Masukทุกข์ของเด็กม.ต้น นอกเหนือจากเรื่องหัวใจรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการทำการบ้านนี่แหละ หลังจากสองสาวเพื้อนซี้แยกย้ายกันไป เวลาแห่งการทำการบ้านก่อนนอนก็มาถึง บนห้องนอนส่วนตัวสีครีมของมิน ฝาผนังที่แปะโปสเตอร์ไอดอลเกาหลีสับหว่างกับเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น แม้พวกเขาจะให้กำลังใจเธอผ่านทางแววตาและรอยยิ้ม แต่นั่นก็ไม่อาจเยียวยาปัญหาที่เด็กสาวประสบพบเจอในตอนนี้ได้
.
"ซวยแล้ว! นี่มันกระเป๋าอายนี่นา! ไปเผลอสลับกันตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะถ้าเป็นงั้นก็แสดงว่ากระเป๋าของเราก็ต้องอยู่ที่อายสิ.."
"ถ้าเราทำการบ้านให้อาย ยัยนั่นก็ต้องทำให้เรา ก็ถือว่าเจ๊า ๆ กันไปล่ะเน๊อะ (^.^)"
.
"แคว๊ก!!!"
เสียงรูดซิบกระเป๋าเป้ออก
.
ด้วยความสัตย์จริงว่าในยุคสมัยนั้น โรงเรียนมักจะมีกฎว่าห้ามนักเรียนใช้กระเป๋าที่มีสีสันฉูดฉาด เด็กทุกคนต้องใช้กระเป๋าที่มีโลโก้สัญลักษณ์ของทางโรงเรียน ซึ่งถ้าจะให้ชัวร์ผู้ปกครองก็ควรจะซื้อกระเป๋าที่ทางโรงเรียนจัดสรรมาขาย เกิดรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็แลกมากับความจำเจซ้ำซาก และแพ็ทเทิร์นเดิม ๆ ของกระเป๋าบนแผ่นหลัง เหตุการณ์หยิบกระเป๋าผิดเลยมีเกิดขึ้นบ้าง แม้จะไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
.
"ไหน ๆ ขอดูหน่อยว่าเธอใส่อะไรไว้ในนี้บ้าง.."
"ฉันถือว่าฉันไม่ได้เสียมารยาทนะ แต่ฉันทำเพราะความจำเป็น"
.
"เหมียว~!"
.
"หืม.. ใช่ไหมโมจิ แกก็อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าในนี้มีอะไร?"
"แต่บอกไว้ก่อนนะว่าไม่มีโดเรม่อนญาติของแกหรอกนะ.. เจ้าเหมียวอ้วน (^0^)"
"เหมียว ๆ มานี่มา มาดูด้วยกันมา! เหมียว ๆ !"
.
"เหมียว~!"
ยอมมาซะที่ไหนเดินไต่ขอบหน้าต่างกระโดดลงชั้นสองไปเฉย พี่โมจิแกมักจะเป็นของแกแบบนี้ แกเป็นแมวขนปุยสีขาวราวกับขนม O-TOP ของนครสวรรค์ บางวันแกก็เป็นแมวขี้อ้อน บางวันแกก็ติสท์แตกยากจะมีพลเมืองโลกหน้าไหนเข้าใจ และบางทีวันนี้โมจิอาจจะรู้ด้วยมั้งว่ากลิ่นกระเป๋าไม่ใช่ของมิน ก็เลยไม่สนใจ
.
"แง.. โดนเมินซะล่ะ (T ^ T)"
"แต่ก็เอาเหอะ เราควรจะโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า มาทำการบ้านให้อายกันดีกว่า!"
.
