ช่วงเช้าขณะที่รรินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวก็ได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงกริ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้น ทำให้เธอต้องวางมือแล้วรีบเดินออกไปดู
“อ้าว!!! พี่สายฟ้ามาแต่เช้าเลยนะคะ เข้าบ้านก่อนค่ะ พี่ทานอาหารเช้ามาหรือยัง รินกำลังทำอาหารอยู่พอดี พี่ทานด้วยกันไหมคะ”
“อืม”
“งั้นนั่งรอรินแป๊บหนึ่งนะคะใกล้เสร็จแล้ว” รรินเดินกลับเข้าไปทำอาหารในครัวต่อส่วนสายฟ้านั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาในโซนรับแขกหน้าทีวี
ผ่านไปสักพักรรินก็เดินกลับมาพร้อมชามข้าวต้มสองชามที่ส่งกลิ่นหอมชวนหิวก่อนที่เธอจะวางชามข้าวต้มลงที่โต๊ะเล็ก ๆ สำหรับใช้นั่งทานอาหาร
“พี่สายฟ้าอาหารเสร็จแล้วค่ะมาทานได้เลย”
“...” สายฟ้าไม่ตอบรับแต่เดินมานั่งลงที่โต๊ะพร้อมกับลงมือทานอาหารทันที
“พอทานได้ไหมคะ” รรินยิ้มพร้อมกับถามเขาออกไป เธอกลัวว่าอาหารที่เธอทำจะไม่ถูกปากเขาเอามาก อาหารพื้น ๆ เธอไม่รู้ว่าเขาจะทานได้ไหมเพราะคนรวย ๆ แบบเขาคงจะทานอาหารดีดีเป็นประจำ
“อืม” เมื่อทั้งสองทานอาหารเสร็จรรินก็รับหน้าที่เก็บกวาดโต๊ะและล้างจาน พอเธอเดินออกมาสายฟ้าก็พูดกับเธอ
“ไป”
“พี่สายฟ้าจะพารินไปไหนคะ”
“ไปลาออกและไปคอนโดพี่”
“ไปคอนโดพี่ ไปทำไมคะ”
“ทำงาน”
“ค่ะ”
หลังจากที่สายฟ้าพารรินไปลาออกจากงานที่ค่าเฟ่เสร็จแล้วเขาก็ขับรถพารรินมายังคอนโดหรูของเขาที่อยู่ใกล้มหาลัยทันที
จอดรถเสร็จก็พารรินเดินเข้ามาภายในอาคารที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมและทันสมัยที่สุด สายฟ้าใช้คีย์การ์ดแตะที่ลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องพักชั้นบนสุด พอลิฟท์เปิดออกก็เห็นห้องพักที่มีห้องเดียวทั้งชั้น ซึ่งดูแล้วมันใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กของเธออีก ทำให้เธออดที่จะเดินสำรวจไม่ได้ภายในห้องตกแต่งออกโทนสีดำเทา ภายในมีห้องแยกออกเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องรับแขกที่มีโซฟาและทีวีขนาดใหญ่ติดอยู่ข้างผนังและมีห้องดูหนัง ห้องครัว และฟิตเนส และด้านนอกมีสระว่ายน้ำส่วนตัว พอเดินสำรวจทั่วทั้งชั้นแล้ว รรินก็เดิมกลับมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขก
“เป็นไง”
“ห้องสวยมากค่ะ ใหญ่กว่าบ้านรินอีก” รรินยิ้มให้สายฟ้า
“ทำความสะอาดอาทิตย์ละ 3 วันพอ” ที่จริงแล้วห้องเขามีแม่บ้านมาทำความสะอาดประจำอยู่แล้ว แต่เพราะเขาไม่อยากให้เธอไปทำงานที่ร้านคาเฟ่นั้นแล้วกลับบ้านดึก ๆ แต่เขาก็ยังให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเหมือนเดิมเพียงแต่ให้มาไม่ตรงกับวันที่รรินมาเท่านั้นก็เขาไม่อยากให้เธอเหนื่อยมากจนเกินไป
“ค่ะ”
สายฟ้ายื่นคีย์การ์ดห้องให้รริน เพื่อเวลาที่เธอมาที่นี่จะได้เข้าออกได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องรอเขา ซึ่งเขาได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ด้านล่างไว้แล้วทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการเข้าออก เพราะคอนโดนี้ห้ามบุคคลภายนอกเข้า ถ้าจะเข้ามาต้องรอให้เจ้าของห้องลงมารับด้านล่าง
