LOGINในที่สุดงานกลุ่มของทั้งสามคนก็เสร็จเรียบร้อยทีนี้ก็เหลือแค่คะแนนหลังจากที่ส่งอาจารย์แล้ว.. และมันก็เป็นงานชิ้นสุดท้ายของเทอมนี้ด้วยหลังจากนี้เธอจะไม่ได้เจอพวกเขาแล้ว… เย้..
“ แก้ว.. เย็นนี้ว่างไหม?” เอกพลรีบถามแก้วออกไปทันทีเขาอยากจะชวนแก้วไปนั่งกินนมปั่นสักหน่อย.. เขาอยากมีช่วงเวลาที่ดีระหว่างเขากับแก้วบ้าง.. เขาอยากย้อนความหลังและระลึกความหลังในครั้งก่อน.. ตอนนั้นเขากับแก้วไปนั่งกินนมปั่นที่ร้านข้างมหาลัย.. เขาสารภาพรักกับแก้ว.. แล้วแก้วก็ตอบรับเขา.. แก้วยอมเป็นแฟนกับเขา..
“ ว่างค่ะ.. มีอะไรรึเปล่าคะ?” ช่างเถอะในเมื่อมันเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะไ้ด้เจอเขาแล้ว.. ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ทำให้เธอต้องคิดหนักแน่นอน.. เพราะหลังจากนี้.. ทางใครทางมัน..
“ พี่ว่าจะชวนแก้วไปกินนมปั่นข้างมหาลัยน่ะ.. ไปกับพี่นะ… เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง..” เอกพลดีใจที่แก้วตอบออกมาว่าว่างเพราะนั่นหมายถึงว่า.. เขาจะได้สารภาพรักกับแก้ว…
“ค่ะ.. ก็ได้.. งั้น.. เลิกเรียนไปเจอกันที่ร้านเลยนะคะ แก้วไปก่อนนะคะเดี๋ยวเข้าไม่ทันคาบของอาจารย์รัศมี..” เมื่อพูดจบเธอก็รีบเพ่นทันที…
“ ได้ครับ.. แล้วเจอกันนะ..” เอกพลยิ้มออกมาด้วยความดีใจ.. แก้วไม่ปฏิเสธเขา.. นั่นแสดงว่า.. ทุกอย่างมันใกล้จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว…
หลังเลิกเรียน….
เสียงนักศึกษาชายหญิงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน.. หลายคนต่างพากันเดินไปยังทิศทางเดียวกันหมดนั่นก็คือหน้ามหาลัย… บางคนก็ไปรอรถกลับบ้าน.. บางคนก็ไปหาที่นั่งดื่มนั่งกินกันตามประสาวัยรุ่น…
กรุงกริง…
เอกพลที่เห็นแก้วเดินเข้ามามันก็ทำให้เขาถึงกับยิ้มกว้างทันที.. แต่เมื่อเขามองเลยไปยังด้านหลังของแก้วแล้วมันก็ทำให้เขาถึงกับต้องหุบยิ้มทันที…
“ อ้าวพี่เอก.. มารอนานรึยังคะ.. มาๆพวกแกมานั่งตรงนี้..” แก้วเรียกเพื่อนของเธออีกสองคนมาด้วยเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่กับเขาแค่สองคน.. เพราะว่าเธอเริ่มจะนึกออกแล้วว่าเขาต้องการพูดอะไรกับเธอ… เธอจะไม่ให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเป็นอันขาด…
“ พี่เอกค่ะนี่นิ่ม นี่อั้ม.. นิ่มนั่นพี่เอกพี่เขาเรียนคณะเดียวกันกับพวกเราและพี่เขาก็จะเลี้ยงนมปั่นพวกเราด้วย… อั้มนั่นพี่เอก.. ” เธอเลือกพูดในสิ่งที่เขาได้พูดกับเธอเอาไว้เมื่อช่วงพักเที่ยงว่าเขาจะเลี้ยงนมปั่น.. แต่เธอไม่ได้บอกว่าเธอจะไปคนเดียวนะ.. ดังนั้นเรื่องนี้เธอไม่ผิด.. และเธอก็คิดว่าเขาไม่น่าจะปฏิเสธได้ด้วยเพราะถ้าเขาปฏิเสธเลี้ยงนมปั่นเพื่อนเธอล่ะก็… ขายหน้าตายเลย..
