LOGINCard for him: Knight of Swords – เสียสมดุล ไร้การควบคุม พุ่งแรงไปข้างหน้า...
หลังจากกินมื้อกลางวันกับเพื่อนเสร็จ ราเชนทร์เดินทางกลับคอนโดมิเนียมที่ต่อไปนี้อาจไม่ค่อยได้แวะมาอีก
ตามประสาคนมีอันจะกิน เขาร่วมลงทุนทำโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูใจกลางเมืองกับกลุ่มเพื่อนสนิท โครงการนี้แบ่งออกเป็นสองโซน สำหรับโซนลักชัวรีด้านหน้ามีไว้ให้คนจับจองเป็นเจ้าของ ส่วนเขาที่มีความต้องการพิเศษกว่าชาวบ้าน ไหนจะอยากได้พื้นที่กว้าง สังคมอันเป็นส่วนตัว เลยเป็นที่มาของโซนไพรเวต สำหรับตนเองและเพื่อนอีกจำนวนสิบหลัง
เมื่อนึกถึงบ้านหลังใหม่ เขายกหูโทรศัพท์ต่อสายหาคุณแม่สุดที่รัก
[ฮัลโหล ไม่คิดไม่ฝันว่าลูกจะโทรหาแม่] ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร เสียงกระแนะกระแหนก็ลอดสายมากระทบโสตประสาทของชายหนุ่ม
“มีเรื่องจะรบกวนแม่น่ะครับ ผมถึงได้โทรหา” ว่าเข้าให้ ประโยคต่อมาแม่ต้องงอนแน่ ๆ
[ใช่สิ แม่มันไม่มีค่า ไม่มีใครคิดถึง] นั่นปะไร ทั้งที่รู้ว่าแม่จะงอน เขาก็ยั้งปากไม่ทันอยู่ดี
“คิดถึงสิครับ มีแม่คนเดียวที่จะช่วยผมได้” ดูทรงแม่เริ่มจะโวยวาย คงต้องพอเท่านี้ก่อน
[มีอะไรก็ว่ามา ตอนนี้แม่กำลังจะออกไปกับลูกสาวสุดที่รัก] แม่ยังคงเหน็บแนมเขาไม่เลิก
“ผมอยากได้แม่บ้านที่ทำความสะอาดและทำอาหารได้ครับ”
[หืม...ที่คอนโดเนี่ยนะ]
“ไม่ใช่ครับ ที่บ้านใหม่ อยากได้แบบอยู่ประจำสักคนหนึ่งครับ” แม่ย่อมรู้เรื่องที่เขาลงทุนสร้างบ้านใหม่ก็เพราะอยากมีพื้นที่กว้าง ๆ และอยากอยู่แบบสังคมส่วนตัวที่รายล้อมด้วยคนสนิท
[อ้อ บ้านที่เชนสร้างไว้แล้วไม่คิดจะให้แม่ไปอยู่ด้วยใช่ไหม]
“โธ่แม่...”
