Home / โรแมนติก / รักในเงาแค้น / ตอนที่ 7 ด่านเพื่อนซี้

Share

ตอนที่ 7 ด่านเพื่อนซี้

last update Last Updated: 2025-11-17 21:11:40

ตอนที่ 7 ด่านเพื่อนซี้

เมื่อรถยนต์สีขาวคันเล็กแล่นมาได้สักพัก ก็มาจอดสนิทที่หน้าบ้านสองชั้นหลังหนึ่งสีขาวสะอาดตา ธาวินมองขึ้นไปด้วยความสนใจ

“บ้านคุณพิมพ์..น่าอยู่จังเลยนะครับ” เขาเอ่ยชมอย่างจริงใจ หลังจากสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวบ้าน

“อ๋อ!! ไม่ใช่บ้านของพิมพ์หรอกค่ะ” พิมพ์มาดารีบออกตัว พลางส่งยิ้มเจื่อน ๆ เล็กน้อยให้ธาวิน ก่อนจะรีบอธิบาย

“เป็นบ้านเพื่อนสนิทของพิมพ์เองค่ะ พอดีว่า...เธออยากรู้จักกับคุณวินน่ะค่ะ งั้น!!!..คุณวินเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนพิมพ์หน่อยนะคะ” หญิงสาวรีบพูดเสริมให้ดูสมเหตุสมผล แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะความจริงแล้วเป็นเกรชต่างหากที่ออกคำสั่งแกมบังคับให้พิมพ์มาดาพาธาวินมาให้หล่อน ‘สแกน’ อย่างละเอียดเสียก่อน ถึงจะอนุมัติให้ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันได้

ธาวินพยักหน้าอย่างเข้าใจ และไม่ได้แสดงความสงสัยใด ๆ ออกมา เพียงแต่ก้าวตามหญิงสาวเข้าไปในตัวบ้านไม้สักสองชั้นที่ทาด้วยสีขาวสะอาดตา สร้างบรรยากาศที่สว่างและเงียบสงบ พื้นไม้กระดานสีเข้มขัดเงาวาววับ สะท้อนให้เห็นถึงร่องรอยของกาลเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน ผนังไม้สักสีขาวประดับประดาด้วยภาพถ่ายเก่าๆ ที่ดูเรียบง่ายและแฝงไว้ด้วยเรื่องราว

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของการอบควันเทียนจางๆ ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ บ่งบอกว่าเจ้าของบ้านน่าจะกำลังพิถีพิถันทำขนมไทยโบราณบางอย่างอยู่ กลิ่นหอมหวานละมุนละไมนั้นอบอวลเคล้าคลอกับกลิ่นไม้สักเก่าแก่ที่คุ้นเคยได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนให้คิดถึงอดีต

บรรยากาศโดยรวมของบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่น สงบ และเป็นกันเอง ราวกับเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความผูกพันมาอย่างยาวนาน ธาวินกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสนใจ สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของบ้านไม้เก่าแก่ที่แตกต่างจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เขาคุ้นเคย พลางคิดในใจว่าเพื่อนสนิทของพิมพ์มาดาคงเป็นคนที่มีรสนิยมเรียบง่ายแต่มีสไตล์เป็นของตัวเอง

พิมพ์มาดาสูดลมหายใจลึกๆ และพยายามซ่อนความกังวลเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเกรชเพื่อนรักนั้นปากร้ายแต่ใจดี และการ ‘ดูตัว’ ในครั้งนี้ก็มาจากความหวังดีของเพื่อนล้วน ๆ

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่น เกรชที่ได้รับโทรศัพท์แจ้งเตือนจากพิมพ์มาดามาก่อนที่จะออกเดินทางจากสนามบินแล้ว หล่อนรีบลุกขึ้นยืนต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีค่ะคุณธาวิน ยินดีต้อนรับกลับสู่เมืองไทยนะคะ” น้ำเสียงของเกรชสดใสและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ผิดกับท่าทีจับผิดเล็กน้อยที่เธอแสดงออกเมื่อพูดถึงธาวินก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด พิมพ์มาดามองเพื่อนด้วยความโล่งใจอย่างเงียบๆ อย่างน้อยเกรชก็เริ่มต้นได้ดี

“สวัสดีครับ..”

