공유

สหายร่วมเรียน

last update 최신 업데이트: 2025-04-19 13:42:02

“หุบปากเสีย” นิ้วเล็กชี้ไปยังสาวใช้ที่คร่ำครวญไม่เลิกผู้นั้น

เด็กน้อยวัยห้าขวบตัวกลมป้อม แก้มระเรื่อแดงก่ำจากการเพิ่งตื่นนอน ผมเผ้ารุงรังชี้นิ้วถลึงตา ไม่ว่าดูอย่างไรก็น่ารักน่าเอ็นดู ทว่าเพราะสถานะนางทำให้ผู้คนไม่กล้าเพิกเฉย รวมกับกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้นางดูไม่สามัญธรรมดา

เหมยลี่อิงชี้ไปที่บ่าวรับใช้ระดับสองให้ลากนางออกไป ด้วยฐานะหลานสาวสายตรงของนาง ปกติจะมีแม่นมหนึ่งคน สาวใช้ระดับหนึ่งรับใช้ข้างกายสองคน สาวใช้ระดับสองทำงานหยาบสี่คน บ่าวไพร่ทำงานหยาบในเรือนอีกไม่เกินห้าคน

ยามนี้นางขาดแม่นมไปแล้วหนึ่งคน สาวใช้ข้างกายก็ใช้การไม่ได้อีกหนึ่งคน รวมเซียวอวิ๋นหังเจ้าปัญหาที่ไม่รู้ว่ารับเข้าเรือนมาตั้งแต่เมื่อไรผู้นี้อีก

ยังไม่รู้เลยว่าบ่าวเหล่านี้ภักดีต่อใคร เป็นสายของเรือนไหนแฝงเข้ามาบ้าง

ครู่หนึ่งเหมยลี่อิงพลันรู้สึกสมองพองโตขึ้นมา

นางสั่งบ่าวระดับสองคนหนึ่งที่เหลือในห้องพลางมองไปที่เด็กชาย “เจ้าพาเขาไปอาบน้ำ เช็ดเนื้อตัวเสีย อย่าได้คิดกลั่นแกล้งรังแกคนให้คุณหนูเช่นข้าเห็นอีกเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่

สาวใช้ตัวน้อยรู้สึกว่าคุณหนูของนางยามนี้หน้าเกรงขามอย่างยิ่ง พลันพยักหน้าเร็วๆ ราวหนูจิกข้าวสาร ก่อนพาเด็กชายออกไปอย่างหวาดๆ

เด็กหญิงปีนลงไปจากเตียงเอื้อมมือไปใต้หมอน หยิบป้ายไม้สลักลายเล็กๆ ขึ้นมาผูกไว้ที่เอว

กลิ่นอายอันอัศจรรรย์ของนางพลันเลือนจางหาย แม้ไม่ได้หายไปสิ้นเชิง อย่างมากแค่ทำให้นางดูงดงามน่ารักสะดุดตากว่าคนอื่นเล็กน้อย ไม่น่าตกตะลึงบันลือโลกาแก่ผู้พบเห็นเช่นวันวาน

“ท่านตาเจ้าขา” ขาสั้นๆ วิ่งไปหาผู้ชราเร็วจี้ น้ำเสียงออดอ้อน มือเล็กๆ ชูขึ้นสูงเป็นนัยๆ

เซียวจงสิงหัวเราะฮ่า ๆ พึ่งพอใจที่หลานสาวคนโปรดสามารถลุกจากเตียงขึ้นมาเริงร่าหลังจากหายป่วยได้อย่างรวดเร็ว

“อิงเอ๋อร์ของตา เจ้าหายแล้วหรือ ไม่เจ็บป่วยตรงไหนแล้วใช่หรือไม่” ชายชราพลางอุ้อมก้อนแป้งน้อยเข้ามาในอ้อมอก

“ไม่แล้วเจ้าค่ะ” เด็กน้อยส่ายหน้าเป็นกลองป๋องแป๋งแก้มป่องกระเพื่อมไปมาเหมือนตุ๊กตา

