“แหม... ฉันแค่แวะมาทัก ทำไมถึงรีบกลับจัง” หญิงสาวยังคงพยายามที่จะทำให้ใบพลูได้เห็นรอยเขี้ยวที่ซอกคอระหงของหล่อน เพราะในเวลานี้ดูเหมือนว่ามิ้นต์กำลังจงใจ ในการรวบผมที่ปล่อยสยายไปไว้ยังไหล่อีกข้าง เพื่อเผยให้เห็นร่องรอยที่ชายหนุ่มฝากเอาไว้ให้ดูต่างหน้า บริเวณลำคอขาวผ่องเยื้องติ่งหูลงมาเล็กน้อย ซึ่งมีรอยดูดและรอยขบกัดมองแวบเดียวก็รู้ว่าเกิดจากอะไร
“เชี้ย...” วาวาถึงกับอุทานออกมา แต่ก็ไม่ดังมาก พร้อมเอามือป้องปากเอาไว้ด้วยความตกใจ ไม่คิดว่ามิ้นต์จะกล้าเปิดเผยร่องรอยที่แสนน่าอับอาย ให้พวกเธอได้เห็น
“ตกใจอะไรเหรอวาวา หรือว่าวันนี้ฉันดูสวยเป็นพิเศษ เสียดายจัง เมื่อคืนพวกเธอน่าจะอยู่ต่อ ไม่อย่างนั้นออสตินคงไม่รีบชวนฉันกลับห้อง ขอตัวก่อนนะ พอดีว่าคืนนี้นัดออสตินเอาไว้ เราจะไปงานวันเกิดเดย์” มิ้นต์ปรายตามองไปที่ใบพลู พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเธอ แต่ทว่าดวงตาของหล่อนกลับเต็มไปด้วยเลศนัยที่มองยังไงก็ดูร้ายกาจไม่เบา ก่อนที่หล่อนจะลุกขึ้น เดินนวยนาดออกไปด้วยท่าทางที่มั่นอกมั่นใจ ในชุดเดรสรัดติ้วเสียจนแนบเนื้อเกินงาม
ใบพลูถึงกับขบกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ เพื่อไม่ให้น้ำตาเล็ดออกมา เมื่อเธอรู้สึกเจ็บจนจุกอย่างบอกไม่ถูก ไหนบอกว่าไม่รักไม่สนใจ แล้วทำไมเธอต้องแคร์ในสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินมา ในเมื่อออสตินกับเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
“ใบพลู แกไหวไหมอ่ะ” วาวาเอ่ยถามเพื่อนรักออกไปด้วยความห่วงใย พลางหันไปสบตานัทตี้ ซึ่งดูแล้วเธอก็แคร์ความรู้สึกของใบพลูไม่แพ้กัน
“พวกแกสองคนทำไมมองฉันแบบนั้น บอกแล้วไง ต่อให้นายนั่นไปเอากับใครก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย เรากลับกันเถอะ” พอพูดจบประโยคหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อย มองยังไงก็ดูมีเสน่ห์ เธอได้ลุกเดินออกไปจากร้านกาแฟ ผู้ชายหลายคนถึงกับมองตามตามหลัง เพราะใบหน้ารูปไข่ในลุคสาวหวาน ที่มององศาไหนเธอก็ดูน่ารัก จึงทำให้หลายคนอยากเข้าไปทัก แต่เธอกลับเมินผู้ชายทุกคนที่เข้าหาใคร
ทั้งที่ปากบอกกับเพื่อนว่าไม่เป็นไร แต่ทำไมหัวใจของเธอถึงอ่อนแรง เพียงแค่ได้รู้ในสิ่งที่แคลงใจ ทั้งที่พยายามบอกใครๆ ว่าไม่รู้สึกอะไรกับออสติน เพียงแค่นึกภาพชายหนุ่มกับหญิงอื่นบนเตียง น้ำตาที่กลั้นเอาไว้กลับไหลออกมาเป็นทาง ต่อไปนี้เธอคงต้องอยู่ให้ห่างๆ
จากที่เคยพยายามจะเกลียดเขา คราวนี้หญิงสาวคงต้องเกลียดออสตินเข้าให้แล้วจริงๆ เธอปาดน้ำตาออกจากแก้ม ด้วยแววตาที่ดูมุ่งมั่น พร้อมที่จะยอมรับความจริงข้อนั้น เมื่อเขาและเธอเกิดมาเพื่อเป็นเส้นขนานท่ามกลางละติจูดที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้
ภายในห้องนอนที่เต็มไปด้วยโมเดลต่างๆ ซึ่งมีทั้งแบบบ้าน หุ่นยนต์ รถยี่ห้อต่างๆ ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือแม้แต่เซตโมเดลจำลองหญิงชายพร้อมกับเด็กสองคน เหมือนกับภาพครอบครัวที่ออสตินได้ออกแบบเอาไว้
ซึ่งหญิงสาวคนนั้นคงไม่ใช่ใคร เขาคงหมายถึงใบพลูอย่างแน่นอน บ่งบอกให้รู้ว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องนี้ ก็มีจิตใจอ่อนโยนไม่แพ้หน้าตาหวานๆ ของเขา ที่ดูหล่อเหลาราวกับโอปปา แต่ทว่าทำไมใบพลูถึงไม่กล้าเปิดใจที่จะยอมรับให้เขาเข้ามาอยู่ภายในใจของเธอ
“ออสติน! ออสติน! นี่ลูกจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยรึไง เมื่อคืนก็ไม่กลับบ้านไปค้างกับใครมา หรือไปนอนที่คอนโด” พิ้งค์พลอยเดินเข้ามาปลุกลูกชาย เมื่อเวลาผ่านเลยไปจวนจะสิบเจ็ดนาฬิกาแล้ว แต่ทว่าออสตินลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางกลับไม่ยอมตื่นขึ้นมาสักที
