Share

บทที่ 10

หยานซูรีบอธิบายทันควัน "โป๋ซู่มีโรคกระเพาะที่ค่อนข้างรุนแรง เขากินของที่ย่อยยากไม่ได้ค่ะ"

เสียงบ่นของแม่ถึงได้เงียบลง

โป๋ซู่ทอดสายตามองข้าวต้มทรงเครื่องที่วางอยู่บนโต๊ะ อัตราส่วนผสมของวัตถุดิบทั้งหมดล้วนอิงตามสูตรบำรุงกระเพาะอย่างเห็นได้ชัด ไหนจะผักตามฤดูกาลหลากหลายชนิดซึ่งที่ให้ทานคู่กัน อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อาหารทุกจานที่อยู่บนโต๊ะนี้ แม้จะดูเรียบง่ายแต่กลับต้องใช้ความพิถีพิถันและความใส่ใจมาก

จู่ ๆ ก็รู้สึกอบอุ่นอยู่ภายในใจ เขาก็แค่พูดแบบแตะ ๆ ว่าตัวเองมีโรคกระเพาะตอนที่ไปหาหมอ ไม่คิดว่าหยานซูจะจำได้ขึ้นใจ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักเอาใจใส่จริงด้วยสินะ

โป๋ซู่ลากเก้าอี้แล้วนั่งลงด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ

เมื่อหยานซูเดินเข้ามา เธอก็นั่งข้างโป๋ซู่โดยอัตโนมัติ

ผู้เป็นพ่อกับแม่หันไปสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งคู่ส่งกระแสจิตกลางอากาศ

"ซูซู ลูกรู้ได้ยังไงว่าโป๋ซู่เขามีโรคกระเพาะ?" แม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นเกมด้วยการยิงลูกดอกไปที่หยานซู

หยานซูเกือบสำลักข้าวต้มที่อยู่ในปาก "เขา...เป็นคนไข้ของหนูไง"

"แม่จำได้ว่าเราเป็นหมอจิตนะ หมอจิตก็รักษากระเพาะเป็นด้วยหรอ?" แม่ยังคงต้อนเธออย่างไม่รู้จักย่อท้อ

หยานซูพูด "ผู้ป่วยทางจิตเวชส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับโรคประจำตัวในระบบทางเดินอาหารค่ะ"

จากนั้นแม่ของเธอจึงยอมเลิกซักไซ้ แล้วเหลือบมองโป๋ซู่ด้วยความเห็นอกเห็นใจ

"โป๋ซู่เอ๋ย ไม่ต้องกลัวนะลูก ถึงลูกสาวแม่จะยังอายุน้อย แต่ก็รักษาเก่งมาก รับรองเลยว่าซูซูจะต้องรักษาเราจนหายได้แน่นอน" แม่เธอไม่ลืมเน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้

โป๋ซู่หันไปมองหยานซู แล้วพยักหน้ารับ "ครับ ผมเชื่อมั่นในตัวซูซู"

อาหารมื้อนี้เป็นไปด้วยความกดดัน ทั้งพ่อและแม่เอะอะ ๆ ก็เอาแต่ย้ำเรื่องงานแต่งของหยานซู รวมถึงเจ้าบ่าวที่ไม่ใช่โป๋ซู่ ส่วนโป๋ซู่ก็สวนกลับด้วยการสาดโคลนอดีตว่าที่ลูกเขยของบ้านหยาน

เมื่ออาหารมื้อนี้จบลง หยานซูถึงได้หายใจได้อย่างโล่งคอ เธออาศัยช่วงที่พ่อกับแม่เข้าไปล้างจานในครัว ออกคำสั่งกับโป๋ซู่ เพื่อป้องกันไม่ให้โป๊ะแตก

"โป๋ซู่ เดี๋ยวฉันไปส่งคุณค่ะ"

โป๋ซู่ชะงัก เขามองหยานซูด้วยแววตาไม่สบอารมณ์นัก "แล้วคุณล่ะ?"

หยานซูเอ่ยเสียงเบา "คุณก็เห็นว่าพ่อกับแม่ฉันขัดขวางคุณขนาดนี้ วันนี้คุณลากฉันกลับด้วยไม่ได้หรอกค่ะ"

"งั้นคุณจะกลับบ้านเราเมื่อไหร่?" โป๋ซู่ขมวดคิ้วเป็นปม

หยานซูลังเล ไม่ตอบ

ทันใดนั้นโป๋ซู่ก็แนบริมฝีปากเข้าชิดกับใบหูของหญิงสาว แล้วกระซิบเสียงแผ่วเบา "อย่าลืมว่าผมก็เป็นผู้ชาย ผมไม่อยากแยกกับภรรยาที่เพิ่งจะแต่งงานกันหมาด ๆ นานนักหรอกนะ"

โคนหูของหยานซูเริ่มแดง เธอพยักหน้าด้วยความเขินอาย "ฉันจะรีบกลับ"

โป๋ซู่ลุกขึ้นยืน เขาเอ่ยลากับคุณพ่อคุณแม่ของหยานซู "คุณลุง คุณป้า ผมกลับก่อนครับ ขอบคุณที่ให้การต้อนรับผมอย่างดีครับ"

พ่อของหยานซูเก๊ดเสียงขรึมแล้วตะโกน "ไม่ไปส่งเด้อ กลับดี ๆ" ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเบิกบาน

หยานซูว่า "เดี๋ยวหนูไปส่งเอง"

แล้วพ่อกับแม่ก็ใบ้กินชั่วขณะ

ตั้งแต่ออกจากบ้าน หยานซูกับโป๋ซู่เดินเคียงข้างกันในหมู่บ้านซึ่งเวลานี้ีค่อนข้างมืดแล้ว

จู่ ๆ โป๋ซู่ก็ยื่นมือออกไปหาเธอ

หยานซูแอบตกใจอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ไหนแต่ไรเธอค่อนข้างซีเรียสเรื่องการสกินชิพกับเพศตรงข้าม ตอนที่คบกับกู่หยูเฉิง เธอกับเขาก็คบกันสไตล์รักใส ๆ มานานหลายปี

ครั้งแรกที่กู่หยูเฉิงอยากจะขโมยจูบจากเธอ ก็โดนฝ่ามืออรหันต์ อันเกิดจากกลไกการตอบสนองอัตโนมัติของเธอเข้าให้ ทำเอากู่หยูเฉิงงอนไปอยู่หลายวัน

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่กู่หยูเฉิงอยากจับมือเธอ เขาจึงต้องใช้ความระมัดระวังขั้นสูง

เมื่อเห็นหยานซูไม่ตอบสนอง โป๋ซู่ก็คว้ามือของหญิงสาวมากุมไว้แน่นอย่างเผด็จการ เขาจับมือเธอเอาไว้แบบนั้นโดยไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินต่อไป

หยานซูแอบรู้สึกว่าตัวเองเหมือนสัตว์เลี้ยงของโป๋ซู่

เมื่อเดินมาถึงที่จอดรถ จู่ ๆ โป๋ซู่ก็หมุนตัวกลับมา สองมือใหญ่จับไหล่บางของหยานซู ดวงตาหล่อเหลาคู่นั้นเต็มไปด้วยยิ้มที่แสนอ่อนโยน

"ขอกอดหน่อยสิ คุณภรรยา"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status