Beranda / รักโบราณ / รักนี้ ที่มอดไหม้ / บทที่ 45 เกราะมนุษย์

Share

บทที่ 45 เกราะมนุษย์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-01 21:44:14

หลี่หยางพึ่งขึ้นครองราชย์ได้เพียงวันเดียวราชกิจยังมิได้เรียนรู้ กลับมีข่าวแคว้นซีหนานที่อยู่ติดกับซู่หนานทางตอนใต้ ยกทัพมาประชิดเมืองเทียนเถา เมืองหน้าด่านของซู่หนานด้วยกำลังพลนับแสนนาย

บัดนี้ภายในท้องพระโรงเหล่าขุนนางต่างถกเถียงเรื่องการเดินทัพ ความเห็นของฝ่ายบุ๋นกับฝ่ายบู๊ขัดแย้งมิอาจหาทางออกร่วมกันได้

“ทูลฝ่าบาท เราควรส่งแม่ทัพและทหารไปปกป้องชายแดนฝั่ง

ซีหนานเพิ่มพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพโจวผิงร้องขอ

“ซู่หนานพึ่งฟื้นตัวได้ไม่ถึงปี จะเกณฑ์กำลังไพร่พลจากไหน

มาร่วมทัพเล่า” เสนาบดีสุ่ยโต้แย้ง

“เช่นนั้นย้ายทหารจากเทียนกั๋วไปเสริมทัพได้หรือไม่” เจ้ากรม

โยธาเสนอ

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากเทียนกั๋วคิดโจมตีเล่า ถึงแม้

ตอนนี้เราจะร่วมมือด้านการค้ากับเทียนกั๋วแต่จะชะล่าใจไม่ได้” รองแม่ทัพเจียวซื่อข่ายโต้แย้ง

“เช่นนั้นจะทำอย่างไรเล่า ทหารในเมืองหลวงมีเพียงสามหมื่น

นายเท่านั้น” เจ้ากรมพิธีการกล่าวด้วยความกังวล

“ข้าจะนำทัพเอง” หลี่หยางที่นิ่งฟังมานาน กล่าวขัดการโต้เถียงของทั้งสองฝ่าย

“ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทนำทัพเองแล้วเมืองหลวงจะ

ทำเช่นไร” เจ้ากรมพิธีการทูลคัดค้าน

“ให้องค์ชายเจี้ยนหยางกับสุ่ยไทเฮ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 51 ชีวิตที่เติมเต็ม

    หน้าตำหนักหนิงอันบัดนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เหล่านางกำนัลวิ่งวุ่นแทบจะชนกันล้ม หลี่หยางที่ถูกขวางไว้นอกตำหนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “ฝางกงกงเหตุใดข้าจะเข้าไปในตำหนักไม่ได้” หลี่หยางที่จ้องมองเข้าไปในตำหนัก พลางกล่าวถามกับขันทีข้างกาย “ทูลฝ่าบาท ฮองเฮากำลังจะคลอดตามประเพณีห้ามบุรุษเข้าไปนะพ่ะย่ะค่ะ” “แต่ว่า.......” หลี่หยางยังอยากโต้แย้งต่อ “ไม่มีแต่ใด ๆ ทั้งนั้น ถึงเจ้าเข้าไปก็ช่วยสิ่งใดไม่ได้” ไทเฮาที่ไม่รู้เสด็จมาตั้งแต่เมื่อไหร่กล่าวห้ามฝ่าบาทด้วยท่าทีจริงจัง ทำให้หลี่หยางไม่กล้าเอ่ยโต้แย้งอีก “คลอดแล้ว! คลอดแล้วเพคะ เป็นองค์ชายเพคะ” เสียงของเจียลี่ดังออกมาจากตำหนัก ก่อนที่ร่างนางจะโผล่ออกมารายงานข้างนอกเสียอีก หลี่หยางตื่นเต้นดีใจจนมือไม้สั่น ใบหน้าบัดนี้ของเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม รีบรับตัวโอรสของตนที่ถูกห่อด้วยผ้าคลุมลายมังกรจากเจียลี่ พลันทารกน้อยก็เปล่งเสียงร้องเป็นครั้งแรก เสียงร้องนั้นก้องกังวาน หนักแน่นและมีพลังอย่างน่าประหลาด