[โอเค เดี๋ยวไว้แม่หาให้แล้วกัน]
“ขอบคุณครับ งั้นผมวางแล้วนะ”
[โทรมาแค่นี้เหรอ]
“ผมมีนัดต่อ”
[อย่าให้รู้นะว่าไปกับแม่ดาราคนนั้น]
“แค่นี้นะครับ” ราเชนทร์รีบตัดบทวางสายทันที ขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืด ไม่เช่นนั้นวันนี้คงไม่ได้ออกไปดินเนอร์แน่
หลังจากวางสาย เขาจัดแจงสั่งงานผ่านเลขาฯ คนสนิท ก่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวออกไปดินเนอร์สุดหรูยังตึกสูงระฟ้าย่านมหานคร
ทว่าพอแต่งตัวเสร็จ กำลังจะออกจากห้องพลางเปิดค้นแผนที่ในมือถือ กลับเริ่มมีอาการแปลก ๆ เหมือนมีคลื่นยักษ์ก่อตัวขึ้นในท้อง มันทั้งปั่นป่วนทั้งชวนให้ขย้อนมื้อกลางวันที่กินเข้าไป แต่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าอาการบิดมวนที่เกิดขึ้นภายในกระเพาะ
หรือจะท้องอืดนะ...แอร์-เอ็กซ์2F[1] สักเม็ดก็แล้วกัน
ราเชนทร์เดินไปหยิบกล่องยาสามัญประจำบ้านตรงตู้เหนืออ่างล้างจานในครัว แกะซองโยนยาเม็ดใส่ปากเคี้ยวบรรเทาอาการ แล้วเลิกสนใจเสียงร้องโครกครากที่ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ ในช่องท้อง
ชายหนุ่มขับรถหรูออกจากคอนโด มุ่งหน้าไปสถานที่นัดหมายกับอรพิณ ดาราสาว รับเธอเสร็จค่อยเดินทางไปดาดฟ้าโรงแรม
ไหน ๆ คู่ควงที่เขาจะเอามาใช้เป็นไม้กันแม่ก็เป็นถึงดารา อีกทั้งตัวเขายังฐานะร่ำรวย จะจองห้องอาหารธรรมดา บรรยากาศทั่ว ๆ ไปก็กระไรอยู่ ขอเล่นใหญ่ปิดโซนวีไอพีไปเลยแล้วกัน
“อย่าลืมที่นัดแนะกันไว้ล่ะ ถ่ายมันทุกช่วงเท่าที่นายจะทำได้ ที่สำคัญห้ามให้เห็นหน้าฝ่ายชายเด็ดขาด” อรพิณ ดาราสาวระดับเอคลาส ย้ำกับปาปารัสซีที่ตนจ้างมาให้แอบเก็บภาพคู่ควง ผู้เป็นถึงที่ปรึกษาโรงแรมดัง เพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมเปิดตัว ไม่ยอมให้เป็นข่าว ไม่ยอมให้เธอพูดถึง ไม่มันทุกสิ่งอย่าง...
ไม่รู้จะห้ามอะไรหนักหนา เธอจึงต้องเล่นไม้นี้ ไม่อย่างนั้นโดนผู้หญิงอื่นคาบไป เธอก็แย่น่ะสิ
สั่งงานเสร็จก็หมุนตัวเดินออกไปยืนรอหน้าอาคารต้นสังกัด ครั้นเห็นรถของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอด อรพิณขยับจะก้าวออกไปขึ้นรถ กลับถูกเสียงร้องเรียกจากด้านหลังรั้งไว้เสียก่อน
“คุณอ้อครับ แล้วค่าจ้างเก็บภาพล่ะครับ” ปาปารัสซีคนเดิมกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามมา พร้อมแบมือทวงค่าจ้างล่วงหน้าในทันที
“เอาไปเท่านี้ก่อนที่เหลือค่อยว่ากัน ฝากด้วยนะขอข่าวปัง ๆ พรุ่งนี้เช้า” อรพิณหยิบเศษเงินไม่กี่ร้อยที่ควานเจอในกระเป๋ายื่นให้กับเขา แล้วรีบจากไปทันที ด้วยกลัวว่าอยู่นานเดี๋ยวแผนแตก
เธอเดินนวยนาดไปเคาะกระจกรถ ส่งยิ้มยั่วยวนให้ชายหนุ่ม ก่อนเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่ง มโนว่าตัวเองคือตุ๊กตาหน้ารถของผู้ชายคนนี้ และที่ตรงนี้มีไว้เพื่อเธอเท่านั้น