“ไม่เจ็บก็ดี ไม่ป่วยก็ดีแล้ว !” เหมยลี่ซบบ่าผู้เป็นตา จมูกเล็กๆ ของเด็กน้อยสูดดมไออุ่นที่โหยหาอย่างตะกละตะกลาม

ยามนางยังเล็กหลังว่างจากภาระงานยามพลบค่ำ เซียวจงสิงมักแวะเวียนมาหานางเสมอไม่ว่าจะเหนื่อยล้าเพียงใด เมื่อก่อนตอนนางยังเด็กมักไม่เห็นคุณค่า ยามเสียไปถึงได้รู้ว่าช่วงเวลาเหล่านี้งดงามเพียงใด

กลิ่นสาบหอมไม้จันทร์ ความนิ่มไร้ระคายของเสื้อไหม แสงอาทิตย์อัสดงสีส้มทองทอแสงแยงตา กรุ่นไอน้ำบนยอดหน้าหน้าลานเล็กๆ เป็นประกาย ความเย็นสบายของผิวหนังบนแขนสองข้างที่แห้งเหี่ยวแต่มั่นคงแข็งแกร่งยืนหยัดยิ่งกว่าใคร

กระบอกตานางร้อนแผ่ว ไม่มีมีสิ่งใดอีกแล้วในโลกหล้าสามารถทดแทนอ้อมกอดอุ่นๆ นี้ได้ บ้างครั้งนางปรารถนาให้ตนเองเป็นเด็กเล็กตลอดไปเพื่อซึมซับความอบอบอุ่นนี้ไว้จนชั่วนิรันดร์ หากการเวลาไม่เวียนผันก็วิเศษมิใช่น้อย

แต่ไม่มีสิ่งใดสามารถคงไว้ได้ตลอดไป พระอาทิตย์ยังหมุนของมันไป นางเองก็ต้องเติบใหญ่ออกไปผจญภัยร้ายเพื่อปกป้องเจ้าของอ้อมกอดนี้ไว้เช่นกัน

“ท่านตาเจ้าคะ วันนี้ตอนมาอิงเอ๋อร์ตกใจ ม๊าก มาก” นางเอ่ยว่าทำตาโตให้ดูเหมือนเล็กน้อยที่สุด

“โอ้ อิงเอ๋อร์ของตาตกใจเรื่องอะไรกันนะ ?” ผู้เป็นตาเอียงหน้าไปตั้งใจฟังคิดว่าหลานสาวของจะบอกเล่าเรื่องสนุกๆ ของวันนี้ให้ฟังเหมือนทุกครา

“วันนี้เจ้าคะ ตื่นหลานมาก็โคร่ม แล้วน้ำก็สาดเปียกๆ เจ้าคะ แล้วนางผู้น้อยก็ดุพี่ชายผู้นั้นเจ้าคะ พี่ชายผู้นั้นตัวโตกว่าอิงเอ๋อร์ไม่เท่าไรเอง น่าตกใจจริงๆ ”

เซียงจงสิงยิ่งฟังยิ่งขมวดคิ้ว ดูเหมือนเรื่องที่หลานสาวจะเล่าจะเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับนางจริงๆ ทั้งยังไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอันใด

เขาทำหน้าเคร่งเครียดเรียกบ่าวรับใช้ทั้งเรือนมารวมตัวกันเพื่อสอบความ เนื่องเพราะหลังภรรยาสิ้นใจไปเขาเองก็ไม่ได้แต่งงานใหม่ อีกทั้งบุตรชายสามคนแม้จะแต่งภรรยา แต่สะใภ้ทั้งสามเป็นคนรู้ความควรไม่ควร จึงมิได้วุ่นวายกับหลานสาวซึ่งอาศัยในเรือนหลังของเขา คนในเรือนเล็กหลังนี้จึงเป็นคนที่บุตรสาวผู้นั้นของเขาจัดหามาเสียส่วนใหญ่

เขาแม้มิได้เขามาวุ่นวายแต่ก็ให้พ่อบ้านจวนใหญ่มาจับตาดูอยู่เสมอ ตั้งแต่ล่วงรู้ว่าแม่นมผู้นั้นมีปัญหา ตัวเขาก็ได้ไล่ออกไปเพื่อตักเตือนนางโดยอ้อมแล้ว

