"แกว่า ฉันจะแสดงอะไรดี" สัปดาห์นี้คุณพ่อคุณแม่บินไปดูงานที่ต่างประเทศ ฉันเลยชวนใยไหมมาดูซีรีย์เป็นเพื่อนและทำชาบูกินกันที่คอนโด ก็คนมันเหงานี่นา...
"น้องพรีมแค่ยืนยิ้มเฉยๆ ก็ชนะแล้วค่ะ" ถ้าให้ทำแค่นั้น ฉันคงไม่มานั่งกลุ้มแบบนี้หรอก "ฉันจริงจังอยู่นะใยไหม" "ฮ่าๆ อะ อะ ไม่แกล้งแล้วๆ" "ร้องเพลงไง แกร้องเพลงเพราะมากนะ เผื่อลืม" "ฉันไม่มั่นใจ" ฉันชอบร้องเพลงก็จริง แต่ไม่เคยไปประกวดหรือร้องต่อหน้าคนเยอะๆ เลยสักครั้ง "มั่นใจค่ะสาว แกทำได้เชื่อฉันซิ" "งั้นฉันซ้อมให้แกฟังก่อนแล้วกัน" "มาสิๆ" ฉันเลือกมาสองสามเพลงที่ฉันชอบมาร้องให้เพื่อนฟัง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงประกอบซีรีย์ที่ฉันดูนี่แหละ (เสียงปรบมือ) ใยไหมเปิดเสียงเอฟเฟ็กต์ปรบมือรัวรัวให้กำลังใจกันหลังจากที่ฟังฉันร้องจบไปสามเพลง ทำเอาคอแห้งเหมือนกันนะ "ฉันชอบทุกเพลงเลยอะ" "แต่ฉันว่าเต้นด้วยดีมั้ย" ยัยเพื่อนคนนี้นี่! ขยันหาการหางานให้ฉันเสียจริง แล้วฉันก็พลอยบ้าจี้ตามเพื่อนไปด้วย "งั้นก็ต้องเป็นเพลงนี้หน่ะซิ" เป็นเพลงประกอบซีรีย์ที่เป็นไวรัลในแอพดัง เพลงน่ารักๆ ฟังสบายๆ ท่าเต้นก็ไม่ได้ยากสามารถเต้นตามได้ ในเมื่อฉันเป็นความหวังของหมู่บ้าน ก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด nongpream🌷: 🧐 ตั้งแต่วันนั้นที่เขารับนาฬิกาจากฉัน เราสองคนก็แลกคอนแทร็คกัน เป็นเขาที่ขอ บอกว่าเผื่อฉันอยากปรึกษาเรื่องเรียน หรือมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถทักหาเขาได้ ถ้าว่างจะตอบ ฉันก็เลยลองทักไปหาทุกวันที่ถึงคอนโด บางวันก็ส่งสติ๊กเกอร์ไปทักทายในตอนเช้า เหมือนเขาก็ว่างตลอดนะ เพราะทุกครั้งที่ฉันทักไป ข้อความมักจะถูกอ่านภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที lens.lff : 😎 nongpream🌷: ยุ่งอยู่มั้ยคะ lens.lff : คุยได้ nongpream🌷: (ข้อความเสียง) ระหว่างรอใยไหมอาบน้ำ ฉันเลยหยิบมือถือขึ้นมาเล่นลองทักไปหาเขาสักหน่อย อยากขอให้เขาช่วยคอมเมนต์ ฉันจะได้รู้ว่าตัวเองควรปรับตรงไหนเพราะแค่ใยไหมคนเดียว สำหรับฉันนั้นยังไม่พอ นางเอาแต่อวยยศกันจนฉันแทบจะลอยขึ้นไปถึงเพดานห้องอยู่แล้ว lens.lff : เพราะดี ทำไมนะ เพียงแค่เขาพิมพ์ชมกลับมาสั้นๆ ฉันก็ยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย ใจดวงน้อยๆ ดวงนี้สั่นไหวจนแทบไม่เป็นตัวเองเอาซะเลย เฮ้อ...เป็นเอามากเหมือนกันนะเรา nongpream🌷: ถ้าพรีมได้ที่หนึ่ง พรีมขอรางวัลด้วยนะ lens.lff : 🙄 โห...ใจร้ายชะมัดเลย อุตส่าห์ซ้อมร้องเพลงจนคอแห้งเชียวนะ อันนี้จริงแค่เขาพาฉันไปกินขนม นั่นก็ถือเป็นรางวัลสำหรับฉันแล้ว ไม่เป็นไร...หน้างานค่อยว่ากันอีกที น้องพรีมรอได้อยู่แล้ว ...