หลังจากรถหรูของอาชาก็แล่นมาถึงหน้าบ้านสวนของพ่อแม่เหมยหลังจากจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยเชิญอาชาเข้าบ้านพร้อมกับแม่หนูน้อยลิลลี่ ก่อนที่อาชาจะเข้าไปได้สั่งการบางอย่างให้กับเสือจัดการ
"เสือคืนนี้แกให้บอดี้การ์ดมาดูแลรอบ ๆ นี้แล้วกันนะ ส่วนแกไปพักเถอะเหนื่อยกับฉันมามากละ" "แต่ว่าผมไม่ไว้ใจ.."เสือเอ่ยขึ้น "ไม่เป็นไรหรอก ส่งบอดี้การ์ดคนอื่นมา ตอนนี้ไอ้เมฆินทร์มันคงไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรแกไปพักเถอะ" "ครับนายผมได้โทรเรียกบอดี้การ์ดตามมาที่นี่จำนวนสิบคนเพื่อดูแลนายกับคุณหนูลิลลี่" "ขอบใจมาก" อาชาเดินลงมาที่รถพร้อมกับถือกระเป๋าสีชมพูในมือและกระเป๋าเสื้อของตัวเอง ทุกคนในครอบครัวของเหมยออกมาต้อนรับอาชาอย่างเป็นกันเองฟิวส์ครอบครัวและอบอุ่น ในเวลานั้นก็ได้เข้ามาพูดคุยกันในบ้านอย่างสนุกออกรถออกชาติ ลิลลี่ที่เห็นเหมยก็รีบวิ่งตรงมาหาเหมยด้วยความคิดถึงลิลลี่ที่เห็นหมอยถือดอกกุหลาบในมือก็ทำหูตาเป็นประกายเหมือนอยากจะได้บ้าง "คุณครูเหมยขา....".ลิลลี่โผล่เข้ากอดไหมอย่างออดอ้อน เหมือนย่อตัวลงแล้วโอบกอดรัดตัวลิลลี่เอาไว้แน่นเช่นกันราวกับแม่ลูกที่ไม่ได้เจอกันมานานทั้งที่เพิ่งจะวางสายจากกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ฟอด ! เหมยอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้จึงกดหอมแก้มไปที่แก้มยุ้ย ๆ ของลิลลี่ "เป็นยังไงคะ ทานอะไรมาหรือยัง"เหมยเอ่ยปากถามลิลลี่อย่างเป็นห่วงเป็นใย "ลิลลี่กับคุณลุงแวะซื้ออะไรทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วก็ลิลลี่เอาเค้กน้ำมะพร้าวมาฝากคุณตากับคุณยายด้วยนะคะ"เสือที่เดินถือห่อของขวัญมายื่นให้กับแม่น้ำฟ้าด้วยตัวเอง "ขอบใจมากนะจ๊ะหนูลิลลี่ขอบคุณด้วยนะคะคุณบอดี้การ์ดที่เอามาให้" แม่น้ำฟ้ากล่าวขอบคุณเสือและหนูน้อยลิลลี่ผู้น่ารักที่ได้เอาของมาฝากเธอและครอบครัว "ขอบคุณนายเถอะครับคุณน้ำฟ้า นายอาชาเป็นคนให้ผมจัดเตรียมให้" เสือพูดจบก็เดินถอยหลังโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วเดินกลับไปอยู่ที่เดิม "คุณอาชาบ้านของแม่กับพ่อค่อนข้างเล็กหวังว่าคุณอาชาจะอยู่ได้นะคะ" แม่น้ำฟ้าที่มีอาการเกร็ง ๆ หลังจากที่เห็นอาชาเข้ามาในบ้านของตัวเอง "ขอบคุณครับ ผมอยู่ได้สบายมากครับ" เสือที่เห็นธงยืนอยู่ด้านหลังจึงได้รีบตะโกนออกมาทันควัน "อ้าวคุณธง ทำไมยังอยู่ที่นี่อีกล่ะครับ ผมคิดว่าคุณธงกลับไปดูงานแล้วซะอีกเ"สือแกล้งพูดเสียงดังฉันที่เพิ่งจะประจันหน้ากันไม่ถึง สิบนาที เหมยที่เห็นช่องว่างจังหวะเวลาจึงได้หันมาหาธงแล้วทำสีหน้าจริงจัง "อ้าว..