คิดไม่ถึงว่านางจะไม่ยินยอมรามือ

แผนการคิดยืมดาบฆ่าคนใช้ยืมมือสกุลเซียวสายสี่เช่นนี้ก็คิดออกมาได้ เห็นทีว่านางผู้นั้นคงมีข้อตกลงที่ไม่อาจบอกกล่าวได้กับบ้านตระกูลเซียวสายสี่ฝั่งนั้นกระมัง

“พ่อบ้านฝู”

“ขอรับนายท่าน” ฝูจิงผู้เป็นพ่อบ้านใหญ่ขานรับ

“เรื่องของเรือนคุณหนูใหญ่ ไม่สิ เรือนหลังทั้งหมดจากนี้ จากนี้ไปล้วนให้สะใภ้ใหญ่จัดการ ส่วนนางให้คุกเข่าสำนึกผิดในหอบรรพชนสามปี หากไม่มีคำสั่งจากข้าให้ปี้กู่*อดอาหารแล้วใช้ยาแทนนับจากนี้ไป ส่วนบ่าวไพร่ใหม่ในเรือนให้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดใช้คนจากเรือนใหญ่โดยตรง”

“นายท่านผู้เฒ่า นี่…” นี่คือการลิดรอดอำนาจในจวนโดยไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่น้อย

แม้ว่านางจะเป็นเซียวฟางหรูบุตรสาวแท้ๆ ของนายท่านผู้เฒ่าเซียว มารดาในนามของเซียวลี่อิงก็ตาม

จึกๆ

เด็กหญิงที่ถูกอุ้มดึงเสื้อของเซียวจงสิงเบาๆ แล้วเอ่ยถามเขาตาใสว่าว่า “ท่านตาเจ้าคะ พี่ชายท่านนี้ไม่เปลี่ยนได้หรือไม่”

ผู้เป็นตาถึงกับแปลกใจ “คนไหนหรือ”

นางชี้ไปยังเซียวอวิ่นหังแล้วกล่าวยังฉะฉานว่า “เป็นเขาเจ้าค่ะ”

“ศักดิ์ฐานะของเขาไม่เหมาะสม” เซียวจงสิงว่า

เหมยลี่อิงเอียงคอครุ่นคิดตาม แม้เซียวอวิ๋นหังจะดูย่ำแย่กว่านาง แต่นั้นนับเป็นเรื่องเรือนหลังของสายสี่ ด้วยสถาณภาพการให้เขาเป็นข้ารับใช้นางย่อมไม่เหมาะสมจริงๆ

“เช่นนั้นให้เขาเป็นเพื่อนร่วมเรียนของหลานได้หรือไม่เจ้าคะ พี่ใหญ่กับพี่รองมีสหายร่วมเรียนแล้ว หลานยังไม่มีเลยเจ้าค่ะ”

คราวนี้เซียวจงสิงยิ่งไม่เห็นด้วยเข้าไปใหญ่ “หลานเพิ่งจะห้าขวบเท่านั้น เรื่องเรียนนั้นยังเร็วเกินไป อีกอย่าง เขาเป็นผู้ชายจะให้เป็นเพื่อนร่วมเรียนได้อย่างไร”

“แต่พี่ชายพี่สาวคนอื่นๆ ก็เข้าเรียนตอนห้าขวบไม่ใช่หรือเจ้าคะ อีกอย่าง เพื่อนร่วมเรียนของพี่รองก็เป็นผู้หญิง! พี่รองเรียนกับเพื่อนผู้หญิงได้ หลานไฉนจะเรียนกับเพื่อนผู้ชายไม่ได้!” เหมยลี่อิงเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ทำเอาเซียวจบสิงเวียนศรีษะทันใด

“นั่นไม่…” เขาบอกนางได้อย่างไรว่าเพื่อนรวมเรียนของคุณชายรองเซียวนั้นเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันมาตั้งแต่เล็ก