“หิวหรือยัง” สายฟ้าที่มองดูเวลาก็เห็นว่าบ่ายแล้วเขามองคนข้าง ๆ ที่นั่งดูทีวีเงียบ ๆ น่าจะหิวแล้วจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“หิวแล้วค่ะ ที่ห้องพี่มีอะไรพอที่จะทำได้บ้างไหมคะ” เมื่อพูดจบรรินก็เดินไปเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องครัว ‘ไม่เห็นมีอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่ากับเบียร์นี่แหละนะห้องผู้ชาย’ รรินได้แต่บ่นคนเดียวในใจ
“พี่สายฟ้า ในห้องพี่ไม่มีอะไรให้ทำได้เลย”
“ปกติพี่ทานมาจากข้างนอก”
“ค่ะ”
“ไป”
“ไปไหนคะ”
“หาอะไรกิน” พูดจบสายฟ้าก็เดินนำไปที่ลิฟท์เพื่อลงไปยังที่ลานจอดรถ ทั้งสองคนขึ้นรถแล้วขับไปยังห้างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดเขามากนัก เมื่อมาห้างถึงสายฟ้าเดินจับมือรรินไปยังโซนร้านอาหารทันที
“อยากทานอะไร”
“แล้วแต่พี่เลยค่ะ”
“งั้นอาหารญี่ปุ่น ทานได้ไหม”
“ค่ะ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังทานอาหารกันอยู่นั้น ก็มีคนเดินเข้ามาที่โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่ก่อนจะมีเสียงทักทายจากคนมาใหม่
“สวัสดีค่ะ พี่สายฟ้ามาทานข้าวเหรอคะ ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกันที่นี่เลยนะคะ ขอสานั่งด้วยคนได้ไหมคะ สานัดกับเพื่อนไว้แต่เพื่อนยังไม่มาเลย” ริสาถือวิสาสะนั่งลงข้าง ๆ สายฟ้าทันทีโดยไม่รอฟังคำอนุญาตพร้อมกับยกมือขึ้นมากอดแขนเขาไว้อย่างคนสนิทสนมกัน
“ใครคะเนี่ย ไม่คิดจะแนะนำให้สารู้จักบ้างเหรอ” สายฟ้ามองหน้าผู้หญิงที่นั่งข้างเขาอย่างถือวิสาสะโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมกับสะบัดแขนออกอย่างแรงจนหลุดก่อนที่เขาจะถามออกมาเสียงเย็นชา
“เธอเป็นใคร”
“ริสาไงคะ พี่สายฟ้าจำไม่ได้เหรอเราคนคุ้นเคยกันไง”
“ฉันไม่รู้จักเธอ”
“พูดแบบนี้สาเสียใจแย่เลยนะคะ”
สายฟ้าไม่ตอบแต่ลุกขึ้นหยิบเงินในกระเป๋าวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับจับมือรรินเดินออกจากร้านทันทีโดยไม่สนใจฟังเสียงโวยวายของผู้หญิงคนนั้นแม้แต่น้อย
“ผู้หญิงคนนั้นใครเหรอคะ ทำไมพี่พูดกับเธอแบบนั้น” รรินอดไม่ได้ที่จะถามเพราะดูท่าทางเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้จักสายฟ้าเป็นอย่างดีเธอถึงได้กล้าแสดงออกมาแบบนั้น
“พี่ไม่รู้จัก จำไม่ได้ ไม่ต้องสนใจ”
“แต่...”
“อิ่มหรือยัง” สายฟ้าไม่ตอบแต่เปลี่ยนมาเป็นถามเธอแทนเพราะเมื่อกี้พวกเขาทานอาหารยังไม่หมดก็มีคนมาขัดจังหวะทำให้หมดอารมณ์จะทานต่อเสียก่อน
“อิ่มแล้วค่ะ”
“อืม”
“พี่สายฟ้ารินขอไปซื้อของเข้าบ้านหน่อยได้ไหมคะ ของที่บ้านใกล้หมดแล้ว”
“ไปสิ”
ทั้งคู่พากันเดินอยู่ที่ซุปเปอร์มาเก็ตชั้นล่างของห้าง สายฟ้าทำหน้าที่เข็นรถเข็นเดินตามรรินที่ทำหน้าที่เลือกพวกเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และของใช้อื่น ๆ ใส่ในรถเข็น
“ซื้อเนื้อปลาไปด้วย พี่ชอบทาน”
“ค่ะ”
รรินตอบรับและหันไปยิ้มกับสายฟ้าพอเลือกซื้ออาหารสดเสร็จก็พากันเดินไปดูของใช้ส่วนตัวสายฟ้าหยิบของที่เขาใช้ประจำหลายอย่างลงในรถเข็นจนเต็มเมื่อทั้งคู่เลือกซื้อเสร็จก็เดินไปคิดเงินที่แคชเชียร์
“3,580 บาทค่ะ” หลังคิดเงินเสร็จพนักงานแจ้งยอดเงินขณะที่รรินกำลังหยิบเงินจากกระเป๋าเพื่อจะจ่ายแต่สายฟ้ายื่นบัตรเครดิตของตนให้พนักงานก่อน
“พี่จ่ายเอง”
“แต่....”