พี่ธงติดงานแล้วทำไมบอกเหมยว่าว่างล่ะคะ"เหมยรีบเอ่ยขึ้นทันทีเพราะธงทำท่าทีอิดออดจะอยู่ต่อให้ได้ "พอดีเป็นงานด่วน คุณเสือพึ่งจะโทรมาหาพี่เมื่อกี้แหละ พี่ว่าจะบอกเราอยู่พอดี" ธงที่เลี่ยงไม่ได้ก็ตอบส่ง ๆ ออกไปก่อน "งั้นคุณธงกลับไปที่ไร่ชากับผมเลยก็ได้นะเพราะผมกำลังจะกลับไปพักพอดี" เสือเอ่ยเชิญให้ธงกลับไร่พร้อมเขาทันทีเพราะเขารู้ใจเจ้านายไม่อยากให้มี กขค. "เออผมว่า....!"ธงทำท่าทางจะปฏิเสธ "คุณธงกลับเลยก็ได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ ผมอนุญาตให้คุณใช้รถของผม"ได้อาชารีบบอกอนุญาตพูดเสริมทัพให้กับเสือเพื่อไล่ชงให้ออกไปห่างจากเหมย "ครับ ครับ" ธงตอบโดยที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่เขาเข้าไปเก็บของแล้วเดินกลับออกมา "คุณพ่อ คุณแม่ครับ ผมขอตัวก่อนพอดีมีงานรัดตัวเร่งด่วนครับ" ธงพูดจบก็ยกมือไหว้พ่อแม่ของเหมยแล้วก้าวขึ้นรถคันหรูของอาชาโดยนั่งไปข้างหน้ากับเสืออย่างไม่เต็มใจ แม่น้ำฟ้าและพ่อบุญทองได้เชิญอาชาเข้ามาในบ้านรวมถึงแม่หนูน้อยลิลลี่ที่กำลังวิ่งช่วยเจ้ากับกระเป๋าสีชมพูคู่ใจของเธอ "เหมยพาคุณอาชาไปเดินเล่นชมสวนเราด้านนอกก็ได้นะลูก เดี๋ยวลิลลี่แม่จัดการเอง"แม่น้ำฟ้าที่เห็นท่าทีของอาชาก็รู้ได้ทันทีว่าอาชานั้นต้องมีใจให้เหมยแน่ๆ "มันจะรบกวนคุณอาชาไปหรือเปล่าแม่"เหมยรีบตอบปฏิเสธ "ไม่เลยครับผมอยากจะเดินดูรอบ ๆ นะถ้าคุณเหมยไม่ยุ่งมากนัก" อาชาก็รีบเสริมทัพเพราะเขาอยากใช้เวลาอยู่กับเหมยบ้าง "ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณอาชาสนใจเดี๋ยวเหมยผ้าไปชมพระอาทิตย์ตก"เหมยต่อไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนะ "คุณลุงอาชาไปกับคุณครูเหมยเลยค่ะ ลิลลี่จะอยู่กับคุณตาคุณยาย"ลิลลี่พูดจบก็ควักสมุดนิทานออกมาจากกระเป๋าสีชมพูของเธอ "คุณตา คุณยายขา อ่านนิทานให้ลิลลี่ฟังหน่อยได้ไหมคะ" เมื่อโดนเสี่ยงสะกดจากหนูน้อยลิลลี่ผู้น่ารักพ่อบุญทองกับแม่น้ำฟ้าก็ไปนั่งรวมกันที่โซฟาเดียวและทิ้งให้เหมยและอาชาออกไปใช้เวลาด้วยกัน "บ้านของคุณเหมยนี่ร่มรื่นมากเลยนะครับ"อาชาเปิดประเด็นพูดออกมาก่อน "สู้ไร่ชาของคุณอาชาไม่ได้หรอกค่ะ สวยงามกว่าบ้านเหมยเยอะ"เหมยก็ยิ้มแบบเขินๆ "ตรงนั้นเป็นมุมที่เหมยชอบใช้อ่านหนังสือตอนที่เหมยเรียนมหาลัย มันเป็นมุมที่เงียบสงบนะคะ"เหมยชี้ไปที่โต๊ะม้าหินที่ถูกประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบสวยงาม "ลองไปดูไหม