“เมื่อกี้ใครเหรอครับ” ราเชนทร์เอ่ยถามเพราะเห็นเธอยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างท้วม สะพายกระเป๋ากล้อง ภาพลักษณ์คล้ายโอตาคุที่เห็นกันบ่อย ๆ
“อ๋อ พอดีอ้อฝากน้องเขาซื้อกาแฟให้ตอนซ้อมบท แล้วเพิ่งมีโอกาสเอาเงินให้น่ะค่ะ” เธอพูดพลางเอื้อมมือไปลูบหน้าขาชายหนุ่ม พร้อมยื่นหน้าเข้าไปคลอเคลียด้วยความออดอ้อน
“วันนี้คุณมีเซอร์ไพรส์อะไรให้อ้อไหมคะ” เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ อรพิณจึงคาดหวังเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปยังเบาะหลัง หยิบถุงของขวัญไม่เล็กไม่ใหญ่ยื่นให้
“สุขสันต์วันเกิดครับ” อรพิณถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ เมื่อเห็นว่าถุงนั้นเป็นของเครื่องประดับแบรนด์เนม ที่เพียงกำไลข้อมือเล็ก ๆ วงหนึ่งก็มีมูลค่าถึงหลายแสนบาทเลยทีเดียว
พอแง้มดู ก็พบว่ามีซองหนังกลับสีสวยทรงสี่เหลี่ยมนอนนิ่งอยู่ในถุง อรพิณอดไม่ได้ที่จะหยิบมาเปิด
“นี่มัน...ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ เชนรู้ใจอ้อตลอดเลย” ของชิ้นนั้นคือสร้อยข้อมือแบรนด์ดัง เป็นสร้อยทองสิบแปดเค ประดับจี้สี่ชิ้นทำจากทองฝังอัญมณีหลากสี เธอมั่นใจว่าสร้อยเส้นนี้ราคาต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท อรพิณลิงโลดขึ้น
“แล้วนี่คุณจะพาอ้อไปไหนเหรอคะ” ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องพาเธอไปดินเนอร์หรู ก็ยังไม่วายเอ่ยปากถามเพื่อเอาใจคนให้ของขวัญราคาแพง
“ไว้ถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”
เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ การจราจรบนท้องถนนค่อนข้างติดขัด จึงทำให้ทั้งคู่ต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนนร่วมกันนานกว่าปกติ
อรพิณที่กำลังนั่งส่องรูปในไอจีชาวบ้านแก้เบื่อเหลือบมองคนขับข้าง ๆ เป็นระยะ ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า หันมาจ้องหน้าชายหนุ่มจนเขาต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ราเชนทร์สังเกตเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่ส่งมา
“ก็...เชนอุตส่าห์ซื้อของแบรนด์ดังมาให้ทั้งที...อ้อก็ควรจะตอบแทนบ้าง” ระหว่างพูดหญิงสาวยื่นมือไปลูบไล้บริเวณหน้าขาของเขา
“ตอบแทนยังไงดีน้า...” มืออรพิณเริ่มอยู่ไม่สุข จากที่คราแรกเพียงแค่ลูบไล้บริเวณนั้น ก็เปลี่ยนมาเป็นบีบคลึงและเริ่มไต่เลื้อยขึ้นมาถึง ‘ตัวตน’ ของชายหนุ่ม
หญิงสาวส่งสายตาเย้ายวน ขบเม้มริมฝีปากล่าง บอกใบ้เป็นนัยว่ากำลังจะทำอะไรซุกซน เธอเริ่มปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงของชายหนุ่มแล้วล้วงมือเข้าไป
“ซนจริง ๆ” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ราเชนทร์ก็ปล่อยให้เธอหยอกล้อกับความเป็นชายที่ซุกซ่อนอยู่ใต้กางเกง
