/ โรแมนติก / รักในเงาแค้น / ตอนที่ 6 เพียงสบตา...ก็รู้ใจ

공유

ตอนที่ 6 เพียงสบตา...ก็รู้ใจ

last update 최신 업데이트: 2025-11-17 21:11:20

ตอนที่ 6 เพียงสบตา...ก็รู้ใจ

ผู้คนมากมายที่หลั่งไหลเข้าออกภายในสนามบินในวันหยุด ทำให้การสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคนนั้นเป็นเรื่องยากเย็นเต็มที จนในที่สุดความประหม่าก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของพิมพ์มาดาอย่างชัดเจน เธอเริ่มกังวลและกลัวว่าจะจำเขาไม่ได้ หรือยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เธออาจจะหน้าแตกเพราะทักคนผิด

จากนั้นคำพูดของเกรช ที่คอยเตือนสติเธออยู่เสมอ ก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดราวกับเสียงกระซิบข้างหู...ความกังวลที่กลัวว่าเขาจะไม่ตรงปก ไม่เหมือนกับที่เธอเห็นจากรูปโปรไฟล์หรือการที่เพิ่งวิดีโอคอลคุยกันเมื่อเร็วๆ นี้ มันเป็นเงาเล็กๆ ที่คอยฉุดรั้งความตื่นเต้นและความคาดหวังอันล้นปรี่ในใจเธอ

“คงไม่หรอกมั้ง!!!...” พิมพ์มาดาพึมพำและพยายามให้กำลังใจตัวเอง โดยหวังว่าเธอคงจะไม่ถูกหลอกให้มารอเก้อเป็นแน่ แต่ความไม่มั่นใจเล็กๆ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ภายในใจไม่หยุดหย่อน

พิมพ์มาดานั่งลงก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ และพยายามควบคุมความตื่นเต้นที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง เธอเชื่อมั่นในความรู้สึกของตนเองที่มีต่อธาวิน และเชื่อมั่นในบทสนทนาและความผูกพันที่สร้างขึ้นมาตลอดหลายเดือน

แล้วในที่สุด สายตาของพิมพ์มาดาก็ต้องหยุดชะงัก ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยมนต์สะกด ร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่งที่กำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมา

สายตาของเธอไม่อาจหลีกเลี่ยง แสงอาทิตย์อ่อนๆ ยามเช้าเริ่มสาดส่องลงมาจับต้องใบหน้าอันหล่อเหลาที่ดูอ่อนล้าจากการเดินทาง แต่ยังคงฉายชัดซึ่งความคมคายเอาไว้อย่างโดดเด่น

โครงหน้าของเขาสันกรามคมชัดรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มที่กวาดมองไปรอบๆ นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นและแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนอย่างที่เธอสัมผัสได้ผ่านการวิดีโอคลอเมื่อสองวันที่แล้ว

ริมฝีปากหยักได้รูปดูมีเสน่ห์น่าค้นหา เรือนผมสีดำสนิทถูกจัดทรงมาอย่างดีถึงแม้จะดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยจากการเดินทาง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่เขาสวมใส่ดูเรียบง่ายแต่กลับขับเน้นรูปร่างสูงสง่าของเขาให้โดดเด่น

พิมพ์มาดารู้สึกราวกับมีแรงดึงดูดอันทรงพลังที่ทำให้เธอไม่สามารถละสายตาจากเขาได้ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกลองศึกที่ถูกตีรัว ๆ อย่างบ้าคลั่ง ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งตื่นเต้น ทั้งประหม่า และความรู้สึกหลงใหลในตัวเขาอย่างน่าประหลาด

ชายหนุ่มชะลอฝีเท้าลง ราวกับกำลังมองหาใครบางคนเช่นกัน แล้วสายตาของเขาก็ประสานเข้ากับดวงตาคู่สวยที่กำลังจับจ้องมองมาอย่างไม่วางตาของหญิงสาวผู้รอคอย ราวกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านไปทั่วร่างกายของเธอ พิมพ์มาดารู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนและไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย...เขาคือธาวิน...ผู้ชายคนที่เธอรอคอยอย่างไม่มีข้อสงสัย!

ธาวินยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่พิมพ์มาดาคุ้นเคยแต่ไม่เคยเห็นแบบเต็มๆ ตามาก่อน มันอบอุ่นและจริงใจอย่างที่เธอจินตนาการเอาไว้ เขาเดินตรงมาหาเธออย่างไม่ลังเล

“คุณพิมพ์...ใช่ไหมครับ?” เสียงทุ้มนุ่มที่เธอคุ้นเคยดังอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ยืนตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก เขาสูงกว่าเธอไปมากทีเดียว มากกว่าที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้ซะอีก พิมพ์มาดาพยักหน้าเบาๆ ด้วยความตื่นเต้นจนแทบพูดไม่ออก

“ผมธาวินครับ...” น้ำเสียงของเขาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน จนเธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นนั้นทำให้พิมพ์มาดารู้สึกเหมือนทุกอย่างเป็นจริง ไม่ใช่แค่ความฝัน

“ยินดีต้อนรับกลับไทยค่ะ...คุณวิน” พิมพ์มาดาเอ่ยเสียงสั่นเครือ เป็นคำพูดแรกที่ออกจากปากเธอหลังจากได้เจอตัวจริงของเขา

“ขอบคุณครับ...” ธาวินยิ้มกว้าง

รอยยิ้มและสายตาที่ทั้งคู่ส่งให้กันในวินาทีนั้น บอกเล่าเรื่องราวมากมายที่ถูกถักทอผ่านตัวอักษรและความรู้สึกในโลกออนไลน์ ความตื่นเต้น ความดีใจ และความรู้สึกผูกพันที่ลึกซึ้ง...ทุกอย่างรวมกันอยู่ในโมเมนต์นี้

โมเมนต์ที่พิมพ์มาดารู้ว่า การรอคอยของเธอได้สิ้นสุดลงแล้ว และบทใหม่ของความสัมพันธ์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ ที่แห่งนี้...

สนามบินที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน แต่สำหรับพวกเขาสองคนแล้ว กลับมีเพียงกันและกันเท่านั้น

ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ ราวกับต้องการเก็บรายละเอียดทุกอณูไว้ในความทรงจำ พิมพ์มาดาก็เช่นกัน เธอจ้องมองเขาอย่างไม่อาจละสายตา ความรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าผสมปนเปจนทำอะไรไม่ถูก

“เดินทางเหนื่อยไหมคะ?” ในที่สุดพิมพ์มาดาก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ก็นิดหน่อยครับ แต่พอเห็นหน้าคุณพิมพ์แล้ว...ผมก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ” ธาวินตอบกลับด้วยรอยยิ้มหวานจนแก้มของพิมพ์มาดาร้อนผ่าว

“เอากระเป๋าไปที่รถกันเถอะค่ะ แล้วค่อยไปหาอะไรทานกัน” พิมพ์มาดาชวนพลางผายมือไปยังทางออก

“ครับ” ธาวินพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มละมุน ก่อนจะลากกระเป๋าใบใหญ่ตามเธอไปอย่างเงียบๆ สองร่างเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินในสนามบิน แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านกระจกบานใหญ่ ทอประกายอบอุ่น

ความเงียบระหว่างทั้งสองคนไม่ได้ทำให้อึดอัด แต่กลับเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ราวกับความผูกพันที่สั่งสมมาตลอดหลายเดือนตั้งแต่บทสนทนาแรกบนโลกออนไลน์ ซึ่งมันได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่มั่นคงและหนักแน่นในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ววันนี้

