2 สัปดาห์ต่อมา
เขากับเธอก็ยังคงสงครามเย็นกันอยู่ เธอไม่พูดกับเขา เธอยอมเขาทุกอย่าง เขาก็หาเรื่องอะไรเธอมากไม่ได้ และตอนนี้ด้วยอารมณ์ของชายหนุ่ม ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดมาบ้างแล้ว เกือบจะเดือนแล้วที่ไม่ได้มีอะไรกับเธอ จะเรียกหาก็กลัวจะเสียฟอร์ม ทั้งช่วงนั้นเธอก็ไม่สบายอยู่ ก็กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีก ส่วนเธอเอง ก็พยายามจะหลบหน้าเขา และตีตัวออกห่างเขาให้มากที่สุด ตื่นเช้ามาก็มาทำอาหารไว้ให้ทุกวัน จัดโต๊ะให้เรียบร้อย ก่อนเขาจะลงมาจากบ้าน เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็จะรีบออกไป เวลาอื่นๆ ที่อยู่ในไร่ เมื่อเขาไปฟาร์มวัว เธอก็ไปฟาร์แกะ เมื่อเขามาฟาร์มแกะ เธอก็ไปช่วยพนักงาน ทำงานที่รีสอร์ท ถ้าเขาไปที่นั่น เธอก็จะเข้าไปช่วยแม่บ้าน ทำความสะอาดห้องพัก เมื่อตกเย็นมา เธอก็มาทำงานบ้านให้เขาทุกอย่าง เมื่อเขาเรียกใช้เธอหรือเขาบ่นอะไร เธอก็รีบไปทำโดยไม่มีข้อต่อขานอะไร เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วเธอก็จะรีบกลับบ้านพักไปทันที เนินนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ที่วนลูปอยู่แบบนี้ จนทำให้เขาหงุดหงิดแทบบ้าอยู่แล้ว "นที มึงจะไปไหน" เมื่อเห็นท่าทางที่ดูจะเร่งรีบของนที เขาก็เอ่ยถามขึ้น "จะเอาข้าวไปให้ลุงเจิมครับ ลุงเจิมกับคนงานเข้าไปดูบ้านพักฝั่งด้านหลังน้ำตก" เขาก็พยักหน้ารับรู้ทันที ซึ่งเป็นชนิสาที่เสนอว่า ควรบุกเบิกออกไป สร้างบ้านพักธรรมชาติอีกสัก 4-5 หลังที่ใกล้น้ำตก เพื่อนักท่องเที่ยวที่รักสันโดด จะอยากมาพัก ซึ่งก็เป็นไอเดียที่ดีมากอีกเช่นเคย "หน้าที่มึงหรอ ว่างมากหรือไง" เขาพูดในเชิงตำหนิ "ครับ ผมว่างอยู่ คนงานกำลังยุ่งกันหมด เลยอาสาจะไปให้ แล้วนี่ฝนก็จะตกพายุจะเข้า ต้องรีบไปเดี๋ยวจะกลับออกมาไม่ได้" เพราะถ้าต้นน้ำไหลลงมามากๆ ตรงทางขึ้นน้ำตกรถจะผ่านไม่ได้ "งั้นหรอ..." แล้วเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ ต้องรีบไป" นทีพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย "เดี๋ยว...