ดาราสาวเห็นดังนั้นจึงพยายามมอบความหรรษาแก่ชายหนุ่ม
ทว่าคลื่นความร้อนประหลาดที่ก่อตัวขึ้นภายในช่องท้อง ทำให้แทนที่อารมณ์ของชายหนุ่มจะจุดติด กลับมอดดับลงเสียอย่างนั้น
ทำไมร้อนท้องแบบนี้ ราเชนทร์กำพวงมาลัยแน่น เหงื่อผุดซึมตามไรผม เขาเริ่มนั่งไม่ติด ขยับตัวยุกยิกจนอรพิณสังเกตได้
[1] Air-X ชื่อทางการค้าของยาขับลมลดอาการอืดแน่นท้องยี่ห้อหนึ่ง
“นั่งไม่สบายเหรอคะ ให้อ้อปลดเข็มขัดนิรภัยให้ก่อนไหม” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำตามที่บอกก็ถูกขัดขวางเสียก่อน“อ้อครับ ผมขับรถอยู่” อันที่จริงเขาอยากให้เธอทำต่อ แต่อยู่ ๆ ก็เกิดรู้สึกปั่นป่วนพะอืดพะอม เกรงว่าเมื่อหญิงสาวเดินหน้าลงมือปรนเปรอเขาจนถึงที่สุด แทนที่จะเสร็จสมอารมณ์หมายอาจกลายเป็นอย่างอื่นเล็ดออกมาแทนใช่ เขาปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำมาก!“ให้อ้อทำให้นะคะ” เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาจะครอบครองความเป็นชายตรงหน้า ทว่าชายหนุ่มกลับดึงตัวเธอขึ้น แน่นอนว่าการกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย“ไว้ค่อยต่อนะ” เขาบอกก่อนพยายามทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปกับการขับรถ โดยไม่ใส่ใจหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมาด้วยอีกเลยพอถึงที่หมาย อาการที่เขาพยายามสะกดกลั้นเอาไว้ก็เหมือนจะเริ่มหายไป หวังเพียงแต่ว่าจะสามารถทนได้จนกระทั่งถึงบ้านด้วยนิสัยรักสะอาดและกลัวเชื้อโรค ราเชนทร์ไม่ชอบใช้ห้องน้ำสาธารณะ เมื่ออาการหายไปเขาจึงรู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอกชั่วคราวลิฟต์โรงแรมพาทั้งคู่มาส่งยังชั้นห้องอาหารสุดหรู มองเห็นทิวทัศน์เมืองหลวงแทบจะเรียกได้ว่าสามร้อยหกสิบองศาบริกรเดินเข้ามาต้อนรับพร้อมสอบถามชื่อ ก่อนนำทั้งคู่ไปยังโซน
Card for him: Knight of Swords – เสียสมดุล ไร้การควบคุม พุ่งแรงไปข้างหน้า...หลังจากกินมื้อกลางวันกับเพื่อนเสร็จ ราเชนทร์เดินทางกลับคอนโดมิเนียมที่ต่อไปนี้อาจไม่ค่อยได้แวะมาอีกตามประสาคนมีอันจะกิน เขาร่วมลงทุนทำโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูใจกลางเมืองกับกลุ่มเพื่อนสนิท โครงการนี้แบ่งออกเป็นสองโซน สำหรับโซนลักชัวรีด้านหน้ามีไว้ให้คนจับจองเป็นเจ้าของ ส่วนเขาที่มีความต้องการพิเศษกว่าชาวบ้าน ไหนจะอยากได้พื้นที่กว้าง สังคมอันเป็นส่วนตัว เลยเป็นที่มาของโซนไพรเวต สำหรับตนเองและเพื่อนอีกจำนวนสิบหลังเมื่อนึกถึงบ้านหลังใหม่ เขายกหูโทรศัพท์ต่อสายหาคุณแม่สุดที่รัก[ฮัลโหล ไม่คิดไม่ฝันว่าลูกจะโทรหาแม่] ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร เสียงกระแนะกระแหนก็ลอดสายมากระทบโสตประสาทของชายหนุ่ม“มีเรื่องจะรบกวนแม่น่ะครับ ผมถึงได้โทรหา” ว่าเข้าให้ ประโยคต่อมาแม่ต้องงอนแน่ ๆ[ใช่สิ แม่มันไม่มีค่า ไม่มีใครคิดถึง] นั่นปะไร ทั้งที่รู้ว่าแม่จะงอน เขาก็ยั้งปากไม่ทันอยู่ดี“คิดถึงสิครับ มีแม่คนเดียวที่จะช่วยผมได้” ดูทรงแม่เริ่มจะโวยวาย คงต้องพอเท่านี้ก่อน[มีอะไรก็ว่ามา ตอนนี้แม่กำลังจะออกไปกับลูกสาวสุดที่รัก] แม่ยังคงเหน็บแนมเข