“ อ๋อๆ ยินดีที่ได้รู้จัก..นั่งสิ สั่งตามสบายเลย..” เอกมีสีหน้าที่ผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาไม่คิดว่าแก้วจะพาเพื่อนมาด้วย.. โธ่.. ชีวิตไปเอก.. ทำไมมันช่างน่าสงสารเยี่ยงนี้นะ.. ไม่เป็นไรทุกอุปสรรค์มันคือสิ่งที่สวรรค์จัดสรรมาให้เขาต้องก้าวผ่านมันเพื่อให้เขาได้คนรักของเขากลับคืนมา.. สู้เว้ยไอ้เอก…
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของทั้งสามคนไม่ได้ทำให้เอกรำคาญใจเลยสักนิด.. เขากลับชอบซะอีก.. นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของแก้วแบบนี้.. หัวเราะที่ไม่ต้องเสแสร้งในแบบฉบับผู้บริหารที่ต้องไปพบเจอผู้คน.. เสียงหัวเราะที่มันมาจากใจและความรู้สึกของเจ้าตัวจริงๆ.. เขาไม่ได้ยินมานานมากแล้ว.. เหตุใดหน๋อ.. เป็นเพราะเหตุใดกัน.. เขาไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะที่สดใสของแก้วแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว…
เมื่อแก้วมองดูนาฬิกาที่ติดอยู่ในร้านเธอก็ต้องบอเพื่อนขอเงเธอว่าคงจะต้องกลับบ้านแล้วเพราะเธอกลัวมันจะมืดค่ำไปกว่านี้และเธอก็ไม่อยากให้เพื่อนของเธอต้องกลับค่ำไปด้วย…
“ เราเรียกเก็บเงินกันเลยดีไหมคะเดี๋ยวมันจะค่ำซะก่อน..” แก้วออกความคิดเห็นออกมาทันที..
“ อ๋อได้สิ.. งั้นพี่เดินไปจ่ายเงินเลยนะ…” เอกพลลุกไปจ่ายเงินทันทีตอนนี้เขาจะได้พูดในสิ่งที่เขารอมาตลอดแล้ว..
“แก้ว…. พี่ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม?” เอกพลรีบเรียกแก้วเอาไว้ก่อนเพราะแก้วนั้นกำลังเดินตามเพื่อนไปน่ะสิดีนะที่เขาเห็นก่อน…
“ มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ พี่ชอบแก้ว.. ชอบจริงๆ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหม?” เอกพลรวมความกล้าของตนเอกอีกครั้งและบอกความในใจของเขาออกไปให้เมียรักของเขาได้รับรู้…
“ เอ่อ.. ขอโทษด้วยนะคะ. แก้วยังไม่พร้อมมีใครค่ะ.. แก้วไม่ได้คิดเรื่องอะไรทำนองนี้ไว้เลย.. แก้วอยากเรียนให้จบแล้วปล่อยใ้ห้ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ.. ขอโทษพี่เอกด้วยนะคะ.. ” ว่าแล้วเชียวดีนะที่เธอพอนึกได้.. เพราะเธอเองก็พึ่งจะนึกเหตุการณ์นี้ออกเมื่อตอนนั่งเรียนวิชาในคาบบ่าย…
“ แก้ว.. พี่ขอโทษ.. ให้โอกาสพี่ได้ไหม.. พี่สัญญาว่าพี่จะเป็นคนดี.. พี่จะรักแก้วคนเดียว…”
เธอถึงกับขมวดคิ้วทันที.. ทำไมเขาพูดแบบนี้ล่ะ.. เขา.. ย้อนกลับมาเหมือนเธอเหรอ?
“ เอ่อ.. พี่เอกพูดแบบนี้… หมายความว่ายังไงคะ? แก้วไม่เข้าใจ?”