ทั้งคู่เดินออกมาสู่ลานจอดรถ แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมากระทบกับพื้นคอนกรีตสีเทา ดูสดใสและเจิดจ้าขึ้นอย่างน่าประหลาด ราวกับเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีของวันที่แสนพิเศษ พิมพ์มาดาเดินนำไปที่รถยนต์สีขาวสะอาดตาของเธอ ก่อนจะยื่นมือไปเปิดประตูให้ธาวินด้วยรอยยิ้มหวาน

“ขอบคุณครับ” น้ำเสียงของธาวินเอ่ยขึ้นเพื่อตอบรับความมีน้ำใจของหญิงสาว

 เขานั่งเคียงข้างมากับเธอ ดวงตาคมของเขามองหันมายังพิมพ์มาดาอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบนั้น

“ถึงแม้การเดินทางมันยาวนานและก็เหนื่อยเอามากๆ แต่พอผมรู้ว่า..มีคุณพิมพ์รออยู่ที่นี่...มันก็ทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ” เขาเอ่ยคำพูดออกมาอย่างตั้งใจ ราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริง พิมพ์มาดายิ้มตอบอย่างอ่อนโยน หัวใจของเธอพองโตกับคำพูดนั้น ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เขายิ่งทวีคูณ

“อุ๊ย!!..ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ พิมพ์เต็มใจ...และก็ดีใจด้วยซ้ำที่ได้มารับคุณ” พิมพ์มาดาเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มหวานดวงตาคู่สวยของเธอทอประกายออกมาด้วยความจริงใจ แต่ในห้วงความคิดลึกๆ นั้น กลับมีความสงสัยเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาในใจ 

เธอสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีสมาชิกในครอบครัวมารับเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือญาติสนิทคนอื่นๆ ความแปลกใจนี้แล่นผ่านความคิดวูบหนึ่ง แต่เธอก็ยังไม่กล้าเอ่ยถามออกไป เกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาท หรืออาจจะไปสะกิดแผลในใจเขาโดยไม่ตั้งใจ หรือบางที...เขาอาจจะตั้งใจให้เธอเป็นคนแรกที่เจอเขาในวันนี้ก็เป็นได้ 

ความคิดนั้นทำให้แก้มของพิมพ์มาดาร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย ทว่า...เมื่อเธอนึกขึ้นได้ถึงบทสนทนาก่อนหน้านี้ที่ธาวินเคยบอกว่าครอบครัวของเขาอยู่ที่เชียงใหม่ ความสงสัยก็เริ่มคลายลง เธอเข้าใจว่าเขาคงอยากใช้เวลาเที่ยวต่อกับเธอ ก่อนที่จะเดินทางกลับไปหาครอบครัวที่เชียงใหม่ในภายหลัง

“มื้อเช้า...คุณวินชอบทานอะไรเป็นพิเศษคะ?” พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส ขณะที่ทั้งคู่เดินเคียงกันออกจากสนามบิน

“อะไรก็ได้ครับที่คุณพิมพ์อยากให้ผมทาน ผมทานได้ทุกอย่างครับ” ธาวินตอบด้วยรอยยิ้มทะเล้นอย่างอารมณ์ดี ดวงตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงเรื่องอาหาร

“งั้น!!!...ไปทานร้านอาหารไทยอร่อยๆ แถวๆ นี้ไหมคะ?” พิมพ์มาดาเสนอด้วยความกระตือรือร้น

“เยี่ยมไปเลยครับ! ผมน่ะ...คิดถึงอาหารไทยจะแย่อยู่แล้ว ทานที่ไหนก็ไม่เหมือนนั่งทานอยู่ที่บ้านเราจริงๆ” ธาวินตอบรับทันทีด้วยน้ำเสียงดีใจ

“ได้เลยค่ะ...แต่พิมพ์ขอแวะไปหาเพื่อนแป๊บนะคะ” พิมพ์มาดาบอกพลางหันไปยิ้มให้ธาวินอย่างเกรงใจเล็กน้อย