“ไม่มีแต่”
“ค่ะ” รรินทำอะไรไม่ได้นอกจากจำยอมให้เขาเป็นคนจ่ายเงินเองทั้งหมดเมื่อจ่ายเงินเสร็จก็พากันเดินกลับมาที่รถเพื่อกลับบ้านของรริน
“คุณแม่ขา” เสียงของรันลูกสาวคนเล็กของบ้านดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะรีบวิ่งเข้ามาหารรินที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ว่าไงคะน้องรัน” รรินเอ่ยถามลูกสาวออกมา“พี่สายลมค่ะ ทำผู้หญิงร้องไห้อีกแล้ว” เมื่อมาถึงเธอก็รีบเล่าถึงเรื่องราวที่เธอได้เจอมากับตัวเองทันที“น้องรัน พี่บอกว่าอย่าวิ่งไง” สายลมที่เดินตามเข้ามาทำเสียงดุน้องสาวที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของเขา“ก็น้องรันรีบนี่ค่ะ”“ก็ถ้าล้มแล้วได้แผลขึ้นมาจะทำไง”“น้องรันไม่ล้มหรอกค่ะ” รันโต้สายลมกลับทันทีอย่างไม่ยอมแพ้“หยุดเถียงกันก่อนค่ะ บอกแม่มาสิว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมพี่สายลมถึงทำผู้หญิงร้องไห้”“ก็มีผู้หญิงเอาของขวัญมาให้พี่ลม แต่พี่ลมไม่ยอมรับแถมยังพูดว่าน่ารำคาญใส่เขาไปอีก พี่เขาเลยร้องไห้วิ่งออกไปเลยค่ะ”“แม่เข้าใจละ แล้วทำไมลมไม่พูดกับเขาดี ๆ ละลูก”“น่าเบื่อตามอยู่ได้ ลมรำคาญเลยพูดออกไปตรง ๆ ครับ”สายลมเจ้าของเรื่องพูดขึ้นหลังจากที่รันพูดจบ เป็นเรื่องปกติของสายลมที่มีผู้หญิงมากมายเข้าหาเนื่องจากความหล่อของเจ้าตัวที่ได้มาจากสายฟ้าคนเป็นพ่อมาเต็ม ๆ บวกกับความสุขุมเย็นชาที่เจ้าตัวมี ต่างจากอีกคนสายน้ำคนนั้นหล่อหน้าหวานเพราะหน้าตาได้มาทั้งพ่อและแ
เวลามักผ่านไปเร็วเสมอเมื่ออยู่กับความสุขเช่นเดียวกับรรินและสายฟ้า ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาจนมีพยานรักถึง 2 คน คือเด็กชายสายลม อายุ 6 ขวบกับเด็กชายสายน้ำ อายุ 4 ขวบ สองพี่น้องที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว สายลมจะนิสัยถอดแบบมาจากสายฟ้าคือเป็นคนนิ่ง พูดน้อย ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ส่วนสายน้ำจะเป็นเด็กร่าเริง พูดเก่ง แต่ถึงทั้งคู่จะมีนิสัยที่ต่างกันแต่ความแสบกลับไม่แตกต่างกันเลย“สายลม สายน้ำ เสร็จหรือยังคะลูก”“เสร็จแล้วครับ/ครับ”สองเสียงตอบออกมาพร้อมกันพร้อมกับร่างเล็ก ๆ วิ่งออกมาจากห้อง วันนี้คุณปู่กับคุณย่าจะพาทั้งสองแสบไปเที่ยวทะเลเนื่องในวันหยุดยาวของเด็ก ๆ เลยทำให้ทั้งสองตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ไปเที่ยว“อย่าวิ่งครับ เดี๋ยวล้ม”“ครับ/ครับ”“ไปครับ คุณปู่คุณย่ารอแล้ว ให้ผู้ใหญ่รอนาน ๆ ไม่ดีนะลูก”“ครับ/ครับ”ทั้งหมดพากันเดินมาที่บ้านใหญ่ พอมาถึงเด็ก ๆ ก็รีบวิ่งเข้าไปหาคุณปู่คุณย่าที่นั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ก่อนที่จะหันมาคุยกับรรินที่เดินตามมานั่งข้าง ๆ ทั้งสองคน“คุณแม่กับคุณพ่อไม่ไปด้วยกันเหรอครับ”“คุณพ่อติดงานค่ะ ไปด้วยไม่ได้ ส่วนแม่ต้องอยู่ดูแลคุณพ่อ”“แต่คุณพ่อโตแล้วดูแล
