ตอนที่สอง เปลี่ยนแปลง
หลังจากจินรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้หนึ่งสัปดาห์หมอก็อนุญาตให้จินกลับบ้านได้ เพราะจากผลตรวจของจินปกติดีทุกอย่าง มีเพียงแค่ร่างกายที่อ่อนแอเนื่องจากขาดน้ำและอาหารเป็นเวลานาน หมอจึงให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้
"นี่คือยาบำรุงร่างกายนะคะคุณจิน รับประทานตามที่เภสัชกรเขียนไว้หน้าซองเลยค่ะ แล้วก็ช่วงนี้คุณจินควรทานอาหารให้ครบห้าหมู่เพื่อบำรุงร่างกาย และที่สำคัญควรจะเป็นอาหารอ่อนๆ ก่อนนะคะ
เนื่องจากร่างกายของคุณจินไม่ได้รับอาหารมาเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้กระเพาะทำงานหนักและปวดท้องได้ค่ะ ส่วนใบนี้คือใบนัดนะคะ อีกหนึ่งเดือนมาพบคุณหมอเพื่อติดตามอาการนะคะ" คุณพยาบาลอธิบายอย่างละเอียดเพื่อให้คนป่วยรับทราบเข้าใจก่อนออกจากโรงพยาบาล
"ครับ ขอบคุณครับ" จินตอบรับพร้อมรับถุงยาและใบนัดจากพยาบาล เป็นจังหวะเดียวกันกับชุนที่เดินเข้ามาในห้องหลังจากไปจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยพอดี
"เรียบร้อยแล้วครับคุณจิน กลับบ้านได้เลยครับ" ชุนบอกขณะเดินมารับถุงยาและใบนัดของจินมาถือให้
"ครับ ผมพร้อมกลับบ้านแล้วครับ" จินพูดพลางคิดในใจเพราะตอนนี้เขาพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์แล้ว เฮ้อ.. อีกเก้าเดือนก็จะได้อิสรภาพแล้ว สู้โว้ย.. จินคิดในใจก่อนจะรีบเดินตามหลังชุนไป
ขณะนั่งรถกลับบ้าน จินนั่งมองนอกหน้าต่างเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากในเมืองที่แสนวุ่นวายสู่นอกเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบ
ในที่สุดรถยนต์คันหรูสีดำซึ่งชุนขับมาตลาดทางก็มาจอดยังบ้านหลังหนึ่งแถวๆ ชานเมือง ซึ่งตัวบ้านเป็นบ้านสองชั้นสไตล์ยุโรป มีสนามหญ้าค่อนข้างกว้างอยู่ด้านหน้า
จากประตูรั้วขับรถมาราวๆ ห้าร้อยเมตรกว่าก็จะถึงตัวบ้าน บ้านหลังนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง ตามสไตล์ของเศรษฐีอย่างมาร์ติน ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจในการแต่งงานครั้งนี้สักเท่าไหร่ เขาคงไม่อยากให้ใครรับรู้เรื่องของจินเป็นแน่
"ถึงแล้วครับคุณจิน" เสียงชุนดังขึ้นจึงขัดความคิดของจิน หลังจากจินได้สติเขาก็เห็นชุนเดินมาเปิดประตูรถให้เขาแล้ว
"ขอบคุณครับ" จินเอ่ยขอบคุณพลางยกยิ้มให้ ชุนเองก็ตกตะลึงไปช่วงจังหวะหนึ่ง เพราะพักนี้เขาเห็นจินค่อนข้างเปลี่ยนไปมากทีเดียว จากคนเก็บตัวไม่พูดไม่คุยกับใครกลับมาเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย ชอบชวนคุยซึ่งต่างจากจินคนเดิมเหมือนเป็นคนละคนเลยทีเดียว