“อ๋อ...ได้เลยครับไม่มีปัญหา ผมยังไม่ค่อยหิวเลยครับ คุณพิมพ์ไปหาเพื่อนก่อนก็ได้ครับ” เขาตอบกลับด้วยความสุภาพและเจือไปด้วยความเกรงใจ

บทสนทนาของทั้งคู่ไหลลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งสองผลัดกันเล่าเรื่องราวในชีวิตและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน ความประหม่าในตอนแรกค่อยๆ จางหายไป เหลือไว้เพียงความรู้สึกสบายใจและเป็นกันเอง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 25 ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง

    ตอนที่ 25 ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้งพิมพ์มาดาเลิกคิ้วสูงด้วยความไม่เข้าใจ การต้องแสดงออกว่าเป็นคนรักของเขา ต่อหน้าลูกชายของเขา มันฟังดูซับซ้อนและอาจนำไปสู่ปัญหาได้ แต่เมื่อนึกถึงความจริงใจที่อัครเดชมีให้ พิมพ์มาดาก็ไม่กล้าปฏิเสธและพยายามทำความเข้าใจในเหตุผลของเขา แต่ความกังวลเกี่ยวกับ ทายาทของเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว พิมพ์มาดาพลันนึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เธอหันไปมองเขาที่กำลังมองเธอด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่ติดค้างในใจ“เอ่อ... คุณอัครเดชคะ” พิมพ์มาดาเอ่ยขึ้นอย่างลังเล“หนูขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ... คือ... ลูกชายของคุณ...เค้าอายุเท่าไหร่แล้วคะ” เธอถามออกไปพร้อม ๆ กับความกังวลในใจ“เขา... เป็นเด็กหรือเปล่าคะ คือ..หนูเกรงว่าเด็กจะอาจไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่...และอาจไม่เข้าใจสถานะของหนูน่ะค่ะ” คุณอัครเดชยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินคำถาม“อ้อ ลูกชายฉันน่ะเหรอ” คุณอัครเดชตอบ พลางยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย“ไม่ต้องห่วงหรอกหนู..ลูกชายฉันน่ะ..มันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว สบายใจได้ ถ้าฉันจำไม่ผิดปีนี้ลูกชายฉันก็อายุ 30 ปีแล้วมั่ง เพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประ

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 24 สถานะที่พลิกผัน

    ตอนที่ 24 สถานะที่พลิกผันหลังจากจัดการเรื่องที่ทำงานและหอพักเสร็จเรียบร้อย วันต่อมาอัครเดชก็พาพิมพ์มาดามายังบ้านของเขาที่อยู่เชียงใหม่ ซึ่งอัครเดชเรียกว่า 'บ้าน' แต่สำหรับพิมพ์มาดาแล้ว นี่มันคือคฤหาสน์ชัดๆ ความรู้สึกราวกับกำลังเดินทางข้ามมิติ ตั้งแต่รถตู้คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาในซอยที่สองข้างทางเต็มไปด้วยกำแพงสูงและต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะชะลอความเร็วเมื่อถึงรั้วเหล็กดัดขนาดมหึมาที่เปิดออกอย่างช้าๆ ราวกับประตูสู่สรวงสวรรค์อีกแห่ง การ์ดรักษาความปลอดภัยในชุดเครื่องแบบสีเข้มยืนประจำการณ์คอยดูแลความสงบอยู่ตามจุดต่าง ๆ การ์ดยกมือทำความเคารพอย่างนอบน้อม จากนั้นประตูไฟฟ้าก็เลื่อนเปิดออกรถเคลื่อนตัวไปตามถนนที่ทอดผ่านสวนพันธ์ไม้นานาชนิดขนาดใหญ่ราวกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีน้ำพุอยู่ตรงกลางล้อมรอบไปด้วยสนามหญ้าอันเขียวขจีที่ได้รับการดูและอย่างพิถีพิถัน ไม้ดอกนานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆเมื่อสายตาของหญิงสาวปะทะกับตัวอาคารเบื้องหน้าครั้งแรก เธอถึงกับตะลึง ตัวอาคารขนาดมหึมา ตั้งตระหง่านอย่างโอ่อ่า สถาปัตยกรรมดูคลาสสิกผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว วัสดุที่ใช้ดูมีราคาแพงลิบ ทั้งหินอ่อนเนื้อดี กระจกใสบานใหญ่ แล