ครับผมก็อยากสัมผัสบรรยากาศว่าทำไมคนเหมยถึงชอบ"อาชาบอกกับเหมย "ได้สิคะ"ขณะที่เหมยกำลังจะก้าวขาออกไปก็เกิดพลิกสะดุดจนหงายหลัง "ว๊าย..! " เหมยร้องออกมาเสียงหลง แต่ก็ความมือไวประดุจปีศาจของอาชาเขาคว้าร่างของใหม่เอาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มหงายหลัง ทำให้เหมยและอาชาใกล้ชิดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมยและอาชาจ้องตากันอยู่สักพักจนเหมยได้สติ "เอ่อคือเหมยขอโทษนะคะ เหมยซุ่มซ่ามเอง"เหมยรีบออกปากขอโทษ "ไม่เป็นไรเลยครับ" อาชาจึงพยุงเหมยให้ยืนขึ้นแล้วพยุงเดินไปที่โต๊ะม้าหิน "คุณเหมยเจ็บข้อเท้าใช่ไหม"อาชาถาม "เล็กน้อยค่ะ น่าจะเคล็ด ตอนที่ข้อเท้าพลิกเมื่อกี้แน่เลย"เหมยส่งยิ้มให้กับอาชาภายใต้แว่นหนาเตอะแต่มันก็ยังซ่อนความน่ารักของเหมยเอาไว้ไม่มืด "ขอผมดูหน่อยได้ไหม"อาชาจับข้อเท้าของเหมยจึงเห็นว่ามันมีรอยบวมเล็ก ๆ และแดงเหมือนข้อเท้ากระแทกกับอะไรสักอย่าง "โอ๊ย...!!!!" "คุณอาชาคะ เจ็บค่ะ"เหมยบอกอาชา "ขอโทษทีครับ ผมอาจจะมือหนักไปนิดนึงแต่เหมือนจะโดนหินบาดตรงตาตุ่มด้วย"อาชาบอกเหมย "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้ไกลหัวใจเยอะเลย"เหมยพูดจบก็ดีดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมทำท่าจะก้าวเดินด้วยท่าทีแข็งแรง แต่แล้วก็กลับไปล้มพับลงไปอีกจนได้ แต่อาชาไม่ยอมให้เหมยเจ็บตัวเป็นครั้งที่ สอง เขาจึงกระโดดคว้าร่างของเหมยเอาไว้แล้วกลิ้งไปบนหญ้า ใช้หลังกระแทกลงพื้น ทำให้เหมยและอาชาประกบจูบปากกันโดยไม่ได้ตั้งใจ จังหวะนั้นเหมยที่ถูกอาชากอดเอาไว้แน่นก็จ้องมองและทำตาโตเพราะปากของเหมยและอาชาประกบกันอยู่ เหมยที่ได้สติจึงรีบผลักอาชาออกแล้วลุกขึ้นทั้งๆ ที่ข้อเท้าเจ็บ เหมยอยากจะมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยกับความโก๊ะแก่นของตัวเอง "เออ... คือ ..ขอโทษจริง ๆ ค่ะเหมยไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะคะ ขอโทษค่ะ"เหมยกลัวว่าอาชาจะว่าว่าเธออ่อยเหยื่อเขาเพราะเขาก็เป็นผู้ชายที่เพรียบพร้อมคนหนึ่ง "โถ่คุณเหมย ไม่เห็นต้องคิดมากเลยครับมันเป็นอุบัติเหตุ"อาชาพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเอาไว้เพราะเมื่อกี้ลูกชายของเขาได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ.....