“โธ่! แม่คร้าบ...เมื่อคืนผมดื่มหนักไปหน่อย ขอนอนพักต่อซักสิบนาทีนะครับ” ชายหนุ่มยังคงต่อรอง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน ทั้งที่ยังคงนอนหลับตาอยู่แบบนั้น
“นี่ลูกไปทำอะไรมา รอยที่คอนั่น! ออสติน!” คราวนี้ผู้เป็นมารดาถึงกับตะคอกออกมาเสียงดัง เมื่อพิ้งค์พลอยเห็นรอยแดงที่ลำคอของลูกชายเด่นชัดเสียจนคิดดีไม่ได้เลย จนทำให้นางถึงกับไม่พอใจ เมื่อผู้เป็นมารดากำลังคิดว่าลูกชายต้องไปนอนค้างกับผู้หญิงคนไหนมาแน่ เมื่อคืนเขาถึงไม่ยอมกลับบ้าน
หมับ!“ว้าย! ไอ้ลูกบ้า... ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะออสติน!” พิ้งค์พลอยเอ็ดลูกชายออกไปเสียงดัง เมื่อออสตินลุกขึ้นนั่งแล้วรั้งมารดาเข้าไปสวมกอดจากทางด้านหลัง เพื่อกลบเกลื่อนความผิด ที่กำลังจะทำให้เขาถูกนางตำหนิ ซึ่งดูท่าทีแล้วเหมือนกับว่ามารดาจะโกรธเอามากๆ
“แม่คร้าบ... ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย มันเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับผู้หญิงคนไหนเลยนะครับ” ออสตินเริ่มใช้ลูกอ้อน เพื่อให้มารดาใจอ่อน เพราะพิ้งค์พลอยเคยบอกเอาไว้ ถ้าวันใดเขามีใครหรือทำอะไรที่ผิดต่อใบพลู การหมั้นหมายก็จะถูกยุติลงทันที
“หลักฐานโทนโท่อยู่อย่างนั้น ยังจะมาแก้ตัวอีกเหรอ แม่จะไม่พูดดีกับลูกแล้วนะ เราโตแล้วนะออสติน ลูกก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าพ่อกับแม่หมายมั่นปั้นมือ ที่จะเอาหนูใบพลูมาเป็นสะใภ้ แล้วนี่อะไร แกไปนอนกับใครมา” น้ำเสียงของพิ้งค์พลอยฟังดูเกรี้ยวกราดขึ้นมากว่าเดิม
“เมื่อคืนผมไปนอนกับไอ้ครามที่คอนโดมาครับแม่”
“ฮ่ะ! อย่าบอกนะว่าลูกกับเจ้าคราม ว้าย! อกอีแป้นจะแตก เราเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ออสติน” คราวนี้พิ้งค์พลอยถึงกับยกมือขึ้นมาทาบอกด้วยความตกใจ เมื่อคิดว่าลูกชายกำลังชื่นเปลี่ยนรสนิยมไปชมชอบไม้ป่าเดียวกัน
“แม่คร้าบ... เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว สรุปง่ายๆ ผมไม่ได้เป็นเกย์ ที่สำคัญรอยที่คอนั้นมันก็เกิดจาก...” ออสตินถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้มารดาเข้าใจยังไงดี แต่ที่แน่ๆ เขานั้นไม่ได้มีอะไรที่มันเกินเลย มากไปกว่าการถูกมิ้นต์รุกรานร่างกายท่อนบนเลยสักนิด
“แม่เกลียดที่สุดคือผู้ชายที่กินไม่เลือก ลูกสะใภ้ของแม่ต้องเป็นหนูใบพลูเท่านั้น จำให้ขึ้นใจเลยนะออสติน!” พิ้งค์พลอยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อหวังให้ลูกชายได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบ ในคำมั่นสัญญาเรื่องที่ผู้ใหญ่ได้คุยกันเอาไว้ หลังจากที่ออสตินและใบพลูเรียนจบ คนทั้งคู่ต้องแต่งงานกัน หรือถ้ายังไม่สะดวกก็หาฤกษ์หมั้นหมายกันเอาไว้ก่อนก็ได้
แต่ทว่าลูกชายกำลังจะชักใบให้เรือเสีย เมื่อมารดาเดินออกไปจากห้อง ออสตินได้หาวออกมาราวกับว่าเขานอนไม่อิ่ม ทั้งที่นอนมาทั้งวันแล้ว ผมเผ้าที่ดูยุ่งเหยิงแต่พอเป็นออสตินแล้ว ถ้าใครได้มาเห็นคงต้องร้องวาว! เพราะเขาดูหล่อเหลาขั้นเทพ