"คุณชุนครับ ผมอยากพักผ่อนครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ" จิน บอกหลังจากที่ชุนพาเขามาส่งถึงหน้าห้องนอน
"ครับ ได้ครับ เดี๋ยวถึงเวลาอาหารเย็นแล้วผมจะมาตามนะครับ ถ้าคุณจินต้องการอะไรเรียกผมได้ตลอดเลยนะครับ ผมอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างครับ" ชุนเอ่ยบอกคนตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวจากไป
"ครับ ขอบคุณครับ" จินรีบขอบคุณชุนก่อนที่เขาจะเดินจากไป ทำให้ชุนหันกลับมามองจินด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นใบหน้าที่ใสซื่อและรอยยิ้มไร้เดียงสาของจิน ด้วยความสงสารก่อนหน้านี้ชุนจึงยกยิ้มให้จินก่อนจะเดินจากไปจินจึงเดินเข้าไปในห้องนอน หลังจากจินเดินเข้ามาในห้อง เขาก็เดินสำรวจรอบๆ ห้องซึ่งทั้งทึบและมืดมาก
"ไม่ไหวเลย ทำไมห้องของนายถึงได้หดหู่แบบนี้ จินเอ๊ย.. ฉันคงต้องขอเปลี่ยนแปลงห้องนายก็แล้วกัน ฉันอยู่แบบนี้ไม่ได้จริงๆ" จีนบ่นกับตัวเองเบาก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อให้ห้องสว่างขึ้น
หลังจากเขาเดินสำรวจรอบๆ ห้องแล้ว เขารู้สึกถึงความหดหู่และบรรยากาศภายในห้องที่ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย เขาครุ่นคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินลงไปหาชุนด้านล่างเพื่อปรึกษาอะไรบางอย่างทันที
"คุณชุนครับ" จินเรียกชุนทันทีที่เห็นอีกฝ่ายกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารบางในห้องนั่งเล่น
"ครับคุณจิน มีอะไรรึเปล่าครับ" ชุนถามทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาหาตนในห้องนั่งเล่นด้วยความสงสัย
"ครับ คือผม.. ผมอยากจะย้ายจากห้องเดิมไปอยู่ห้องริมระเบียงตรงหน้าบ้านน่ะครับ ไม่ทราบว่าจะย้ายได้ไหมครับ พอดีตอนขับรถเข้ามา ผมเห็นว่าห้องนั้นน่าอยู่และบรรยากาศดีกว่าห้องเดิมน่ะครับ ผม.. ผม.. รู้สึกไม่ค่อยดีกับห้องนั้นครับ" จินตัดสินใจถามชุนด้วยความลังเล
เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะบ้านหลังนี้เขาอาศัยอยู่เพียงคนเดียว คุณสามีในนามของเขาไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้งหลังจากพวกเขาได้แต่งงานกัน ซึ่งจินเห็นจากความทรงจำของร่างเดิม
"ถ้าห้องฝั่งซ้ายได้ครับ เพราะห้องฝั่งขวาเป็นห้องของคุณมาร์ตินครับ" ชุนตอบด้วยความสงสัยระคนงุนงงเพราะจินแทบไม่ก้าวเท้าออกมาจากห้องของตนเองเลยสักครั้ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาจินมักจะหลีกเลี่ยงในการพบหน้ากับมาร์ติน จินจึงเลือกห้องสุดท้ายของบ้าน ถ้าหากมาร์ตินมาที่บ้านหลังนี้จริงๆ แต่จะว่าไปตั้งแต่จินได้ย้ายมาอยู่ที่นี่มาร์ตินก็ไม่เคยมาที่บ้านหลังนี้เลยสักครั้ง
