เพราะครอบครัวที่มี ไม่สมบูรณ์ เด็กสาวในวัยที่กำลังเจริญเติบโต จึง อยากหาที่พักพิง และ เมื่อได้ทำความรู้จักกับนายเสือ ความรักต่างวัยจึงเกิดขึ้น อย่างไม่ทันตั้งตัว
ดูเพิ่มเติมเสียงพูดคุยในวงเหล้าหลังเลิกงานดังขึ้นเรื่อยๆตามดีกรีของเครื่องดื่มที่กินเข้าไป เหล้าขาวสีใส ในขวดสีน้ำตาล วางเรียงรายตรงหน้าเพราะเหลือแต่ขวดเปล่า หลังจากดื่มกินกันมา หลายชั่วโมง
“แดกเข้าไปเหล้า เมาทุกวัน “
คนที่ทนไม่ไหวแล้ว เดินออกมาอาละวาดที่หน้าลานกว้าง ที่เป็นที่ตั้งวงสังสรรค์ คนที่นั่งกันอยู่หันไปมองเป็นตาเดียว เมื่อเจอ คนหน้าดุ นั่งอยู่
“ขอโทษจ้ะนาย ฉันด่าผัวฉัน ไม่ได้ด่านาย “
นายที่นั่งอยู่ในวงเหล้า สวมเสื้อยืดสีดำมอมแมม ในมือคีบสูบบุหรี่ แล้วปล่อยควันให้ลอยขึ้นไปบนฟ้าที่เริ่มมืดแล้ว
“งั้นก็แยกย้าย แดกมาก เมามาก กูก็รำคาญตอนเช้าเหมือนกัน “ นายบอกเสียงดุ แล้วลุกขึ้นจากวงเหล้า
หยิบถุงย่ามของตัวเองขึ้นมาสะพาย แล้วเดินกลัวไปที่บ้านพักข้างใน
“อีจำปา มึงนี่ตัวซวย เหล้าหมดพอดี นายกำลังจะควักเงินให้แล้ว มึงนี่มัน “ คนในวงด่า อีตัวซวยแล้วมองร้านค้า ที่เปิดไฟอยู่ข้างใน
“กูพอแล้ว “
“กูก็พอ “
เพื่อนร่วมวงไม่มีใครอยากควักเงินซื้อ ทั้งนั้น เหล้าขวดละร้อยยี่สิบ ค่าแรงวันละสามร้อยห้าสิบ ถ้าซื้อมา มีคนกิน แต่ไม่มีคนจ่าย คนในวงมองหน้ากันตาปริบๆ แล้วลุกขึ้นทีละคนสองคน แยกย้ายกันกลับบ้าน
บ้านพักที่ปลูกเอาไว้ เป็นบ้านเก่าที่ทำจากไม้ฝา สังกะสี และแผ่นป้ายไวนิล ที่หนาพอสมควร แคมป์คนงาน ที่เข้ามารับจ้างทำงาน ก่อสร้างคอนโดมิเนียมในจังหวัดนี้ ใช้เวลาสองปี ดังนั้น แคมป์ที่นี่ ก็เป็นที่อยู่กี่งถาวร
อาหารมื้อเย็นที่มีไข่เจียว กับ ผัดปลากระป๋องใส่ผักคะน้า กำลังเสร็จรอพร้อมทาน
ข้าวในหม้อที่หุงเอาไว้ตั้งแต่เย็น รอพ่อมากินข้าว ใบหน้าดำคล้ำ พร้อมกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ทำเอาคนเป็นเมียกับลูกมองหน้ากันตาปริบๆ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อพ่อที่เมากลับมา กวาดกับข้าวลงพื้น
“ แดกอะไรเยอะแยะ ขนาดนี้ “ พ่อที่เพิ่งโมโหเข้ามาในบ้าน มองจานกับข้าว สองอย่างที่วางอยู่ ปลากระป๋องกับผักในจาน มากเกินความจำเป็น ไข่เจียวสองใบสำหรับสามคน ก็เกินพอ
“พี่อ่อน ทำไมทำแบบนี้ “ คนเป็นเมียที่ป่วยสามวันดีสี่วันไข้ บอกกับผัว ทั้งน้ำตา