“ฉ่ำมากเลยครับ” ราเชนทร์ตอบกลับ แต่สายตายังคงจดจ้องอยู่บนรูปหน้าเรียวสวย ริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปกลอสเบาบางช่างดูฉ่ำวาวราวกับหอยที่เขาเพิ่งจะซดเข้าปากไปฉ่ำเรอะ...ใกล้เน่าสิไม่ว่า พุฒิตาคิดในใจ ก่อนจะเหลือบไปเห็นสายตาของรองประธานหนุ่มอย่างเมฆินทร์ ซึ่งหันมาจ้องเหมือนกำลังจับผิด เล่นเอาเธอถึงกับสะดุ้งแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง เริ่มแสดงการทำเมนูของหวานปิดท้ายแทน“ขออนุญาตแทนตัวเองว่าเตยนะคะ เมนูของหวานปิดท้ายสำหรับมื้อนี้จะเป็นโกลเด้นสวีทมัทฉะ ซิกเนเจอร์ของห้องอาหารเราค่ะ ผงชามัทฉะนี้สั่งนำเข้าจากเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งชาเขียว ขนมนี้จึงเป็นเมนูที่หาทานได้ยากทีเดียวค่ะ” เธอท่องตามสคริปต์ที่จำมาพรีเซนต์ลูกค้าทุกครั้งที่มีออเดอร์เมนูนี้ระหว่างอธิบาย พุฒิตาจัดแจงวางแม่พิมพ์ลงบนถาด ตักไอศกรีมมัทฉะมาปั้นแต่งขึ้นเป็นรูปหัวใจ จากนั้นจึงนำมันม่วงใส่ลงอุปกรณ์บดมือ ทำการปั่นมันม่วงออกมาเป็นเส้นสายโรยครอบไอศกรีมทรงหัวใจอีกชั้นหนึ่ง แต่งด้วยน้ำตาลไอซิงและแผ่นทองคำเปลวด้านบนเล็กน้อยให้สมกับชื่อโกลเด้นสวีทมัทฉะ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย“เชิญรับประทา
สามเดือนต่อมา...Card of the Day: The Moon – ความสับสนลังเล ความกังวล ลางสังหรณ์บรรยากาศช่วงเที่ยงภายในห้องอาหารนานาชาติของโรงแรมชื่อดังย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหล เมื่อลูกค้าต่างตบเท้ามาใช้บริการพร้อมกัน บ้างต้องการอาหารไทย บ้างต้องการอาหารอิตาเลียน อย่างเช่นลูกค้ารายล่าสุด เห็นว่าเป็นคนสำคัญมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของโรงแรมแห่งนี้ และมีความต้องการพิเศษกว่าคนอื่น“เชฟกิ่งคะ มีออเดอร์เชฟ ซีเล็กเต็ด เอ็กซ์พีเรียนซ์ ไดนิ่ง0F [1] สำหรับสองที่จากบอสค่ะ” เสียงกระหืดกระหอบของเฟยเฟยเด็กเสิร์ฟประจำโซนวีไอพี วิ่งเข้ามาพร้อมประโยคที่ทำให้ทุกคนต้องชะงักเมนูเชฟ ซีเล็กเต็ด เอ็กซ์พีเรียนซ์ ไดนิ่ง คือเมนูพิเศษที่จะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์สและไม่ได้มีทุกวัน เนื่องด้วยวัตถุดิบที่ใช้สำหรับประกอบเมนูนั้นมีจำกัด ดังนั้นทางห้องอาหารแห่งนี้จึงจัดเพียงสามวันต่อสัปดาห์ และต้องจองเข้ามาเท่านั้น“แต่วันนี้เราไม่ได้เปิดเมนูนี้นะ” กิ่งกาญจน์เชฟประจำห้องอาหารกล่าวเสียงติดหงุดหงิดอยู่ในที“หนูพยายามบอกแล้ว แต่บอสยังยืนยันว่าจะเอาเซตนี้ค่ะ” เฟยเฟยพยายามชี้แจง ได้ยินดังนั้น กิ่งกาญจน์จึงหันไปหยิบกระด