นิสาอยู่ไหน" "อยู่ในออฟฟิตครับ กำลังทำงานอยู่" "เอามานี่ กูจะไปเอง" แล้วเขาก็อาสาว่าจะไป "แต่นี่มัน..." "แตงกวา" และแล้วเขาก็มองไปรอบๆ ก็เห็นแตงกวา ทำงานอยู่แถวนั้น "คะ คุณขุนเขา" "ไปตามนิสามาหน่อย" "ค่ะ" เมื่อพูดจบเธอก็เดินออกไปทำตามที่เขาบอกทันที แม้ในใจอยากจะค้านก็ตาม เพราะสงสารชนิสาเวลาโดนเขาต่อว่าต่อขาน "อย่าบอกนะว่าจะพานิสาไปด้วย" "ก็ให้นิสาไปดูบ้านพักไร้สาระที่คิดขึ้นมาบ้าง ว่าไปถึงไหนแล้ว เคยไปดูบ้างไหม" เขาหาข้ออ้างไปอีก แล้วทำไมนทีจะไม่รู้ละ "จะทำอะไรบ้าๆ อีกละสิท่า" นทีพูดด้วยความรู้ทัน "มึงอย่าเสือกให้มาก" "ผมก็แค่จะหวังดี ทำร้ายเขามากๆ คอยดูเถอะ" "มึงก็อย่าสนิทสนมกับนิสาให้มันมาก มึงก็รู้อะไรเป็นอะไร" "แล้วใครจะไม่รู้ละอะไรเป็นอะไร ผมว่าผมถามดีกว่า ว่ารู้อะไรเป็นอะไรไหม" ได้ที นทีก็ตรอกขุนเขากลับบ้าง "มึงจะไปไหนก็ไปไปเกะกะลูกกะตากู" "ทีแบบนี้เถียงไม่ออกหรอ หื้มมมม" "มึงหุบปากไปเลยนที" เขาพูดพร้อมกับหันไปทางอื่น เพราะนทีรู้ทัน ผ่านไปสักพักชนิสาก็เดินมา เขาก็ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงเกิดอาการประหม่าได้ อยากพูดกับเธอดีๆ ก็ไม่รู้จะเริ่มพูดประโยคแบบไหน อะไรๆ ก็ดูจะขัดใจไปหมด "คุณขุนเขาเรียกฉันหรอคะ" "ใช่ เอากับข้าวไปให้ลุงเจิมซะสิ เห็นว่าไม่มีใครว่าง" เขายื่นถุงอาหารให้เธอ เธอก็รับไว้ "ค่ะ" เมื่อพูดจบเธอก็จะเดินออกไป "จะไปไหน" เขาเอ่ยถามขึ้นทันที "ไปหาลุงเสริมค่ะ" เธอก็ตอบแบบไม่คิดอะไร "ไปหาทำไม" เขาถามเสียงแข็ง "ก็จะให้ลุงเสริมขับรถพาไปค่ะ" เนื่องด้วยเธอขับรถไม่เป็น "วุ่นวายจริงๆ เลย ไม่ต้องไปเรียกลุงเสริมหรอก งานยุ่งจะตายเธอไม่เห็นหรอ ชอบไปรบกวนคนอื่นนักหรือไง" "แล้วฉันจะ..." "ก็เสียเวลาฉันต้องพาไปนะสิ" "ไม่เป็นไรก็ได้ค่ะ ไม่อยากรบกวนคุณ แค่งานคุณก็ยุ่งมากพอแล้ว" "แล้วทำไมเธอต้องมารู้ดีไปกว่าฉันด้วย" "ฉันเอาข้าวไปให้ลุงเจิมก่อน ขอตัวนะคะ" พูดจบเธอก็หันหลังให้เขาทันที "พี่นที จะไปไหนคะ" "ไงนิสา พี่กำลังจะไปฟาร์มวัว" "พี่นที พอจะมีเวลาว่างพานิสาไป..." "อวดดี! อวดเก่ง!" เมื่อเธอพูดยังไม่ทันได้จบ เขาก็พูดขึ้นมาเสียงดัง "อะไรครับคุณขุนเขา" นทีทำทีหรี่ตาถาม "ไปขึ้นรถ รีบไปรีบกลับโอ้เอ้อะไรอยู่ บอกว่าจะพาไปก็จะพาไปไง จะเสียเวลาฉันไปถึงไหน ทำไมทุกคนต้องได้วุ่นวายเพราะเธอด้วย" พูดจบเขาก็ขึ้นรถไป ปิดประตูเสียงดัง ตื้ม! "นิสา..." นทีเรียกเธอเสียงแผ่ว "ไม่มีอะไรแล้วคะพี่นที งั้นนิสาไปก่อนนะคะ" เธอก็พูดอย่างเหนื่อยใจ "ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม" นทีมองด้วยสายตาที่เห็นใจ "ไม่เป็น..." ปืบๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงแตรรถยนต์ก็ดังขึ้นถี่ๆ "ระวังตัวด้วยนะนิสา" นทีพูดขึ้นเสียงดัง เพราะต้องการจะเย้าแหย่ขุนเขา "ไอ้ห่านที!" เขาเปิดกระจกออกมาต่อว่าเสียงดัง จนนทีส่ายหัวเบาๆ "ไปเถอะครับนิสา บ้ากำลังขึ้นแล้ว" "ค่ะ --" เมื่อขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เธอก็ไม่พูดอะไรกับเขา ต่างคนก็ต่างเงียบ เธอก็เอาแต่หันหน้าไปมองวิวและทิวทัศน์ มันดูสวยสงบ ยังสบอารมณ์กว่าคนข้างๆ เขามองทางบ้างมองเธอบ้างอยู่อย่างนั้น ใจก็อยากจะต่อว่าเธออีก ที่ทำทีไปสนิทสนมกับนที จนเกินกว่าเขา เกินหน้าเกินตาเขาไปอีก ขนาดเขาที่นอนกับเธอ เธอยังไม่ทำเป็นสนิทใจเท่านทีเลย มันน่าโมโหมาก มันทำให้เขาหงุดหงิด เรียกตัวเอกว่านิสากับทุกคน แต่กับเขาเรียก ฉัน ฉัน! จะห่างเหินกันไปถึงไหน ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดอยากระบายอารมณ์จนจะระเบิด เอี๊ยดดดดดด แล้วเขาก็หักพวงมาลัยรถเข้าข้างทาง เบรกอย่างกระทันหัน ทำให้เธอเกือบหน้าคว่ำ ดีที่ยังคาดเข็มขัดอยู่ "อะไรของคุ..." เธอหันมาจะต่อว่าเขา แต่เขากลับถอดเข็มขัดออก และโน้มตัวมาดึงหน้าเธอเขาไปจูบซะอย่างงั้น จูบของเขารุนแรงและเร้าร้อนมาก มือหนาเขาสอดเข้าไปที่ท้ายทอยเธอแล้วล็อคไว้แน่น พร้อมกับสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเธอ เพื่อคว้านหาลิ้นของเธอออกมาดูด และเขาก็เริ่มปลดปล่อยความต้องการ ที่มีมากล้นออกมา ด้วยเพราะเขาไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวันแล้ว แล้วยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ เขาไม่ได้ออกไปไหนด้วย แน่นอนว่าคนที่มีความต้องการมากล้นอย่างเขา ก็อึดอัดจนอยากหาทางลง และทางลงทุกวันนี้ก็มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นชนิสา Talkเมื่อนั่งทำงานที่ออฟฟิตได้สักพัก ก็มีคนเดินเข้ามาทักทาย ซึ่งเธอก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย"สวัสดีครับนิสา" เป็นเสียงอันหล่อเหลาไม่แพ้หน้าตา"อ้าว คุณปริ้นสวัสดีค่ะ" ชนิสาก็ทักทายกลับไปทันที แต่ก็ยังคงแสดงสีหน้าสงสัย"อ่อ พอดีผมว่างๆ เลยแวะมาเที่ยวครับ นี่ครับของฝากจากกรุงเทพฯ" และปริ้นก็ยื่นกล่องบางอย่างให้เธอ"ขอบคุณมากนะคะ สวยมากเลย" เป็นโบว์สีขาว คล้ายๆ กับแบบที่เธอชอบใส่"พอดีไปเดินเล่น แล้วเห็นว่าเหมาะกับนิสาเลยซื้อมาฝากครับ เห็นว่านิสาทำผมทรงนั้นพร้อมกับใส่โบว์แล้วสวยดี" ปริ้นพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ให้"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ชนิสาพูดพร้อมกับก้มหน้าให้เล็กน้อย"ไม่เป็นไรเลยครับ เต็มใจมากๆ""เชิญนั่งก่อนค่ะ ตามสบายนะคะ" และหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปเอาน้ำ มาให้ชายหนุ่มตรงหน้า เพราะเธอว่างจากงานบ้างแล้ว"ขอบคุณครับ งานยุ่งมากเลยหรอครับ" เมื่อเห็นว่าหญิงสาว ยังใจจดใจจ่อตั้งใจทำงานเขาเลยถามขึ้น"ตอนเช้าก็จะยุ่งแบบนี้ทุกวันค่ะ ต้นเดือนด้วย" เธอชงักไปกับคำว่าต้นเดือน เพราะสิ้นเดือนหน้าเธอก็หมดสัญญาแล้ว..."นิสานี่ตั้งใจทำงานจังเลยนะครับ""..." หญิงสาวยังคงคิดอะไรอยู่"ไอ้ขุนนี่โชคดีจริงๆ เล
เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาชนิสาก็อาบน้ำแต่งตัว ไปทำงานปกติ แต่ก็เจอกับแบมไพลินที่ยืน คุยอยู่กับนทีแบบไม่สบอารมณ์ ทั้งนทีที่แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างชัดเจน"มีอะไรกันหรือเปล่าคะคุณแบมพี่นที" ชนิสารีบเข้าไปถามทันที เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มมาคุ"ฉันจะไปหาพี่ขุนเขา แต่นายนทีมาว่าฉัน""ผมไม่ได้ว่าครับ ผมแค่ให้คุณแบมเข้าไปดูงานในออฟฟิตก่อน มันเป็นงานที่ต้องทำก่อน ไม่ใช่ว่าไปหาคุณขุนเขาตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่อง" นทีตอบกลับแบบไม่ค่อยพอใจ"นี่ไง! นายกำลังว่าฉัน""ผม!""คนงานอย่างนายมาเกี่ยวอะไรด้วย อนาคตฉันจะเป็นนายหญิงของที่นี่ ฉันจะทำอะไรก็ได้" แบมไพลินแพร่ดเสียงดัง"ผมเปล่าว่า ผม..." นทีกำลังอธิบาย"เอ่อ คืออย่างนี้ค่ะคุณแบม ตอนเช้ามาเราต้องเข้าออฟฟิตเข้าระบบทุกอย่างก่อน เพื่อดูพนักงานว่าคนไหนขาดลา มาสาย ต้องอยู่ตรงนั้นแตั้งแต่ 8 โมงถึง 9 โมงค่ะ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ" ชนิสาอธิบายอย่างใจเย็น"เธอก็ไปทำสิ ปกติก็หน้าที่ของเธอไม่ใช่หรือไง""ก็ใช่ค่ะ แต่คุณผู้หญิงบอกมาเองเลยว่าให้สอนงานคุณแบมเหมือนที่ฉันทำทุกอย่าง คุณแบมจะได้รู้ทุกหน้าที่""ฉันจะเป็นนายหญิงนะ ฉันจะทำหรือไม่ทำก็ได้ คนงานเยอะแยะ พนัก
เมื่อพ่นน้ำไปไม่รู้ตัว ขุนเขาก็รีบดึงทิชชู่มาเช็ดให้ในทันที"โทษๆ วะมึง""มึงเป็นเหี้ยไร ห่าโดนกูเลยเนี่ย" ปริ้นพูดพร้อมกับเช็ดไปด้วย"เอ้อๆ กูเช็ดให้นี่ไง""ไม่ต้องเลย กูเช็ดของกูเอง เสื้อแพงนะเว้ย" ปริ้นยังบ่นไม่หยุด"แล้วมึงบอกว่าอยู่หลายวันนี่ยังไง" ขุนเขาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ก็กูเบื่อๆ อะ ไอ้ห่าพวกนั้นก็ไม่ว่างกัน ไอ้คชาก็ติดลูกติดเมีย กูเลยมาหามึง""แล้วมึงก็มาตั้งไกลเนี่ยนะ" ถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด"ไกลเหี้ยไร