"โอ้.. เหรอครับ ไม่เป็นไรครับผมอยากย้ายครับ ผมชอบวิวตรงนั้นครับ" หลังจากจินได้คำตอบของชุน เขาก็ยกยิ้มอย่างยินดี
เพราะเจ้าของห้องฝั่งตรงข้ามไม่เคยมาสักที เขาจะหลบหน้าไปทำไมล่ะ ไม่รู้ว่าถ้าบังเอิญเดินชนกันข้างนอกจริงๆ เขาจะรู้รึเปล่านะว่าเป็นสามี เขานึกไปพลางหัวเราะชอบใจในความคิดพิเรนทร์ของตนเอง
ซึ่งทำให้ชุนมองจินที่เผลอหัวเราะเบาๆ ด้วยความสงสัย เขาจึงขมวดคิ้วเป็นปม แต่เมื่อจินรู้สึกตัวว่ามีคนมองเขาอยู่จึงได้รีบกระแอมไอแก้เก้อ
"เอ่อ.. ผมว่าจะย้ายเลยนะครับ ผมอยากพักแล้วครับ ผมต้องไปทำความสะอาดก่อนรึเปล่าครับ" จินรีบถามแก้เก้อ
"เดี๋ยวผมพาไปเลยครับ ที่นี่มีแม่บ้านคอยดูแลทุกวันอยู่แล้วครับ ช่วงที่คุณจินอยู่โรงพยาบาลเธอก็ยังทำความสะอาดเหมือนเดิมครับ" ชุนตอบก่อนจะพาจินเดินไปยังห้องนอน
"ถึงแล้วครับ ห้องฝั่งนี้เป็นห้องของคุณมาร์ตินนะครับ ปกติถ้าคุณมาร์ตินมีวันหยุดพักร้อนสองถึงสามวันคุณมาร์ตินถึงจะมาพัก คุณคง.. ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ" ชุนถามอย่างหยั่งเชิง เพราะปกติเวลาเขาเอ่ยถึงมาร์ติน คนตรงหน้าจะแสดงสีหน้าท่าทางรังเกียจขึ้นมาในทันที
"ครับ ไม่มีปัญหาครับ ตอนนี้ผมถือคติต่างคนต่างอยู่ดีกว่าครับ แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่มาหรอกครับคุณชุนสบายใจได้" ชุนรู้สึกงุนงงในคำตอบของจินอีกครั้งของอีกครั้ง
หลังจากจินฟื้นขึ้นมาเขาก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าเปลี่ยนแปลงไปมาก จนเขาแอบคิดว่าเป็นคนละคนกันเลย แต่จินบอกกับเขาตลอดว่าอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง
หลังจากชีวิตของจินเคยเฉียดความตายมาแล้ว ซึ่งเขาคิดว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของจินเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจริงๆ ชุนจึงได้ขอตัวออกมาและปล่อยให้จินพักผ่อน
"โอ้โฮ... ห้องนี้ดีกว่าห้องเก่าตั้งเยอะ กว้างก็กว้าง มีระเบียงไว้นั่งเล่น แถมวิวยังดีกว่าห้องเดิมอีก เอ๊ะ... มองเห็นสวนดอกไม้ด้วย สวยจังเลย ทำไมจินถึงได้แต่เก็บตัวในห้องแคบและปิดผ้าม่านหน้าต่างหมดทำให้บรรยากาศในห้องนั่นอึมครึม"
เขายอมรับว่าเขาเคยลำบากมาก่อน ตอนเขาเป็นเด็กกำพร้าและออกมาเช่าห้องเก่าๆ โทรมๆ อาศัยอยู่ช่วงเรียนมหาลัย แต่เขาก็ไม่เคยทำให้ห้องเหล่านั้นไม่น่าอยู่เช่นนี้ คงเพราะเจ้าของร่างนี้กำลังเครียดในหลายๆ เรื่อง รวมกับบรรยากาศในห้องจึงทำให้จินได้แต่กักขังและทรมานตัวเอง แต่ในเมื่อเขาได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ได้ รออีกเพียงแค่เก้าเดือนเขาก็จะได้มีอิสระและได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ
แต่ก่อนอื่นเขาต้องนอนพักเอาแรงก่อน แล้วค่อยหาช่องทางที่จะทำต่อไป เมื่อคิดทุกอย่างไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จินที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง และเข้าสู่นิทราไปในที่สุด
ตอนที่สิบ เค้กผลไม้กับอาการที่เปลี่ยนไปใกล้ถึงวันเกิดของมาร์ตินเข้าไปทุกที จินจึงกำลังยุ่งวุ่นวายกับการหัดทำขนมเค้ก ต้องยอมรับเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำเค้กวันเกิดขึ้นมาได้หนึ่งก้อนกว่าจะขึ้นรูปได้แทบทำให้จินท้อไปหลายหน การตกแต่งหน้าเค้กก็ค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่อย่างจิน เบี้ยวบ้าง ผิดรูปบ้าง จินหัดทำทั้งอาทิตย์จนได้เค้กรูปวงกลมสวยงาม จากนั้นจึงลงมือตกแต่งหน้าเค้กด้วยผลไม้ที่มาร์ตินชอบ แล้วปิดท้ายด้วยวิปปิ้งครีมแต่งขอบเค้กยอมรับเลยว่างานนี้ยากสุดๆ มือไม่นิ่ง ใจไม่นิ่งคือทุกอย่างอาจจะพังเลย เมื่อผลงานออกมาเป็นที่พอใจ จินจึงยกมือปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นตรงหน้าผากทันที"เฮ้อ.. เสร็จเสียที ไม่ง่ายเหมือนกันแฮะ" จินบ่นกับตัวเองเบาๆ"ว้าว.. สวยมากเลยค่ะคุณจิน" ป้าแนนซี่เอ่ยชมเมื่อเธอเดินเข้ามาในครัวแล้วเห็นขนมเค้กที่ถูกจินตกแต่งอย่างสวยงามวางอยู่บนโต๊ะ"คุณจินสุดยอดเลยค่ะ" ป้าแนนซี่ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้จินด้วยความชื่นชม"ขอบคุณครับป้าแนนซี่ ไม่ง่ายเหมือนกันนะครับกว่าผมจะทำออกมาได้ขนาดนี้" จินพูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วยความเคยชิน เขาอยากจะเก็บผลงานไว้ชื่นชมในภายหลังหลัง
ตอนที่เก้า คิดถึงหลังจากจอห์นไปรับมาร์ตินที่เซฟเฮ้าส์เช้านี้ เขาก็ขับรถมุ่งตรงไปที่บริษัททันทีเพราะมาร์ตินมีประชุมตอนบ่ายที่บริษัท"คุณมาร์ตินครับ นี่คือเอกสารทั้งหมดที่จะประชุมบ่ายนี้ครับ" ลุค เลขาของมาร์ตินเข้ามาจัดแจงเอกสารการประชุมที่จะเกิดขึ้นบ่ายนี้ทันทีที่มาร์ตินก้าวเท้าเข้ามาในห้องทำงาน"ขอบใจ" มาร์ตินก้มมองเอกสารบนโต๊ะทีละเล่ม ก่อนจะกวาดสายตาอ่านเอกสารภายในเล่มอย่างรวดเร็ว"เที่ยงนี้คุณมาร์ตินจะรับอาหารบนนี้หรือข้างนอกครับ" ลุคเอ่ยถามเจ้านายก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน"บนนี้ก็แล้วกัน" มาร์ตินตอบลุคโดยที่สายตายังไม่ละจากเอกสารที่เขากำลังอ่านอยู่"ครับ" ลุคตอบก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องทำงานของมาร์ติน ออกไปหลังจากลุคจัดเก็บอาหารเที่ยงที่มาร์ตินทานไปเรียบร้อยแล้วก็ยกกาแฟเข้ามาเสิร์ฟให้มาร์ติน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่จอห์นเดินถือถุงบางอย่างเข้ามาในห้องทำงานของมาร์ตินพอดี"คุณมาร์ตินครับ คุณลืมถุงนี้รึเปล่าครับ หรือคุณจะเอากลับบ้าน ผมไม่แน่ใจเลยถือมาถามคุณก่อนครับ" จอห์นกล่าวพลางชูถุงกระดาษที่อยู่ในมือให้มาร์ตินดู"อ้อ.. เอามานี่เลยละกัน" มาร์ตินมองถุงในมือจอห์น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่