ในบรรดาตระกูลใหญ่การที่เด็กๆ มีเพื่อนร่วมเรียนนั้นสำคัญอย่างยิ่ง เป็นการพึ่งพิงและสานสัมพันธ์ซึ่งกัน ส่วนมากจึงมักเลือกฝ่ายที่มีฐานะเท่าเทียมกัน สายตระกูลเป็นพันธมิตรกันเพื่อที่จะได้โตไปช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ หากเหล่าคุณชายคุณหนูมีคู่หมั้นที่เหมาะสมก็จะให้เรียนร่วมกันเพื่อจะสามารถปลูกฝังซึ่งกันและกันได้

มีชายหญิงคู่ใดเรียนร่วมกันโดยไร้ซึ่งความสัมพันธ์เช่นนี้บ้าง?

หากให้หลานสาวสุดที่รักของตนร่วมเรียนกับเด็กชายผู้นี้ ยามนางออกเรือนไปชื่อเสียงจะเป็นอย่างไร?

ชายชราเซียวกลุ่มใจ มองไปยังแววตาใสแจ๋วถึงก้นบึ้งของหลานสาวแล้วพลันอับจนที่อธิบาย

เหมยลี่อิงก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายจึงงัดท่าไม้ตายออกมา

“ไม่ได้จริงๆ หรือเจ้าคะ ท่านตา” เด็กหญิงตัวเล็กเนื้อนิ่มตัวขาวดุจก้อนแป้ง แหงนหน้าช้อนตามอง หยาดน้ำใสคลอตาอยู่เต็มหน่วยชุ่มฉ่ำวาววับเหมือนกำลังหยดรินออกมา ริมฝีปากเล็กสีชมพูคล้ายใกล้จะเบะคว่ำ

เซียวจงสิงนอกจากตามใจแล้วยังจะทำสิ่งใดได้อีก?

เพียงเห็นน้ำตานางหนึ่งหยดรินไหล เขาก็ปวดใจประหนึ่งถูกน้ำกรดรินรดกร่อนใส่ดวงใจก็มิปาน

เรื่องชื่อเสียงในอนาคตเหล่านั้นช่างมันปะไร อย่างไรนางก็พึ่งหายป่วยไข้มา สิ่งใดจะมีความสำคัญกว่าความสุขของหลานสาวเขาได้?

อีกทั้งยามนี้นางก็ยังเล็กนี้ รอเพียงโอกาสเหมาะๆ อีกสองสามปีก็คงเลิกใส่ใจแล้ว ค่อยส่งเจ้าเด็กหน้าเหม็นนั้นออกไปฝึกฝนไกลๆ รอจนนางเติบใหญ่ผู้ใดจะรื้อฟื้นอันใดได้?

สุดท้ายสหายร่วมเรียนของคุณหนูใหญ่ก็ถูกตัดสินง่ายๆ ด้วยท่าไม้ตายนี้เอง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   บันไดหินทดสอบจิตสำนึก