“นี่เกรชค่ะ..คุณวิน เป็นเพื่อนสนิทของพิมพ์เอง” พิมพ์มาดารีบแนะนำเพื่อนสนิทให้เขารู้จัก

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ..คุณเกรช” ธาวินยิ้มตอบอย่างไมตรี

บรรยากาศในห้องนั่งเล่นอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ออกรสออกชาติ เกรชช่างพูดช่างคุย ทำให้ธาวินรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองได้อย่างรวดเร็ว พิมพ์มาดานั่งมองเพื่อนรักและชายหนุ่มที่เธอเพิ่งได้เจอตัวจริงด้วยความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ เธอหวังว่าการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นไปได้งดงามและยืนยาว เช่นความตั้งใจที่เธอเก็บไว้ลึกๆ ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจคบหากับชายหนุ่ม

ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ประตูบ้านก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของหญิงชราที่เดินยิ้มแย้มเข้ามา หญิงชราใจดี ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยแต่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มที่เมตตาอย่างเป็นกันเอง ในมือนั้นหอบตะกร้าจ่ายตลาดเข้ามาด้วยท่าทางคล่องแคล่ว

“อ้าว! มาถึงกันแล้วรึ?” คุณยายสายหยุดเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงใจดี ก่อนหน้านี้หลานสาวแจ้งเอาไว้ว่าจะพาเพื่อนสนิทมาทานมื้อเช้าที่บ้าน ก่อนที่หญิงชราจะได้สังเกตอะไร ผู้เป็นหลานสาวก็รีบลุกขึ้นไปประคองคุณยาย ก่อนจะเอาตะกร้าออกมามือของคุณยายแล้ววางไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ 

“คุณยายขา นี่!!..คุณธาวินค่ะ เพื่อน...เอ่อ...เพื่อนของพิมพ์ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกค่ะ นี่คุณยายสายหยุดนะคุณวิน คุณยายของเกรชเองค่ะ” ธาวินรีบลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้คุณยายสายหยุดด้วยความเคารพ

“สวัสดีครับคุณยาย” คุณยายสายหยุดมองธาวินด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะยิ้มกว้างจนเห็นรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา

“สวัสดีจ้ะ ยังไง..อยู่ทานมื้อเช้ากับยายก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบกลับกันล่ะ” คุณยายเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นจนธาวินไม่กล้าปฏิเสธ

“อ่อ ขอบคุณครับคุณยาย” ธาวินตอบด้วยความเกรงใจ คุณยายสายหยุดหยิบตะกร้าที่หลานสาววางเอาไว้ขึ้นมาถืออีกรอบ

“พอดีว่ายายซื้อของมาทำอาหารเช้าเยอะเลย” คุณยายหันไปมองพิมพ์มาดาและธาวินเหมือนจะรู้ว่าสองคนนี้คงเป็นแฟนกัน

“ขอบคุณนะครับคุณยาย” ธาวินตอบรับด้วยรอยยิ้มเกรงใจ พิมพ์มาดามองหน้าธาวินเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ถึงความสุภาพและเกรงใจของเขา

หลังจากทานอาหารไทยรสจัดจ้านฝีมือคุณยายสายหยุดเข้าไปได้ไม่นาน นักศึกษาปริญญาโทจากเมืองนอกอย่างธาวินก็เริ่มรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นตามไรผม บ่งบอกว่าลิ้นของเขาได้ห่างหายจากรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยไปนานพอสมควร แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงยิ้มกว้างและเอ่ยชมคุณยายสายหยุดด้วยความจริงใจ 

