บทที่ 4 ช่วยคุณหมอ
- สามวันผ่านไป -
เธอคิดว่าเป็นเวลาที่พอเหมาะ ที่จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ให้อยู่แบบนี้ถึงเจ็ดวัน ไม่ค่อยสะดวกต่อเด็กๆ เท่าไร เด็กๆ ใส่เสื้อผ้าชุดเดิมมาสามวันแล้ว เธอไม่มีใครคอยดูแลเด็กๆให้ ปกติเวลาทำงาน เธอมักจะฝากเลี้ยงเด็กๆ หรือไม่ก็พาไปที่ทำงานด้วย โชคดีที่วันเกิดอุบัติเหตุ เด็กๆ อยู่ที่กองถ่าย เพื่อนร่วมงานจึงพามาที่โรงพยาบาลพร้อมกัน ไม่อย่างนั้นคงจะวุ่นวายกันไปใหญ่
“วันนี้เราจะออกจากโรงพยาบาลกันนะ เด็กๆ” เยว่ซินเหยาเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“หม่าม้าหายแล้วเหรอคะ?” หลันหลันลูกสาวถามด้วยน้ำเสียงใส ปนความดีใจ แววตากลมโตเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“หม่าม้ายังอยู่ไม่ถึงเจ็ดวันตามที่คุณหมอแจ้งเลยนะครับ” หมิงหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ท่าทางสงบนิ่ง แฝงความเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าวัย เยว่ซินเหยาหัวเราะเบาๆ พลางลูบหัวเด็กๆ
“หม่าม้าหายดีแล้วครับ หมิงหมิงไม่ต้องกังวลนะครับ”
ช่วงบ่ายของวันนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น หมอประจำตัวเดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“สวัสดีครับ คุณซินเหยา วันนี้ผมขอตรวจร่างกายอีกสักรอบนะครับ” เยว่ซินเหยาพยักหน้าเบาๆ เด็กๆ นั่งสงบอยู่ข้างเตียง หมอเริ่มตรวจชีพจร วัดความดัน ตรวจการหายใจ และสังเกตรอยแผลต่างๆ บนร่างกาย
“แผลทั้งหมดหายสนิทดีมากครับ การฟื้นตัวของคุณเร็วและเกือบสมบูรณ์แบบ เหมือนร่างกายของคุณไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน” หมอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจเป็นพิเศษ เมื่อเห็น แผลที่ศีรษะแตกในวันเกิดอุบัติเหตุหายสนิท แถมไม่ทิ้งรอยแผลใดๆ เยว่ซินเหยาพยักหน้าเบาๆ เธอไม่ได้แปลกใจ รู้ดีว่าร่างกายนี้ฟื้นสมบูรณ์ตั้งแต่วันแรกที่ดื่มน้ำวิเศษ ที่ยังอยู่ต่อเพียงเพื่อไม่ให้ดูน่าสงสัยเกินไป
“ค่ะ คุณหมอร่างกายของฉันฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว”
หมอยังคงทำหน้าประหลาดใจ
“ไม่เคยเจอเคสแบบนี้จริงๆ ปกติแผลแตกแบบนี้จะต้องทิ้งรอยเอาไว้บ้าง แต่คุณแทบไม่เหลืออะไรเลยครับ”
“อ๋อ พอดีฉันมียาสมานแผลที่ได้มาจากคุณยายค่ะ” เยว่ซินเหยาแก้ตัวข้างๆ คูๆ พลางยิ้มบางๆ ให้หมอ
“ยาสมานแผลหรือครับ…” หมอเอ่ยอย่างสงสัย เขาทำท่าจะพูดอะไรต่อ แต่ก็เลือกที่จะเงียบไป พลางคิดในใจว่า น่าจะเป็นพวก ยาสมุนไพรโบราณ ที่มีสรรพคุณพิเศษบางอย่าง เขายอมรับความมหัศจรรย์นี้ ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องรอยแผลที่แทบจะมองไม่เห็น
“คุณหมอคะ ฉันขอกลับบ้านวันนี้เลยได้ไหมคะ”
“คุณเพิ่งเกิดอุบัติเหตุรุนแรง แนะนำให้อยู่สักเจ็ดวันนะครับ ถึงแผลที่หน้าผากคุณหาย แต่แขนคุณกระดูกร้าว รวมทั้งขาของคุณทั้งสองข้างก็กระดูกร้าวไม่สามารถเดินไปไหนได้นะครับ”
เยว่ซินเหยาพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะอยู่โรงพยาบาลต่ออยู่ดี
“ค่ะ คุณหมอ ฉันเข้าใจค่ะ แต่จริงๆแล้วฉันมีวิธีจัดการให้ตัวเองได้ค่ะ” หมอเอียงคอ พยายามถามต่อ แต่เห็นสายตาของเยว่ซินเหยาแน่วแน่ ก็ทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องระวังตัวอย่างมากนะครับ กลับบ้านแล้วก็อย่าทำกิจกรรมหนักเด็ดขาด” เยว่ซินเหยายิ้มรับ
“ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ”
เด็กๆ ที่นั่งอยู่ข้างเตียง พยักหน้าอย่างตื่นเต้น รู้สึกดีใจที่จะได้ กลับบ้านกับหม่าม้า
[ติ๊ง!]