หลังจากเกิดอุบัติเหตุ เหมย ก็รู้สึกเขินอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าอาชาต้องอุ้ม เหมย เข้ามาในบ้าน ทำให้พ่อกับแม่ของ เหมย รู้สึกตกใจเช่นกัน“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงกับต้องอุ้มกันเข้ามาเลย” แม่น้ำฟ้า ที่เป็นห่วงลูกสาวจึงรีบลุกจากโซฟา“พอดี เหมย ซุ่มซ่ามนะแม่ เหมือนข้อเท้าพลิก แต่คุณอาชาอาสาจะอุ้ม เหมย เข้ามา เหมย ห้ามแล้วนะแม่” เหมย พยายามอธิบาย“ไม่เป็นไรหรอก แม่ไม่ได้ว่าอะไรเลย” ผู้เป็นแม่มองอาการอยากจะจับคู่อาชาให้กับลูกสาวเสียมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะตัวเองก็อยากจะอุ้มหลานจะแย่“ผมต้องขอโทษด้วยครับ ผมเห็นคุณ เหมย เดินไม่ไหวก็เลยอุ้มเธอเข้ามาโดยถือวิสาสะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอาชา ขอบคุณแทนลูกสาวผมด้วย” พ่อบุญทอง ที่ถูกชะตาอาชาเป็นพิเศษเรื่องวุ่นวายยังไม่จบแค่นั้น เมื่อจู่ๆ มีรถหรูสองคันพร้อมชายชุดดำกว่าสิบคนมาจอดหน้าบ้านเหมย อาชาจึงอธิบายว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่ต้องระวังศัตรู ทำให้ต้องมีคนคุ้มกันไปทุกที่ ยิ่งพาลิลลี่มาด้วยและมาเยี่ยมบ้านเหมยก็ยิ่งต้องปลอดภัยเป็นเท่าตัว“ทำไมคนต้องมาเฝ้าหน้าบ้านเราเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ” พ่อบุญทองรีบถามอาชา“เอาตรงๆ นะครับ ผมก็เป็นนักธุรกิจคนหน
หลังจากรถหรูของอาชาก็แล่นมาถึงหน้าบ้านสวนของพ่อแม่เหมยหลังจากจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยเชิญอาชาเข้าบ้านพร้อมกับแม่หนูน้อยลิลลี่ ก่อนที่อาชาจะเข้าไปได้สั่งการบางอย่างให้กับเสือจัดการ"เสือคืนนี้แกให้บอดี้การ์ดมาดูแลรอบ ๆ นี้แล้วกันนะ ส่วนแกไปพักเถอะเหนื่อยกับฉันมามากละ""แต่ว่าผมไม่ไว้ใจ.."เสือเอ่ยขึ้น"ไม่เป็นไรหรอก ส่งบอดี้การ์ดคนอื่นมา ตอนนี้ไอ้เมฆินทร์มันคงไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรแกไปพักเถอะ""ครับนายผมได้โทรเรียกบอดี้การ์ดตามมาที่นี่จำนวนสิบคนเพื่อดูแลนายกับคุณหนูลิลลี่""ขอบใจมาก" อาชาเดินลงมาที่รถพร้อมกับถือกระเป๋าสีชมพูในมือและกระเป๋าเสื้อของตัวเองทุกคนในครอบครัวของเหมยออกมาต้อนรับอาชาอย่างเป็นกันเองฟิวส์ครอบครัวและอบอุ่น ในเวลานั้นก็ได้เข้ามาพูดคุยกันในบ้านอย่างสนุกออกรถออกชาติลิลลี่ที่เห็นเหมยก็รีบวิ่งตรงมาหาเหมยด้วยความคิดถึงลิลลี่ที่เห็นหมอยถือดอกกุหลาบในมือก็ทำหูตาเป็นประกายเหมือนอยากจะได้บ้าง"คุณครูเหมยขา....".ลิลลี่โผล่เข้ากอดไหมอย่างออดอ้อนเหมือนย่อตัวลงแล้วโอบกอดรัดตัวลิลลี่เอาไว้แน่นเช่นกันราวกับแม่ลูกที่ไม่ได้เจอกันมานานทั้งที่เพิ่งจะวางสายจากกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฟอด
ลิลลี่ยื่นหน้ามาทางอาชาที่กำลังเปิดอ่านอีเมล“คุณลุงขา คุณลุงคุยกับใครคะ ลิลลี่อยากคุยด้วย” ลิลลี่ทำเสียงอ้อนพร้อมกับเอียงคอไปมาอย่างน่ารักอาชายิ้มบางๆ ลูบผมของลิลลี่เบาๆ “คุณลุงคุยเรื่องงานจ้ะ หนูลิลลี่คุยกับคุณครูเหมยไปก่อนนะ เดี๋ยวพอถึงบ้านคุณครูเหมย คุณลุงจะให้หนูลิลลี่วิ่งเล่นได้เต็มที่เลย”ลิลลี่ตาโต “จริงเหรอคะ! ลิลลี่อยากไปบ้านคุณครูเหมยแล้ว”"จริงสิคะคุณลุงไม่โกหกลิลลี่หรอกค่ะงั้นลิลลี่ก็ดูนะคะว่าไปถึงบ้านคุณครูเหมยแล้วจะไปช่วยคุณครูทำอะไรได้บ้าง"อาชาก็ปลอบประโลมหลานสาวบทสนทนาของเสือและอาชา ดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน เสือรายงานเรื่องราวของ “เมฆินทร์” คู่ปรับทางธุรกิจที่ชอบใช้กลโกง อาชาฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาเรียบเฉยแต่แววตาฉายความเฉียบคม“มันเป็นคนยังไงวะไอ้เมฆินทร์เนี่ย ถึงได้กล้าลอบกัดนายตลอด ต่อให้มันจะมีความคับแค้นผมว่าคนอย่างนี้ถ้ามันไม่ตายมันคงไม่เลิกแน่เลยครับนาย” เสือที่ขับรถไปด้วยก็พูดคุยเรื่องของไอ้เมฆินทร์ไปด้วยลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินบทสนทนาจึงถามขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็นอาชาจึงค่อยๆบอกสอนหลานสาวอย่างใจเย็นอาชาหันมามองลิลลี่ช้าๆ “เป็นคนที่ไม่น่าคบห
ขณะที่ลิลลี่กำลังพูดคุยอยู่กับเหมย อาชาได้วางหลานสาวไว้บนโซฟา แล้วเดินออกไปที่ระเบียงด้วยท่าทีหงุดหงิดและยกหูโทรหาใครคนหนึ่งผ่านไปไม่นานเสียงโทรศัพท์ของธงได้ดังขึ้นหลังจากที่อาชาวางสาย"สวัสดีครับคุณเสือ มีอะไรหรือเปล่าครับเห็นโทรหาผมหลายสาย" ธงที่รับสายของเสืออย่างไวเพราะอยู่ดี ๆ เสื่อก็โทรหาเขาโดยที่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว"คุณธงครับตอนนี้คุณธงอยู่ไหน"เสือแกล้งถาม"พอดีผมออกมาข้างนอกหาอะไรกินนะครับคุณเสือมีอะไรหรือเปล่า"ธงถามย้อนกลับไป"พอดีเครื่องจักรที่คุณธงดูแลวันนี้มันเกิด เครื่องกระตุก แล้วหยุดทำงานรบกวนคุณเสือกลับมาดูด่วนให้หน่อยได้ไหมครับ""เออ....คือ.."ธงตั้งท่าจะปฏิเสธแต่ก็โดนเสื่อพูดแทรกขึ้นมา"เราจำเป็นจะต้องแพ็คกล่องชาเพื่อนำไปส่งลูกค้าในวันพรุ่งนี้ครับ ยังไงต้องรีบซ่อมเครื่องแพ็คครับ" เสือรีบยกข้ออ้างว่าเครื่องที่ธงได้ดูแลเกิดเสียขึ้นมาทั้งที่ข้อเท็จจริงเสือเห็นแล้วว่าสายพานมันสึกกร่อนกำลังจะขาดจริงๆใช้ใครมาเปลี่ยนก็ได้แต่เขาก็ต้องช่วยเจ้านาย"ตอนนี้เลยหรอครับคุณเสือ ผมไม่แน่ใจว่าจะกลับไปทันหรือ"เปล่าธงรีบอ้างขึ้นมาพร้อมไม่อยากเสียช่วงโอกาสทองที่ได้อยู่กับเหมย"ยังไงคงต้