“อร่อยมากเลยครับคุณยาย รสชาติเข้มข้นถึงใจจริงๆ สงสัยผมคงต้องหาโอกาสมาฝากท้องที่บ้านคุณยายบ่อยๆ แล้วล่ะครับ” คำพูดนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำชมที่เอ่ยตามมารยาท แต่ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ และความประทับใจในรสชาติอาหารไทยฝีมือคุณยายอย่างแท้จริง

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลองนี่เลยจ้ะ กล้วยบวชชีกับลอดช่องน้ำกะทิหอมๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจแน่” คุณยายสายหยุดรีบบอกด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะหันไปบอกหลานสาวอย่างอ่อนโยน 

“เกรช!!! หนูตักขนมใส่ถ้วยให้เพื่อนกับแฟนเค้าทานหน่อยสิลูก” พิมพ์มาดาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เมื่อคุณยายสายหยุดออกตัวเรียกธาวินว่า ‘แฟน’ ของเธอต่อหน้าต่อตา 

แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเริ่มต้นไปในทิศทางที่ดี แต่คำเรียกนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกเขินอยู่ไม่น้อย เธอแอบเหลือบมองธาวิน และหวังว่าจะไม่สังเกตเห็นอาการของเธอ แต่ก็ต้องรีบหันกลับมามองถ้วยขนมในมือ เมื่อเกรชเอ่ยขอตัวลุกขึ้น

 “พิมพ์!!..เดี๋ยวฉันช่วยคุณยายเอาจานไปเก็บในครัวนะ ตามสบายนะคะคุณวิน” พูดจบร่างเล็กก็เดินหายเข้าไปด้านใน ทิ้งให้พิมพ์มาดาและธาวินอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องนั่งเล่น

หลังทานมื้อเช้าจบลง เกรชก็เดินออกมาส่งเพื่อนสนิทและธาวินที่ระเบียงหน้าบ้าน ส่วนคุณยายก็ขอตัวไปทำขนมไทยต่อ เกรชช่างเจรจาและมีมุกตลกแพรวพราว ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ธาวินดูเข้ากับเกรชได้อย่างไม่น่าเชื่อ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขาทำให้พิมพ์มาดารู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

“คุณธาวินอยู่ที่อเมริกามานานแค่ไหนแล้วคะ?” เกรชถามด้วยความสงสัยใคร่รู้

“ก็ประมาณเกือบสิบปีแล้วครับ ผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย” ธาวินตอบพลางยิ้มบางๆ

“พอดีผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายแล้วครับ”

“แล้วทำไมถึงตัดสินใจกลับมาล่ะคะ?” เกรชถามออกไปด้วยความอยากรู้ลึกๆ ว่าอะไรคือเหตุผลที่แท้จริงในการกลับมาของเขา ทั้งที่ในตอนแรกพิมพ์มาดาเคยเล่าให้ฟังว่าธาวินตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างแดน

ธาวินหันมาสบตากับพิมพ์มาดา ดวงตาของเขาเป็นประกายอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เพราะเพื่อนของคุณไงครับ” เขาตอบเสียงนุ่มพลางเหลือบมองเกรชด้วยรอยยิ้มบางๆ

เกรชเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย มองธาวินอย่างสงสัย

ธาวินเว้นจังหวะเล็กน้อย ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า ก่อนจะหันกลับมาทอดสายตาลึกซึ้งเข้าไปในดวงตาคู่สวยของพิมพ์มาดา จนเธอรู้สึกราวกับถูกตรึงอยู่กับสายตาคู่นั้น หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ความร้อนผ่าวแล่นปราดขึ้นมาบนแก้ม พิมพ์มาดารีบหลบสายตาของเขาด้วยความเขินอาย แต่ในใจกลับเต้นระรัวด้วยความสุข ความรู้สึกหวานซึ้งเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

“แล้วคุณธาวินตั้งใจจะอยู่ที่ไทยนานแค่ไหนคะ?” เกรชถามต่ออย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ลึกซึ้งไปมากกว่านี้ ไหนๆ ทั้งคู่ก็จะไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เธอมีหน้าที่ต้องสืบให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้จริงจังกับเพื่อนของเธอแค่ไหน

“ผมตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่ถาวรเลยครับ” ธาวินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่พิมพ์มาดา

“งั้นดีเลยค่ะ..ที่ถามก็เพราะเป็นห่วงคนแถวนี้” เกรชเสริมด้วยรอยยิ้มทะเล้น ก่อนจะส่งสายตาแซวเพื่อนอย่างรู้ทัน พิมพ์มาดาได้แต่ยิ้มเขินๆ ก่อนจะรีบหลบสายตาเพื่อนที่กำลังจ้องมองมาอย่างจับผิด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 25 ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง

    ตอนที่ 25 ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้งพิมพ์มาดาเลิกคิ้วสูงด้วยความไม่เข้าใจ การต้องแสดงออกว่าเป็นคนรักของเขา ต่อหน้าลูกชายของเขา มันฟังดูซับซ้อนและอาจนำไปสู่ปัญหาได้ แต่เมื่อนึกถึงความจริงใจที่อัครเดชมีให้ พิมพ์มาดาก็ไม่กล้าปฏิเสธและพยายามทำความเข้าใจในเหตุผลของเขา แต่ความกังวลเกี่ยวกับ ทายาทของเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว พิมพ์มาดาพลันนึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เธอหันไปมองเขาที่กำลังมองเธอด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่ติดค้างในใจ“เอ่อ... คุณอัครเดชคะ” พิมพ์มาดาเอ่ยขึ้นอย่างลังเล“หนูขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ... คือ... ลูกชายของคุณ...เค้าอายุเท่าไหร่แล้วคะ” เธอถามออกไปพร้อม ๆ กับความกังวลในใจ“เขา... เป็นเด็กหรือเปล่าคะ คือ..หนูเกรงว่าเด็กจะอาจไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่...และอาจไม่เข้าใจสถานะของหนูน่ะค่ะ” คุณอัครเดชยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินคำถาม“อ้อ ลูกชายฉันน่ะเหรอ” คุณอัครเดชตอบ พลางยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย“ไม่ต้องห่วงหรอกหนู..ลูกชายฉันน่ะ..มันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว สบายใจได้ ถ้าฉันจำไม่ผิดปีนี้ลูกชายฉันก็อายุ 30 ปีแล้วมั่ง เพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประ

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 24 สถานะที่พลิกผัน

    ตอนที่ 24 สถานะที่พลิกผันหลังจากจัดการเรื่องที่ทำงานและหอพักเสร็จเรียบร้อย วันต่อมาอัครเดชก็พาพิมพ์มาดามายังบ้านของเขาที่อยู่เชียงใหม่ ซึ่งอัครเดชเรียกว่า 'บ้าน' แต่สำหรับพิมพ์มาดาแล้ว นี่มันคือคฤหาสน์ชัดๆ ความรู้สึกราวกับกำลังเดินทางข้ามมิติ ตั้งแต่รถตู้คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาในซอยที่สองข้างทางเต็มไปด้วยกำแพงสูงและต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะชะลอความเร็วเมื่อถึงรั้วเหล็กดัดขนาดมหึมาที่เปิดออกอย่างช้าๆ ราวกับประตูสู่สรวงสวรรค์อีกแห่ง การ์ดรักษาความปลอดภัยในชุดเครื่องแบบสีเข้มยืนประจำการณ์คอยดูแลความสงบอยู่ตามจุดต่าง ๆ การ์ดยกมือทำความเคารพอย่างนอบน้อม จากนั้นประตูไฟฟ้าก็เลื่อนเปิดออกรถเคลื่อนตัวไปตามถนนที่ทอดผ่านสวนพันธ์ไม้นานาชนิดขนาดใหญ่ราวกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีน้ำพุอยู่ตรงกลางล้อมรอบไปด้วยสนามหญ้าอันเขียวขจีที่ได้รับการดูและอย่างพิถีพิถัน ไม้ดอกนานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆเมื่อสายตาของหญิงสาวปะทะกับตัวอาคารเบื้องหน้าครั้งแรก เธอถึงกับตะลึง ตัวอาคารขนาดมหึมา ตั้งตระหง่านอย่างโอ่อ่า สถาปัตยกรรมดูคลาสสิกผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว วัสดุที่ใช้ดูมีราคาแพงลิบ ทั้งหินอ่อนเนื้อดี กระจกใสบานใหญ่ แล