งานเฟรชชี่ประกวดดาวเดือน... "หายใจเข้าลึกๆ สู้เขานะยัยพรีม" ใยไหมจับสองมือของฉันขึ้นมาบีบให้กำลังใจกันอยู่หลังเวที ในขณะที่ฉันกำลังหลับตาทำสมาธิ ความรู้สึกของฉันตอนนี้ทั้งกังวลทั้งประหม่าแล้วก็ตื่นเต้นมากๆ เพราะทุกคนที่แสดงก่อนหน้านี้ทำไว้ดีมาก มากซะจนฉันคิดว่ากำลังมางานมิตติ้งของดาราคนดังอย่างไงอย่างงั้น "แกทำได้เชื่อฉัน" "ขอบใจนะ" ฉันโผลเข้ากอดเพื่อนรักรับพลังบวกอีกครั้ง ก่อนจะขอมือถือที่ฝากนางไว้มาเปิดดูข้อความ เผื่อว่าใครบางคนจะส่งมาให้กำลังใจกันขอแค่สติ๊กเกอร์หรืออิโมจิชูสองนิ้วก็ยังดี แต่กลับไม่มีเลยสักนิด ลองหันซ้ายหันขวาพยายามมองหาไปจนทั่วทั้งศูนย์กีฬา กลับเห็นแค่พี่ภัทรที่ยืนทำหน้าเข้มอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นของฉันและกลุ่มพี่ฟิล์มฝาแฝดของเขาที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันเท่านั้น จนนาทีสุดท้ายที่พี่พิธีกรพูดชื่อฉัน ความหวังอันน้อยนิดก็ต้องถูกพับเก็บใส่กระเป๋า และกลับมาสูดลมหายใจเข้าออกเรียกสติให้ตัวเองและก้าวขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ ...Part P'Lens... "ฮัลโหล ไอ้ภัทร" วันนี้ผมจำเป็นต้องเข้าบริษัทเพื่อประชุมสำคัญแทนป๊า เพราะมามี๊เวียนหัวจนบ้านหมุนป๊าเลยไม่อยากปล่อยให้ท่านอยู่เดียว จึงโทรให้ผมมาประชุมแทนเป็นการด่วน ซึ่งกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบหนึ่งทุ่ม ผมเลยรีบเดินปลีกตัวออกมากดมือถือโทรหาเพื่อนสนิททันที "ว่า" "เปิดกล้อง" "..." ไอ้ภัทรเปิดกล้องตามที่ผมบอก แต่เป็นกล้องหน้า ทำเส้นเลือดตรงขยับของผมเต้นตุบๆ "กล้องหลัง" 'ลิฟต์เสีย ขออภัยในความไม่สะดวก' "มาเสียอะไรตอนนี้วะ" ผมใช้เวลาเกือบห้านาทีในการวิ่งลงบันไดทางหนีไฟจากชั้นสิบลงมาลานจอดรถ ต้องขอบคุณป๊าที่สร้างตึกนี้แค่สิบชั้นเท่านั้น ไม่อย่างนั้นมีหวังผมคงต้องเสียเวลามากกว่านี้แน่ ในความโชคร้ายของวันนี้ยังพอมีความโชคดีให้ผมอยู่บ้างเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงคิวเธอ... สองขายาวเหยียบคันเร่งซุปเปอร์คาร์คู่ใจเพื่อพาตัวเองไปให้ทันเวลาให้กำลังใจคนตัวเล็ก โดยที่เขาค้างสายกับเพื่อนและเปิดกล้องไว้ตลอด หากเขาไปไม่ทัน อย่างน้อยเขาก็ได้ให้กำลังใจเธอจากตรงนี้ 'เอี๊ยด!' เสียงดนตรีและเสียงปรบมือที่ได้ยิน ทำขายาวรีบก้าวลงจากรถคู่ใจวิ่งตรงไปทางศูนย์กีฬาสถานที่จัดงาน ... "ฉันนั้นขอแค่เธอคอยอยู่ข้างกัน ช่วยส่งยิ้มน่ารักให้ฉันตลอดไป แค่เธอนั้นบอกว่าเธอหน่ะรักฉันทุกวัน และเธอก็คอยเชื่อฟังฉันเช่นกัน แค่เธอเท่านั้นที่ใจฉันต้องการ ได้โปรดเธอมองมาที่ฉัน เธอจะรู้คำตอบที่เธออยากรู้ ในรอยยิ้มฉันมีคำว่า Say Yes Say Yes แม้ต้องเสียน้ำตา ในบางครั้ง ฉันก็ไม่เป็นไร จะยังรักแค่เธอเท่านั้นไม่ไปไหน love is true I need you อยากบอกสักคำให้เธอนั้นได้ฟัง