“ก็มึงทำอะไรตั้งมากมาย แดกอะไรกันเยอะแยะ หาไม่ได้สักบาท ยังมากินค่าแรงกู “
คนเมาอาละวาดออกมา แล้วมองลูกสาว ที่สวมเสื้อยืดตัวเก่าปอน กับกางเกงขาสั้นตัวเก่า
“มึงก็อีกคน อีเอวา วันๆดีแต่แบมือขอเงิน ไม่สนใจจะช่วยทำมาหากิน”
เด็กสาวน้ำตาคลอหน่วย มองพ่อด้วยความเจ็บช้ำ เธออายุ17ปี จะไปทำงานที่ไหนได้ งานกลางคืน ก็ไม่มีรถรากลับบ้าน เลิกเรียนกลับมา ก็มาช่วยงานบ้านทุกอย่างไม่เคยขี้เกียจ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็ช่วยงานในแคมป์ ไม่เคยเกี่ยง ทำไมพ่อถึงพูดแบบนี้
“พ่อ ทำไมพ่อพูดแบบนี้ “
เด็กสาวเถียงพ่อ เสียงดัง ค่ารถไปโรงเรียนวันละสามสิบบาทที่พ่อให้ ไม่พอกินข้าวกลางวันด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่พูด ไม่ขอเพิ่ม เพราะรู้ความจำเป็นของครอบครัว
“ไม่จริงหรอไง มึงกับแม่มึง มันตัวปลิง สูบเลือดสูบเนื้อกู ค่าแรงกูวันละสี่ร้อย เดือนนึงเหยียบหมื่น กูได้ใช้กี่บาท “ พ่อตะคอกเสียงดังใส่ลูกสาว มองเมียที่ร้องไห้ออกมา แล้วหันหน้าหนี
เมียคนอื่นช่วยงานได้ หาเงินได้ ลูกคนอื่นไม่เรียนหนังสือ จบมอสามไปเป็นเด็กปั้ม ได้เงินเดือนเป็นหมื่น บางคนก็มาเป็นกรรมกรด้วยกัน นายจ้างวันละ350 ยังหาเงินได้ มีแต่ลูกเมียบ้านนี้ ที่นอนกิน สบาย ไม่ต้องทำงาน
นายอ่อนบอกมา ด้วยความคับแค้นใจ ทำไมตัวเองต้องเหนื่อยคนเดียว แล้วคนอื่นสุขสบาย
“มึงไม่ต้องไปเรียนหนังสือแล้ว อีเอวา มึงออกมา ทำงาน หาเงิน เลี้ยงแม่มึงเลย กูจะไม่ยุ่งกับพวกมึงแล้ว “
หัวหน้าครอบครัววัยสามสิบเจ็ดปี บอกออกมา แล้วล้มตัวลงนอน ที่บนฟูกเก่า มุมห้อง
แม่กับลูกมองหน้ากัน แล้วลูกสาวก็เก็บกับข้าวในจาน ก่อนจะเอาไปทิ้งที่ถังขยะ แล้วล้างจานที่เปื้อนพร้อมกับร้องไห้โฮออกมา
เด็กสาวปาดน้ำตาแล้วตั้งใจว่า ต่อไปนี้เธอจะสู้ด้วยตัวเอง จะไม่ทนกับพ่ออีกแล้ว
ร่างบอบบางในวัยสิบเจ็ดปี มองดูชุดนักเรียนที่ซักตากเอาไว้ตั้งแต่ตอนเย็น ชุดนักเรียนตัวเก่า ที่ใส่มาแล้วสามปี จากใหญ่โคร่งตอนนั้น กลายมาเป็นเล็กพอดีในวันนี้ น้ำที่หยดลงกับพื้นดิน เหมือนกับ คำด่าของพ่อ ที่ด่าเธอกับแม่ทุกวัน มันกัดกร่อนหัวใจของคนเป็นลูกอย่างไม่มีดีแล้ว
เด็กสาวเดินออกจากบ้านหลังเก่าของตัวเอง ตรงไปบ้านพักอีกหลังที่อยู่ไม่ไกลนัก แล้วตะโกนเรียกหน้าบ้าน
“ลุงใหญ่ ลุงใหญ่ “ เสียงเรียกในยามวิกาล ทำเอาคนในบ้าน ที่กำลังดูข่าว โผล่หน้าออกมาดู
“มีอะไรวะ “ หัวหน้างาน ถามเสียงดัง
