ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับหญิงสาวที่ดูสวยน่ารัก สมกับที่เป็นลูกคุณหนู ซึ่งเอเดนหวงลูกสาวไม่แพ้กวิน แต่ทว่าไอด้าก็ยังคงสามารถไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในช่วงกลางคืนได้ ไม่เหมือนใบพลูที่ไปไหนมาไหนต้องมีออสตินไปด้วยเท่านั้น
“พี่ไปทำอะไรมา รู้หรือเปล่าว่าแม่นั่งบ่นกับพ่อจนไอหูชาแล้วเนี่ย” หญิงสาวทำหน้าบึ้ง ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาว เมื่อเธอกำลังไม่ชอบใจผู้พี่ชาย ที่ทำตัวกะล่อนแล้วยังชอบสร้างเรื่องให้บิดามารดานั่งบ่นให้ได้ยิน จนเธอต้องเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่มีรอยที่คอ แม่ก็เข้าใจผิดไปใหญ่ พี่ยังไม่ได้เอากับใครเลยนะไอด้า” ออสตินพูดออกมาหน้าตาเฉย แต่ทว่าผู้เป็นน้องสาวกลับรู้สึกอายแทน เมื่อพี่ชายถูกผู้หญิงสร้างหลักฐานมัดตัวเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน
“อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ น่าเกลียดชะมัดเลย ทั้งดูดทั้งกัด ผู้หญิงคนนั้นชาติที่แล้วเป็นหมารึไง พี่พูดออกมาได้ยังไง ไม่ทันเอากับใคร อย่าว่าแต่แม่เลย พี่ใบพลูเห็นคงเป็นเรื่องแน่ หลักฐานแค่นี้ก็สามารถทำให้พี่ใบพลูเอามาเป็นข้ออ้าง ที่สามารถทำให้เธอไม่ต้องแต่งงานกับพี่ก็ได้” ไอด้ารู้ดีว่าพี่ชายของเธอคิดยังไงกับใบพลู ถึงแม้ว่าออสตินจะปากแข็ง แต่สองพี่น้องก็รู้ใจกันเป็นอย่างดี
“ถ้าใบพลูไม่อยากแต่งงานกับพี่ ใครก็คงบังคับเธอไม่ได้หรอก นอกจากพี่ที่เธอต้องยอมจำนนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ไม่ต้องกลัวว่าสะใภ้ของบ้านจะเป็นผู้หญิงคนอื่น เพราะคนที่ลิขิตชีวิตของใบพลูได้ คือพี่คนเดียวเท่านั้น” แววตาของออสตินที่ดูมั่นใจ ในสิ่งที่ใบพลูต้องยอมเขาทุกเรื่อง จนลืมไปว่าเรื่องของหัวใจถ้าหากเธอไม่รู้สึกพิเศษกับเขา
การแต่งงานก็คงไม่พ้นต้องเลิกรา หรือถ้าหากฝืนทนอยู่กันไปก็คงมีแต่ความขมขื่นระทมใจ นอกเสียจากว่าสิ่งที่หญิงสาวยอมเขามาโดยตลอด เพราะเธอเองก็มีใจให้กับเขา เพียงแค่เส้นบางๆ ของคำว่าศักดิ์ศรีและทิฐิมันได้ค้ำคอเขาไว้ จนทำให้เขาและเธอต่างไม่ยอมรับความจริงในข้อนี้
“มั่นใจในตัวเองเกินไปป่ะ! เกลียดจัง ผู้แบบนี้”
“เฮ้ย! ฉันพี่เธอนะยัยไอ” ออสตินถึงกับตะโกนตามหลังน้องสาวออกไป เมื่อไอด้าเองก็ไม่ค่อยพอใจ ในสิ่งที่พี่ชายได้ทำลงไป ไม่ว่าเขาจะหลวมตัวไปมีสัมพันธ์กับใครหรือยัง แต่หลักฐานที่คาตา ทำให้ไอด้ารู้สึกว่าเขาทำเกินไป
ณ บ้านของเดย์ ทุกคนต่างสนุกสนานกับการดื่มด่ำ ในช่วงเวลาที่แสนพิเศษของเดย์ เวลาที่ล่วงเลยไปเกือบยี่สิบสามนาฬิกา เค้กปอนด์ใหญ่ที่เพื่อนๆ เซอร์ไพรส์ทำให้เดย์ถึงกับยิ้มไม่หุบ เมื่อคนที่อวยพรให้กับเขาหนึ่งในนั้นมีใบพลูอยู่ด้วย ทุกคนต่างสนุกสนานกับเสียงเพลงและเครื่องดื่ม ซึ่งบางคนก็เริ่มที่จะเมาแล้วด้วย
