พิรุณาเดินกลับมาถึงห้องคอนโดอย่างหมดแรง วันนี้ที่ทำงานมีปัญหานิดหน่อยทำให้เธอต้องอยู่ค่ำ สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อมาถึงห้องไม่ใช่การทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่ม ๆ อย่างที่ใจอยาก แต่เป็นการตรงดิ่งเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายทันที เธอไม่ชอบความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อไคลหลังเผชิญมลภาวะจากข้างนอก เมื่อร่างกายสดชื่นขึ้นจากสายน้ำที่ไหลผ่าน เธอจึงเดินออกมาในชุดลำลองสบาย ๆ
เธอคว้าแผ่นโบรชัวร์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาดู ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง เธอเป็นแบบนี้เสมอ ก่อนนอนจะต้องอ่านอะไรบางอย่างติดเป็นนิสัย ‘ไหน ๆ ก็จะต้องไปเรียนแล้ว อ่านดูหน่อยก็ดี’ เธอคิดในใจ แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงสาดส่องลงบนแผ่นกระดาษเงาวับ “คอร์สสำหรับผู้สนใจเรียนรู้ทักษะมวยไทยเบื้องต้น ช่วยป้องกันตัว พร้อมกับลดน้ำหนัก พิเศษวันนี้ ซื้อ 1 แถม 1…” เธออ่านข้อความนั้นช้า ๆ ในใจพลางขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามันช่างไม่น่าดึงดูดเอาเสียเลย แถมรูปยิมที่อยู่บนโบรชัวร์ก็ดูไม่ทันสมัย เทียบกับพวกฟิตเนสดังที่เธอเป็นสมาชิกอยู่ไม่ได้แม้แต่น้อย ‘แบบนี้จะมีคนสมัครไหมหนอ หรือจะมีแค่เธอกับยัยดาวที่หลงสมัครเป็นกลุ่มแรกกันนะ?’ พิรุณาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ความกังวลเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาในใจ ก่อนจะวางโบรชัวร์ไว้บนหัวเตียงแล้วทิ้งตัวลงนอน ปล่อยให้ความเหนื่อยล้าของวันดึงดูดเธอเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด เมื่อถึงวันนัดเทรนวันแรก พิรุณาตื่นสายกว่าปกติเล็กน้อย ด้วยความเร่งรีบ เธอเดินเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าง่าย ๆ ขนมปังทาเนยถั่วกับนมอุ่น ๆ ถูกจัดวางอย่างรวดเร็ว เธอค่อย ๆ ละเลียดกินอย่างใจเย็น พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องที่ยังคงเงียบสงบ “ยัยฝน เสร็จรึยัง ชั้นมาถึงค่ายมวยแล้วนะ เลือกครูสอนไว้ด้วย หล่อไหมล่ะ” เสียงแจ้งเตือนข้อความจากดาริกาดังขึ้น ปลุกเธอจากความเงียบงัน พร้อมแนบรูปเซลฟี่ของดาริกากับเทรนเนอร์หนุ่มหน้าตาดีสองคน “คนด้านซ้ายชื่อไก่โต้ง คนด้านขวาชื่อจูเนียร์ คุยสนุกมากเลย รีบ ๆ มานะ” ข้อความถัดมาถูกส่งตามมาติด ๆ พิรุณาอ่านแล้วก็ได้แต่อมยิ้มเล็กน้อย 'นี่ยัยดาวหายอกหักแล้วรึไงกันนะ ถึงได้ร่าเริงขนาดนี้' เธอคิดในใจ ก่อนจะส่งสติกเกอร์รูปคนกำลังวิ่งกลับไป เป็นการตอบรับคำเร่งของเพื่อน มือก็เก็บจานอาหารไปล้างอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเร่งเตรียมของเพื่อออกไปค่ายมวยในทันที เมื่อถึงสนามมวย พิรุณาก็เห็นดาริกาเริ่มวอร์มร่างกายกับเทรนเนอร์หนุ่มแล้ว เหงื่อเริ่มซึมตามไรผมของเพื่อนสนิท “ขอโทษนะคะที่มาช้า” พิรุณากล่าวขอโทษพร้อมเดินตรงไปยังข้างเวทีที่พวกเขายืนอยู่ “ไม่เป็นไรครับ พอดีพี่ดาวเขามาเร็วกว่าเวลา พวกเรากลัวพี่เขาเหงาเลยชวนให้วอร์มเล่น ๆ ก่อนครับ” จูเนียร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “งั้นเริ่มวอร์มกันเลยนะคะ” พิรุณาวางของใช้ส่วนตัวลงข้างเวที แล้วเริ่มขยับตัวตามท่าทางที่เทรนเนอร์แนะนำ เทรนเนอร์ทั้งสองเริ่มสอนการต่อยและเตะเป้า โดยไก่โต้งเป็นคนถือเป้าให้ดาริกา ส่วนจูเนียร์ก็เข้ามาถือเป้าให้พิรุณา พิรุณายอมรับเลยว่าคำโฆษณาในโบรชัวร์ที่ว่าต่อยมวยช่วยลดน้ำหนักนั้น ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เธอรู้สึกเหนื่อยจนแทบหมดแรงหายใจ เทรนเนอร์ทั้งสองคนที่ตอนแรกดูเหมือนจะแค่หน้าตาดี ไม่น่าจะเอาไหนเรื่องสอน กลับมีความเคร่งครัดและตั้งใจสอนอย่างมาก เธอไม่เคยเรียนมวยไทยมาก่อนเลยในชีวิต มากสุดก็แค่เข้าคลาส Body Combat ในฟิตเนสเท่านั้น ทำให้แรงเธอหมดลงอย่างรวดเร็ว เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เริ่มผุดพรายตามกรอบหน้า ความร้อนอบอ้าวจากร่างกายเริ่มแผ่ซ่าน เมื่อครบชั่วโมงเทรน ดาริกาก็ไม่รอช้า ชวนเทรนเนอร์ทั้งสองไปกินข้าวด้วยทันที ทั้งคู่เห็นว่าเวลานี้ในค่ายมวยไม่ค่อยมีคนอยู่แล้ว จึงได้ขออนุญาตเจ้าของค่ายเพื่อออกไปกินข้าวกับพวกเธอ ที่ร้านอาหาร ทั้งสี่คนคุยกันถูกคอราวกับรู้จักกันมานาน เพราะความช่างพูดช่างคุยของดาริกา และความสนุกสนานของจูเนียร์ ทำให้ทุกคนสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ “อะไรนะ! พี่มาสมัครเรียนมวยเพราะอกหักเหรอ 555 ผมเพิ่งเคยได้ยินเหตุผลนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย! ว่าแต่ใครกันช่างกล้าหักอกพี่ดาวคนสวยได้” จูเนียร์กล่าวแซวอย่างอารมณ์ดี ดาริกาหันไปพยักหน้าเห็นด้วยกับจูเนียร์ “ใช่มะ! มาหักอกคนสวย ๆ แบบพี่ได้ยังไง” เธอเอ่ยชมตัวเองแบบไม่อายปาก จนพิรุณาได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ “พี่ดาว ผมขอยืมโทรศัพท์พี่หน่อยดิ” ไก่โต้งพูดขึ้น พลางยื่นมือไปขอโทรศัพท์จากดาริกา เมื่อไก่โต้งได้โทรศัพท์มา เขาก็เปิดกล้องหน้าทันที พร้อมกับเอามือโอบคอดาริกาอย่างเป็นกันเอง “ถ่ายเซลฟี่กันพี่! เอาไปโพสต์ในไอจี เผื่อแฟนเก่าพี่จะเสียดายขึ้นมา เราต้องทำให้เขารู้ว่าไม่มีเขาเราก็มีความสุข” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อถ่ายรูปคู่เสร็จ ไก่โต้งก็ยื่นมือถือให้พนักงานร้านช่วยถ่ายรูปหมู่ให้ “เดี๋ยวผมขอแท็กพวกพี่นะครับ ขอเอาไปโฆษณาค่ายมวยหน่อย นางแบบสวย ๆ คนจะได้มาสมัครเยอะ ๆ” เขากล่าวหยอกล้ออย่างอารมณ์ดี เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้พิรุณารู้สึกว่าโชคดีมากจริง ๆ ที่ตัดสินใจมาสมัครยิมนี้ เธอได้เจอเด็กหนุ่มสองคนที่เหมือนน้องชาย ซึ่งช่วยให้ดาริกาคลายความเสียใจจากความอกหักได้เร็วขึ้นมาก “ติ๊ง!” เสียงแจ้งเตือนจากมือถือของไก่โต้งดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วทำตาโตด้วยความประหลาดใจ “โอ้โห! ไม่น่าเชื่อเลย ร้อยวันพันปี ริคุ ทาเคดะ ไม่เคยจะกดไลค์ผมมาก่อน พวกพี่สองคนนี่เสน่ห์แรงใช้ได้นะ” ไก่โต้งพึมพำกับตัวเอง “ใครคือ ริคุ ทาเคดะ เหรอ?” พิรุณาทำหน้างงกับชื่อที่ไม่คุ้นหู “ยัยฝน แกไม่รู้จักจริง ๆ เหรอเนี่ย! ขนาดฉันไม่ค่อยดูทีวียังรู้จักเลยนะ” ดาริกาแทรกขึ้นอย่างตื่นเต้น “เขาเป็นนักมวยแชมป์ชาวญี่ปุ่นไง! อายุน้อยกว่าพวกเราอีก แต่เป็นแชมป์แล้วนะ แถมหน้าตาดีมากเลยแหละเธอ” ดาริกาตอบเพื่อน ก่อนจะหันไปถามไก่โต้งด้วยความสงสัย “แล้วเขารู้จักเธอได้ยังไงเนี่ย? อย่าบอกนะว่าเขาอยู่ค่ายมวยนี้!” “เขาไม่ได้อยู่ยิมนี้หรอกครับ เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นน่ะ แต่ถ้ามาแข่งที่ไทย เขาจะมาขอซ้อมที่ค่ายของเรา” ไก่โต้งอธิบาย “ว้าว! เยี่ยมเลย! ฉันจะได้ซ้อมที่เดียวกับแชมป์โลกเลยเหรอเนี่ย! ว่าแต่ฉันจะมีโอกาสได้เจอเขาไหมคะ เขาจะมาอีกเมื่อไหร่” ดาริกาถามต่อด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “เขาเพิ่งกลับไปน่ะครับ คงต้องรอใกล้ ๆ วันแข่งอีกสักสองสามเดือนถึงจะมา พวกพี่ต้องต่อคอร์สกับค่ายผมนะ ผมจะได้พาพี่ไปเจอเขา” จูเนียร์ได้โอกาสทองในการขายคอร์สทันที ‘เพิ่งกลับไปเหรอ... หวังว่าคงไม่ใช่คนที่ยืนขอบคุณเจ้าของค่ายมวยท่ามกลางสายฝนในคืนนั้นหรอกนะ’ พิรุณาหวนนึกไปถึงเหตุการณ์ในคืนที่เธอเดินกลับบ้านคืนนั้น ภาพใบหน้าคมคายที่เห็นเพียงเสี้ยววินาทีผุดขึ้นมาในความคิดอย่างเลือนราง ที่ค่ายมวยในญี่ปุ่น ริคุเลื่อนมือถือดูรูปไปเรื่อยๆ ระหว่างรอกระต่าย หลานสาวของบุญชู โค้ชมวยคนไทยของเขา สายตาเขามองรูปแต่ละรูปผ่าน ๆ ไม่ได้ตั้งใจมองอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งนิ้วของเขาสะดุดที่รูปในอินสตาแกรมของไก่โต้ง เขาเลื่อนผ่านไปแล้วก็ต้องเลื่อนกลับมาดูอีกครั้ง ‘นี่มันผู้หญิงคืนนั้นนี่นา... เธอมาเรียนมวยไทยที่ค่ายเหรอเนี่ย?’ เขาพึมพำในใจเบา ๆ ก่อนจะกดไลค์รูปหมู่รูปนั้นอย่างไม่ลังเล และกดเข้าไปดูอินสตาแกรมของเธอตามแท็กที่ไก่โต้งติดไว้ทันที ‘private account’ คำสองคำที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทำให้เขารู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่เธอตั้งค่าความเป็นส่วนตัว แต่จะให้เขาขอแอดเฟรนด์ไปตรง ๆ ก็คงจะดูแปลกไปหน่อยในตอนนี้ “พี่ริคุ! ไปกันค่ะ กระต่ายพร้อมแล้ว” เสียงใส ๆ ของกระต่ายดังขึ้นแทรกความคิด วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบของกระต่าย เขาเคยรับปากไว้ว่าถ้ากระต่ายสอบผ่าน จะพาไปกินราเมงร้านดัง “พี่ริคุ! ฮานะไปด้วย!” ฮานะ นักมวยหญิงรุ่นน้องวิ่งตามมาสมทบ เธอเรียนอยู่ชั้นเดียวกับกระต่าย แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบนิสัยของกระต่ายสักเท่าไหร่ เพราะกระต่ายแอบชอบริคุ เลยพาลทำนิสัยไม่ดีกับผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ริคุ ฮานะเลยอยากแกล้งกระต่าย โดยการขัดขวางไม่ให้ได้อยู่กับริคุสองต่อสอง