จู่ๆ เสียงดังแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในหัวเยว่ซินเหยา พร้อมกับหน้าต่างระบบเด้งขึ้นมาทันที
[ภารกิจด่วน: ช่วยเตือนคุณหมอให้รีบกลับบ้านด่วน]
รางวัลเมื่อสำเร็จ: เงินรางวัล 20,000 หยวน / คะแนนสะสม 100 แต้ม
บทลงโทษหากล้มเหลว: -
สถานะ: -
ทันทีที่เห็นภารกิจเด้งขึ้นมาเธอจึงเปิดใช้ดวงตาพยากรณ์ทำนายดวงชะตาของคุณหมอตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ เพราะคุณหมอใส่หน้ากากปิดปังใบหน้าจึงทำให้ไม่สามารถเห็นชะตาของคุณหมอด้วยวิธีปกติ เหมือนที่เห็นผู้ช่วยคนนั้นได้
การใช้ดวงตาพยากรณ์จะทำให้มองเห็นแบบเจาะลึก ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดวงตาพยากรณ์จะถูกเปิดใช้ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวเป็นฝ่ายเปิดใช้งานเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เธอไปยุ่งกับชะตาของคนอื่นมากเกินไปโดยไม่จำเป็น และเพื่อรักษาความสมดุลระหว่างผู้ใช้พลังพยากรณ์กับชะตาของผู้อื่น
สายตาของเธอเริ่มเปล่งแสงอ่อนๆ สีฟ้าใส พลางมองไปที่คุณหมอที่กำลังยืนอยู่ใกล้เตียง แสงนั้นไม่มีใครมองเห็น ยกเว้นเด็กๆ หลันหลันและหมิงหมิงจับจ้องด้วยสายตาเบิกกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่พวกเขากลับไม่เอ่ยปากพูดอะไร แค่หันไปมองกัน พร้อมพยักหน้าเบาๆ ราวรู้กันดีว่าหม่าม้ากำลังทำอะไรอยู่ ส่วนซินเหยาไม่ได้รับรู้ถึงสายตาของลูกๆเลย
‘ดวงคุณหมอ...ชีวิตและโชคชะตาของเขาเกี่ยวพันกับเหตุการณ์รุนแรงในบ้าน อุบัติเหตุและภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ ซินเหยาเห็นภาพในอนาคตทั้งหมดที่จะเกิดกับคุณหมอท่านนี้’
“คุณหมอคะเดี๋ยวก่อนค่ะ!” ซินเหยา เอ่ยเรียกคุณหมอเสียงดังเมื่อเห็นเค้ากำลังจะเดินออกไป คุณหมอหยุดชะงัก เท้าข้างหนึ่งยังค้างกลางอากาศ หันกลับมาด้วยแววตาแปลกใจ
“ครับ?”
