Home / โรแมนติก / รักในเงาแค้น / ตอนที่ 8 ผู้ชายคนนี้...ผ่าน

Share

ตอนที่ 8 ผู้ชายคนนี้...ผ่าน

last update Last Updated: 2025-11-17 21:11:59

ตอนที่ 8 ผู้ชายคนนี้...ผ่าน

ก่อนจะกลับ พิมพ์มาดาเอ่ยลาเพื่อนด้วยความเกรงใจ เกรชส่งสายตาเป็นประกายมาให้เพื่อนเล็กน้อย เป็นสัญญาณที่บอกว่าเธอเห็นด้วยและรู้สึกดีที่เพื่อนกำลังจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับชายหนุ่มตรงหน้า หลังจากที่พิมพ์มาดาบอกลาเพื่อนธาวินเองก็กล่าวคำลาเกรชด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

“ฝากขอบคุณ คุณยายด้วยนะเกรช สำหรับมื้อเช้าที่แสนอร่อย” เขาเอ่ยด้วยความจริงใจและฝากคำขอบคุณไปถึงคุณยายสายหยุด เพราะไม่อยากเข้าไปรบกวนคุณยายอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่เกรชจะได้ตอบรับ คุณยายสายหยุดก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น 

“อ้าว! จะกลับกันแล้วเหรอจ้ะ?” คุณยายสายหยุดเดินออกมาตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงใจดีและมองมาทั้งคู่ด้วยความเอ็นดู ธาวินรีบหันกลับไปยกมือไหว้คุณยายอีกครั้ง

“ผมกลับก่อนนะครับคุณยาย สวัสดีครับ แล้วผมจะหาโอกาสแวะมาเยี่ยมอีกนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนของธาวินและกริยาที่นอบน้อมนั้นบ่งบอกถึงความเคารพและจริงใจต่อหญิงชรา

 “ยินดีเสมอจ้ะ ว่างๆ ก็แวะมานะ” หญิงชราเอ่ยตอบก่อนจะหันไปมองพิมพ์มาดาเพื่อนของหลานสาวแล้วเอ่ยขึ้น

“หนูพิมพ์ ขับรถดี ๆ ล่ะ ถ้าง่วงก็เปลี่ยนแฟนขับบ้างก็ได้นะ” คำพูดของคุณยายทำให้พิมพ์มาดารู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มเล็กน้อย เธอแอบเหลือบมองธาวินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาเองก็ดูเขินอายเล็กน้อยเช่นกัน เกรชยิ้มทะเล้นให้เพื่อน

“ไม่ต้องห่วงยัยพิมพ์หรอกค่ะ..คุณยาย” เกรชบอกคุณยายพร้อมส่งสายตาแซวเพื่อนรักอย่างรู้ทัน พิมพ์แอบมาดาตีแขนเพื่อนเบาๆ ด้วยความเขิน ก่อนจะหันไปบอกลาคุณยายและยกมือไหว้หญิงชราด้วยความเคารพคุ้นเคย

“จ้ะ งั้นก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะลูก” คุณยายสายหยุดโบกมือลาด้วยรอยยิ้มอย่างใจดี

หลังจากร่ำลากันเสร็จ พิมพ์มาดาและธาวินก็เดินไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน บรรยากาศระหว่างทั้งคู่เงียบลงเล็กน้อย แต่เป็นความเงียบที่อบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและความสุขที่เพิ่งผ่านมา

“คุณยายเกรชน่ารักมากเลยนะครับ” ธาวินเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังจะเปิดประตูรถ

“ค่ะ คุณยายท่านใจดี” พิมพ์มาดาตอบด้วยรอยยิ้ม

ทั้งคู่ขึ้นรถและออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป พิมพ์มาดามองกระจกหลัง เห็นเกรชและคุณยายสายหยุดยืนโบกมือลาอยู่หน้าบ้าน รอยยิ้มของยายหลานทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและมั่นใจในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้มากยิ่งขึ้น...