“ฉันอยากปลูกบ้านใหม่ แยกบ้านกับพ่อจะได้ไหมลุง “ เด็กสาวที่อยากอยู่ที่นี่ไปก่อน ถามหัวหน้าคนงาน
“แล้วบ้านเอ็งละ “
“พ่อเค้าเมา ไล่หนูกับแม่ทุกวันเลยลุง “ เด็กสาวบอกตามตรง แล้วมองไปที่บ้านตัวเอง ที่ตอนนี้ มีแม่ยืนมองอยู่
“หนึ่งครอบครัว หนึ่งหลังเข้าใจไหม “ ลุงใหญ่บอกเสียงดุ แล้วเดินกลับเข้าบ้านตัวเอง ปล่อยให้คนที่ยืนหน้าบ้าน เดินคอตกกลับไป
มือหยาบกร้านลูบผมลูกเบามือ แล้วยิ้มออกมา สองแม่ลูก มองจานไข่เจียว แล้วตักกินกันแกนๆ เพื่อให้ท้องอิ่ม ข้าวมื้อเย็น เป็นข้าวมื้อเดียว ที่จะได้กินแบบอิ่มท้องเต็มที่ที่สุดแต่พ่อ ก็ยังทำแบบนี้ จนได้
“กินเยอะๆนะแม่ “ ลูกสาวตักไข่เจียวใส่จานให้แม่แล้วตักข้าวเปล่าใส่ปากตัวเองคำใหญ่ ข้าวไข่เจียว ข้าวกับปลากระป๋อง เป็นมื้ออาหาร ที่อร่อยที่สุด เพราะได้กินแบบนี้ มาตลอด ตั้งแต่จำความได้
“เอวา กินเถอะลูก แม่อิ่มแล้ว “ คนป่วยบอกลูกสาวเสียงเบา แล้วป้อนไข่เจียวให้ลูก เอวา ไม่เคยได้กินกับข้าวดีดีเลย
สองแม่ลูกนอนอยู่อีกมุมของห้องมองไปที่มุ้งหลังเก่า ที่พ่อและสามี นอนอยู่ คนเมาหลับไปแล้ว แต่คนที่ไม่เมา นอนไม่หลับ และ คิดถึงปัญหาต่างๆนานาที่ถาโถมเข้ามา
เสียงเพื่อนบ้านตื่นหาอาหารเช้า เตรียมตัวลุกไปทำงานทำการ เด็กสาวออกจากบ้าน ไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำรวม และอาบน้ำ ที่ห้องอาบน้ำ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของตัวเอง
บ้านหลังอื่น คุยกันเรื่องสัพเพเหระ และ เตรียมปรุงอาหารเช้า ก่อนจะดูแลเด็กๆ ให้ไปโรงเรียน ต่างจากบ้านของเธอ ที่พ่อลุกขึ้นมา แล้วก็ไปร้านค้า เพื่อซื้อเหล้าเป็นอย่างแรก
ค่ารถ30บาท วางอยู่บนหม้อหุงข้าว เมื่อเธอกลับมาหลังจากอาบน้ำแล้ว แม่ยื่นเงินค่ารถให้แล้ว ตักข้าวที่อุ่นร้อนแล้ว กับไข่ดาวอีกฟอง ใส่กล่องให้ ไปกิน ที่โรงเรียน เด็กสาวรีบแต่งตัวชุดนักเรียน แล้วคว้ากระเป๋านักเรียนใบเก่า กับกล่องข้าว เดินออกมาทั้งน้ำตา ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้ ทำไม
เสียงเฮลั่นบ้านแต่เช้าเพราะได้ยินข่าวดีเหลือเกิน คนที่กำลังจะเป็นพ่อ ยิ้มไม่หุบ หลังจากได้ทราบแผนการ ของคนเป็นเมีย เอวาที่กินยาคุมกำเนิดมาตลอด ตั้งใจหยุดกินยา และ ตั้งท้อง เพื่อเซอร์ไพรส์ เค้า นับว่าเป็นของขวัญที่ประเมินค่าไม่ได้เลยลูกมือสองคน มองพี่เสือ ที่ยิ้มกว่าทุกวัน แล้วยิ้มตาม นานๆที พี่เสือจะเข้า มายุ่งในห้องทำขนม“พี่เสือ ออกไปเถอะค่ะ “ห้องเล็กแคบ มีของวางเต็มไปหมด กลับต้องมี คนตัวโต มายืนเก้ๆกังๆ จะช่วยหยิบจับ ทำอะไรไม่ค่อยถนัด“พี่อยากช่วย “ เสียงอ้อนวอน ทำเอาสองสาวแอบมองหน้ากัน แล้วทำตาปริบๆ พี่เสือ ทำอย่างกับว่า อยู่กับพี่เอวา เพียงสองคน“หนูจะทำงานนะ “