“ พี่ชอบแก้วจริงๆ พี่แค่อยากดูแลแก้ว.. ให้โอกาสพี่ได้ดูแลแก้วในฐานะแฟนได้ไหม…” เกือบไปแล้ว..เกือบความแตกไปแล้วไอ้เอกเอ้ย.. คิดให้มากหน่อยสิวะ…
“ คำตอบของแก้วก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ… แก้วยังไม่พร้อมที่จะมีใครในตอนนี้… แก้วอยากจะอยู่กับพ่อกับแม่.. แก้วอยากตั้งใจเรียนและหางานดีๆทำ.. พี่เอกเป็นคนดีนะคะ..(ดีกับผีน่ะสิ) แก้วว่ายังไงพี่เอกก็ต้องเจอคนที่ใช่ในสักวัน.. แก้วขอตัวกลับก่อนนะคะเพื่อนรอแก้วอยู่” ไม่ได้ๆเธอจะต้องรีบไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด…
เอกพลมองตามหลังของเมียรักไปด้วยสายตาระห้อย.. ทำไม.. ทำไมกัน.. การย้อนกลับมาในครั้งนี้ทำไมแก้วเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนนัก.. แก้วไม่ใช่แก้วคนเดิม.. แก้วคนในอดีตเป็นคนพูดง่ายเชื่อฟังเขาเสียขนาดนั้น.. หรือว่าการย้อนกลับมาในอดีตครั้งนี้มันทำให้แก้วนิสัยเปลี่ยนไป.. สวรรค์กลั่นแกล้งให้เขาต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างอย่างนั้นเหรอ? แม้กระทั้งเปลี่ยนให้แก้วเป็นคนใหม่.. แล้วแบบนี้เขาจะทำยังไงดี.. เขาไม่สามารถจีบแก้วเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว.. เขาคงจะต้องหาทางอื่น เขาจะต้องใช้วิธีอื่นในการจีบแก้วแต่จะทำยังไงเล่า
แก้วนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นานสองนาน… เธอทำถูกแล้วใช่ไหม… ใช่แหละเธอทำถูกแล้วเธอจะให้ตัวเองกลับไปอยู่ในวงเวียนแห่งความเศร้านั้นอีกไม่ได้.. เธอจะต้องเป็นแก้วกัลยาคนใหม่.. คนที่ไม่ยอมโอนเอนไปยังทิศทางใดง่ายๆเพียงเพราะเพื่อนสนิทและสามีพูด.. เธอจะเป็นแก้วกัลยาคนใหม่ เธอจะไม่ยอมโง่เป็นครั้งที่สอง….
“ แก้ว… ทำไมทำหน้าแบบนั้น? เป็นอะไร?”
อ่า.. นังงูพิษ…. ตายยากจริง แค่คิดนางก็มาเลยวุ้ย… ตายยากๆ
“ ไม่มีไรหรอกแล้วหนิงล่ะทำไมถึงมาแต่เช้าเลยปกติมาเกือบจะเลยคาบเรียนไปเกือบสิบนาที…”
“ ผิดปกติสิจะเพราะอะไรล่ะ.. เพราะอีพี่เอกอะไรนั่นแหละมันมาหาเราที่หอและบอกให้เรามาช่วยพูดกับแก้ว.. ” น่ารำคาญจริงๆ ทำไมต้องให้เธอมาช่วยเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย.. รู้ไหมเธอไม่ชอบเลย..
“ อ๋อ.. เมื่อวานพี่เขามาบอกว่าชอบเราและขอเราเป็นแฟนแต่เราบอกไปแล้วน่ะว่าเรายังไม่พร้อมมีใคร.. อย่าไปสนใจเลย แต่ถ้าหนิงชอบพี่เขาหนิงก็จีบเลย…” เธอลองหยั่งเชิงพูดดูแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าหนิงมีอาการสะดุดและชะงักไปจังหวะนึง…
“ บ๊า.. ใครชอบกัน.. น่ารำคาญจะตายไป.. ขี้เก็กแบบนั้น.. ใครมันจะไปชอบลง.. แก้วไม่ชอบน่ะดีแล้วเพราะพี่คนนั้นเขาดูเจ้าชู้เงียบยังไงก็ไม่รู้.. ถ้าให้เราเชียร์นะเราเชียร์อีกคน.. แต่ไปกันดีกว่า.. ไปเรียนเถอะ…”
หึ… ทำมาเป็นพูดดีนะนังงูพิษ.. ถ้าฉันไม่รู้ความจริงของแกและอดีตผัวของฉัน.. ฉันก็จะยังคิดว่าแกน่ะคือเพื่อนที่แสนดีของฉันคนนึงเลยล่ะหนิง.. ถ้าวันนั้นฉันไม่เห็นกับตาและได้ยินกับหู… ฉันก็จะไม่รู้เลยว่าเธอและเขา… คือคนที่ทำให้เธอต้องสะอิดสะเอียดกับความรักที่ตาบอด.. ความรักที่เชื่อใจ.. ความรักที่ไว้ใจคนที่เรารักมาเกินไป.. ขอบคุณนะที่เธอก้าวเข้ามาอีกครั้งและทำให้ฉันได้เห็นธาตุแท้ของเธอและของอดีตสามีเธอ..