ซึ่งพบว่าใบพลูกำลังนั่งยิ้มแฉ่ง ส่งตาหวานมาให้เขา พร้อมกับยื่นก่องของขวัญผูกโบสีชมพูมาให้ ซึ่งชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหน้าเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไรทำไมคนตัวเล็กถึงมีของขวัญให้กับเขานะ“ผมลืมหรือเปล่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เนื่องในโอกาสอะไร ขอโทษนะครับคุณแม่ถ้าผมเผลอเลอลืมวันสำคัญของเราไปบ้าง” ชายหนุ่มฉายแววตาออกมาด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด เมื่อเขากำลังคิดว่าตัวเองแย่เกินไป ที่ลืมวันสำคัญของเขาและเธอได้ลงคอ“ไม่เกี่ยวกับวันพิเศษหรอกค่ะ มันคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่ใบพลูบอกกับคุณเอาไว้ในตอนเย็นยังไงละค่ะ” หญิงสาวยังคงฉีกยิ้มแป้นให้กับผู้เป็นสามี เมื่อเธอนั้นเชื่อว่าเขาต้องดีใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพร์สอย่างแน่นอนออสตินค่อยๆ แกะโบออกแล้วเปิดกล่อง ก่อนจะพบว่าของที่อยู่ในกล่องนั้น มันคือสิ่งที่มีค่ากับเขาแค่ไหน หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติยินดีไหลออกมาจากดวงตาคม เขาไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ เมื่อพบว่าที่ตรวจครรภ์นั้นขึ้นสองขีด เขากำลังจะมีลูกคนที่สอง กับผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ“ขอบคุณนะใบพลู ขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน
“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน“เย้!”“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่ง
“ฮึก! ฮื้อ!” ใบพลูพยายามเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้สุดกำลัง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทนไม่ไหวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย“หยุดร้องก่อน เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน หนีมาทำไม เธอไม่เชื่อใจฉันเลยรึไงใบพลู” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเข้าหาหญิงสาว เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามาซบกับร่างกายกำยำ พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มของใบพลูอย่างเบามือ“นายต้องการอะไรจากฉันอีก”“ฉันต้องการครอบครัว ต้องการเธอกับลูก”“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง” ใบพลูเริ่มเป็นกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูเสร้าหม่นแทนที่จะดีใจ เมื่อเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ออสตินจะบริหารเวลายังไง เขาจะรักลูกของเธอเท่าลูกของมิ้นต์ไหมนั่นคือคำถามที่ใบพลูเกลียดที่สุด เพราะเธอไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนมีปมด้อย“ไหนดูซิ นอกจากขี้แยแล้ว ยังชอบมโนไปเองด้วยใช่ไหมเนี่ย หืม” ออสตินอ้อมไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าหญิงสาว เขารั้งมือของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตากลมโต“นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันจะเข้าบ้าน นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับ แต่ทว่าคงไม่เป็นผล เพราะออสตินตั้งใจใส่เกีย
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องปล่อยให้ออสตินเป็นคนสะสางเรื่องนี้เอง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้”“ป่านนี้นายกล้า คงพาออสตินไปถึงบ้านร้างแล้วมั้ง ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ออสตินจัดการเองก็แล้วกัน”“ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย ฉันยังไม่อยากได้ลูกเขยเป็นฆาตกร” “เชื่อเถอะน่า ออสตินคงมีวิธีที่ทำให้เดย์หายแค้น” เอเดนพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ขณะที่กวินเองก็อดที่จะดื่มไม่ได้เช่นกัน เมื่อเขานั้นเป็นกังวลใจ เพราะห่วงใยความรู้สึกของใบพลูณ บ้านร้างชานเมือง ซึ่งเป็นอาณาจักรของเอเดน ที่ส่วนบุคคลห่างไกลชุมชน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เอาไว้สำหรับเชือดศัตรู แน่นอนว่าพลอยชมพูไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากออสติน กวินและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น“มึงทำอะไรกับใบพลูบ้าง มึงทำอะไรเมียกู! กูถามมึงต้องตอบ มึงไม่มีสิทธิ์เงียบ” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาคมจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเดย์อย่างสมเพช เมื่อชายหนุ่มถูกมัดขึงตึงเอาไว้ราวกับนักโทษ“ถุย!”