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 23 โลกใบใหม่

    ตอนที่ 23 โลกใบใหม่รุ่งเช้า..วันต่อมาเป็นเช้าแรกที่รู้สึกแปลกไปจากเดิม พิมพ์มาดาร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับอัครเดชและคุณแม่ บรรยากาศเงียบสงบกว่าทุกวันที่ผ่านมา มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบจาน และบทสนทนาเบาๆขณะที่กำลังจิบกาแฟอุ่นๆ อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของพิมพ์มาดาก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ของหัวหน้างานที่แผนกบัญชี เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ...” พิมพ์มาดาเอ่ยได้แค่เพียงประโยคทักทายเท่านั้น เสียงแว้ดๆ จากปลายสายดังลอดออกมาทันที แม้เธอจะพยายามลดเสียงแล้วก็ตาม“นี่พิมพ์! ถ้าวันนี้เธอยังไม่กลับมาทำงานอีก ฉันจะไล่เธอออกนะยะ!”พิมพ์มาดาหน้าซีดเผือดทันที เธอเกือบจะลืมเรื่องงานไปเสียสนิทในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ เธอก็ยังมัวแต่ยุ่ง ๆคุณอัครเดช ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม และเพิ่งจิบกาแฟไปเมื่อครู่ ชำเลืองมองมาที่เธอ เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเด็กสาว และได้ยินเสียงหัวหน้างานที่ดังลอดออกมา เขาก็พอจะเดาเรื่องได้เมื่อวางสาย พิมพ์มาดานั่งนิ่งอึ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล“มีอะไรรึเปล่าลูก ใครโทรมาเหรอ” พิมพ์ดาวเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง“หัวหน้าโทรมาค่ะแม่ บอกว่าถ้าวันนี้หนูไม่ไปทำงาน เค้าจะไล่ออก

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 22 ข้อตกลง..ระหว่างเรา

    ตอนที่ 22 ข้อตกลง..ระหว่างเราพิมพ์มาดาตัดสินใจว่าเธอควรจะคุยกับคุณอัครเดชอย่างเปิดอก เธอรู้สึกขอบคุณแม่ที่ให้สิทธิ์เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้บังคับให้เธอรับข้อเสนอเพียงเพราะเรื่องหนี้สิน แม้ว่านั่นจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เธอต้องมานั่งคิดหนักก็ตามหลังจากทานมื้อกลางวันกันอย่างเงียบๆ คุณอัครเดช ก็เห็นว่าพิมพ์มาดาดูมีบางอย่างในใจ เขาจึงหาจังหวะเอ่ยขึ้น เพื่อคุยกับเธอสองต่อสอง หลังจากพิมพ์ดาวลุกไป“หนูพิมพ์!!!... ถ้าหนูไม่สบายใจเรื่องที่ฉันเสนอ...ก็บอกกันตรง ๆ ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ฉันพร้อมรับฟังทุกอย่างที่” คำพูดของชายสูงวัยเป็นเหมือนการเปิดประตูให้เธอพิมพ์มาดาสูดหายใจลึกๆ เธอรู้ว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะต้องเคลียร์ความรู้สึกและความคิดของตัวเองกับเขาอย่างตรงไปตรงมา“คุณอัครเดชคะ... คือจริง ๆ แล้ว หนูยังมีหลายอย่างที่หนูอยากจะบอกให้คุณได้รับรู้ค่ะ”“โอเคร งั้นหนูพูดมาได้เลยนะ”พิมพ์มาดา สูดหายใจลึกๆ พลางมองใบหน้ายินดีของชายสูงวัยคราวพ่อ ที่กำลังนั่งรอฟังเธอด้วยความตั้งใจ ก่อนที่ตนเองจะเปิดเผยความรู้สึกที่วุ่นวายให้กับเขาฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเธอเหลือเกิน“คุ