กระต่ายกำลังจะปฏิเสธไม่ให้ฮานะไปด้วย แต่ไม่ทัน เพราะริคุได้ชิงพูดก่อน “ได้สิ ไปกันหลายคนสนุกดี”อากาศยามบ่ายคล้อยวันนี้เย็นสบาย ลมพัดเอื่อย ๆ ช่วยคลายความร้อนอบอ้าวที่สะสมมาตลอดวัน พิรุณาเดินทอดน่องไปตามทางเดินในค่ายมวย แวะทักทายคนรู้จักที่เธอมักพบเจอก่อนกลับคอนโดเสมอ หลังจากมาเรียนที่นี่ได้สักพัก เธอก็เริ่มคุ้นเคยและสนิทสนมกับคนในค่ายมวยมากขึ้น เธอพบว่าผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนจริงใจ ใจดี และมีน้ำใจ การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างทางก่อนกลับคอนโด ช่วยให้เธอคลายความตึงเครียดจากการทำงานมาทั้งวันได้ไม่น้อย“พี่ฝน! มาพอดีเลย! หัวหน้าค่ายกำลังเช็กจำนวนคนที่จะไปดูมวยที่สนามวันศุกร์นี้พอดีเลยครับ พี่กับพี่ดาวไปไหม” จูเนียร์ถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง ดวงตาเป็นประกายพิรุณายืนใช้ความคิดชั่วครู่ เธอไม่เคยดูมวยจริงจังมาก่อนเลยในชีวิต ให้เรียนน่ะพอได้ แต่ถ้าต้องไปดูคนชกกันแบบจริงจัง ยอมรับว่าเธอรู้สึกกลัวลึก ๆ ในใจ ภาพนักมวยแลกหมัดกันอย่างดุเดือดผุดขึ้นมาในความคิด“ไปเถอะนะพี่! เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ไง” ไก่โต้งชวนสำทับ พลางส่งสายตาอ้อนวอน พิรุณาสบตากับน้องทั้งสองที่ดูจะตั้งใจชวนเธอเหลือเกิน ด้วยความเกรงใจและไม่อยากทำให้น้อง ๆ ผิดหวัง เธอจึงพยักหน้าตกลงไปในที่สุด แม้ในใจจะยังรู้สึกประหวั่นเ
หลังกินราเมงเสร็จ ริคุได้เดินไปส่งกระต่ายที่ห้องพัก ก่อนจะเดินกลับยิมพร้อมฮานะ เสียงฝีเท้าของพวกเขาดังกระทบพื้นถนนเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบของยามค่ำคืน อากาศเย็นลงเล็กน้อยหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว“พี่ริคุ พี่รู้ไหมว่ากระต่ายชอบพี่น่ะ” ฮานะเปรยขึ้นมาทำลายความเงียบ เธอตัดสินใจพูดขึ้นเพื่อเตือนรุ่นพี่ที่เธอนับถือเหมือนพี่ชายแท้ ๆ คนนี้ รุ่นพี่ผู้มีจิตใจดีงาม บางทีก็ดีจนเกินไปจนไม่รู้จักปฏิเสธคน เธออดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ ว่าวันหนึ่งริคุจะพลาดท่าเพราะความใจดีของเขาเอง“รู้สิ ทำไมเหรอ” ริคุตอบกลับฮานะด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“พี่รู้แล้วยังจะไปไหนมาไหนกับกระต่ายอีกเหรอคะ! อย่าบอกนะว่าพี่ชอบกระต่าย!!” ฮานะทำหน้าเหลือเชื่อ น้ำเสียงบ่งบอกถึงความตกใจ เธอพูดต่อโดยไม่ทิ้งช่องว่างให้ริคุได้ปฏิเสธ “พี่รู้ไหมว่ากระต่ายไม่ใช่คนแบบที่พี่คิดหรอกนะ... แต่เอาเถอะ ถ้าพี่ชอบฮานะก็จะไม่ขัดขวางหรอก”“เดี๋ยวก่อน! ไปกันใหญ่แล้ว!” ริคุที่หาช่องว่างได้ก็รีบปฏิเสธเสียงหลง “พี่ไม่ได้บอกว่าชอบกระต่ายสักหน่อย”“พี่ไม่ชอบแล้วไปไหนมาไหนกับกระต่ายทำไม แถมยังดูเอาใจด้วย!” ฮานะกล่าวเตือนพี่ชายของเธอเสียงเข้ม “พี่รู้ไหมว