    บันไดศิลาดำทอดยาวเป็นวงเวียนจรดฟ้า กลางนภาสีครามสว่างเจิดจ้า ฟ้าเหนือศีรษะเป็นหมู่เมฆและดวงตะวัน หันหน้าลงมาเพียงเงาลานหินสีดำและผู้คุ้มสอบที่สีหน้าเย็นชา“ผู้เข้าสอบซ่งหลิงหลิงตกรอบ” ฟ่งปิงเยว่ประกาศ ศิษย์สายนอกสวมเครื่องแบบสีเขียวมรกตดิ้นเงินขึ้นไปรับตัวเด็กหญิงที่ไร้เรี่ยวแรงลงมาด้วยความเร็วแทบเป็นภาพติดตานี่สามารถพิสูจน์ได้ว่าแม้แต่ศิษย์สายนอกของสำนักแพทย์เขาปุบผาก็ยังมีพลังจิตสำนึกในระดับน่าตระหนกผู้รอบการทดสอบเห็นดังนั้นก็พยายามรุดหน้าต่อไป เพราะขอเพียงพวกหยุดช้าเพียงยี่สิบลมหายใจ สายตาอันแหลมคมของผู้คุมสอบก็จะจับจ้องไปยังพวกเขาในทันใด หากมีวี่แววว่าเจ้าจะไปต่อไม่ไหว สุ้มเสียงไร้น้ำใจไมตรีก็ประกาศว่าเจ้าตกรอบทันทีเด็กชายที่อยู่ข้างคนที่เพิ่งประกาศตกรอบไปถึงกับเสียวสันหลังวาบ ขนหัวลุกชี้ชัน กัดฟันเดินต่อแทบไม่คิดชีวิตเสียงสายลมกระพือพัดชายผ้าดุจท้องฟ้าคำรามหวีดวิวอยู่ข้างหู เหมยลี่อิงยังคงก้าวขึ้นบันไดดำอย่างใจเย็น สีดำทะมึนใต้ฟ้าเท้าราวกับมีชีวิตชีวายื่นมือออกมาดึงรั้งขายิ่งกว่าตะกั่วหนัก ช่างเป็นจิตสำนึกนึกอันทรงพลังอะไรเช่นนี้ขั้นที่ห้าสิบ เด็กหญิงยังเดินรุดหน้าด้วยท่าทาง

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   การทดสอบเข้าสำนักด่านแรก

    “เหอะ หากข้าไม่ขอโทษแล้วอย่างไร พวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้” สวี่อวี้หลันยังคงเย่อหยิ่ง เรื่องอันใดต้องให้นางไปขอโทษคนไม่หัวนอนปลายเท้าจินเกอพ่นลมหายใจคราหนึ่ง เดินผ่านนางเข้าห้องไปเลือกเตียงที่อยู่หัวมุม“พวกเราก็จะได้รู้เช่นเห็นชาติสันดานเจ้ากระมัง”“เจ้า !!”“อวี้หลัน!! เจ้าพอได้แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้าน”สุดท้ายแล้วกลับเป็นสวี่ฟางเฟยที่เกลี้ยกล่อมน้องสาวอย่างอดทนพลางขอโทษสหายร่วมห้องแทน คนอื่นๆ ไม่พูดอะไร แม้แต่หลินรั่วอีก็ไม่รับคำขอโทษนั้น มีเพียงเหมยลี่อิงที่มองพวกนางสองพี่น้องอย่างมีความหมายสวี่ฟางเฟยได้แต่ยิ้มเจื่อน นางเองก็อับจนปัญญากระทั่งเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนมาถึงบรรยากาศที่อึดอัดระหว่างพวกเขาถึงได้ผ่อนคลายลงรุ่งสางอาทิตยายังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า รัตติกาลกำลังจะจางหาย แสงรำไรเพียงมองเห็นปลายฝ่ามือได้รางๆ ปรางแก้มสีชมพูอิ่มนิ่มนวลคลอเคลียเกศางาม อารามสาวน้อยกอดจิ้งจอกสีขาวขนฟูหลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้าเมื่อคืนนางวางค่ายกลป้องกันไว้รอบเตียง จึงสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจจินเกอที่นอนอยู่เตียงข้างกันพลันลืมตาโผล่ เอื้อมมือคว้ามีดพกในอกเสื้อทันใด ประตูไม้ในเรือนนอนพวกนางเปิดออกโดยไร้ผ