พิมพ์มาดารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ความเกร็งในช่วงแรกของการพบกันจางหายไป เหลือไว้เพียงความรู้สึกสบายใจและคุ้นเคย

“เราจะไปไหนกันดีคะ?” พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“แล้วแต่คุณเลยครับ ผมตามใจคุณ” ธาวินตอบกลับด้วยแววตาที่อ่อนโยน

ในใจของพิมพ์มาดาแอบคิดถึงการขับรถขึ้นเหนือไปยังเชียงใหม่ บ้านของธาวิน เธออยากทำความรู้จักกับโลกส่วนตัวและครอบครัวของเขาให้มากขึ้น แต่เมื่อเอ่ยปากชวน ธาวินกลับมีท่าทีลังเลเล็กน้อย

“เอ่อ...ผมว่าเราไปเที่ยวทะเล ที่มีวัดสวยๆ กันดีไหมครับ?” ธาวินเสนอด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่แฝงไว้ด้วยความเกรงใจ

“วัดที่อยู่กลางทะเลสวยๆ เหรอคะ?” พิมพ์มาดาทวนคำถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย เธอไม่คุ้นเคยกับวัดที่ตั้งอยู่กลางทะเลนัก

“อืม!!! พิมพ์ไม่ค่อยรู้จักวัดที่มีทะเลสวย ๆ เลยค่ะ นึกออกแค่หัวหิน ถ้าอย่างนั้นคุณเสนอมาเลยค่ะ จะไปทางใต้ก็ได้นะคะ” เธอตอบอย่างเปิดกว้าง

“ไม่ต้องลงไปถึงใต้หรอกครับ คุณจะขับรถเหนื่อยเปล่าๆ” ธาวินรีบตอบกลับด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

“ค่ะ งั้นพิมพ์แล้วแต่คุณวินก็แล้วกัน” พิมพ์มาดาตอบอย่างง่ายๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงความไว้ใจเขาอย่างเต็มที่

ธาวินคลี่ยิ้มบางๆ อย่างโล่งอกเมื่อพิมพ์มาดาคล้อยตามแผนการเที่ยววัดพร้อมทะเลของเขา นิ้วเรียวยาวของเขาแตะลงบนหน้าจอ GPS ในรถยนต์ของหญิงสาว แสงบนหน้าจอสว่างขึ้นก่อนจะปรากฏแผนที่นำพาพวกเขาออกจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก

รถยนต์คันเก่งเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนที่เริ่มทิ้งความหนาแน่นของเมืองหลวงไว้เบื้องหลัง สองข้างทางค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นทิวแถวของบ้านเรือน ร้านค้า และต้นไม้เขียวขจี แสงแดดยามสายสาดส่องลอดผ่านกระจกรถ สร้างบรรยากาศที่สดใสและมีชีวิตชีวา

“คุณจะหลับก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวถึงแล้วพิมพ์จะปลุก” พิมพ์มาดาเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบที่ก่อตัวขึ้นในรถยนต์ระหว่างเดินทาง

ธาวินหันมามองหญิงสาว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความขอบคุณ และความเสน่หาที่มีต่อเธออย่างท่วมท้น

“ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยคุณดูทางดีกว่า เพื่อว่า GPS จะพาเราหลง..” เขาเสริมด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ทำให้หัวใจของพิมพ์มาดาอบอุ่น

พิมพ์มาดายิ้มตอบ แก้มของเธอขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย เธอเองรู้สึกดีที่ได้อยู่เคียงข้างเขา รู้สึกปลอดภัยและสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“ถ้าคุณวินไม่ง่วง ช่วยเล่าเรื่องของคุณให้พิมพ์ฟังบ้างสิคะ...เอาเรื่องครอบครัวก็ได้” พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความอยากรู้และความสงสัย เธอตัดสินใจถามถึงสิ่งที่ค้างคาในใจ ว่าเหตุใดธาวินถึงรีบร้อนปฏิเสธการไปเชียงใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นบ้านเกิดของเขาแท้ๆ ความสงสัยเล็กๆ ก่อตัวขึ้นในใจเธอ ราวกับเมฆฝนที่เริ่มก่อตัว