ร้านเค้กเล็กๆ ที่ทำกันหลังบ้าน เติบโตไปทีละนิด ยอดขายจาก100 เพิ่มเป็น 200 และ 300 ในตอนนี้ ใบหน้าสวยหวาน ปาดเหงื่อ มองดูเค้กนับร้อยถ้วยที่วางตรงหน้า มันเป็นความภูมิใจ ของเด็กจากแคมป์คนงาน อย่างเธอสติ้กเกอร์ที่แปะติดหน้ากล่อง บอกตัวตน และ ความฝัน ที่ได้รับการยอมรับ มูลค่าเงินอาจจะไม่มากมาย แต่มูลค่าทางใจ ประเมินไม่ได้เลย“ยิ้มแก้มค้างไปแล้ว “ ผู้เป็นแม่ ที่มาช่วยแพคขนม แซวลูกสาว เอวา ในวัยยี่สิบสองปี ผ่านอะไรมามากมาย กว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน“ก็มันดีใจนะแม่ ขายขนมได้ขนาดนี้ จะยิ้มกว้าง ก็ไม่แปลกเลย “ลูกสาวตอบกลับ แล้ววางขนมใส่กล่องเตรียมนำไปส่ง ลูกค้า ที่จะมารับถึงหน้าบ้าน อย่างบรรจงไม่อยากให้ผลไม้สด ที่วางอยู่บนครีมขาว ขยับเขยื้อน“เอวา ตอนนี้อะไรก็ลงตัวแล้ว คิดถึงเรื่องมีลูกหรือยัง “ แม่แอบถาม เพราะเห็นว่านายอายุ หลักสี่เข้าไปแล้ว ที่ไม่พูดไม่เอ่ย ก็เพรา
เสียงช่างทำงานในบ้าน ทำให้คนที่อยากเห็นห้องทำงานของตัวเอง แอบชะโงกเข้าไปดู แต่พอได้สบตาคมดุ ก็ต้องรีบออกมา หัวหน้าช่างใหญ่ โพกผ้าสีดำเอาไว้รอบศีรษะเหลือแต่ลูกตา เอาไว้มองดู พื้นปูน ที่สกัด ออก เป็นรอย ก่อนจะปูกระเบื้อง สีลายไม้ ที่เอวา เป็นคนเลือก“ฝุ่น เข้ามาทำไม “ ช่างดุ ออกมา แล้วไล่ให้เธอ เดินออกไปข้างนอก ช่างที่มาทำงานด้วยกัน แอบอมยิ้ม ใครต่อใคร พูดกันว่า นายเสือ แกรักเมียแก เหลือเกิน ถ้าไม่เห็นกับตา ก็คงไม่เชื่อชายหนุ่มทำงานตากแดด แบกปูน ตีฝ้า ทำได้ทุกอย่าง ท่ามกลางคนงานนับร้อย แต่กลับอ่อนโยน กับคนเป็นเมีย ถึงเพียงนี้เค้าเตอร์ปูน วัดระดับ หลายครั้ง กะคำนวน ให้ใช้ประโยชน์สูงสุด แล้ววางแผนไปถึง ชั้นวางของ และ อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่จะตามมา เป็นอย่างต่อไป&n