“พอดีฉันดูดวงชะตาเป็นค่ะ อาจจะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับคุณ แต่เมื่อครู่ฉันเห็นชัดเจนดวงชะตาของคุณโยงไปถึงเหตุการณ์ร้ายแรงในบ้าน และเกี่ยวข้องกับภรรยาของคุณที่กำลังตั้งครรภ์อยู่” คำพูดนั้นทำให้คุณหมอชะงักไปทั้งตัว สีหน้าที่เดิมทีเต็มไปด้วยความมั่นใจกลับซีดเผือดลง ราวกับจิตใจถูกเขย่าจนสั่นคลอน
“คุณ…คุณหมายความว่า ภรรยาผม…?” เสียงเขาสั่นเครือ ทั้งยังเต็มไปด้วยความกังวล ซินเหยาจ้องเขาตรงๆ ด้วย ใบหน้าเรียบนิ่งแต่แววตาที่หนักแน่นจนคนฟังไม่อาจมองข้าม
“เมื่อครู่ฉันเห็นภาพ เห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับภรรยาของคุณที่ตั้งครรภ์อยู่ มันเชื่อมโยงกับโชคชะตาของคุณอย่างชัดเจน ถ้าคุณไม่รีบกลับไปตอนนี้ ผลลัพธ์อาจเลวร้ายได้ทันที”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าภรรยาผมตั้งครรภ์” ซินเหยาไม่ตอบทันที เพียงยกสายตาขึ้นเล็กน้อยเหมือนมองทะลุผ่านโลกความจริง ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางราวกับทุกสิ่งอยู่ในกำมือ
“คุณสามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บ้านคุณได้“ เธอพูดเสียงเรียบ
“หากคุณยังอยู่ที่นี่อีกแม้แต่นาทีเดียว...คุณอาจจะเสียเธอไปตลอดกาล”
“คุณรู้ได้ยังไง...ว่าภรรยาผมตั้งครรภ์ แล้ว...คุณยังรู้ด้วยว่าที่บ้านผมมีกล้องวงจรปิด?” น้ำเสียงของหมอเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง ใบหน้าขมวดคิ้วแน่น สายตาจับจ้องซินเหยาราวกับพยายามหาคำตอบ ซินเหยานั่งนิ่ง ใบหน้าเรียบสงบไม่แสดงความหวั่นไหว ดวงตาลึกล้ำราวกับมองทะลุจิตใจคน
“ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คุณเชื่อทั้งหมดหรอกค่ะ เรื่องที่ควรเอ่ยฉันเอ่ยไปแล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับชะตากรรมของคุณ”
หมอเม้มปากแน่น หัวใจเขาเต้นแรง ความสงสัยกับความกลัวปะทะกันในอก เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครและมีวิธีใดถึงรู้เรื่องส่วนตัวขนาดนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือความกังวลกำลังกัดกินใจเขาอย่างรุนแรง
“ผม...ผมไม่รู้ว่าควรเชื่อคุณหรือไม่” เขาพูดเสียงต่ำ ลมหายใจติดขัดเล็กน้อย
“แต่...ทำไมผมถึงรู้สึกว่าไม่อาจเพิกเฉยกับสิ่งที่คุณพูดได้เลย เรื่องออกจากห้องโรงพยาบาลผมจะให้พยาบาลประสานงานให้ขอตัวก่อนครับ” สิ้นคำ หมอรีบหันกาย ก้าวเท้าออกจากห้องด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความร้อนรน แม้ในใจยังคุกรุ่นด้วยความสงสัย แต่ความกังวลกลับแผ่ซ่านรุนแรงจนบังคับให้เขาต้องเร่งรีบ ซินเหยาเพียงนั่งเงียบ มองแผ่นหลังของเขาเดินจากไป ริมฝีปากยกยิ้มบางๆ
“ไปเถอะ…ชะตาของเจ้าอยู่ในมือเจ้าแล้ว” เธอพึมพำเบาๆ
เสียงใสของระบบดังขึ้นทันทีในหัว พร้อมภาพหน้าจอโฮโลแกรมปรากฏขึ้น
[ติ๊ง!]
[ภารกิจด่วน: เตือนคุณหมอให้กลับบ้าน – สำเร็จ!]