล่งเยอะกว่า ด้านรสชาติถึงจะแปลกลิ้นไปบ้างแต่คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไม่กว่าใครแต่...จุดกำเนิดมันอยู่ที่ไทยและข้อความก็เป็นภาษาไทย ไม่รู้ว่าบรรยากาศ การแสดงออกและการเลือกของคนต่างชาติจะเหมือนมากน้อยแค่ไหน ด้วยวัฒนธรรม ศาสนาและกฎหมายที่แตกต่างกัน การแสดงออกของผู้คนต่อบางสิ่งย่อมต่างกัน ทำให้เขาไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหนยังไม่นับรวมที่เขาต้องหาคลังคำศัพท์เพิ่มซึ่งไม่รู้ว่าจะกินใจเหมือนของภาษาไทย และพวกเขาจะเปิดใจหรือแค่มองผ่านว่ามันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการขายเท่านั้น เฮ้อ...ไม่ว่าจะคิดแบบไหนก็มีแต่อุปสรรคทั้งนั้น แ
“เฮ้ย! จะจบแล้วก็เงียบ ๆ หน่อยดิว่ะ ใครยังไม่จ่ายเงินเซค อย่าหวังว่าจะได้ไปบายเนียร์[1] นะมึง”เหรัญญิกของเซคพูดเสียงเข้ม ทำให้แทนเงยหน้าขึ้นมาจากแท็บเลตแล้วเริ่มรู้สึกตัวจริง ๆ ว่าเขากำลังจะเรียนจบแล้ว ปีหนึ่งผ่านไปเร็วมาก เขายังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งเจอร้านกาแฟเปิดใหม่ไม่นานมานี้นี่เอง เขายังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งจดทฤษฎีเกี่ยวกับลายลาเต้ และเขาเพิ่งได้มีโอกาสร่วมแก้โค้ดสำคัญและออกความเห็นเกี่ยวกับแอปที่เปลี่ยนวิธีการมองโลกของเขาไปตลอดกาล และแป๊บเดียวเขาก็กำลังจะเรียนจบแล้ว “แทน! ครูปวินเรียก”ขณะที่กำลังเหม่อลอย หัวหน้าเซคก็เข้ามาเรียก ทำให้ผมเดินไปที่ห้องพักอาจารย์ทันที ครูปวินคือที่ปรึกษาเล่มจบของผม ธีสิสไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะครูชมมาตั้งแต่ต้นว่าเขาคิดหัวข้อได้ วางแผนการทำงานได้เยี่ยม และตอนที่พรีเซ้นต์จบอาจารย์ทุกคนก็ให้ผ่าน ดังนั้นที่ครูปวินเรียกเขาไปวันนี้คงไม่ใช่ปัญหาเรื่องธีสิสแน่นอน “สวัสดีครับครู มีอะไรหรือเปล่า”แทนถามแล้วไปนั่งที่เก้าอี้ในห้องอาจารย์ที่เตรียมไว้สำหรับแขกที่เข้ามา “ครูได้รับข้อเสนอที่ดีม
แทนคิดว่ากระแสตอบรับของ LatteCode เป็นไปได้ด้วยดีกว่าที่คาดเอาไว้เยอะ จนเริ่มมีร้านกาแฟขอติดต่อมาเอง ซึ่งชายหนุ่มก็จะเน้นย้ำว่านี้ยังเป็นแอปเบต้าเทสที่ยังไม่สมบูรณ์ อาจจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในอนาคตได้เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยอมรับและโอเคกับมันเพราะตอนนี้หลายคนกำลังมองหาอะไรแบบนี้ อะไรสักอย่างที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ในช่วงเวลาที่ทุกคนต่างก็ย่ำแย่กันทั้งนั้น ทว่าข้อความที่ได้รับการประมวลผลมาจากบรรยากาศ สีหน้าและการเลือกลวดลายบนฟองน้ำไม่ได้จะล่วงรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้ทั้งหมดมันแค่ทำการเคาเดาตามข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ มันไม่สามารถรู้ลึกไปถึงอดีตของใครได้ มันไม่สามารถปรับเปลี่ยนข้อความไปตามการแปรปรวนของอารมณ์ได้ มันไม่สามารถซ่อมแซมบาดแผลใจใน หรือว่าตอบโต้เพื่อคาดความเหงา ความเศร้าให้กับคนได้อย่างจริงจังสิ่งที่มันทำก็คือการส่งข้อความที่ประมวลผลแล้วว่ามีประโยชน์ประโยคหนึ่งมาให้เท่านั้น การที่ผู้ใช้จะได้รับการช่วยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนที่ได้รับว่าเปิดรับมากเพียงใด ทว่า...มันยังมีอีกหลายคนที่ข้อความเหล่านี้ช่วยไม่ได้ เพราะสิ่งพวกเขาเหล่านั้นต้องการจริง ๆ ไม่ใช่แค่ข้อความจ