ตะกุยตะกายกระเป๋าเพื่อนซะเละเทะ ก่อนจะพบเข้ากับตำราหนังสือมากมายที่เรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ อายจำแนกสมุดไว้กับสมุดแบ่งหนังสือไว้กับหนังสือ สองสิ่งนี้แบ่งโซนกันอย่างชัดเจน มีการเรียงขนาดไซส์จากเล็กไปใหญ่ เรียงแม้กระทั่งเฉดสีจากอ่อนไปเข้ม ด้วยความสัตย์จริงว่าถ้ามินเป็นเจ้าของกระเป๋าใบนี้ล่ะก็ ต่อให้ปิดตาหยิบก็ยังรู้ว่าจะได้หนังสือวิชาอะไรติดมือออกมา
.
อายเป็นคนที่ระเบียบวินัยจัดจ้านมาก! เป๊ะจัดเป๊ะเว่อร์! ช่องกระเป๋าด้านหน้าเป็นที่ใส่กล่องดินสอ ติดกันเป็นกระปุกแป้งพับและเครื่องประทินผิว ทิชชู่เปียกทิชชู่แห้ง ผ้าอนามัยมีพร้อมไม่หวั่นแม้วันมามาก ส่วนช่องว่างด้านข้างก็ยังมีของที่ไม่ควรมีอย่างเช่น แอลกอฮอล์ล้างแผลและทิงเจอร์ไอโอดีน มินเห็นเข้าก็ได้แต่ขำ ว่าตกลงเพื่อนคนนี้มาเรียนหนังสือหรือจะมาเดินป่าตั้งแคมป์ตรงหน้าเสาธงกันแน่
.
และนี่แหละคืออาย! เพราะเธอเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง เลยพยายามชดเชยด้วยการเตรียมทุกอย่างให้พรั่งพร้อม เอาไว้เสมอ
.
"เหอะ ๆ ฉันล่ะยอมเธอเลยจริง ๆ อาย"
"เอาล่ะทีนี้ก็เข้าเรื่องเข้าราวกันสักที การบ้านวิชาสังคมของคุณครูจินนี่.."
"เอ.. หนังสือต้องสันสีเขียวเล่นนี้ ส่วนสมุดก็น่าจะเป็น.. ต้องเล่มนี้แหละน่าจะใช่!"
.
"พรึบ!"
ดึงออกมาพรวดเดียวพร้อมกันสองเล่ม แล้วก็ถูกต้องตรงเผงแบบโคตรฟลุ๊ค!
.
แต่ทว่าพอวางลงบนโต๊ะอ่านหนังสือในห้องปุ๊บ วินาทีที่แสงโคมไฟฉาบฉายลงมาโดนหน้ากระดาษสมุด ตอนนั้นเองที่มินถึงกับกระเด้งตัวเองเอาหลังไปชนกับพนักเก้าอี้เสียงดัง "โครม!" ให้ตายเถอะ! นี่อายเพื่อนรักของเธอแอบไปทำแบบนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?!
.
สมุดวิชาสังคมจริงมีเส้นบรรทัดตีไว้ให้ขีดเขียน แต่ถ้าเราพลิกอ่านจากทางด้านหลัง เราก็จะเห็นภาพสเก็ตดินสอของตัวบ้านพี่ซูชิที่ถูกวาดไว้อย่างวิจิตรบรรจง! แม้ลายเส้นจะบางไปบ้างแต่ดูก็รู้ว่าอายใส่ความพยายามลงไปมากแค่ไหน มิหนำซ้ำในหน้าถัดไปยังเขียนข้อมูลของครอบครัวพี่ซูชิไว้ซะละเอียดยิบ พี่เขาอยู่กับใคร , พ่อแม่ทำงานอะไร , บ้านเขาเลี้ยงหมาไหม , คุณตาคุณยายใจดีรึเปล่า ฯลฯ มีแม้กระทั่งวันเดือนปีเกิดพี่เขาและกลุ่มดาวประจำราศี และบางทีพื้นดวงของพี่ชูชิก็อาจจะถูกอายนำไปทำนายทายทักไว้แล้ว
.
"เชี้ย! ละเอียดสัด.."
มินถึงกับสบถคำอุทานออกมา
.