แต่ทว่าบรรยากาศแบบนี้กำลังทำให้ใบพลูเริ่มอยากกลับไปพักผ่อน เมื่อเธอไม่รู้สึกสนุกกับงานวันนี้เลยสักนิด โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นออสตินกำลังนั่งดื่มอยู่กับสาวๆ ซึ่งเขาไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะกับใบพลูและเพื่อนๆ ของเธอ วันนี้เตวิชติดงานไม่ได้มาด้วย ครามจึงอาสาขับรถให้กับนัทตี้และสาวๆ
“ใบพลู ขอบใจมากนะ สำหรับของขวัญ เดย์จะเก็บมันเอาไว้อย่างดีเลย จะพกติดตัวตลอดเวลาด้วยเลยดีไหม” เดย์พูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเขารู้สึกถูกใจกับของขวัญที่ใบพลูให้มา
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งเดย์ นั่นมันนาฬิกานะไม่ใช่เครื่องรางของขลังสักหน่อย” ใบพลูพูดติดตลกออกไป เมื่อเธอไม่อยากให้ความหวังกับเดย์ เพราะถึงยังไงหญิงสาวก็คงไม่หลงกลเดินเข้าไปในวังวนของผู้ชายอย่างเขา ซึ่งชายหนุ่มในมาดสุภาพบุรุษ
แต่แท้ที่จริงแล้วเบื้องหลังของเดย์เป็นยังไงใบพลูก็พอจะทราบดี แต่ในเวลานี้หญิงสาวเริ่มรู้สึกหมั่นไส้ออสติน ที่นั่งดื่มไม่สนใจคนรอบข้าง เขาทำเหมือนกับว่าเธอนั้นไม่มีตัวตน
“ใบพลูครับ วันเกิดปีนี้ ถ้าผมจะขอเต้นรำกับคุณซักเพลง จะได้ไหมครับ” คำถามของชายหนุ่มทำให้ใบพลูถึงกับหันไปสบตาวาวาและนัทตี้ เพื่อขอความเห็นจากเพื่อนรัก แต่ทว่าทั้งสองกลับผายมืออนุญาตให้เธอไปเต้นรำกับเดย์ได้
“ไปสิใบพลูเดย์อุตส่าห์ชวน อีกอย่างก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้กับเดย์ด้วยก็แล้วกัน” ดูเหมือนว่านัทตี้กำลังอยากทำให้ใครบางคนได้คลั่ง เมื่อออสตินดูเฉยชา แต่ใครจะรู้ว่าเขาพยายามข่มใจที่จะไม่เข้าใกล้ใบพลู เพราะรอยที่ซอกคอนั่น ทำให้เขากลัวว่าหญิงสาวจะเข้าใจผิด แต่ในเวลานี้คงไม่ต้องอธิบายถึงความรู้สึกที่มี เมื่อใบพลูคิดไปไกลเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้เยอะเลยทีเดียว
“เชิญครับใบพลู” เดย์ลุกขึ้นโค้งคำนับ พร้อมกับผายมือออกไป เพื่อให้ใบพลูได้เอื้อมมือมาแตะ ซึ่งทั้งคู่ได้เดินออกไปที่ฟลอร์ด้านหน้า ทำให้แขกผู้มีเกียรติ ซึ่งส่วนมากมีแต่หนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ทุกคนปรบมือเสียงดังเกรียวกราวให้กับเจ้าของวันเกิดและหญิงสาวที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว ซึ่งเธอดูสวยเด่นราวกับเจ้าหญิง
เสียงเพลงเริ่มบรรเลงขึ้น พร้อมกับท่าทีของเดย์ ที่ในเวลานี้ชายหนุ่มถือโอกาสโอบใบพลูด้วยความรู้สึกพึงพอใจ จนทำให้ใครบางคนถึงกับขบกรามเอาไว้ เพื่อไม้ให้ความโกรธพุ่งออกมา เมื่อเขากำลังอยากเดินไปชกหน้าคนที่กำลังฉวยโอกาสรั้งใบพลูเข้าไปไว้ในอ้อมกอด
“สองคนนั่นดูเหมาะสมกันดีนะคะ อีกไม่นานคงมีข่าวดี มิ้นต์รู้สึกว่าใบพลูเองก็น่าจะมีใจให้กับเดย์เหมือนกัน ว่าไหมคะออสติน” น้ำเสียงของมิ้นต์ดังขึ้นมา ราวกับว่าหล่อนอยากตอกย้ำให้ออสตินได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเดย์กับใบพลู
“แหม... ก็เดย์ตามจีบใบพลูมาตั้งหลายปี ตอนนี้คงใจอ่อนยอมตกลงเป็นแฟนเดย์แล้งมั้ง เธอถึงได้ยอมออกไปเต้นรำ ปล่อยให้เดย์โอบซะขนาดนั้น ยัยนี่เห็นใสๆ ก็ขี้อ่อยเหมือนกันนะเนี่ย” เสียงโมเมย์ดังขึ้น ยิ่งตอกย้ำให้ออสตินโกรธใบพลูมากขึ้น ที่เธอปล่อยให้เดย์ฉวยโอกาสโอบซะขนาดนั้น