สีหน้าของธาวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย รอยยิ้มที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาจางลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาของเขาเศร้าลงจนพิมพ์มาดาที่หันมาเจอพอดีก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ถามออกไป

“เรื่องครอบครัวของผม...มันค่อนข้างซับซ้อนครับ” เขาถอนหายใจแผ่วเบา พลางมองออกไปนอกหน้าต่างครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองพิมพ์มาดาด้วยแววตาที่ดูจะรวบรวมความกล้า

“ครอบครัวของผม...คุณพ่อทำธุรกิจโรงไฟฟ้าอยู่ที่เชียงใหม่ครับ...ท่านเป็นคนค่อนข้าง...เข้มงวดครับ ก็เลย...เข้ากับผมไม่ค่อยได้” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอึดอัด

“แล้วคุณแม่ล่ะคะ?” พิมพ์มาดาถามด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ สัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

“ท่านเสียไปนานแล้วครับ...ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ” น้ำเสียงของธาวินแผ่วลงจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตาของเขาหม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด

พิมพ์มาดารู้สึกเสียใจที่ถามคำถามนั้นออกไป เธอเอื้อมมือไปแตะหลังมือของธาวินเบาๆ อย่างต้องการส่งผ่านความเข้าใจและให้กำลังใจชายหนุ่ม สัมผัสอบอุ่นนั้นราวกับสายใยเล็กๆ ที่เชื่อมโยงความรู้สึกของทั้งสองเข้าด้วยกัน

ธาวินหันมามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะจับมือของเธอกลับอย่างแผ่วเบา สัมผัสอบอุ่นจากมือเล็กๆ ของพิมพ์มาดาทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งในใจของเขาทุเลาลงบ้าง

“ไม่เป็นไรครับ...” เขายิ้มบางๆ ให้เธอ อย่างไม่ถือสา ดวงตาของเขาจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธออย่างจริงจัง

“ถ้าไม่มีคุณ...ผมก็อาจจะยังอยู่ที่นั่นอีกนานเลยก็ได้ ตอนแรก..ผมกะว่าจะหางานทำที่นั่นเลยด้วยซ้ำ” คำบอกเล่าของธาวินทำให้พิมพ์มาดารู้สึกถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเขา เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะพยายามควบคุมความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ภายใน

“คุณมั่นใจพิมพ์ขนาดนั้นเลยเหรอคะ...” น้ำเสียงของเธอแฝงไว้ด้วยความเคลือบแคลงสงสัย แต่ในหัวใจกลับซ่อนความหวังอันริบหรี่เอาไว้ลึก ๆ ธาวินแอบชำเลืองมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังแดงระเรื่อของเธออย่างเอ็นดู

แสงแดดยามสายส่องกระทบผิวแก้มเนียนของเธอจนเป็นสีชมพูอ่อนๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หนักแน่นและจริงจัง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่สื่อถึงความจริงใจออกมา

“มั่นใจสิครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมตั้งใจเดินทางกลับมาที่นี่... ก็เพื่ออยากเริ่มต้นใหม่กับคุณจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มต้นจากศูนย์ก็ตาม...” ธาวินย้ำคำพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยของเธอ ราวกับต้องการสลักทุกความรู้สึกของเขาไว้ในนั้น

“และความรู้สึกของผมมันก็ไม่ใช่แค่ตัวอักษรบนหน้าจอที่ผมส่งหาคุณเท่านั้น” เขาเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจัง ราวกับเป็นคำสารภาพที่มาจากส่วนลึกของหัวใจ ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความมุ่งมั่น ราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีอย่างหมดจดและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...ความรู้สึกที่แท้จริง...ที่พร้อมจะเติบโตเคียงข้างเธอ