นั่นเท่ากับว่าอายนั้นดื้อเงียบ เธอเร็วกว่ามินด้วยซ้ำ และถ้าไม่มีการสลับกระเป๋ากันในวันนี้แม้แต่เธอเองก็คงไม่รู้ว่าอายจริงจังขนาดไหน ดูทรงความรักจะเบ่งบานในใจของเพื่อนตัวน้อยซะแล้ว และมินเองก็ถึงกับฟินตามไปด้วย เธอหลุดยิ้มออกมาอย่างน่าเอ็นดู เมื่อพบว่าในสมุดหน้าหลัง ๆ มีรูปวาดพี่ซูชิในท่าต่าง ๆ เต็มไปหมด ลายเส้นปากกายึกยือ หัวโตตาแป๋วบิดบ้างเบี้ยวบ้างแต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ ซ้ำร้ายที่ดันมีรูปของตัวเธอเองรวมอยู่ในนั้นด้วยเฉยเลย
.
"เอ๋.. นี่ฉันหรอ?! นี่เธอวาดฉันสวยขนาดนี้เชียว! (^.^)"
"น่าร๊ากกกกอ่ะ! แบบนี้ไม่น้อยใจล่ะ ไว้ฉันจะช่วยแกเต็มที่เลยหุ ๆ "
"โมจิมาดูนี่เร็ว! , มาดูฉันเวอร์ชั่นการ์ตูนน่ารักไหม? , น่ารักเน๊อะ! (>_<) "
.
"เหมียว~! , เหมียว~!"
.
จนกระทั่งโมเมนท์แห่งความสุขสันต์มีอันต้องสะดุดลง เพราะเสียงโทรศัพท์บ้านที่ดังขึ้นและคุณแม่เป็นคนรับ เสียงตะโกนเรียกอันคุ้นเคยดังก้องกลบเสียงพี่โมจิ และตอนนั้นเองที่มินเหมือนจะรู้แล้วว่าตัวเองต้องเจอกับอะไร
.
"ฮัลโหล..อา.. ย..?"
.
/อย่าเปิดสมุดนะ!!!/
.
"สมุดอะไรแล้วแกจะตะโกนเพื่อ?!"
.
/สมุดการบ้านวิชาสังคม มินอย่าเปิดมันออกมานะ! อายขอร้องล่ะ! /
.
"อ๊อ.. ไอ้ที่แกเขียนข้อมูลพี่ซูชิ กับวาดรูปพี่เขาไว้เพียบน่ะเหรอ?"
"ไม่ทันแล้วจ่ะเพื่อนรัก โมจิกับฉันเห็นทุกอย่างหมดแล้ว (^-^)"
.
/เสร็จกัน..โลกระเบิดแน่คราวนี้ (T^T) /
.
"โห..เว่อร์เหอะ! ฉันเป็นคนใจร้ายขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำเสียงซะหมดอาลัยตายอยาก~!"
.
/ก็มันจริงไหมล่ะ! จนจะเข้านอนอยู่แล้วมินยังแกล้งอายไม่หยุดเลยอ่ะ! (= . =)" /
.
"เหอะ ๆ รู้สึกผิดเลยแฮะ เอางี้งั้นเรามาแลกกัน เธอทำการบ้านในสมุดฉัน ฉันจะทำการบ้านในสมุดเธอ"
"ฉันต้องถูกทุกข้อและได้คะแนนเต็ม แล้วฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับโอเค๊?!"
.
/ไม่เชื่อ!!! (>_<)" /
.
"ใช่! ฉันก็ไม่เชื่อตัวฉันเองเหมือนกันฮ่า ๆ (^0^)"
.
/ไอ้มินบ้าวางสายไปเล๊ย! ไม่คุยด้วยแล่วเช๊อะ! ไอ้หนอนบ้ง!/
.
"ตุ๊ด ๆ , ตุ๊ด ๆ , ตุ๊ด ๆ , ตุ๊ด ๆ "
กระแทกโทรศัพท์ใส่แป้นคืนแบบขุ่นแค้น ตุ๊ดล้วน ๆ ไม่มีกระเทยเจือปน
.