ลูกน้ำนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินอยู่นานสองนาน.. ตอนนี้อีฟกลับไปแล้วและเธอก็วานให้อีฟไปส่งยายจ๋าของเธอก่อนเธอไม่อยากให้ท่านต้องมานั่งอยู่โรงพยาบาลนานๆเพราะที่นี่มันมีเชื้อโรคมากเกินไปเธอกลัวยายของเธอจะป่วยเอาดังนั้นเธอจึงให้ท่านกลับไปก่อนและเธอจะไปเล่าอาการให้ฟังทีหลัง… แกร๊ก.. ตึกตึกตึก… “คุณหมอคะ.. เขาเป็นยังไงบ้างคะ?” เมื่อทีมแพทย์ที่ก้าวออกมาจากห้องฉุกเฉินเธอก็ปรี่เข้าไปหาคุณหมอและสอบถามอาการทันที.. เพราะเขาอยู่ในนั้นนานเกินไปเธอจึงเป็นห่วงเขามากเหมือนกัน.. เธอไม่รู้หรอกว่ามันลึกมากไหม เธอเห็นแค่เลือดที่ไหลนองอยู่กับพื้น.. แค่นั้นเธอก็กลัวแล้ว.. เธอไม่อยากคิดเลยว่าสภาพที่เธอเห็นในตอนนั้นมันจำสร้างความเจ็บปวดให้กับคนในห้องนั้นมากขนาดไหน.. “คงจะต้องรอดูอาการไปก่อนครับหวังว่าจะไม่ติดเชื้อในกระแสเลือด.. พรุ่งนี้เข้าเยี่ยมได้นะครับวันนี้คงจะต้องงดเยี่ยมไปก่อน.. เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยน่ะครับหวังว่าญาติจะเข้าใจ.. ขอตัวนะครับ..” เธอได้แต่ยืนมองคุณหมออยู่อย่างนั้น.. คำพูดของคุณหมอทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย.. เธอไม่สามารถเข้าเยี่ยมเขาได้นั้นแสดงว่าอาการของเขาน่าจะหนัก มั
ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าเธอถูกเขาตามหนักมาก.. เขาเริ่มเข้าออกบ้านของเธอโดยไม่กลัวว่ายายของเธอนั้นจะตกใจหรือโมโหเขารึเปล่า.. วันนี้ก็เช่นกัน เขาเดินเข้ามาในบ้านของเธอโดยที่เธอไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาแบบนี้.. “คุณยาย.. ทำไมไม่กินอันนี้ครับผมซื้อมาฝากนะครับ เอามาบำรุงร่างกาย และไหนจะโสมอีก.. ฝืนกินไปหน่อยนะครับเพราะกินแล้วมันดีจริงๆ แล้วไหนจะยำบำรุงอีก.. คุณยายไม่กินมันแบบนี้.. ผมเสียใจนะครับ..” และทุกครั้งที่เขามาบ้านของเธอเขามักจะหอบหิ้วของมาฝากยายของเธออยู่เสมอ.. เขาหอบมาเยอะมาก เยอะเสียจนเธอต้องแบ่งไปให้ป้าศรีและป้าข้างบ้านท่านอื่นเอาไปกิน แบบเยอะจนไม่มีที่เก็บ เธอกับยายก็มีกันแค่คนละปากคนละท้องไหม แต่เขานี่สิไม่เข้าใจเขาเล่นหอบมาแบบไม่ถามไม่ดูความพร้อมของบ้านและท้องของเธอเลย… “พอแล้วๆ มันเยอะมากเลยลูก ยายกินไม่หมดหรอก.. ดูสิยายก็ตัวแค่นี้ แล้วยัยหนูอีก.. เรากินไม่หมดหรอก.. แต่ยายก็ขอบใจนะที่ถือมาฝากยายเสมอเลย…” “ยายน้ำก็เหมือนยายผมครับ ผัวกับเมียก็คือคนเดียวกัน.. ” เพี๊ยะ!!! โอ้ย… “พูดอะไรน่าเกลียด.. ไปเลยออกไปเลยนะคุณอัครพล…” น่าเกลียด.. เขามันคนน่าเกลียดทำไมเขาถึงชอบพูดแบบนี