คำว่ารักของฉันไง baby baby baby boy love is true" คนตัวเล็กยืนอยู่บนเวทีในชุดแปลกตาเพราะเขาเคยเห็นเธอใส่แค่ชุดนักเรียนและชุดนักศึกษาเท่านั้น แต่วันนี้เธอใส่เสื้อกล้ามครอปสีขาวเผยให้เห็นเอวบางที่ทำให้เขาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว กับกางเกงยีนส์สีดำฟอกรองเท้าผ้าใบ ปล่อยผมตรงยาวดูเท่ซ่อนเปรี้ยวและมีเสน่ห์มาก ยืนขยับร่างกายโชว์สเต็ปเต้นในท่อนแร๊พของเพลงก่อนจะกลับมายืนจับไมค์ร้องเพลงโชว์เสียงหวานใสในเพลงเดียวกัน เป็นเพลงที่เธอเคยส่งให้เขาฟัง และเป็นเพลงที่เขาบันทึกไว้ใช้เป็นเสียงเรียกเข้าเวลาที่เธอโทรหา... ขอบคุณเพลงน่ารักๆ 🙏 Cr. Say Yes (ost. Moon Lovers) Thai ver. cover by crazyrirแน่นอนว่าเธอได้ที่หนึ่งด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้นแถมยังได้รางวัลขวัญใจช่างภาพอีกด้วย อย่างที่ผมบอกวันนี้เธอมีเสน่ห์มาก ผมเลยพาตัวเองเข้ามายืนรอข้างเวที รอช่วยเธอถือช่อดอกไม้และรางวัลที่เธอได้รับ เพราะลึกๆ แอบรู้สึกผิดที่มาไม่ทันให้กำลังใจเธอก่อนขึ้นเวทีแต่เหมือนว่าผมจะได้รับบัตรคิวเข้าร่วมแสดงความยินดีกับเธอเป็นคนสุดท้าย เพราะเวลานี้มีทั้งรุ่นพี่และเพื่อนของเธอพากันเข้าไปแสดงความยินดี ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชายทั้งนั้น จนผมรู้สึกอยากจะเดินไปสับคัตเอาท์ปิดไฟให้หมดทุกคนจะได้แยกย้ายเลิกรุมเธอสักที น่าหงุดหงิดเหมือนกันนะ"ถือให้" ยืนรออยู่ครู่ใหญ่เพื่อนสนิทของเธอก็พาดาวป้ายแดงฝ่าวงล้อมเดินออกมา เพราะสีหน้าของเธอตอนนี้ถึงแม้ว่าปากสีชมพูจะยิ้มกว้างแต่ตากลมโตปรือดูง่วงเต็มที ทันทีที่เดินออกมาเจอหน้ากันรอยยิ้มที่เคยสดใสกลับหุบลงปากเล็กๆ เชิดขึ้นเล็กน้อยนัยน์ตากลมๆ ที่มองกันสั่นไหว ท่าทางแบบนี้โฟกัสทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งเวลาที่น้องน้อยใจ เพราะงั้นเธอคงรู้สึกน้อยใจผมสินะ"พี่ถือให้" ในเมื่อเธอไม่ส่งของในมือมาให้ช่วยถือ ผมเลยเอื้อมมือไปแย่งช่อดอกไม้ช่อโตที่เธ
"แกว่า ฉันจะแสดงอะไรดี" สัปดาห์นี้คุณพ่อคุณแม่บินไปดูงานที่ต่างประเทศ ฉันเลยชวนใยไหมมาดูซีรีย์เป็นเพื่อนและทำชาบูกินกันที่คอนโด ก็คนมันเหงานี่นา..."น้องพรีมแค่ยืนยิ้มเฉยๆ ก็ชนะแล้วค่ะ" ถ้าให้ทำแค่นั้น ฉันคงไม่มานั่งกลุ้มแบบนี้หรอก"ฉันจริงจังอยู่นะใยไหม" "ฮ่าๆ อะ อะ ไม่แกล้งแล้วๆ" "ร้องเพลงไง แกร้องเพลงเพราะมากนะ เผื่อลืม" "ฉันไม่มั่นใจ" ฉันชอบร้องเพลงก็จริง แต่ไม่เคยไปประกวดหรือร้องต่อหน้าคนเยอะๆ เลยสักครั้ง"มั่นใจค่ะสาว แกทำได้เชื่อฉันซิ""งั้นฉันซ้อมให้แกฟังก่อนแล้วกัน" "มาสิๆ"ฉันเลือกมาสองสามเพลงที่ฉันชอบมาร้องให้เพื่อนฟัง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงประกอบซีรีย์ที่ฉันดูนี่แหละ(เสียงปรบมือ)ใยไหมเปิดเสียงเอฟเฟ็กต์ปรบมือรัวรัวให้กำลังใจกันหลังจากที่ฟังฉันร้องจบไปสามเพลง