พิรุณาเดินกลับมาถึงห้องคอนโดอย่างหมดแรง วันนี้ที่ทำงานมีปัญหานิดหน่อยทำให้เธอต้องอยู่ค่ำ สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อมาถึงห้องไม่ใช่การทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่ม ๆ อย่างที่ใจอยาก แต่เป็นการตรงดิ่งเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายทันที เธอไม่ชอบความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อไคลหลังเผชิญมลภาวะจากข้างนอก เมื่อร่างกายสดชื่นขึ้นจากสายน้ำที่ไหลผ่าน เธอจึงเดินออกมาในชุดลำลองสบาย ๆเธอคว้าแผ่นโบรชัวร์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาดู ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง เธอเป็นแบบนี้เสมอ ก่อนนอนจะต้องอ่านอะไรบางอย่างติดเป็นนิสัย ‘ไหน ๆ ก็จะต้องไปเรียนแล้ว อ่านดูหน่อยก็ดี’ เธอคิดในใจแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงสาดส่องลงบนแผ่นกระดาษเงาวับ “คอร์สสำหรับผู้สนใจเรียนรู้ทักษะมวยไทยเบื้องต้น ช่วยป้องกันตัว พร้อมกับลดน้ำหนัก พิเศษวันนี้ ซื้อ 1 แถม 1…” เธออ่านข้อความนั้นช้า ๆ ในใจพลางขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามันช่างไม่น่าดึงดูดเอาเสียเลย แถมรูปยิมที่อยู่บนโบรชัวร์ก็ดูไม่ทันสมัย เทียบกับพวกฟิตเนสดังที่เธอเป็นสมาชิกอยู่ไม่ได้แม้แต่น้อย‘แบบนี้จะมีคนสมัครไหมหนอ หรือจะมีแค่เธอกับยัยดาวที่หลงสมัครเป็นกลุ่มแรกกันนะ?’ พิรุณาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ความกังวลเล็ก ๆ ผุดขึ้
ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ท้องฟ้าเริ่มขมุกขมัว ราวกับจะรู้ว่าใกล้เวลาเลิกงาน ‘ไม่ทันอีกแล้วสินะ’ พิรุณาพึมพำกับตัวเอง พลางมองเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมานอกหน้าต่างวันนี้คงต้องทำงานรอฝนหยุดอีกตามเคย เธอถอนหายใจพลางเอื้อมมือไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งปิดไป“กริ๊ง กริ๊ง” เสียงโทรศัพท์โต๊ะทำงานของใครสักคนดังขึ้น แต่ไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมรับสาย พิรุณาเลยตัดสินใจดึงสายมาที่โต๊ะตัวเอง “สวัสดีค่ะ แผนกค้นคว้าทางวิชาการค่ะ ไม่ทราบเรียนสายใครคะ”“ยัยฝน ชั้นเอง ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้” เสียงที่คุ้นเคยของดาริกา หรือดาว ลอยมาตามสาย“ยัยดาว โทรเข้าที่ทำงานทำไม ไม่โทรเข้ามือถือล่ะ”“โทรแล้ว แต่แกไม่รับ” พิรุณาเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองแล้วก็พบว่ามีมิสคอลจากดาวหลายสาย เธอแทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเพื่อนของเธอคนนี้คงทะเลาะกับแฟนตามเคยณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากคุยกับดาวเธอก็ได้ปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เพราะทนการออดอ้อนของเพื่อนไม่ไหว“แกคิดดูสิ เขาไม่แคร์ชั้นเลย จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มาง้อ แล้วรู้ไหม ชั้นไปถามเพื่อนที่ทำงานเขา เพื่อนเขาบอก เขามีคนใหม่แล้วเป็นเด็กฝึกงาน ใช่สิ พวกเรามันแก่แล้ว!!!” ดาริการะบายเสียงดังลั่น