“ว้าย! ออสติน!” มิ้นต์ถึงกับอุทานออกมาเสียงดังท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ เมื่อหล่อนถูกออสตินลากไปที่ฟลอร์เต้นรำกลางงาน
“อยากเต้นรำก็ไม่บอก” มิ้นต์ใช้แขนเรียวอบลำคอแกร่งออสตินเอาไว้ด้วยท่าทางที่ยั่วยวน ขณะที่ชายหนุ่มเองก็น้อยหน้าซะที่ไหน มือของเขาจับลงไปที่สะโพกของหล่อน พร้อมกับรั้งเข้าหายิ่งดูสนิทสนมราวกับคู่รักแห่งปีเลยทีเดียว
ซึ่งดูจากท่าเต้นของทั้งคู่ ที่ยังคงเต้นโดยส่ายสะโพกเป็นวงกลมไปตามจังหวะ มีการผสมผสานหลายๆ ท่า จนบางครั้งมิ้นต์ก็ทำในสิ่งที่ออสตินคาดไม่ถึง เมื่อหล่อนพยายามโน้มทรวงอกกลมโต ที่ล้นนูนออกมาจากบราให้แนบชิดกับลำตัวของออสติน
“งานนี้ฉันว่าต้องเกิดเรื่องแน่ ดูออสตินสิ เหมือนตั้งใจยั่วโมโหยัยใบพลู” วาวาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“แกว่ายัยใบพลูกำลังคิดจะทำอะไร ทำไมถึงยอมให้เดย์โอบขนาดนั้น อย่าบอกนะว่ากำลังยั่วโมโหออสตินเหมือนกัน” สองสาวยังคงพูดกระซิบกันไปมาด้วยแววตาที่กังวลใจ เมื่อพวกเธอสองคนกำลังคิดว่าต้องเกิดศึกชิงนางกลางฟลอร์แน่ๆ
ซึ่งพบว่าใบพลูกำลังนั่งยิ้มแฉ่ง ส่งตาหวานมาให้เขา พร้อมกับยื่นก่องของขวัญผูกโบสีชมพูมาให้ ซึ่งชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหน้าเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไรทำไมคนตัวเล็กถึงมีของขวัญให้กับเขานะ“ผมลืมหรือเปล่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เนื่องในโอกาสอะไร ขอโทษนะครับคุณแม่ถ้าผมเผลอเลอลืมวันสำคัญของเราไปบ้าง” ชายหนุ่มฉายแววตาออกมาด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด เมื่อเขากำลังคิดว่าตัวเองแย่เกินไป ที่ลืมวันสำคัญของเขาและเธอได้ลงคอ“ไม่เกี่ยวกับวันพิเศษหรอกค่ะ มันคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่ใบพลูบอกกับคุณเอาไว้ในตอนเย็นยังไงละค่ะ” หญิงสาวยังคงฉีกยิ้มแป้นให้กับผู้เป็นสามี เมื่อเธอนั้นเชื่อว่าเขาต้องดีใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพร์สอย่างแน่นอนออสตินค่อยๆ แกะโบออกแล้วเปิดกล่อง ก่อนจะพบว่าของที่อยู่ในกล่องนั้น มันคือสิ่งที่มีค่ากับเขาแค่ไหน หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติยินดีไหลออกมาจากดวงตาคม เขาไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ เมื่อพบว่าที่ตรวจครรภ์นั้นขึ้นสองขีด เขากำลังจะมีลูกคนที่สอง กับผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ“ขอบคุณนะใบพลู ขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน
“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน“เย้!”“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่ง