แค่นี้กูขับรถ 3 ชั่วโมงเองสบาย" ปริ้นพูดอย่างสบายใจ"ห่าไรละ แต่ก่อนกูให้มาหาบอกไกลบอกไม่สะดวกมา"เมื่อก่อนขนาดมีงานอะไรที่ไร่เขา ไอ้พวกนี้ยังปฎิเสธจ้าละหวั่นกัน ถ้าไม่ใช่งานแต่งหรืองานศพ ไอ้พวกห่านี่อย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าพวกมัน"ก็วันนี้ไม่เหมือนกัน กูมาเพราะมีเป้าหมาย""อะไรของมึง" ขุนเขาหรี่ตาถาม"กูมาจีบนิสา" ปริ้นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง"..." ขุนเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก"กูบอกที่บ้านกูแล้ว ป๊าม้าโอเค อาม่ารอรับหลานสะใภ้ ทั้งเฮียและเจ่เจ้ถามใหญ่เลยว่าจะพาไปสวัสดีวันไหน" ปริ้นพูดพร้อมกับยิ้มออกมา"ที่บ้านมึงไม่ว่าหรอถ้าคนนั้นคือผู้หญิงธรรมดา" ก็ถามไปแบบนั้นแหละ
ภายในรถ"หื้มมมม คุณขุนเขาค่ะในที่สุด องุ่นที่ไร่ก็ได้โกอินเตอร์ ไปอีกประเทศแล้ว แบบนี้ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้นนะสิ" เสียงแตงกวาพูดขึ้นด้วยความดีใจ"..." ชนิสาที่นั่งอยู่ข้างหลัง ยังคงนิ่งเงียบและไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเธอก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน ทุกความเหนื่อยของเธอ เริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้ว"ผลผลิตดี อย่างอื่นก็จะดีไปด้วยนะแตงกวา" ขุนเขาพูดกับคนข้างๆ แต่สายตาก็เหลือบมองกระจกมองหลัง เกือบจะตลอดเวลา"เช่นโบนัส ใช่ไหมคะ""ก็ต้องถามนิสาแล้วละ" เพราะปีที่แล้ว ช่วงที่จะให้โบนัสพนักงาน ชนิสาจะเป็นคนคิดให้ทั้งหมด จะดูภาพรวมของทุกอย่างในไร่ และก็เสนออกมาเป็นโบนัส ให้พนักงานอย่างเหมาะสมที่สุด"พี่นิสาว่าไง โบนัสจะดีไหมปีนี้" แตงกวาหันมาถามอย่างตื่นเต้น"พี่ไม่รู้ อันนี้ต้องถามคุณแบมนะ" ชนิสาตอบพร้อมยิ้มบางๆ ให้แตงกวาเธอไม่รู้จริงๆ เพราะเธอคงอยู่ไม่ถึง อีกไม่เกิน 3 เดือน เธอก็ต้องออกไปจากที่ไร่แล้ว เธอคงไม่มีสิทธิ์จะไปรับรู้อะไร เรื่องของเขาปล่อยให้ว่าที่นายหญิงของไร่เป็นคนจัดการ"ใช่สิเนอะ แตงกวาลืมไปค่ะ"ทุกคำพูดของเธอ ทำให้คนที่ขับรถอยู่ ถึงกับหย่นคิ้วเข้าหากัน จนจะเป็นโบว์อยู่แล้ว"ถึงแล้วค่ะคุณข