“ไม่เป็นไรพี่เตรียมไว้หมดแล้ว เราแค่ตรวจนับดูก็พอ ไม่ต้องห่วง” กิ่งกาญจน์ยิ้ม“แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ”“เดี๋ยวพี่ไปหยิบรายละเอียดก่อน” ว่าแล้วกิ่งกาญจน์ก็เดินผละไปหยิบแฟ้มเอกสารมาให้เธอดูหญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนกลับไปทุ่มความสนใจกับการทำรีซอตโต้ล็อบสเตอร์ที่ต้องใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง ผ่านไปพักใหญ่กิ่งกาญจน์จึงกลับมาพร้อมแฟ้มเอกสารสีดำหนาเตอะ ภายในสอดแทรกด้วยกระดาษบิลหลากหลายสี“เสร็จแล้วยังเตย”“ตอนนี้เสิร์ฟหมดครบคอร์สแล้วค่ะ” พุฒิตาเก็บขวดเครื่องปรุงต่าง ๆ กลับเข้าที่ แล้วขยับจะเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำเมนูให้โต๊ะอื่นต่อ“ถ้าอย่างนั้นมานี่ก่อน ตรงนี้ให้คนอื่นทำแทนแล้วกัน” กิ่งกาญจน์สั่งงานให้อีกคนเข้ามารับช่วงต่อ จากนั้นเดินนำพุฒิตาไปที่โต๊ะประชุม กางแฟ้มหนาออก แล้วเริ่มอธิบายรายละเอียดการควบคุมดูแลการจัดส่งและตรวจสอบวัตถุดิบให้หญิงสาวฟัง โดยไม่ลืมเน้นย้ำตลอดว่าเพราะตนจะเกษียณแล้ว จึงอยากส่งต่องานบางส่วนให้รุ่นน้องหน้าใหม่ได้มีโอกาสเรียนรู้ไว้“หืม...แล้วไม่ต้องตรวจสอบวัตถุดิบเลยเหรอคะ” พุฒิตาถามขึ้นเมื่อเชฟบอกว่า เธอมีหน้าที่เพียงนับ ชั่ง ตวง วัด ไม่ต้องคัดเลือกอะไรใด ๆ เพราะเตรียมทุ
พุฒิตาได้ฟังแล้วอารมณ์พุ่งปรี๊ดควันออกหู โทษเธอคนเดียวซะงั้น มือถือเธอแตกเชียวนะไอ้คนใจดำ! ไอ้...รถถังจอมเกะกะ! เธอเดินของเธอมาหลายปี ไม่เคยชนใครสักครั้ง! (มั้ง) “ฉันก็เดินของฉันปกติ คุณนั่นแหละขวางทาง!”หญิงสาวสูดลมหายใจลึก คนกำลังเครียดว่าจะโดนเชิดเงินลงทุนรึเปล่าอยู่ ยังมาชนใส่อีตาจอมกวนนี่อีก หน้าจอมือถือก็ร้าว เสียเงินซ่อมอีก! แต่จะอยู่เถียงนานก็ไม่ได้ เดี๋ยวเข้างานสาย!“ฉันไม่มีเวลาจะมาเถียงกับคุณหรอกนะ เพราะงั้นช่วยหลบด้วยค่ะ”“แล้วทำไมผมต้องหลบ” เขากอดอกมองหน้าเธอราวกับต้องการท้าทายว่าเธอจะทำอะไรได้ถ้าเขาไม่หลบเสียอย่างชะ ชะ ช้า ไอ้หมอนี่...ถึงตัวจะเล็กกว่าเกือบสามสิบเซนติเมตร แต่หญิงสาวกลับประจันหน้าสบตาสู้ไม่ถอย...แม้จะรู้ว่าครึ่งหนึ่งเธอเป็นฝ่ายผิดเองก็ตาม...โอเค เธอผิดเองก็ได้ แต่ยังไงท่าทางและคำพูดหมอนี่ก็ไม่น่าเอ่ยคำขอโทษอยู่ดี!“ก็คุณยืนขวางทางเดินเข้าออกอยู่นี่” พุฒิตายืนกราน เพราะในมุมมองของเธอ อีตารถถังนี่บังทางมิดได้เลย“ผมว่าทางเดินนี่กว้างมากเลย และคิดว่าไม่จำเป็นต้องขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว” ชายหนุ่มยังคงพูดด้วยท่าทีถือดีตามเดิม“โอเค งั้นฉันหลบเองก็ได้ เชิญคุณย