จ๊วบ.. แผล็บๆๆ “ฮ๊าห์.. อ๊าห์… อื้อม์…” เธอฝันไปแน่ๆเลย.. ทำไมมันรู้สึกดีแบบนี้.. ร่างกายของเธอมันเป็นอะไรไปกัน..ทำไมเธอรับรู้ถึงความเสียวจากจากจิมิของเธอ.. มันเหมือนกำลังโดนอะไรสักอย่างที่เปียกและชื้นจู่โจมอย่างหนักหน่วง.. เธอรับรู้ว่าภายในช่องคลอดของเธอมันเสียวและตอดขมิบไปมาอย่างที่มันไม่เคยเป็นมาก่อน.. ความรู้สึกนี้.. มันคืออะไรกันนะทำไมมันรู้สึกดีมากๆเลย… “ไม่ไหวแล้ว.. ไม่ไหวแล้วขอเย็ดแรงๆให้หายเงี่ยนนะเด็กดี.. เป็นเมียพี่นะครับ..” ชึบชึบชึบ.. สวบ.. อ๊ายยย อื้อ.. โอ้ยย… อ๊ะ.. จากเสียงกรีดร้องที่ส่งออกมาจากริมฝึปากบามเจ่อของลูกน้ำตอนนี้แปรเปลี่ยนไปเป็นเสียงครางอันแสนหวานและเย้ายวน.. ตับตับตับ… จ๊วบ… อัครพลทั้งตอกอัดท่อนเอ็นของเขาจนสุดด้าม.. เขาจ้วงแทงลูกน้ำอย่างไม่ยั้งแรง.. ความเงี่ยนของเขามันเกิดกว่าที่จะกักเก็บได้ต่อไป.. เซ็กส์อันเร่าร้อน.. ท่อนเอ็นอันใหญ่โต.. มันผลุบหายเข้าไปในรูรักอันแสนคับแคบ.. เลือดสาวที่เคลือกไปตามท่อนเอ็น.. มันสร้างความภูมิใจให้แก่เขา.. ตับตับตับตับ… “อ๊าห์… มันแน่นลูกน้ำ.. ลูกน้ำจ๋า.. ตอบพี่.. รักพี่ไหม?” สภาพในตอนนี้ของลูกน้ำก็คือถู
จากวันที่เขาจูบและลูบคลำเธอมันทำให้เธอเริ่มระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม… แต่ถึงแม้ว่าเธอจะระวังตัวยังไงมันก็มีบ้างเป็นบางครั้งมันมีเผลอกันบ้าง อย่างเวลาที่เธอต้องช่วยเขายกนั่นหยิบนี่.. เขามักจะถึงตัวเธอบ่อยๆ และวันนี้ก็เป็นวันที่หมอนัดให้ไปดูขาว่าสามารถเอาเฝือก ออกได้รึยัง “มึงไอ้ทัพ.. มึงพูดดีๆนะมึง.. ถ้ามึงพูดไม่ดี.. กูจะบอกแม่มึงว่ามึงได้เมียยุคใหม่มีไข่และยืนเยี่ยว..” เขาต้องเอาเรื่องความชอบของมันมาขู่ไว้ก่อนเพราะที่บ้านของมันยังไม่มีใครรู้ว่าเมียไอ้กองทัพเป็นผู้ชาย.. “ไอ้เวร ไอ้พี่เวร.. มึงมันเลวมาก.. มึงห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะ.. เอาเป็นว่า.. คุณพยาบาลเรื่องของญาติผมต้องเป็นความลับไปตลอดชีวิตนะ ห้ามหลุดออกมาเป็นอันขาด เพราะผมไม่รับประกันว่าถ้าเรื่องนี้หลุดออกมา.. คุณและครอบครัวจะปลอดภัยไหม.. เพราะไอ้ญาติของผมคนนี้.. มันเก็บความเลวของมันเอาไว้ในส่วนลึกที่สุดไม่มีใครสามารถเห็นความเลวของมันได้ง่ายๆแต่ถ้าเมื่อใดที่มันเกิดอยากจะเลวขึ้นมา.. ผมก็ไม่สามรถช่วยได้ครับ..” แหม.. เล่นซะเวอร์เลยนะไอ้เวรนี่.. ดูสิคุณพยาบาลตอนนี้หน้าซีดอย่างกับกระดาษไปละนั่น… แต่ก็ดีขู่แบบนั้นก็ดีเพราะเขาจะได