ตอนที่แปด แกล้งหลังจากมื้ออาหารเย็นที่ปกคลุมไปด้วยความอึดอัดผ่านไป จินซึ่งกำลังรวบช้อนส้อมในจานเรียบร้อยแล้วกำลังจะลุกออกจากโต๊ะอาหาร"จิน" มาร์ตินก็เรียกทันทีที่จินทำท่าจะลุกออกจากเก้าอี้ไป"เดี๋ยวนายไปหาฉันที่ห้องทำงานด้วยนะ" มาร์ตินพูดจบก็ลุกเดินออกจากห้องอาหารไปทันที ทิ้งให้จินสงสัยว่ามาร์ตินเรียกเขาไปคุยเรื่องอะไรกันแน่"เอ่อ.. พี่ชุนครับ พี่ชุนพอจะรู้ไหมครับว่าคุณมาร์ตินมีธุระอะไรกับผมรึเปล่า" จินหันไปกระซิบถามชุนซึ่งยืนอยู่มุมห้องชุนได้แต่ส่ายหน้าด้วยเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ามาร์ตินมีธุระอะไรกับจิน ถึงเขาจะช่วยงานในห้องทั้งวันแต่ก็แทบไม่ค่อยได้คุยอะไรกับมาร์ตินมากเท่าไหร่จินได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว มาร์ตินคิดยังไงกับตนกันแน่ ในตอนแรกเขาก็พอรู้มาบ้างว่ามาร์ตินไม่ค่อยชอบเขาเหมือนกัน เพราะต่างคนต่างถูกบังคับให้แต่งงานกันแต่ทำไมตอนนี้เขาถึงได้เจอมาร์ตินบ่อยๆ เกือบจะสามเวลาหลังอาหารกันเลยทีเดียว เมื่อเช้าก็หนหนึ่งละ เมื่อบ่ายก็อีกหนหนึ่งละ นี่ก็อีกหนหนึ่งแล้วจะมีอีกครั้งก่อนนอนไหมเนี่ย.. จินบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเองเบาๆ พลางเกาหัวแกรกๆ ด้วยความไม่เข้าใจก๊อก.. ก
ตอนที่เจ็ด ทำขนมเป็นเหตุหลังจากจินขึ้นไปนอนพักในช่วงเช้า เมื่อจินตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนบ่ายจึงเริ่มรู้สึกหิว เขาหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงเขาจึงเพิ่งจะรู้ว่าตนเองเผลอนอนหลับนานมาก เขาตั้งใจว่าจะนอนงีบเพียงครู่เดียวเท่านั้นเองเมื่อเขาเดินลงมาชั้นล่างก็เจอกับป้าแนนซี่ที่กำลังทำความสะอาดห้องนั่งเล่นพอดี"คุณจินคะ หิวรึยังคะ ป้าทำสปาเก็ตตีไว้ให้ค่ะ ถ้าหิวแล้วป้าจะไปอุ่นให้เลยค่ะ" ป้าแนนซี่ถามเมื่อเห็นจินเดินลงบันไดมาชั้นล่างเมื่อจินได้ยินดังนั้นจึงรีบพยักหน้าหงึกหงักด้วยดวงตาเป็นประกาย"ขอบคุณครับ ป้าแนนซี่ใจดีที่สุดเลยครับ" ว่าแล้วจินก็เดินตามป้าแนนซี่เข้าไปในห้องอาหารหลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จจินสังเกตเห็นว่าบ้านค่อนข้างเงียบ จึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อถามป้าแนนซี่ที่กำลังล้านจานอยู่"ป้าครับ ทำไมบ้านเงียบจังเลยครับ พี่ชุนไปไหนล่ะครับ ปกติผมเห็นพี่ชุนทำงานที่ห้องนั่งเล่นนี่ครับ" จินเอ่ยถามหลังจากเขาไม่เห็นชุน"อ๋อ.. คุณชุนกำลังช่วยงานคุณมาร์ตินที่ห้องทำงานค่ะ คุณจินมีอะไรรึเปล่าคะ" ป้าแนนซี่หันมาตอบจินขณะที่เธอกำลังเช็ดจานอยู่ในมือ"ปะ.. เปล่าครับ นี่คุณมาร์ตินยังไม่กลับอีกเห