“ฮึก! ฮื้อ!” ใบพลูพยายามเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้สุดกำลัง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทนไม่ไหวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย“หยุดร้องก่อน เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน หนีมาทำไม เธอไม่เชื่อใจฉันเลยรึไงใบพลู” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเข้าหาหญิงสาว เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามาซบกับร่างกายกำยำ พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มของใบพลูอย่างเบามือ“นายต้องการอะไรจากฉันอีก”“ฉันต้องการครอบครัว ต้องการเธอกับลูก”“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง” ใบพลูเริ่มเป็นกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูเสร้าหม่นแทนที่จะดีใจ เมื่อเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ออสตินจะบริหารเวลายังไง เขาจะรักลูกของเธอเท่าลูกของมิ้นต์ไหมนั่นคือคำถามที่ใบพลูเกลียดที่สุด เพราะเธอไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนมีปมด้อย“ไหนดูซิ นอกจากขี้แยแล้ว ยังชอบมโนไปเองด้วยใช่ไหมเนี่ย หืม” ออสตินอ้อมไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าหญิงสาว เขารั้งมือของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตากลมโต“นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันจะเข้าบ้าน นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับ แต่ทว่าคงไม่เป็นผล เพราะออสตินตั้งใจใส่เกีย
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องปล่อยให้ออสตินเป็นคนสะสางเรื่องนี้เอง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้”“ป่านนี้นายกล้า คงพาออสตินไปถึงบ้านร้างแล้วมั้ง ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ออสตินจัดการเองก็แล้วกัน”“ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย ฉันยังไม่อยากได้ลูกเขยเป็นฆาตกร” “เชื่อเถอะน่า ออสตินคงมีวิธีที่ทำให้เดย์หายแค้น” เอเดนพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ขณะที่กวินเองก็อดที่จะดื่มไม่ได้เช่นกัน เมื่อเขานั้นเป็นกังวลใจ เพราะห่วงใยความรู้สึกของใบพลูณ บ้านร้างชานเมือง ซึ่งเป็นอาณาจักรของเอเดน ที่ส่วนบุคคลห่างไกลชุมชน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เอาไว้สำหรับเชือดศัตรู แน่นอนว่าพลอยชมพูไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากออสติน กวินและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น“มึงทำอะไรกับใบพลูบ้าง มึงทำอะไรเมียกู! กูถามมึงต้องตอบ มึงไม่มีสิทธิ์เงียบ” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาคมจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเดย์อย่างสมเพช เมื่อชายหนุ่มถูกมัดขึงตึงเอาไว้ราวกับนักโทษ“ถุย!”“เชี้ยเอ้ย!”ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ออสตินปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของเดย์รัวๆ จนทำให้มิ้นต์ ที่ถูกมัดไว้กับเก้าทนไม่ไหว เมื่อพ่อของลูกกำลังเจ็บปวดทรมานใจ แม้เธอจะรู