และแน่นอนว่าคนเจ้าแผนการอย่างมิน ไม่มีทางพอแค่นี้หรอก รอถึงเช้าวันรุ่งขึ้นที่โรงเรียนเถอะ เธอจะสวมบทป๋าดันและทำให้อายได้คบกับพี่ม.5 คนนั้นให้จงได้ "เหมียว~!" โมจิหลับปุ๋ยไปแล้ว มินชอบแอบมองมัน เวลาโมจิขดตัวนอนในตะกร้า มันเหมือนกับได้เห็นอายในเวอร์ชั่นขี้อ้อนน่ารัก ๆ เลย
.
.
ปล. เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรโปรดติดตามตอนต่อไปจ้า
เช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าใสกระจ่าง เมฆฟูนุ่มสวย บรรยากาศแลดูเป็นใจให้ต้นรักเบ่งบาน และถ้าจะมีใครสักคนอกหักในวันดี ๆ เช่นนี้ คนผู้นั้นก็คงจะโชคร้ายที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่ามินจะไม่มีทางให้มันเกิดขึ้น เวลา 8 นาฬิกา นักเรียนทุกคนยืนเข้าแถวหน้าเสาธง คนที่ยืนอยู่หน้ามินคืออาย แล้วก็เหมือนจะยังคงงอนตุ๊บป่องไม่พูดไม่จากับเธอ."นี่ ๆ อาย.. อาย.. อาย.. ฮัลโหล.."มินพยายามสะกิดแขนแกมกระซิบ."ไม่พูดด้วย.."."นี่คือแกโกรธฉันอยู่หรอ? โกรธจริงดิ?"."ไม่พูดด้วย..".เอานิ้วจิ้มเอวไปอีกสองสามที แต่ดูทรงแล้วอายเหมือนจะโกรธจริง ท่ามกลางนักเรียนหลายร้อยของโรงเรียนประจำจังหวัด ที่นี่มีระบบการยืนเข้าแถวแบ่งเป็นระดับชั้นอย่างชัดเจน โดยไล่ไปเป็นกลุ่ม ๆ ตั้งแต่ ม. 1 - ม. 6 กล่าวคือ ม.
ทุกข์ของเด็กม.ต้น นอกเหนือจากเรื่องหัวใจรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการทำการบ้านนี่แหละ หลังจากสองสาวเพื้อนซี้แยกย้ายกันไป เวลาแห่งการทำการบ้านก่อนนอนก็มาถึง บนห้องนอนส่วนตัวสีครีมของมิน ฝาผนังที่แปะโปสเตอร์ไอดอลเกาหลีสับหว่างกับเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น แม้พวกเขาจะให้กำลังใจเธอผ่านทางแววตาและรอยยิ้ม แต่นั่นก็ไม่อาจเยียวยาปัญหาที่เด็กสาวประสบพบเจอในตอนนี้ได้."ซวยแล้ว! นี่มันกระเป๋าอายนี่นา! ไปเผลอสลับกันตั้งแต่เมื่อไหร่?""แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะถ้าเป็นงั้นก็แสดงว่ากระเป๋าของเราก็ต้องอยู่ที่อายสิ..""ถ้าเราทำการบ้านให้อาย ยัยนั่นก็ต้องทำให้เรา ก็ถือว่าเจ๊า ๆ กันไปล่ะเน๊อะ (^.^)"."แคว๊ก!!!"เสียงรูดซิบกระเป๋าเป้ออก.ด้วยความสัตย์จริงว่าในยุคสมัยนั้น โรงเรียนมักจะมีกฎว่าห้ามนักเรียนใช้ก