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 50 หลังการหลับใหล

    หนิงอวี่ที่หลับใหลกลับได้ยินเสียงที่คุ้นชินเรียกนางอีกครั้ง กลับมา กลับมา เสียงเบาของสตรีผู้นี้ทำให้นางต้องปรือตาขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้สิ่งแวดล้อมรอบตัวของนางกลับเปลี่ยนไป แสงสว่างจากหลอดไฟบนห้องสีขาวสะอาด ผู้คนในชุดสีเขียวเข้มกำลังใช้เครื่อง มือแพทย์หลายชิ้นยื้อชีวิตของใครบางคนบนเตียงผ่าตัดอย่างเคร่งเครียด ทำให้หนิงอวี่ตกใจกับสถานที่แห่งนี้ เหตุใดนางถึงอยู่ในยุคปัจจุบันกัน แล้วเหตุใดถึงโผล่มาอยู่ในโรงพยาบาลเช่นนี้ “ฉู่เสี่ยวเสี่ยว” เสียงที่คุ้นชินเรียกชื่อนางจากด้านหลัง หนิงอวี่รีบหันไปหาเสียงนั้นในทันที เมื่อสายตาประสานกับดวงตาที่คุ้นเคยร่างบางก็แข็งทื่อในทันที “นี่ท่าน!” หนิงอวี่ไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดก่อน สตรีเบื้องหน้าภายใต้อาภรณ์สีขาวทั้งตัวยืนยิ้มให้กับนาง ใบหน้าของสตรีผู้นั้นเหมือนกับใบหน้าของนางทุกประการ “ฉู่เสี่ยวเสี่ยวข้าคือเจ้า แลเจ้าคือข้า หากแต่เราสองอยู่กันคนละภพชาติเท่านั้น” “ท่านคือ..” หนิงอวี่ย้ำถามสิ่งที่ตนสงสัย “ข้าคือภูตสวร

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 49 เพราะรัก

    แม้การรอดพ้นจากความตายของหนิงอวี่จะเป็นความปรารถนาเดียวของหลี่หยาง แต่การสูญเสียกระบี่เทพก็ทำให้ราชสำนักเกิดข้อพิพาทอีกครั้ง ขุนนางฝ่ายเสนาบดีสุ่ยไม่พอใจกับการสูญเสียนี้ “บัดนี้สูญเสียกระบี่เทพแล้ว หากแคว้นอื่นมารุกรานจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีสุ่ยทูลถามอย่างไม่เกรงกลัว “ก็นำทหารออกสู้รบอย่างไรเล่า” แม่ทัพหู่โต้แย้งแทนฮ่องเต้ “กระหม่อมมิเห็นด้วยที่ฝ่าบาทนำกระบี่เทพแลกกับการคืนชีพฮองเฮา ถึงอย่างไรพระองค์ควรเห็นราษฎรมาก่อน” รองเจ้ากรมโยธาเสี่ยงตายทูลทัดทาน “เช่นนั้นรองเจ้ากรมโยธาเห็นผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นฮ่องเต้กว่าเราก็เสนอมาเถิด ข้าไม่มีวันนำชายาของตนแลกกับสิ่งใดทั้งสิ้น”หลี่หยางกล่าวอย่างไม่ถือโทษ แต่น้ำเสียงนั้นกลับหนักแน่นจนใต้เท้าฉีไม่กล้ากล่าวต่อ “ข้าจะปกป้องแคว้นด้วยกำลังที่ข้ามี หาใช่อาวุธเทพที่ต้องแลกด้วยชีวิตฮองเฮาหรือผู้ใด หากใต้เท้าฉีคิดว่าข้าไม่เหมาะสมโปรดเสนอฮ่องเต้พระองค์อื่น” สายตาเยือกเย็นมองไปยังรองเจ้ากรมโยธา ฉีเหิงรองเจ้ากรมโยธาเมื่อเห็นฝ่าบาททรงกริ้วก็หัน

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 48 ยอมแลกทุกสิ่ง

    หลี่หยางมุ่งตรงไปที่หอกระบี่ หากไม่มีผู้ใดให้คำตอบกับเขาได้ก็มีเพียงหอกระบี่นี้เท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ ชั้นบนสุดของหอกระบี่ยังคงเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง กระบี่เทพที่ล่องลอยบนบัลลังก์น้ำแข็ง โดยมีลูกแก้วดวงจิตสถิตอยู่กลางห้องหลี่หยางเรียกกระบี่มาหาตนพลางชี้ไปยังดวงจิตเทพที่ล่องลอยอยู่ “จงให้คำตอบข้า เหตุให้ฮองเฮาของข้าจึงเป็นเช่นนั้น” สายตาเยือกเย็นหมายจะทำลายดวงจิตนั้นให้สิ้น หากไม่ให้คำตอบที่เขาต้องการ “จ้าวหลี่หยางคำตอบนั้นข้าย่อมให้เจ้าได้ การปลอบประโลมดวงจิตเทพต้องใช้ไอเซียนของภูตสวรรค์ เว่ยหนิงอวี่เป็นเพียงมนุษย์ที่มีไอเซียนของภูตสวรรค์เท่านั้น เมื่อร่างดูดซับพลังฝั่งมารมากเกินไปจะต้องขจัดพลังนั้นออก แต่เว่ยหนิงอวี่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ย่อมไม่สามารถมีพลังเช่นนั้นได้ ร่างกายและจิตวิญญาณนางจึงค่อย ๆ ดับสลาย” กลางอกของหลี่หยางเบาโหวงเมื่อได้ยินสิ่งที่ดวงจิตเทพบอก เขาเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้ มือที่กำกระบี่แน่นเริ่มสั่นไหว “แล้วเหตุใดก่อนหน้าเจ้าจึงไม่บอกข้า” ความเคียดแค้นเข้าเกาะกุมหัวใจที่แตกสลายนั้น