“แต่...” พิมพ์มาดาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ความไม่มั่นใจยังคงฉายชัดในแววตา

“โลกออนไลน์มันก็...หลอกลวงกันตั้งมากมาย พิมพ์ไม่คิดว่าคุณจะเชื่อมั่นอะไรในตัวพิมพ์ได้ขนาดนั้น...และเราก็เพิ่งเจอกัน...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 25 ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง

    ตอนที่ 25 ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้งพิมพ์มาดาเลิกคิ้วสูงด้วยความไม่เข้าใจ การต้องแสดงออกว่าเป็นคนรักของเขา ต่อหน้าลูกชายของเขา มันฟังดูซับซ้อนและอาจนำไปสู่ปัญหาได้ แต่เมื่อนึกถึงความจริงใจที่อัครเดชมีให้ พิมพ์มาดาก็ไม่กล้าปฏิเสธและพยายามทำความเข้าใจในเหตุผลของเขา แต่ความกังวลเกี่ยวกับ ทายาทของเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว พิมพ์มาดาพลันนึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เธอหันไปมองเขาที่กำลังมองเธอด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่ติดค้างในใจ“เอ่อ... คุณอัครเดชคะ” พิมพ์มาดาเอ่ยขึ้นอย่างลังเล“หนูขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ... คือ... ลูกชายของคุณ...เค้าอายุเท่าไหร่แล้วคะ” เธอถามออกไปพร้อม ๆ กับความกังวลในใจ“เขา... เป็นเด็กหรือเปล่าคะ คือ..หนูเกรงว่าเด็กจะอาจไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่...และอาจไม่เข้าใจสถานะของหนูน่ะค่ะ” คุณอัครเดชยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินคำถาม“อ้อ ลูกชายฉันน่ะเหรอ” คุณอัครเดชตอบ พลางยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย“ไม่ต้องห่วงหรอกหนู..ลูกชายฉันน่ะ..มันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว สบายใจได้ ถ้าฉันจำไม่ผิดปีนี้ลูกชายฉันก็อายุ 30 ปีแล้วมั่ง เพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประ

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 24 สถานะที่พลิกผัน

    ตอนที่ 24 สถานะที่พลิกผันหลังจากจัดการเรื่องที่ทำงานและหอพักเสร็จเรียบร้อย วันต่อมาอัครเดชก็พาพิมพ์มาดามายังบ้านของเขาที่อยู่เชียงใหม่ ซึ่งอัครเดชเรียกว่า 'บ้าน' แต่สำหรับพิมพ์มาดาแล้ว นี่มันคือคฤหาสน์ชัดๆ ความรู้สึกราวกับกำลังเดินทางข้ามมิติ ตั้งแต่รถตู้คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาในซอยที่สองข้างทางเต็มไปด้วยกำแพงสูงและต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะชะลอความเร็วเมื่อถึงรั้วเหล็กดัดขนาดมหึมาที่เปิดออกอย่างช้าๆ ราวกับประตูสู่สรวงสวรรค์อีกแห่ง การ์ดรักษาความปลอดภัยในชุดเครื่องแบบสีเข้มยืนประจำการณ์คอยดูแลความสงบอยู่ตามจุดต่าง ๆ การ์ดยกมือทำความเคารพอย่างนอบน้อม จากนั้นประตูไฟฟ้าก็เลื่อนเปิดออกรถเคลื่อนตัวไปตามถนนที่ทอดผ่านสวนพันธ์ไม้นานาชนิดขนาดใหญ่ราวกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีน้ำพุอยู่ตรงกลางล้อมรอบไปด้วยสนามหญ้าอันเขียวขจีที่ได้รับการดูและอย่างพิถีพิถัน ไม้ดอกนานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆเมื่อสายตาของหญิงสาวปะทะกับตัวอาคารเบื้องหน้าครั้งแรก เธอถึงกับตะลึง ตัวอาคารขนาดมหึมา ตั้งตระหง่านอย่างโอ่อ่า สถาปัตยกรรมดูคลาสสิกผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว วัสดุที่ใช้ดูมีราคาแพงลิบ ทั้งหินอ่อนเนื้อดี กระจกใสบานใหญ่ แล