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 21 ทางเลือก...บนคราบน้ำตา

    ตอนที่ 21 ทางเลือก...บนคราบน้ำตาเช้าวันต่อมา หลังจากพิธีฌาปนกิจและวันอันแสนสาหัสผ่านพ้นไป บนผืนน้ำนิ่งสงบของลำน้ำสายหนึ่ง พิมพ์มาดาและพิมพ์ดาวผู้เป็นมารดา ยืนอยู่เคียงข้างคุณอัครเดช เถ้ากระดูกที่บัดนี้แปรสภาพเป็นเพียงธุลีถูกโรยลงสู่ผืนน้ำอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ทาบทาผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับบรรยากาศเงียบสงบแต่ในใจของสองแม่ลูกยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความเศร้า ความเหนื่อยล้า และความสับสนจากเหตุการณ์เมื่อวานที่เกิดขึ้นคุณอัครเดช ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่สายตาที่มองมาที่พิมพ์มาดาเต็มไปด้วยความห่วงใยเมื่อพิธีง่ายๆ เสร็จสิ้นลง พิมพ์ดาวหันมาทางคุณอัครเดช ด้วยใบหน้าที่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้า แต่แววตาเจือด้วยความซาบซึ้งใจ“คุณอัครเดชคะ เรื่องหนี้สินที่พ่อยัยพิมพ์ก่อไว้ ดาวจัดการโอนเงินคืนให้พวกนั้นเรียบร้อยแล้วนะคะเมื่อวาน เย็น ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับความช่วยเหลือของคุณจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณดาวก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร...” เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย อัครเดช ยิ้มบางๆ ให้พิมพ์ดาว ก่อนจะเอ่ยขึ้นถึงความต้องการของตัวเองบ้าง“ไม่เป็นไรครับคุณดาว ผมยินดีช่วยค

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 20 เบื้องหลังของบิดา

    ตอนที่ 20 เบื้องหลังของบิดา15.00 นช่วงเวลาอันเงียบสงบก่อนพิธีฌาปนกิจศพของคุณพ่อพิมพ์มาดา ได้ถูกรุกรานด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างกำยำ ท่าทางไม่เป็นมิตร พวกเขากรูเข้ามาในบริเวณวัดอย่างไม่เคารพสถานที่ ส่งเสียงโวยวายและทวงถามถึงหนี้สินมหาศาลที่คุณพ่อของพิมพ์มาดาทิ้งไว้ ก่อนจะบอกยอดเงินเกือบยี่สิบล้านบาทรวมทั้งต้นและดอกให้พิมพ์ดาวรับรู้ ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ มือไม้สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อได้ยินตัวเลขที่น่าตกใจนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นดูจะไม่ยอมรามือ พวกเขายืนกรานที่จะทวงหนี้ให้ได้ก่อนที่จะมีพิธีใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการอ่านประวัติของผู้ตาย พิมพ์ดาวกลัวว่างานศพของสามีจะสะดุด และพวกนั้นก็บอกว่าจะป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ในช่วงขั้นตอนการอ่านประวัติของผู้ตายอีกด้วย สร้างความกดดันให้กับพิมพ์ดาวเป็นอย่างมากอัครเดชที่ยืนต้อนรับแขกเหรื่อคู่กับพิมพ์มาดา สังเกตเห็นความผิดปกติและสีหน้ากังวลของพิมพ์ดาว จึงเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นด้วยท่าทีสงบนิ่งแต่หนักแน่นอย่างไม่เกรงกลัว“มีอะไรกันหรือครับ” เสียงทุ้มนุ่มของอั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status