“เชี้ยเอ้ย!”ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ออสตินปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของเดย์รัวๆ จนทำให้มิ้นต์ ที่ถูกมัดไว้กับเก้าทนไม่ไหว เมื่อพ่อของลูกกำลังเจ็บปวดทรมานใจ แม้เธอจะรู
“เราจบกันแค่นี้ ถือเสียว่าที่ผ่านมา ฉันได้ชดใช้ให้กับนายจนสิ้นแล้ว”“ใบพลู! ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” หญิงสาวคว้ากระเป๋าถือได้ เธอรีบวิ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคือที่แห่งหนใด“เอะอะโวยวายทำไม มีอะไรเหรอออสติ” น้ำเสียงหวานดังขึ้น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกรังเกียจ แม้แต่เสียงที่หล่อนเปล่งออกมาเขายังไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ“โธ่เว้ย!” ออสตินรู้สึกโมโหตัวเอง เมื่อเขาตามใบพลูออกไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หาชุดมาสวมใส่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนโทรไปก็ปิดเครื่อง มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขากันแน่ รักกันอยู่ดีๆ กลับมีเรื่องบ้าๆ คล้ายกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แสดงว่าต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นนอนภาพบรรยากาศในยามเช้าวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่สวยงาม บ่งบอกให้รู้ว่าทัศนียภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ไม่น้อย เพราะป่าเขาลำเนาไพร ไม้ดอกไม้ประดับพวกนั้นทำให้ใบพลูดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ แม้ดวงตาที่เคยฉายแววเป็นประกายยังคงเศร้าหม่น แพทย์หญิงใบบัวก็ยังคงเชื่อว่าอีกไม่นานหลานสาวของเธอจะต้องดีขึ้น“ผลตรวจออกมาแล้วนะ” หญิงสาวรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต
ภายในห้องนอนของเดย์ บนเตียงขนาดคิงไซซ์ได้มีหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับใหล เรือนกายของเธอมีเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มกายเอาไว้ หลังจากที่มิ้นต์ได้จัดการถอดชุดของเธอออกจนสิ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นอนลงไปข้างกายของเธอ ซึ่งเนื้อตัวของเดย์มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ ขณะที่มิ้นต์เป็นตากล้องคอยถ่ายภาพจัดฉากให้ดูสมจริง“นี่เดย์! ทำยังกับไม่เคย” มิ้นต์ถึงกับโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโอบใบพลูด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ “เคยน่ะเคย แต่ทุกมันยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้สักหน่อย”“มันก็เหมือนกันแหละน่า ตุ๊กตายางนายก็เคยเอามาแล้วไม่ใช่เหรอ”“หุบปาก!” “ก็เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวออสตินก็กลับมาแล้ว เข้าในผ้าห่มทำเหมือนคนกำลังเล่นบทเลิฟซีนอะ” มิ้นต์ออกคำสั่งออกไป จนทำให้เดย์ชักสีหน้าใส่หล่อนอย่างไม่ค่อยพอใจ“เอาภาพนิ่งนะ”“รู้แล้วน่า ใครจะบ้าถ่ายวิดีโอ ยัยใบพลูนอนนิ่งเป็นขอนไม้อยู่แบบนั้น” มิ้นต์เริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะพยายามหามุมกล้องให้ได้ภาพที่ดูเหมือนจริงที่สุด“พอแล้ว แค่นี้ก็ทำให้ออสตินไม่อยากแต่งงานกับใบพลูแล้วแหละ”“แ