"สวัสดีค่ะ ชื่อแบมนะคะ แบมจะมาทำงานที่นี่ ดูแลงานทุกอย่างของไร่ ช่วยพี่ขุนเขา แบมยังไม่เคยทำงานมาก่อนเลยค่ะ รบกวนขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ" หญิงสาวพูดด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง และน่ารักสดใส ทำให้คนงานหลายๆ คนชอบเธอขุนเขาที่นั่งฟังอยู่ ตาก็เหลือบไปมองชนิสา ตลอดเวลา ชนิสานิ่งมากเหมือนไม่รู้สึกอะไร กับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่ทักท้วงอะไรสักอย่างเลย จนทำให้ขุนเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับทุกสรรพสิ่ง"ค่ะคุณแบม พวกเรายินดีต้อนรับคุณแบมนะคะ" บัวและก็ทีมงานพูดขึ้นเมื่อทุกคนได้รับเงินเดือนหมดแล้ว ก็พากันกลับไปพักผ่อน แม้กระทั่งขุนเขาที่ยิ้มให้แบมไพลินและออกจากห้องไปทันที ไม่พูดอะไรกับเธอต่อแม้แต่คำเดียว"พี่ขุนเขาคือว่าแบม..."ปึง!! เสียงปิดประตูก็ดังขึ้น"อ๊ายยย นี่ไม่คิดจะสนใจกันเลยใช่ไหม" แบมกำมือทั้งห้านิ้วไว้แน่น เพื่อข่มอารมณ์โกรธเอาไว้เมื่อความหงุดหงิดบังเกิดขึ้น ก็เดินออกจากห้องไปทันที และก็พอดีเจอนทีกับแตงกวา กำลังยืนคุยกันอยู่"นี่นาย" เสียงเรียกแพร่ดออกมา ทำให้คนทั้งสองรีบหันไปมอง"ครับ คุณแบม" นทีตอบแบบไม่คิดอะไร"นายทำตำแหน่งอะไรที่นี่นะ ฉันจำไม่ได้" พูดพร้อมกับสายตาที่เหยียดเล็ก
เมื่อขุนเขาได้ยินแบบนั้นก็รีบหันหน้าไปมองชนิสา ที่ร้องไห้อยู่ตัวเขาเอง เป็นคนใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไง"ไหนพ่อบอกว่านิสามาเสนอตัวให้พ่อเอง วันนั้นที่ผมไปหาพ่อ" ขุนเขาพูดเสียงดังขึ้น"พ่อไม่รู้จะว่ายังไง กลัวเอ็งจะหาว่าพ่อมักมากอีก พ่อเลยโกหกไปแบบนั้น" เสี่ยไพบูลย์พูดพร้อมกล้มหน้า ไม่กล้าสู้หน้าลูกชาย"พ่อ!!!" และความรู้สึกผิดของเขาก็ประเดประดังเข้ามาเต็มอก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาทำร้ายจิตใจชนิสาสารพัด เพราะคิดว่าเธอคือผู้หญิงที่น่ารังเกียจ เอาตัวเข้าแลกกับที่ดินขี้ปะติ๋ว แต่เขาไม่รู้เลยว่ามันสำคัญกับครอบครัวของเธอขนาดนี้"เอ่อ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง เป็นความผิดของฉัน""..." บุษบายังมองหน้าสามีเก่าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด"หนูนิสา ฉันขอโทษหนูนะ ที่เป็นต้นเหตุทั้งหมด ฉันจะคืนที่ให้หนู" เสี่ยไพบูลย์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง"..." ชนิสาเอาแต่ร้องไห้ ไม่ได้พูดอะไร"นิสา เธอไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วนะ เอาโฉนดที่ดินเธอคืนไปเถอะ ส่วนสัญญาว่าจะทำงานที่นี่...""แม่ครับ ผมยังยืนยันให้นิสา อยู่จนครบสัญญา" ขุนเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"อยู่หรอ อยู่ให้แกทำร้ายซ้ำไปซ้ำมา อีกอย่างนั้นหรอ""ผมไม่ทำครับแม่" ข