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 47 ปลอบประโลมดวงจิตกระบี่เทพ

    หลี่หยางยังคงเฝ้ามองการบำเพ็ญของหนิงอวี่เพื่อปลอบประโลมกระบี่เทพ ครั้งนี้นางใช้เวลาหลายชั่วยามกว่าจะทำให้ดวงจิตกระบี่เทพสงบลงได้ เหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมบ่งบอกว่าเจ้าตัวเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย “หนิงอวี่ เป็นอย่างไรบ้างเหนื่อยมากใช่หรือไม่” เมื่อหนิงอวี่ลืมตาขึ้น หลี่หยางก็รีบเข้าไปประคองในทันที “หม่อมฉันทนไหวเพคะ” นางยังคงยิ้มกว้างให้เขา แม้ใบหน้าตอนนี้ดูซีดเซียวเพียงใดก็ตาม “เช่นนั้นพักผ่อนก่อนเถิด พรุ่งนี้ค่อยเดินทางกลับวัง” “อือ” นางพยักหน้าเชื่อฟังร่างบางถูกช้อนขึ้นวางไว้บนเตียงนอน เพียงไม่นานหนิงอวี่ก็เข้าสู่นิทราอย่างรวดเร็ว จนทำให้หลี่หยางประหลาดใจว่าเหตุใดถึงหลับได้ง่ายดายเช่นนี้ ตลอดเส้นทางในการเดินทัพกลับเมืองหลวง หนิงอวี่เอาแต่หลับเป็นส่วนใหญ่ ทำให้หลี่หยางที่นั่งอยู่ด้านข้างหวาดกลัวภายในใจโดยที่เจ้าตัวไม่สามารถหาเหตุผลได้ ทำได้เพียงเป็นหมอนให้นางหนุนตลอดทาง “หนิงอวี่ถึงวังแล้ว เจ้าตื่นเถิด” เสียงทุ้มต่ำเจือไปด้วยความห่วงใยปลุกนางให้ตื่นจากนิทรา หนิงอวี่ปรือตา

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 46 ศึกสุดท้าย

    ภายในห้องลับหนิงอวี่ยังคงนั่งบำเพ็ญโดยมีกระบี่เทพลอยอยู่เบื้องหน้าของนาง ด้านหลังมีหลี่หยางคอยเฝ้ามองอยู่ไม่ห่าง ไม่รู้ด้วยเหตุใดทุกครั้งที่นางต้องปลอบประโลมดวงจิตกระบี่เทพ ตัวเขาเองกลับรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งภายในใจกลับหวาดกลัวอย่างน่าประหลาด ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ บัดนี้หนิงอวี่รู้สึกว่ากระบี่ไม่ได้ร้อนดั่งไฟเผาเช่นก่อนหน้า หากแต่นางกลับรู้สึกเหนื่อยกว่าครั้งแรกที่ปลอบประโลมดวงจิตกระบี่มาก อาจเป็นเพราะการเร่งเดินทางมายังเทียนเถาทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า “หนิงอวี่ เป็นอย่างไรบ้าง” หลี่หยางที่สัมผัสได้ถึงดวงจิตที่สงบของกระบี่รีบเข้ามาประคองชายาของตน “ไม่เป็นไรเพคะ เพียงแค่ครั้งนี้หม่อมฉันรู้สึกว่าใช้เวลานานขึ้นกว่าจะทำให้ดวงจิตกระบี่สงบลงได้” “ครั้งต่อไปข้าไม่ใช้กระบี่เทพแล้วดีหรือไม่” สายตาเป็นห่วงส่งมายังนาง “ได้อย่างไรกัน ศึกครั้งนี้หากไม่อัญเชิญกระบี่เทพด้วยกำลังพลที่น้อยกว่าถึงสามเท่า ทหารจะต้องล้มตายนับไม่ถ้วนแน่” หนิงอวี่มองไปยังหลี่หยางด้วยสายตาไม่เห็นด้วย “แต่ข้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status