ใบหน้าเคร่งขรึมของคนที่ขับรถ มารับ ทำให้คนที่เพิ่งขึ้นมาบนรถ นิ่งตามไปด้วย ทั้งที่ในใจ อยากจะเข้าไปบอกเรื่องราวดีดี กับเค้า เป็นคนแรก รถกะบะคันเก่า ขับไปบนถนน อย่างไม่เร่งรีบ ก่อนจะมาจอดที่หน้าบ้าน ในช่วงเวลาปกติแม่ชะโงกหน้า ออกมาดู แล้วกลับเข้าไปในห้อง ช่วง2-3วันมานี้ ลูกชายและนายเสือ ดู ตึงๆใส่กันคนที่อาบน้ำแล้ว ถอดกางเกงยีนส์ออก แล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น เปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม เปิดโทรทัศน์ดูบอลไปเรื่อยหญิงสาวถอดเสื้อผ้า แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเช่นเคย บรรยากาศ ในห้อง อึมครึมอย่างเห็นได้ชัดเจนกระป๋องเบียร์ที่หมดแล้ว วางทิ้งใส่ถังขยะ ก่อนที่กระป๋องที่สองจะตามมา คนที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็เดินออกมา ใน
พี่ๆที่ร้าน มองดูรุ่นน้อง ที่นั่งหลับตานิ่ง บนเก้าอี้ ในช่วงพักเบรค มือบางหยิบยาดมขึ้นมาดม เรียกความสดชื่น ก่อนจะลืมตาขึ้นมา“เอวา มีน้องหรือเปล่า “ พี่แตงกวา ถามด้วยความเป็นห่วง“เปล่าพี่ ช่วงนี้ใกล้สอบ เรียนหนัก “ คนที่ทั้งเรียนทั้งทำงานตลอด 7 วัน ตอบเสียงอ่อย อีกไม่กี่วัน เธอก็จะจบเทอมแล้ว“นี่แหละน้า มันไม่ง่ายจริงๆ ที่จะเรียนด้วย ทำงานด้วย ““นอนน้อย แต่ก็นอน โชคยังดี ที่เอวา ไม่ต้องทำงานบ้านเลย พี่เสือ ทำให้หมด “ คนที่โชคดีจริง บอกเล่า ให้เพื่อนร่วมงาน ได้ฟัง“ดีแล้ว ความจริงนะ ไม่ช่วยงานบ้าน พี่ก็ไม่ว่าเลย ขอแค่ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่เล่นยา ไม่เล่นการพนัน ก็หายากยิ่งกว่า งมเข็มในแม่น้ำเจ้าพระยา“คนที่นิ่งฟังรุ่นพี่ คิดตามคำที่ได้ยิน พี่เสือของเธอ ดีกว่าที่คาดเอาไว้“เอวา มาช่วยแพคแซนวิชห
แม้จะรู้ว่าคนที่อยากจีบ จะมีแฟนแล้ว แต่คนที่อยากได้ ก็ไม่สน ชายหนุ่มรูปหล่อน่าตาดี อยากบริหารเสน่ห์ของตัวเอง ยิ่งยากก็ยิ่งอยากได้ พนักงานหญิงสาวหลายคน เดินผ่านไปผ่านมา เสียดสีร่างกายกับชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ได้ไม่นาน มองสบตากัน ด้วยสายตาหยั่งเชิง ลูกค้าในร้าน แจกทิป ก่อนกลับบ้าน สาวๆที่ติดใจหน้าตาของเด็กเสริฟ ยัดเงินใส่กระเป๋ากางเกง แล้วถือโอกาส สัมผัส ร่างกายไปด้วย คนที่รู้งาน จับมือลูกค้าค้างเอาไว้ แล้วกระซิบเสียงเบา “ปลุกให้ตื่น แล้วต้องรับผิดชอบนะครับ “ คนที่รู้ทัน หัวเราะออกมา แล้วสะบัดมือออก “ผัวพี่ดุ น้องไม่ไหวหรอก “ เด็กเสริฟพยักหน้า แล้วเดินกลับเข้าไปด้านหลัง เปลี่ยนเป็นโฟกัส เพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งแทน
ความคิดเห็น