ตอนที่หก ทดสอบ"จิน กำลังทำอะไรอยู่ครับ" ชุนเอ่ยถามขณะที่เห็นจินนั่งจดบางอย่างลงในสมุด "พี่ชุนว่างไหมครับ จินอยากลองทำขนมครับ จินอยากได้ส่วนประกอบของขนม พี่ชุนพาจินไปซื้อได้ไหมครับ" จินหลังจากอ่านตำราการทำขนมมาทั้งอาทิตย์จึงเกิดการทดลองอยากทำขนมขึ้นมา จึงชวนชุนพาไปซื้อของซึ่งชุนก็ไม่ปฏิเสธ ดีเหมือนกันจินจะได้มีอะไรทำแก้เหงาบ้างหลังจากที่ทั้งสองคนไปซื้อของตลอดช่วงเช้ากลับมา จินจึงลงมือทำคุกกี้เนยสดในตอนบ่ายทันที โดยมีชุนและป้าแนนซี่คอยช่วยเป็นลูกมือ ทั้งสามคนช่วยกันลองทำผิดทำถูกหลายครั้งกว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างในที่สุด"อืม คุณจินคะ คุณจินเก่งจริงๆ นะคะ ทำครั้งแรกก็ออกมาดีและอร่อยมากเลยค่ะ ถึงแม้ว่ารูปตัวคุกกี้จะยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ถือว่าดีมากๆ เลยค่ะ" ป้าแนนซี่เอ่ยชื่นชมจินหลังจากชิมคุกกี้ไปหลายชิ้น"ใช่ พี่ก็ว่าอร่อยดีนะจิน เสียแต่รูปร่างมัน.. " ชุนพูดไม่จบเพราะกลั้นเสียงหัวเราะไม่ได้ หลังจากเห็นตัวคุกกี้ที่พวกเขาช่วยกันทำ มันใหญ่บ้าง เล็กบ้าง และบิดเบี้ยวบ้าง"ฮ่า.. ฮ่า.. ฮ่า.. " ชุนจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในที่สุด"โธ่.. พี่ชุน อย่าหัวเราะสิครับ นี่จินทำครั้งแรกนะคร
ตอนที่ห้า ความจริง"สวัสดีครับคุณชุน ไม่พบกันเสียนานเลยนะครับ" ลุคเลขาคนสนิทของมาร์ตินทักทายชุนทันทีที่เดินเข้ามาถึงหน้าห้องมาร์ติน"ครับ พอดีไปทำธุระให้คุณมาร์ตินน่ะครับ" เขาตอบรับลุคที่เดินมาทักทายเขาจริงสินะ เขาไม่ได้เข้าบริษัทมาเกือบสี่เดือนแล้วหลังจากที่เขาไปดูแลจิน ปกติเขาจะติดตามมาร์ตินตลอดเวลา ยกเว้นในบางครั้งมาร์ตินจะใช้ให้เขาไปทำธุระสำคัญที่อื่นแทนถึงจะไม่ได้เข้าบริษัทกับมาร์ติน"อ๋อ.. ครับ นี่คุณมารอพบคุณมาร์ตินรึเปล่าครับ" พอชุนพยักหน้าเป็นคำตอบลุคจึงพูดขึ้น"คุณมาร์ตินยังไม่เข้ามาเลยครับ คุณชุนดื่มอะไรไหมครับเดี๋ยวผมชงให้""งั้นผมขอเอสเปรสโซ่แก้วหนึ่งครับ" ลุคยิ้มให้เชิงตอบรับพร้อมเดินไปชงกาแฟให้ชุนทันที"ได้แล้วครับ" ลุคเดินกลับมาถึงห้องรับรองพร้อมยื่นแก้วกาแฟให้ชุน"ขอบคุณครับ" ชุนรับแก้วกาแฟมาจากลุค ลุคยิ้มให้ชุนอีกครั้ง ก่อนขอตัวออกไปทำงานครึ่งชั่วโมงต่อมา ลุคก็มาตามชุนไปพบมาร์ตินที่ห้องทำงานก๊อก.. ก๊อก.. เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้มาร์ตินเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารฉบับหนึ่งที่ค่อนข้างหนา"เข้ามาได้" มาร์ตินเอ่ยอนุญาตทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู ซึ่งเขาทราบอยู่แล้วว