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   สหายร่วมห้องสอบ

    แสงตะวันพลบค่ำอัสดงสีส้มนวลสว่างฉาบย้อมท้องฟ้าจนกลายเป็นผ้าไหมทองเข้มผืนหนึ่ง เหมยลี่อิงไม่ได้มีเวลาในรำพึงในใจนานนัก รองเท้าปักเดินก้าวตามขบวนคุ้มกันเข้าสู้สำนักในที่สุดพวกนางเดินตามสันเขาชมเมฆา ม่านหมอกเมฆหนาทึบลอยเอื่อยอ้อยอิ่ง กิ่งพัดใบไม่ไหวตามสายลมดังเคล้า เหล่าภมรปราณเริงร่าชมแนวผกาทอดทิวเขา ราวเหล่าภูติกระซิบสำเนียงแห่งพงไพร หัวใจที่เต้นกระหน่ำของเด็กหญิงก็ค่อยๆ เบาลง “เจ้าเป็นอะไรไป” จิงซิงเฉินถามเมื่อเห็นนางเหม่อลอย เหมยลี่อิงส่ายหน้าหยิบองหญิงจิ้งจอกหน่อยสีขาวฟูออกมาจากถุงเลี้ยงสัตว์ โม่เสวี่ยงัวเงียอยู่ในอ้อมแขนนางพลางหาวหวาดแม้แต่ตายังไม่ลืม “นั่นสัตว์สัญญาของเจ้าหรือ สายเลือดไม่เลวเลย แต่เจ้าต้องระวังการทดสอบไม่อนุญาติให้ใช้สัตว์ปราณช่วยเหลือเจ้าสามารฝากไว้ที่โถงสำนักระหว่างการสอบได้” ศิษย์หญิงที่เป็นผู้นำขบวนมากล่าวกับนางเล็กน้อยด้วยใบหน้าเรียบเฉยผู้ไม่สนิทย่อมฟังไม่ออกถึงความอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ชาติที่แล้วนางคบหากับศิษย์พี่หญิงจางผิงจูมาหลายปีไหนเลยจะไม่ออก เหมยลี่อิงคลี่ยิ้มจนตาปิด เด็กหญิงนัยน์ตาดอกท้อใสกระจ่าง เรื่องหน้าจิ้มลิ้มม

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   นางมาถึงแล้ว

    เสียงกระบี่ฟาดฟันไล่ล่า คลื่นพลังปราณประทุเดือดพล่านทำลายป่าไม้ล้มระเนระนาด เหมยลี่อิงกับจิงซิงเฉินเห็นผู้ถูกไล่ล่าก็ม่านตาหดแคบ เป็นหลงเทียนสือผู้นั้นที่เคยมีปากเสียงกันที่โรงเตี๊ยมตงฟู ยามนี้ที่เด็กชายที่จมูกชี้ฟ้าสง่างามยิ่งผยองกลับไม่หลงเหลือความหยิ่งยโสเลยแม้แต่น้อย เสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นดีของเขาในยามนี้ล้วนขาดวิ่นเนื้อตัวเต็มไปตัวบาดแผลฉกรร บางตำแหน่งลึกแทบเห็นกระดูก หากไม่ได้ผู้คุ้มกันทั้งสองสละชีวิตรั้งศัตรูไว้ตัวเขาก็แทบเอาชีวิตไม่รอด เด็กผู้นั้นเห็นได้ชัดว่าหนีการไล่ล่ามา เมื่อพวกจิงซิงเฉินในแววตาก็ปรากฎแววโล่งใจ แคว้นหลงกับแคว้นจินอยู่ข้างเคียงกัน ราชวงศ์ของพวกเขาล้วนมีความสัมพันธ์อันดี ถึงขึ้นมีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันมาหลายรุ่น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด จิงซิงเฉินไม่อาจปล่อยให้เขาตายโดยไม่ช่วยเหลือ หลงเทียนสือแม้หยิ่งผยองแต่ไม่ใช่ตัวโง่งม เพียงประสานมือคาราวะพวกเขานัยต์ทอแววอับอายอยู่บ้าง “บุญคุณครั้งนี้ข้าจะทดแทนภายหลังอย่างแน่นอน” จิงซิงเฉินลังเลเล็กน้อยหากมีเพียงเขาคนเดียวย่อมลงมือช่วยเหลืออีกฝ่ายโดยไม่คิดอะไร แต่ยามนี้เพื่อนร่วม