ทำเอาคอแห้งเหมือนกันนะ"ฉันชอบทุกเพลงเลยอะ""แต่ฉันว่าเต้นด้วยดีมั้ย" ยัยเพื่อนคนนี้นี่! ขยันหาการหางานให้ฉันเสียจริง แล้วฉันก็พลอยบ้าจี้ตามเพื่อนไปด้วย"งั้นก็ต้องเป็นเพลงนี้หน่ะซิ" เป็นเพลงประกอบซีรีย์ที่เป็นไวรัลในแอพดัง เพลงน่ารักๆ ฟังสบายๆ ท่าเต้นก็ไม่ได้ยากสามารถเต้นตามได้ในเมื่อฉันเป็นความหวังของหมู่บ้าน ก
สุดท้ายผมก็ทนเธอมองค้อนจนหน้าแดงไม่ไหว เลยยอมรับกับเธอไปอย่างง่ายดายว่าผมคือพี่รหัสที่เธอตามหา และฝากของขวัญที่เธอเตรียมมาไว้กับเธอก่อนเพราะผมไม่มีกระเป๋า มีแค่ไอแพดติดตัวมาเท่านั้น ดูจากถุงก็รู้แล้วว่าข้างในเป็นนาฬิกาแบรนด์ดังเพราะเป็นแบรนด์ที่ผมชอบและใส่อยู่ตอนนี้แต่ยังไม่ทันได้แลกคอนแทร็คกันไว้เราสองคนก็ต้องรีบแยกย้ายกันไปเรียนเพราะใกล้ถึงเวลาอาจารย์เช็คชื่อ ลำพังตัวผมเองคงไม่เท่าไหร่ แต่เด็กปีหนึ่งอย่างเธอจะเข้าเรียนสายในวันที่สองของการเปิดเทอมคงไม่เป็นผลดีแน่ไม่เป็นไร...ยังพอมีเวลาทำความรู้จักและให้ผมแกล้งอีกนานหลังจากเรียนช่วงเช้าเสร็จ ผมกับเพื่อนสนิทก็ลงมาอยู่ห้องสโมสร ห้องที่มีไว้สำหรับประชุมงานเตรียมงานหรือแม้กระทั่งนอนพักสายตา ดีที่อาจารย์ยกคลาสในช่วงบ่าย ทำให้ผมมีเวลาลงมาอ่านสรุปกิจกรรมเฟรชชี่ที่จะถูกจัดขึ้นในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า"ท่านประธานครับ" "กวนตีน" "ดาวปีที่แล้วมาขอให้น้องพรีมลงประกวด" รุ่นน้องปีสองและเพื่อนปีสามต่างรู้ว่าเธอคือน้องรหัสของผม และไม่แปลกที่เธอจะโดนทาบทามให้เป็นตัวแทนของคณะ ไม่ใช่เพราะเ
"พรีมมีธุระ" ธุระของฉันก็คือจะไปหาของขวัญให้เขายังไงละ"เป็นเด็กเป็นเล็กมีธุระ?" เอ้า! แต่เดี๋ยวนะ! "พรีมไม่เด็กแล้วนะคะ" "ตรงไหน?" สายตาคมไล่มองฉันราวกับจะหาคำตอบให้กับคำถามของเขา แถมสายตานั้นทั้งกรุ่มกริ่มและดูเจ้าชู้มาก อย่างนี้สินะ เวลาเดินไปไหนถึงมีแต่สาวๆ พูดถึงชื่อเขาให้ได้ยินเต็มไปหมดหรือที่จริงแล้ว คำใบ้รูปเสือจะเป็นเขาคนนี้! "อย่ามาชอบเด็กแบบพรีมแล้วกัน" โอ้ย! ตายแล้ว! ยัยพรีมอยากจะตีปากตัวเองจริงเลยเชียว ทำไมเผลอพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้นะ"..."ฉันยืนอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้างอึ้งกับคำพูดของตัวเองอยู่เกือบนาทีกว่าสติจะกลับมาก็ตอนที่เขายื่นมือใหญ่มาปิดปากของฉันเอาไว้ คงกลัวว่าจะมีแมลงบินเข้าไปละมั้ง ไม่ได้การละ! ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปฉันได้ทำอะไรตลกๆ ออกมาอีกแน่ รีบเดินจ่ำให้เร็วที่สุดโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองคนตัวโตให้รู้สึกอายมากกว่าเดิม เดินตรงไปที่ประตูรั้วมหาวิทยาลัยเพื่อจะไปรอเรียกรถตรงไปห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากคอนโดทำภาระกิจสุดท้ายของวันนี้"ว่าแต่จะซื้ออะไรดีละ" "นาฬิกาดีมั้ยน