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 23 โลกใบใหม่

    ตอนที่ 23 โลกใบใหม่รุ่งเช้า..วันต่อมาเป็นเช้าแรกที่รู้สึกแปลกไปจากเดิม พิมพ์มาดาร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับอัครเดชและคุณแม่ บรรยากาศเงียบสงบกว่าทุกวันที่ผ่านมา มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบจาน และบทสนทนาเบาๆขณะที่กำลังจิบกาแฟอุ่นๆ อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของพิมพ์มาดาก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ของหัวหน้างานที่แผนกบัญชี เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ...” พิมพ์มาดาเอ่ยได้แค่เพียงประโยคทักทายเท่านั้น เสียงแว้ดๆ จากปลายสายดังลอดออกมาทันที แม้เธอจะพยายามลดเสียงแล้วก็ตาม“นี่พิมพ์! ถ้าวันนี้เธอยังไม่กลับมาทำงานอีก ฉันจะไล่เธอออกนะยะ!”พิมพ์มาดาหน้าซีดเผือดทันที เธอเกือบจะลืมเรื่องงานไปเสียสนิทในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ เธอก็ยังมัวแต่ยุ่ง ๆคุณอัครเดช ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม และเพิ่งจิบกาแฟไปเมื่อครู่ ชำเลืองมองมาที่เธอ เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเด็กสาว และได้ยินเสียงหัวหน้างานที่ดังลอดออกมา เขาก็พอจะเดาเรื่องได้เมื่อวางสาย พิมพ์มาดานั่งนิ่งอึ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล“มีอะไรรึเปล่าลูก ใครโทรมาเหรอ” พิมพ์ดาวเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง“หัวหน้าโทรมาค่ะแม่ บอกว่าถ้าวันนี้หนูไม่ไปทำงาน เค้าจะไล่ออก

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 22 ข้อตกลง..ระหว่างเรา

    ตอนที่ 22 ข้อตกลง..ระหว่างเราพิมพ์มาดาตัดสินใจว่าเธอควรจะคุยกับคุณอัครเดชอย่างเปิดอก เธอรู้สึกขอบคุณแม่ที่ให้สิทธิ์เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้บังคับให้เธอรับข้อเสนอเพียงเพราะเรื่องหนี้สิน แม้ว่านั่นจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เธอต้องมานั่งคิดหนักก็ตามหลังจากทานมื้อกลางวันกันอย่างเงียบๆ คุณอัครเดช ก็เห็นว่าพิมพ์มาดาดูมีบางอย่างในใจ เขาจึงหาจังหวะเอ่ยขึ้น เพื่อคุยกับเธอสองต่อสอง หลังจากพิมพ์ดาวลุกไป“หนูพิมพ์!!!... ถ้าหนูไม่สบายใจเรื่องที่ฉันเสนอ...ก็บอกกันตรง ๆ ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ฉันพร้อมรับฟังทุกอย่างที่” คำพูดของชายสูงวัยเป็นเหมือนการเปิดประตูให้เธอพิมพ์มาดาสูดหายใจลึกๆ เธอรู้ว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะต้องเคลียร์ความรู้สึกและความคิดของตัวเองกับเขาอย่างตรงไปตรงมา“คุณอัครเดชคะ... คือจริง ๆ แล้ว หนูยังมีหลายอย่างที่หนูอยากจะบอกให้คุณได้รับรู้ค่ะ”“โอเคร งั้นหนูพูดมาได้เลยนะ”พิมพ์มาดา สูดหายใจลึกๆ พลางมองใบหน้ายินดีของชายสูงวัยคราวพ่อ ที่กำลังนั่งรอฟังเธอด้วยความตั้งใจ ก่อนที่ตนเองจะเปิดเผยความรู้สึกที่วุ่นวายให้กับเขาฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเธอเหลือเกิน“คุ