“พี่สายฟ้าคะ” รรินที่เปิดประตูห้องนอนเข้ามาดูสายฟ้าที่นอนพักอยู่ในห้อง เนื่องจากเขามีอาการเวียนหัวจนลุกไปไหนไม่ได้ เธอเลยปล่อยให้เขานอนพักและตัวเองลงไปทำอาหารเช้ามาให้เขาทานก่อนที่จะทานยา“ครับ”“เป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นหรือยัง”“ยังเลยครับ ขอกอดหน่อยได้ไหม” รรินเดินมานั่งลงที่ข้างเตียงนอนพร้อมกับวางถ้วยโจ๊กที่ยกมาไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียง“ค่ะ งั้นทานโจ๊กก่อนนะคะ จะได้ทานยา” สายฟ้าเมื่อเห็นรรินเดินเข้ามาใกล้ก็รีบคว้าเธอเข้ามากอดพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมประจำตัวเธอเข้าจนเต็มปอด“พี่ได้กลิ่นตัวรินแล้วพี่ดีขึ้นเยอะเลยครับ อยู่ใกล้ ๆ พี่นะอย่าห่างไปไหน”“ค่ะ งั้นทานโจ๊กก่อนนะคะ เดี๋ยวรินป้อน”“ครับ”สายฟ้านั่งทานโจ๊กที่รรินป้อนจนเกือบหมดก่อนจะทานยาตาม อาการที่เขาเป็นอยู่นี้เป็นอาการของคนแพ้ท้องแทนเมีย หลังจากที่รู้ว่ารรินท้องเขาก็เริ่มมีอาการ ตอนนี้เธอท้องได้สี่เดือนแล้วและเธอเรียนจบได้เป็นคุณหมอแล้ว เธอขอทำงานจนกว่าจะใกล้คลอดซึ่งเขาอนุญาตให้ทำงานได้แค่อายุครรภ์เข้าเดือนที่ 7 เท่านั้นตอนนี้รรินไม่มีอาการแพ้อะไรเลยนอกจากนอนและกินเก่งขึ้นเท่านั้น ส่วนอาการแพ้ที่เหลือเขารับมาเกือบทั้งหมดทั้งเวีย
หลังจากที่สายฟ้าเรียนจบกลับมา เขาก็เข้ามาทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเดิม คือ รองประธานกรรมการ เขาพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนได้เห็นในความสามารถของเขาว่าเขาจะสามารถพาบริษัทเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีกจนวันนี้ทุกคนต่างไว้ใจและมั่นใจในการบริหารงานของเขา ตอนนี้คุณศิวัฒน์พ่อของเขาได้สละตำแหน่งของท่านให้เขาดูแลต่อจากท่าน ท่านได้ให้เหตุผลว่าอยากจะพักผ่อน ท่านทำงานมานานแล้วการประชุมวันนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีผู้เข้าประชุมทุกคนต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งสอง หลังจากที่ทุกคนเดินออกจากห้องประชุมศิวัฒน์หันมาพูดกับสายฟ้า“พ่อภูมิใจในตัวลูกนะ”“ขอบคุณครับพ่อ”“แล้วก็รีบ ๆ มีหลานให้พ่อกับแม่อุ้มสักทีสิ หนูรินก็ใกล้จะเรียนจบแล้วนี่”“ครับ” ศิวัฒน์เดินมาตบบ่าของสายฟ้าเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปสายฟ้ามารับรรินที่โรงพยาบาลเหมือนปกติทุกวัน ตั้งแต่เขากลับมาหน้าที่หลักของเขาคือทำงานแต่หน้าที่ที่สำคัญกว่านั้นคือการดูแลรรินรวมไปถึงการไปรับไปส่งเธอ รรินที่เห็นรถของสายฟ้าจอดรถรออยู่ที่เดิมก็รีบเดินมาขึ้นรถทันที“พี่สายฟ้ามารอนานหรือยังคะ”“พี่เพิ่งมาถึงครับ”“ค่ะ”“รินจะแวะไหนหรือเปล่าหรือกลับบ้านเลย”“กลับเลยค