เสียงรถแล่นเข้ามาในบ้านสวนของแม่น้ำฟ้าและพ่อบุญทอง ทั้งสองคนจึงรีบออกมาดูหน้าบ้านก็เห็นลูกสาวมา ทั้งสองก็ดีใจยกใหญ่ รีบออกมาต้อนรับลูกสาวพร้อมกับหมาชิสุ 1 ตัวที่เห่าเสียงดัง "โฮ่ง ๆ" "อ้าวพ่อ! ลูกสาวเรามา" แม่น้ำฟ้าที่มาก่อนก็เรียกพ่อบุญทองให้ออกมารับลูกสาว"จ้าแม่ พ่อกำลังออกไป" พ่อบุญทองที่กำลังดูทีวีก็รีบลุกออกจากโซฟาเพื่อมารอรับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างเหมยเมื่อเหมยถือหิ้วของพะรุงพะรังลงจากรถ พอเจอพ่อกับแม่ก็วางของทุกอย่างลงแล้วโผเข้ากอดแม่น้ำฟ้าด้วยความคิดถึง"เป็นไงบ้างแม่ สบายดีไหม? ลูกไม่มาหาไม่กี่อาทิตย์เนี่ย ไม่โทรตามเลยนะคะ!" เหมยทำเป็นน้อยใจแม่น้ำฟ้าที่อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่โทรตามหรือโทรหาเธอเลย"อ้าว แม่ก็คิดว่าแม่ไม่มีลูกแล้วเนี่ย เลยไม่รู้จะหาเบอร์ที่ไหนมาโทรตาม!" สองสาวคุยกันอย่างออกรสออกชาติพ่อบุญทองเมื่อมาถึงก็โผเข้ากอดลูกสาวเช่นกัน ด้วยความที่เหมยไม่มาหลายวัน พ่อบุญทองก็คิดถึงมากเหมือนกัน"เป็นไงบ้างลูกสาวพ่อ ได้พักผ่อนสองสามเดือนเต็มที่เลยสิ เราจะไปเที่ยวไหนล่ะ?" พ่อบุญทองที่เอามือลูบไปที่หั
วันที่อาชาแยกกับเหมย วันนี้เป็นวันที่ 5 แล้ว ที่เหมยไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกับอาชา มีเพียงหนูลิลลี่ที่โทรหาเหมยผ่านวิดีโอคอล กลายเป็นว่าตลอดทั้งอาทิตย์เหมยจะมีมือถือหนึ่งเครื่องที่แยกออกมาสำหรับหนูน้อยลิลลี่ ที่เอาแต่คุยกับเหมยผ่านแท็บเล็ต วันนี้ก็เช่นกัน "คุณครูขา เมื่อไหร่คุณครูจะมาหาลิลลี่คะ" ลิลลี่หันมาพูดคุยกับคุณครูเหมยของเธอผ่านหน้าจอแท็บเล็ตอย่างไม่จริงจังนัก ขณะที่เธอกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงกว้างพร้อมกับระบายสีเพื่ออวดให้คุณครูของเธอดู "เอาไว้อาทิตย์หน้าเจอกันนะคะ ครูจะเตรียมแผนการสอนให้กับลิลลี่ไงคะ" เหมยที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ในครัว ก็กลายเป็นว่ามีเพื่อนตัวน้อยอย่างลิลลี่ตามติดชีวิตยิ่งกว่าเงาตามตัว แต่กลับไม่รู้สึกหงุดหงิดหรือรำคาญ แต่กลับรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ เหมือนมีเพื่อนต่างวัย "คุณครูทำอะไรทานคะมื้อเย็นวันนี้" ลิลลี่ที่นอนอยู่บนเตียงก็ยังคงถามอย่างสม่ำเสมอ "วันนี้คุณครูจะทำข้าวต้มกุ้งมื้อเย็นค่ะ แล้วลิลลี่ล่ะคะ ป้าแจ่มทำอะไรให้กินเย็นนี้" เหมยก็ถามไปด้วย มือก็ทำกับข้าวไปด้วย "ลิลลี่ยังไม่ทราบเลยค่ะ ป้าแจ่มไม่ได้มา บอกค่ะ คุณครูขา" วันทั้งวันลิลลี่ก็เอาแต่หมกตัว