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 21 ทางเลือก...บนคราบน้ำตา

    ตอนที่ 21 ทางเลือก...บนคราบน้ำตาเช้าวันต่อมา หลังจากพิธีฌาปนกิจและวันอันแสนสาหัสผ่านพ้นไป บนผืนน้ำนิ่งสงบของลำน้ำสายหนึ่ง พิมพ์มาดาและพิมพ์ดาวผู้เป็นมารดา ยืนอยู่เคียงข้างคุณอัครเดช เถ้ากระดูกที่บัดนี้แปรสภาพเป็นเพียงธุลีถูกโรยลงสู่ผืนน้ำอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ทาบทาผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับบรรยากาศเงียบสงบแต่ในใจของสองแม่ลูกยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความเศร้า ความเหนื่อยล้า และความสับสนจากเหตุการณ์เมื่อวานที่เกิดขึ้นคุณอัครเดช ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่สายตาที่มองมาที่พิมพ์มาดาเต็มไปด้วยความห่วงใยเมื่อพิธีง่ายๆ เสร็จสิ้นลง พิมพ์ดาวหันมาทางคุณอัครเดช ด้วยใบหน้าที่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้า แต่แววตาเจือด้วยความซาบซึ้งใจ“คุณอัครเดชคะ เรื่องหนี้สินที่พ่อยัยพิมพ์ก่อไว้ ดาวจัดการโอนเงินคืนให้พวกนั้นเรียบร้อยแล้วนะคะเมื่อวาน เย็น ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับความช่วยเหลือของคุณจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณดาวก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร...” เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย อัครเดช ยิ้มบางๆ ให้พิมพ์ดาว ก่อนจะเอ่ยขึ้นถึงความต้องการของตัวเองบ้าง“ไม่เป็นไรครับคุณดาว ผมยินดีช่วยค

  • รักในเงาแค้น   ตอนที่ 20 เบื้องหลังของบิดา

    ตอนที่ 20 เบื้องหลังของบิดา15.00 นช่วงเวลาอันเงียบสงบก่อนพิธีฌาปนกิจศพของคุณพ่อพิมพ์มาดา ได้ถูกรุกรานด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างกำยำ ท่าทางไม่เป็นมิตร พวกเขากรูเข้ามาในบริเวณวัดอย่างไม่เคารพสถานที่ ส่งเสียงโวยวายและทวงถามถึงหนี้สินมหาศาลที่คุณพ่อของพิมพ์มาดาทิ้งไว้ ก่อนจะบอกยอดเงินเกือบยี่สิบล้านบาทรวมทั้งต้นและดอกให้พิมพ์ดาวรับรู้ ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ มือไม้สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อได้ยินตัวเลขที่น่าตกใจนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นดูจะไม่ยอมรามือ พวกเขายืนกรานที่จะทวงหนี้ให้ได้ก่อนที่จะมีพิธีใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการอ่านประวัติของผู้ตาย พิมพ์ดาวกลัวว่างานศพของสามีจะสะดุด และพวกนั้นก็บอกว่าจะป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ในช่วงขั้นตอนการอ่านประวัติของผู้ตายอีกด้วย สร้างความกดดันให้กับพิมพ์ดาวเป็นอย่างมากอัครเดชที่ยืนต้อนรับแขกเหรื่อคู่กับพิมพ์มาดา สังเกตเห็นความผิดปกติและสีหน้ากังวลของพิมพ์ดาว จึงเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นด้วยท่าทีสงบนิ่งแต่หนักแน่นอย่างไม่เกรงกลัว“มีอะไรกันหรือครับ” เสียงทุ้มนุ่มของอั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status