"พ พี่คะ" ฉันพาตัวเองเดินกล้าๆ กลัวๆ มาหาใครคนนึงที่นั่งกดมือถืออยู่กับเฮดว้ากตัวพ่อของคณะ ทำไมฉันถึงได้เดินมาหาเขาหน่ะหรอ? ก็เพราะว่าฉันกับใยไหมถามรุ่นพี่ครบทุกคนแล้วยังไงหล่ะ แต่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันให้เราสองคนมาถามคนที่น่ากลัวที่สุดในห้องนี้ จะเป็นใครได้นอกจากเขาและเฮดว้าก! แค่ยืนเฉยๆ รังสีความดุก็แผ่ออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้"ครับ" เขาละสายตาจากมือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ที่จริงครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกันพูดคุยกัน แถมวันนี้เป็นครั้งที่สามของวันแล้วด้วยซ้ำ แต่ใจฉันก็ยังไม่กล้าพออยู่ดี"เครื่องบินสีดำคือพี่เลนส์ใช่มั้ยคะ" "ถ้าบอกจะได้อะไร" ต้องมีอะไรมาแลกด้วยหรอ หรือว่าเป็นธรรมเนียมว่าต้องมีของขวัญมาให้พี่รหัส แบบนี้ใช่หรือเปล่านะ"วันนี้พรีมไม่ได้เตรียมมา พรุ่งนี้ได้มั้ยคะ" ฉันก้มมองดูนาฬิกาสีโรสโกลด์ที่ข้อมือ พึ่งห้าโมงเย็น เพราะงั้นวันนี้ยังพอมีเวลาไปเดินห้างหาของขวัญมาแลกกับคำตอบจากเขา"มาถามใหม่พรุ่งนี้" คิ้วเล็กขมวดแน่นเม้มปากเล็กน้อยอย่างลังเล ก็ใจอยากจะรู้วันนี้เลยนี่นา เพราะถ้าเกิดไม่ใช่เขาขึ้
คิ้วเข้มเลิกขึ้นจงใจมองหน้าคนตัวเล็กเพราะใจอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ แก้มกลมๆ จากที่แต้มสีชมพูพีชบางเบาเวลานี้กลับเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ ไหนจะตากลมโตเบิกกว้างเท่าไข่ห่านนั่นอีก น่าเอ็นดูชะมัด"ย ใยไหม รีบกินเร็วเดี๋ยวสาย" แต่สุดท้ายเธอกลับหันไปทำเสียงงุ้งงิ้งออกคำสั่งกับเพื่อนกลบเกลื่อนทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งพยายามทำตัวปกติทำทีเป็นตักข้าวกินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเท่าไหร่ ท่าทางของเธอก็ยิ่งดูลุกลี้ลุกลนมากเท่านั้น ก่อนจะรีบดึงแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นพากันออกไป"ใยไหม แกไม่บอกฉันเลยนะ" "ฉันจะบอกแกยังไงก่อนยัยพรีม""ฉันเลยกินข้าวไม่อิ่มเลย"'หึ' แน่นอนว่าทุกการกระทำและเสียงซุบซิบที่พยายามเอ็ดดุเพื่อน อยู่ในสายตาของผมและได้ยินชัดทุกคำ มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่หนีผม เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ปล่อยให้โอกาสดีดีที่ได้นั่งข้างกันแบบนี้หลุดลอยไปแน่"หน้าคุ้นๆ หว่ะ""รุ่นน้องโรงเรียนเก่า""รู้จัก?""รีบกิน" ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามไอ้แฝด ขืนหลวมตัวพูดอะไรออกไป น้องชายของผ