พักหลังๆเขาได้แต่มองอีฟกับลูกน้ำคุยกันกระหนุงกระหนิงกันอยู่สองคนเห็นแล้วมันขัดลูกตาเว้ย คนนึงก็อยากจะปรับความเข้าใจกับน้ำส่วนอีกคนก็อยากให้น้ำอยู่ใกล้ๆ.. ไม่ได้การละเขาต้องหาผู้หญิงสวยๆมาล่อยัยอีฟสักหน่อยไม่งั้นนะเขาได้เสียลูกน้ำให้ยัยอีฟแน่.. “อีฟ… จะไปทำงานตอนไหน?” เขายังไม่เห็นอีฟแต่งตัวไปทำงานเลยนะวันนี้.. งานที่กรุงเทพฯไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงเพราะเขายังกลับไม่ได้เขาต้องรับบทผู้ประสบภัยทางอุบัติเหตุณ์ต่อไปก่อนน่ะสิ แล้วนี่ยัยอีฟยังมาอยู่ที่นี่ด้วยแล้ว.. เขาเป็นห่วงทั้งสองอย่างเลยนะทั้งคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าและงานที่กรุงเทพฯอีก… “ไม่ไปค่ะวันนี้อีฟจะไปซื้อของกับลูกน้ำ.. ใช่ไหมคะ?ลูกน้ำของอีฟ…” เมื่อพูดกับพี่ชายตัวดีของเธอเสร็จเธอก็หันมาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับลูกน้ำทันที “งั้นพี่จะไปด้วย.. ลูกน้ำช่วยพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าทีสิ…” “ได้ไงละพี่อัค ” น้ำเสียงที่แสดงออกมาด้วยความไม่พอใจของน้องสาวตัวดีทำให้เขาพอจะรับรู้ได้ว่าเจ้าตัวนั้นไม่ต้องการให้เขาไปด้วย.. ฝันไปเถอะคิดจะมาแย่งว่าที่เมียพี่เหรอ? ไม่มีทาง… เฮ้อ… ถึงแม้ว่าเธอจะอยากปฏิเสธเขาแต่เธอก็เลือกที่จะไม่ทำเพราะอย่างน้อยเ
บอกตามตรงเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะทำยังไงต่อเพราะตั้งแต่เธอมาช่วยดูแลเขาที่บ้านของเขา เขาก็ทำตัวแปลกๆใส่เธอเสมอ ไม่ว่าจะคำพูดคำจาหรือแม้แต่การกระทำมันทำให้เธอรู้สึกสับสนอยู่มากเหมือนกัน.. เขาพยายามที่จะเป็นพี่อัคของเธอเหมือนเมื่อก่อนแต่เธอเองที่ยังไม่พร้อมรับความเป็นพี่อัคคนเก่าที่ผสมพี่อัคคนใหม่คนนี้… ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเขาทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเธอเหมือนไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร สายตาที่วิบวับๆของเขามันทำให้เธอรู้สึกระแวงเขาขึ้นมา… “น้ำจ๋า.. ช่วยพยุงพี่เข้าห้องน้ำที…” “น้ำจ๋า.. ช่วยพี่ดูเอกสารนี้ที..” “น้ำจ๋า.. พี่หิวข้าวครับ…” “น้ำจ๋า.. พี่อยากอาบน้ำอ่า…” และนั่นคือประโยคเดิมๆซ้ำๆที่เขามักจะได้ยินอยู่ในทุกๆวันและวันละหลายๆรอบ.. และบางครั้งมันก็ทำให้เธอถึงกับต้องหนีออกไปสูดอากาศด้านนอกตัวบ้านของเขาเพื่อปรับอารมณ์คลุกลุ่นของเธอ.. “อยากได้อะไรอีกไหมคะ? ถ้าไม่ฉันจะได้ขอตัวออกไปสูดอากาศด้านนอกสักนิด…” และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอต้องออกไปสูดอากาศด้านนอก เธอนับถือความอดทนความสามรถของคุณพี่ๆพยาบาลและเหล่าพยาบาลทั้งหลายเลยนะ วันนึงต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรมากมายแบบนี้ตลอดวัน.. ท