“แล้วเราจะเอาไปปล่อยยังไงดี”นั่นคือคำถามสำคัญของมีนาและแทนที่มีร่วมกันหลังจากที่แก้โค้ดของแอปจนเสร็จตามที่พวกเขาตั้งใจเอาไว้ทุกประการ“ยังไงแอปนี้ก็เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการร้านกาแฟทั้งหลาย เพราะงั้นต้องเอาแอปส่วนที่เป็นเจ้าของร้านไปแจกจ่ายก่อนเพื่อให้ลงเมนูของร้านตัวเอง ก่อนที่จะให้ลูกค้าสั่งได้”มีนาพูดอย่างเป็นการเป็นงาน“งั้น...ถ้าเราทำคล้ายแอปสั่งอาหารล่ะ แอปโชว์ร้านกาแฟที่เข้าร่วมกับแอป Latte Code แล้วเลือกไปที่ร้านนั้น ๆ เพื่อสั่งล่วงหน้าก่อนไปรับที่ร้านได้”แทนเสนอแนวคิดที่เอามาจากแอปสั่งอาหารในปัจจุบัน“แต่เราไม่มีตัวช่วยส่งออนไลน์”“ก็เราทดลองในวงแคบก่อนไม่ใช่เหรอพี่ งั้นเราก็แค่ไปเสนอให้ร้านกาแฟที่สนใจว่าสิ่งนี้จะเป็นเมนูออนไลน์ที่ให้ผู้คนดูได้ว่ามีอะไรน่าสนใจ และเมื่อสั่งลาเต้ไปก็จะได้ข้อความ”“ปัญหาคือลาเต้อาร์ตไม่ใช่อะไรที่ร้านทั่วไปจะมีให้หรอกนะ”มีนาชี้ให้เห็นถึงเรื่องที่สำคัญที่สุด“งั้นเราก็เข้าหาแต่ร้านที่มีสิพี่ เดี๋ยวผมช่วยในเรื่องนี้เอง”“แต่ว่าเราไม่ได้ให้การโฆษณาหรือค่าตอบแทนอะไร แล้วร้านพวกนั้นจะยอมใช้เหรอ”“พี่มีนา ผมจะหาร้านที่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ เรื่องนี้พี
“จะว่าไป ฉันก็ไม่มีช่องทางติดต่อนายเลยนะแทน” นั้นคือประโยคต้อนรับชายหนุ่มที่หลังเลิกคลาสก็เดินสะโหลสะเหลคล้ายซอมบี้ที่เพิ่งปีนขึ้นมาจากหลุมศพไม่น้อยเหตุผลหนึ่งของอาการนี้ก็คนถามนี่แหละ ชายหนุ่มไม่คิดมาก่อนว่าการสอบนอกตารางแบบนี้จะทำเขาเครียดได้ขนาดนี้ และอีกเหตุผลหนึ่งคือแทนต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขแอปนี้จริง ๆ เขาอยากมีส่วนช่วยเหลือผู้คนแม้เพียงเล็กน้อย อุดมการณ์และความคาดหวังของมีนานั้นน่าชื่นชมมากเดี๋ยวนี้จะหาคนที่คิดแบบนี้ได้จากไหนอีก“ผมก็ไม่มีช่องทางติดต่อพี่เหมือนกัน ว่าแต่จะเอาไปทำอะไรครับ”“ก็ถ้าเราจะแก้ไขโค้ดด้วยกัน เราก็ควรจะติดต่อกันได้มากกว่าแค่รอแทนมาที่ร้านไม่ใช่เหรอ?”หญิงสาวถามพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มที่หมดแรงเมื่อครู่มีแรงลุกขึ้นยืนได้ด้วยความตื่นเต้น“นี่หมายความว่าผมผ่านแล้วเหรอครับ!”“ใช่แล้วสำหรับเด็กที่ยังเรียนไม่จบ นายถือว่าเก่งเลยล่ะ ดังนั้นถือว่าเป็นการฝึกล่วงหน้าล่ะกัน เค้กฟรี กาแฟฟรีพอเป็นค่าตอบแทนได้ไหม”มีนาพูดหยอกเล่นแต่ก็วางเค้กส้มของโปรดให้บนตะของแทนจริงๆ“ต่อให้ทำฟรีผมก็ทำ พี่ก็รู้นี่น่า”“แล้วจะเอาไหมเค้ก?”“เอาสิครับ ของฟรีแบบนี้ใครจะไม่เ