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 23 โลกใบใหม่

    ตอนที่ 23 โลกใบใหม่รุ่งเช้า..วันต่อมาเป็นเช้าแรกที่รู้สึกแปลกไปจากเดิม พิมพ์มาดาร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับอัครเดชและคุณแม่ บรรยากาศเงียบสงบกว่าทุกวันที่ผ่านมา มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบจาน และบทสนทนาเบาๆขณะที่กำลังจิบกาแฟอุ่นๆ อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของพิมพ์มาดาก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ของหัวหน้างานที่แผนกบัญชี เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ...” พิมพ์มาดาเอ่ยได้แค่เพียงประโยคทักทายเท่านั้น เสียงแว้ดๆ จากปลายสายดังลอดออกมาทันที แม้เธอจะพยายามลดเสียงแล้วก็ตาม“นี่พิมพ์! ถ้าวันนี้เธอยังไม่กลับมาทำงานอีก ฉันจะไล่เธอออกนะยะ!”พิมพ์มาดาหน้าซีดเผือดทันที เธอเกือบจะลืมเรื่องงานไปเสียสนิทในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ เธอก็ยังมัวแต่ยุ่ง ๆคุณอัครเดช ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม และเพิ่งจิบกาแฟไปเมื่อครู่ ชำเลืองมองมาที่เธอ เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเด็กสาว และได้ยินเสียงหัวหน้างานที่ดังลอดออกมา เขาก็พอจะเดาเรื่องได้เมื่อวางสาย พิมพ์มาดานั่งนิ่งอึ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล“มีอะไรรึเปล่าลูก ใครโทรมาเหรอ” พิมพ์ดาวเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง“หัวหน้าโทรมาค่ะแม่ บอกว่าถ้าวันนี้หนูไม่ไปทำงาน เค้าจะไล่ออก

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 22 ข้อตกลง..ระหว่างเรา

    ตอนที่ 22 ข้อตกลง..ระหว่างเราพิมพ์มาดาตัดสินใจว่าเธอควรจะคุยกับคุณอัครเดชอย่างเปิดอก เธอรู้สึกขอบคุณแม่ที่ให้สิทธิ์เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้บังคับให้เธอรับข้อเสนอเพียงเพราะเรื่องหนี้สิน แม้ว่านั่นจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เธอต้องมานั่งคิดหนักก็ตามหลังจากทานมื้อกลางวันกันอย่างเงียบๆ คุณอัครเดช ก็เห็นว่าพิมพ์มาดาดูมีบางอย่างในใจ เขาจึงหาจังหวะเอ่ยขึ้น เพื่อคุยกับเธอสองต่อสอง หลังจากพิมพ์ดาวลุกไป“หนูพิมพ์!!!... ถ้าหนูไม่สบายใจเรื่องที่ฉันเสนอ...ก็บอกกันตรง ๆ ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ฉันพร้อมรับฟังทุกอย่างที่” คำพูดของชายสูงวัยเป็นเหมือนการเปิดประตูให้เธอพิมพ์มาดาสูดหายใจลึกๆ เธอรู้ว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะต้องเคลียร์ความรู้สึกและความคิดของตัวเองกับเขาอย่างตรงไปตรงมา“คุณอัครเดชคะ... คือจริง ๆ แล้ว หนูยังมีหลายอย่างที่หนูอยากจะบอกให้คุณได้รับรู้ค่ะ”“โอเคร งั้นหนูพูดมาได้เลยนะ”พิมพ์มาดา สูดหายใจลึกๆ พลางมองใบหน้ายินดีของชายสูงวัยคราวพ่อ ที่กำลังนั่งรอฟังเธอด้วยความตั้งใจ ก่อนที่ตนเองจะเปิดเผยความรู้สึกที่วุ่นวายให้กับเขาฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเธอเหลือเกิน“คุ