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   อ้ายฉินฮวา

    ปัง ! กระแทกผนังจนแตกกระจาย ผนังไม่กลับเป็นเพียงรอยขีดข่วน ผู้คุ้มกันทั้งลายออกมาคุ้มกันคุณหนูคุณชายของพวกเขาไว้ตรงกลางป้องกันการโดนลูกหลง เหมยลี่อิงอดพำพึมไม่ได้ “ช่างเป็นพนังไม้ที่แข็งแกร่งสมคำโอ่จริงๆ” “อาศัยสวะเช่นเจ้ากล้าเหิมเกริมกับข้า ช่างไม่รู้จักคำว่า ‘ตาย’สะกดอย่างไร” ดรุณีนางหนึ่งหน้าตาสระสวยสะพายกระบี่เล่มใหญ่ ระเบิดพลังสวะของหนิงม่ายออกมาเต็มที่ พวกเหมยลี่อิงมีผู้คุ้มกัยปิดป้องย่อมไม่เป็นไร เหล่าเสี่ยวเอ้อร์ล้วนหลับไปยังค่ายกลหลังร้านอย่างรู้หน้าที่ มีเพียงรู้ค้าบ้างคนพลังฝีมือต่ำอยู่บ้างทุกลูกหลงกันไปหอมปากหอมคอ ไม่มีใครเข้าไปห้าม ประการแรกเพราะยอกข้าวของในร้านแล้วไม่มีผู้ใดได้รับความเสียหาย นับว่าหญิงสาวนางนั้นควบคุมตนเองได้ดีอยู่บ้าง ประการที่สองผู้ใดจะอยากหาเรื่องใส่ตัวด้วยการแส่เรื่องของผู้อื่น หญิงสาวนางนั้นร่างกายไม่กำยำแต่สังขารแข็งแกร่งยิ่ง ปราบอันธพาลรานถิ่นที่กล่าววาจาแทะโลมนางด้วยหมัดหลุนๆ อีกหมัดตามด้วยอีกหมัด เสียงถูกชกอย่างรุนแรงปานนี้ อันธพาลผู้นั้นโดนอัดไม่กี่ทีก็หลงเหลือเพียงลมหายใจรวยริน ถู

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   จิงซิงเฉิน

    “ข้าจ่ายไปสองจิงสือระดับสามเมื่อท่านเสนอเพิ่มราคาให้ เช่นนั้นมิสู้ให้ข้าสี่จิงสือระดับสามเถอะ”หลงเทียนสือแม้มาจากแคว้นไหนแต่ไม่ใช่ตระกูลยอดยุทธไม่มีเหมืองหินผลึกปราณ เขาไหนเลยจะมีจิงสือมากมายปานนั้น ขณะกำลังจะทักท้วงมองเห็นรูปโฉมของคนที่ออกมาจากประตูเสียงก็พลันขากห้วงไป“นี่เจ้ากะจะปล้นชิงกันหร--”“ข้าจ่ายให้เขาราคานี่จริงๆ เมื่อท่านเสนอเพิ่มราคาก็สมควรใจกว้างกว่านี้สักหน่อย”เหมยลี่อิงงามยามนี้สวมผ้าคลุมเพียงครึ่งหน้า เห็นคิวโก่งเรียวดุจใบหลิว แพขนตาเงาหนาดุจม่านฝน นัยต์ตาดอกท้อสวยหวานราวลูกกวางทั้งเย้ายวนทั้งดูไร้เดียงสา เพียงเท่านี้ก็เผยรูปลักษณ์ปานหยาดฟ้ามาดินของนางจนผู้มองอดไม่ได้จะสูดลมหายใจลึกกับการงานห้องนั้นนางหาได้มีปัญหาอันใด เพียงเหมยลี่อิงไม่ชมชอบพฤติการณ์ของคนผู้นี้ฝ่ายหลงเทียนสือผู้ถูกสบประมาท ตัวเขามาจากราชวงศ์แคว้นใหญ่แคว้นหนึ่ง แต่ไหนแต่ไหนก็ไม่เคยไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เด็กหญิงนางนี้กลับกล้าขัดใจเขา แม้เด็กหญิงผู้นั้นจะเป็นสาวงาม แต่ตัวเขาเป็นลูกผู้ชายกลับถูกผู้อื่นหยามว่าใจไม่กว้างพอ เรื่องนี้ยอมไม่ได้เด็กทั้งสองรวามถึงผู้คุ้มกันฝ่ายพวกเขาจ้องมองกันด้วยความเป็นป

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status