“เราจบกันแค่นี้ ถือเสียว่าที่ผ่านมา ฉันได้ชดใช้ให้กับนายจนสิ้นแล้ว”“ใบพลู! ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” หญิงสาวคว้ากระเป๋าถือได้ เธอรีบวิ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคือที่แห่งหนใด“เอะอะโวยวายทำไม มีอะไรเหรอออสติ” น้ำเสียงหวานดังขึ้น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกรังเกียจ แม้แต่เสียงที่หล่อนเปล่งออกมาเขายังไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ“โธ่เว้ย!” ออสตินรู้สึกโมโหตัวเอง เมื่อเขาตามใบพลูออกไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หาชุดมาสวมใส่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนโทรไปก็ปิดเครื่อง มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขากันแน่ รักกันอยู่ดีๆ กลับมีเรื่องบ้าๆ คล้ายกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แสดงว่าต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นนอนภาพบรรยากาศในยามเช้าวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่สวยงาม บ่งบอกให้รู้ว่าทัศนียภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ไม่น้อย เพราะป่าเขาลำเนาไพร ไม้ดอกไม้ประดับพวกนั้นทำให้ใบพลูดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ แม้ดวงตาที่เคยฉายแววเป็นประกายยังคงเศร้าหม่น แพทย์หญิงใบบัวก็ยังคงเชื่อว่าอีกไม่นานหลานสาวของเธอจะต้องดีขึ้น“ผลตรวจออกมาแล้วนะ” หญิงสาวรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต
ภายในห้องนอนของเดย์ บนเตียงขนาดคิงไซซ์ได้มีหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับใหล เรือนกายของเธอมีเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มกายเอาไว้ หลังจากที่มิ้นต์ได้จัดการถอดชุดของเธอออกจนสิ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นอนลงไปข้างกายของเธอ ซึ่งเนื้อตัวของเดย์มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ ขณะที่มิ้นต์เป็นตากล้องคอยถ่ายภาพจัดฉากให้ดูสมจริง“นี่เดย์! ทำยังกับไม่เคย” มิ้นต์ถึงกับโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโอบใบพลูด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ “เคยน่ะเคย แต่ทุกมันยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้สักหน่อย”“มันก็เหมือนกันแหละน่า ตุ๊กตายางนายก็เคยเอามาแล้วไม่ใช่เหรอ”“หุบปาก!” “ก็เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวออสตินก็กลับมาแล้ว เข้าในผ้าห่มทำเหมือนคนกำลังเล่นบทเลิฟซีนอะ” มิ้นต์ออกคำสั่งออกไป จนทำให้เดย์ชักสีหน้าใส่หล่อนอย่างไม่ค่อยพอใจ“เอาภาพนิ่งนะ”“รู้แล้วน่า ใครจะบ้าถ่ายวิดีโอ ยัยใบพลูนอนนิ่งเป็นขอนไม้อยู่แบบนั้น” มิ้นต์เริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะพยายามหามุมกล้องให้ได้ภาพที่ดูเหมือนจริงที่สุด“พอแล้ว แค่นี้ก็ทำให้ออสตินไม่อยากแต่งงานกับใบพลูแล้วแหละ”“แ