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 21 ทางเลือก...บนคราบน้ำตา

    ตอนที่ 21 ทางเลือก...บนคราบน้ำตาเช้าวันต่อมา หลังจากพิธีฌาปนกิจและวันอันแสนสาหัสผ่านพ้นไป บนผืนน้ำนิ่งสงบของลำน้ำสายหนึ่ง พิมพ์มาดาและพิมพ์ดาวผู้เป็นมารดา ยืนอยู่เคียงข้างคุณอัครเดช เถ้ากระดูกที่บัดนี้แปรสภาพเป็นเพียงธุลีถูกโรยลงสู่ผืนน้ำอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ทาบทาผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับบรรยากาศเงียบสงบแต่ในใจของสองแม่ลูกยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความเศร้า ความเหนื่อยล้า และความสับสนจากเหตุการณ์เมื่อวานที่เกิดขึ้นคุณอัครเดช ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่สายตาที่มองมาที่พิมพ์มาดาเต็มไปด้วยความห่วงใยเมื่อพิธีง่ายๆ เสร็จสิ้นลง พิมพ์ดาวหันมาทางคุณอัครเดช ด้วยใบหน้าที่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้า แต่แววตาเจือด้วยความซาบซึ้งใจ“คุณอัครเดชคะ เรื่องหนี้สินที่พ่อยัยพิมพ์ก่อไว้ ดาวจัดการโอนเงินคืนให้พวกนั้นเรียบร้อยแล้วนะคะเมื่อวาน เย็น ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับความช่วยเหลือของคุณจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณดาวก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร...” เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย อัครเดช ยิ้มบางๆ ให้พิมพ์ดาว ก่อนจะเอ่ยขึ้นถึงความต้องการของตัวเองบ้าง“ไม่เป็นไรครับคุณดาว ผมยินดีช่วยค

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 20 เบื้องหลังของบิดา

    ตอนที่ 20 เบื้องหลังของบิดา15.00 นช่วงเวลาอันเงียบสงบก่อนพิธีฌาปนกิจศพของคุณพ่อพิมพ์มาดา ได้ถูกรุกรานด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างกำยำ ท่าทางไม่เป็นมิตร พวกเขากรูเข้ามาในบริเวณวัดอย่างไม่เคารพสถานที่ ส่งเสียงโวยวายและทวงถามถึงหนี้สินมหาศาลที่คุณพ่อของพิมพ์มาดาทิ้งไว้ ก่อนจะบอกยอดเงินเกือบยี่สิบล้านบาทรวมทั้งต้นและดอกให้พิมพ์ดาวรับรู้ ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ มือไม้สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อได้ยินตัวเลขที่น่าตกใจนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นดูจะไม่ยอมรามือ พวกเขายืนกรานที่จะทวงหนี้ให้ได้ก่อนที่จะมีพิธีใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการอ่านประวัติของผู้ตาย พิมพ์ดาวกลัวว่างานศพของสามีจะสะดุด และพวกนั้นก็บอกว่าจะป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ในช่วงขั้นตอนการอ่านประวัติของผู้ตายอีกด้วย สร้างความกดดันให้กับพิมพ์ดาวเป็นอย่างมากอัครเดชที่ยืนต้อนรับแขกเหรื่อคู่กับพิมพ์มาดา สังเกตเห็นความผิดปกติและสีหน้ากังวลของพิมพ์ดาว จึงเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นด้วยท่าทีสงบนิ่งแต่หนักแน่นอย่างไม่เกรงกลัว“มีอะไรกันหรือครับ” เสียงทุ้มนุ่มของอั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status