สายฟ้าที่เดินทางกลับมาได้สองวันแล้วตอนนี้เขาพักอยู่ที่คอนโด หลังเรียนจบก็บินกลับมาทันทีเขาและเพื่อนจบเร็วกว่าคนอื่น ๆ เทอมหนึ่งเพราะลงเรียนในแต่ละเทอมเต็มตาราง จนโดนเพื่อนทั้งสองคนโวยวายบ่นที่เขาพาพวกมันเรียนหนักจนแทบไม่มีเวลาพักแต่ทำไงได้เขาคิดถึงรรินและอยากกลับมาหาเธอเร็ว ๆ และวันนี้เขาก็ทำได้แล้วเขากำลังจะไปหารรินที่โรงพยาบาล เขารู้เธอต้องเป็นห่วงเขามากแน่นอนที่ติดต่อเขาไม่ได้ แต่ทำไงได้เขาอยากเซอร์ไพรส์เธอเขายืนรอรรินอยู่หน้าโรงพยาบาลระหว่างที่รอก็ได้ยินเสียงพูดคุยของนักศึกษาแพทย์กับพยาบาลและคนอื่น ๆ ที่กำลังทยอยเดินออกมา‘นี่เธอรู้ข่าวที่เขาว่าพี่หมอนัทเป็นแฟนกับรรินหรือเปล่า’‘รู้สิ ข่าวออกจะดัง แต่อย่างว่าแหละรรินนะโคตรสวยมีแต่คนรุมจีบ’‘ฉันละอิจฉานางจริง ๆ คนอะไรโคตรสวยแถมยังได้แฟนหล่อดีกรีอดีตเดือนคณะแถมยังแสนดีอย่างพี่นัท’“แต่ฉันรู้มาว่านางแต่งงานแล้วนะ แกเห็นแหวนที่นิ้วไหมล่ะ’‘จริงดิ แต่งกับใคร ทำไมไม่เคยเห็นแฟนนางเลย’‘เท่าที่รู้นะ นางแต่งกับพี่สายฟ้าคณะวิศวะอดีตคนดังของมอเรานะ’‘จริงดิ’‘จริง แต่รู้สึกว่าพี่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศเลยไม่ค่อยได้เห็น’‘อ๋อ ถึงว่าสิ’เม
ผ่านมาหลายเดือนแล้วที่รรินกลับมาหลังจากไปหาสายฟ้าที่ต่างประเทศทั้งคู่ยังโทรหากันเหมือนเดิม ตอนนี้เธออยู่ปีสี่ซึ่งเธอต้องไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้เธอต้องปรับตัวค่อนข้างมากจากที่เรียนในตำราที่มหาลัยอย่างเดียวต้องมาอยู่โรงพยาบาลเจอคนไข้จริง ๆ ต้องเดินตามอาจารย์หมอตรวจคนไข้ ต้องศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ไหนจะต้องเข้าเวรกลางวันบ้างกลางคืนบ้างสลับกันไป จนแทบหาเวลาว่างไม่ได้“รินครับ” นัทที่เห็นรรินเดินเข้ามาในตึกของโรงพยาบาลคนเดียว เขาจึงรีบเดินเข้าไปทักทายเธอทันที“อ้าว พี่นัทสวัสดีค่ะ”“วันนี้เข้าเวรเหรอครับ”“ค่ะ พี่นัทละคะ”“พี่ก็เข้าเวรเหมือนกัน”“แสดงว่าเราอยู่เวรเดียวกันสิคะ”“น่าจะใช่ครับ”“ค่ะ”“พี่ว่าเราเดินคุยกันไปดีกว่าครับจะได้ถึงห้องพักกันทันเวลาเพราะนี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว”“ค่ะ”เมื่อทั้งคู่ออกเดินนัทก็เริ่มชวนคุยสลับกับซักถามเรื่องราวต่าง ๆ ของเธอทันที“รินเป็นไงบ้างช่วงนี้ เราไม่ค่อยได้เจอได้คุยกันเลย”“รินสบายดีค่ะ”“ชินกับการเข้าเวรหรือตรวจคนไข้บ้างหรือยัง”“ยังต้องปรับตัวอีกเยอะเลย”“แล้ววิวเพื่อนเราไปไหนละ ปกติตัวติดกันตลอด”“วันนี้วิวกับรินเข้าเวรคนละเวลากันค