ที่พักเท้าด้านหลังถูกถีบลงก่อนเลยเป็นอันดับแรก เสียงดัง "แกร๊ง!" อันใสแจ๋วของมัน บ่งบอกได้ถึงความสดซิงของจักรยานสีชมพูพิงค์คันนี้ได้ดีที่สุด อายกวักมือเรียกให้เพื่อนสาวขึ้นมายืนบนที่เหยียบ พลางคว้าเอามือเรียวทั้งสองข้างของเพื่อนมาวางบนบ่าตัวเอง ภาพที่ออกมาจึงดูดีทีเดียว มันได้อารมณ์เหมือนเด็ก ๆ ในแก๊งค์แฟนฉัน หากแต่นี่คือ อาย กับ มิน เป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย."เอานะมิน.. อายจะปั่นล่ะนะ!"."ไหวเหรอเธอ.. อย่างน้อยเธอควรจะเอาเป้บนหลังมาไว้ที่ฉันนะ"มินถามด้วยความเป็นห่วง."เอาน่า.. อายมีประสบการณ์ ตลอด 3 วันมานี้อายไม่ล้มเลยสักครั้ง""เพราะงั้นถึงมั่นใจปั่นจักรยานมาโรงเรียนเองไง.. อิ ๆ (^-^)"."เหอะ ๆ นี่ฉันต้องมั่นใจกับคำพูดแค่นี้ของเธอจริง ๆ ดิ (T ^ T)"ขาสั่นเป็นเจ้าเข้า มือที่เกาะไหล่ไว้ก็เปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อ."ถ้างั้นก็ไปกันเล๊ย! สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนน! , ฮึบ!""เฮือกกก~!""อ่ะ! , เฮือกกก~!""อ๊าาากกก~! "."แก๊ง! , แก๊ง! , ครืด! , แก๊ง! , แก๊ง! "เสียงโซ่ครูดกับฟันเฟืองดังสนั่น ฟังจากเสียงเหมือนจะแรงมากแต่ความจริงคือช้ายิ่งกว่าตัวสล็อตเมาสารระเหย.ดีแค่ไหนแล้วที่
"กิ๊ง! , ก่อง! , กาง! , ก่อง! / กิ่ง! , กอง! , ก๊าง! , ก่อง!"เป็นเสียงล้อเลียนออดเลิกเรียนที่ดังขึ้นจากกล่องเสียงของมิน.ในชุดนักเรียนคอซองเธอเดินนำหน้าเพื่อนสนิทของเธอ มายังประตูหน้าโรงเรียนด้วยความแคล่วคล่องราวกับปิดตาเดินได้ ขึ้นชื่อว่าเด็กก็มักจะเป็นกันแบบนี้ เลิกเรียนทีไรไม่ใช่การดีใจที่ได้กลับบ้านหรอก หากแต่เป็นการได้หาความสุขจากการกินขนมหน้าโรงเรียน เพื่อเป็นดั่งรางวัลในการตรากตรำตำราหลวงมาทั้งวันซะมากกว่า และแม้ว่าตอนนี้ทั้ง มิน และ อาย จะขึ้น ม.3 จนมีอายุครบ 15 ปีกันหมดแล้ว แต่พวกเธอก็ยังมีพฤติกรรมไม่ต่างจากเด็กอนุบาลอยู่."เฮ้! อย่าเดินเร็วนักสิมินรออายด้วย! ขาเค้าสั้นอ่ะวิ่งตามเธอไม่ทันหรอกนะ!""รอด้วย ๆ , ขอออกไปซื้อขนมด้วยคน! , แฮ่ก! ๆ ๆ".เด็กสาวสองคนยืนกอดกระเป๋ารอลุงนักการมาเปิดประตูด้วยใจจดจ่อ ชั่วเสี้ยวพริบตาที่ประตูเหล็กหมุนล้อติ้ว ความสุขจากผนังกระเพาะก็เริ่มปฎิบัติการทวงคืนสารอาหารทันที ลูกชิ้นทอดมาก่อนเลยหนึ่งเซต น้ำปั่นนมชมพูตามมาอีกสอง ยำลูกชิ้นเจี้ยวหมา ขนมโตเกียวแป้งนุ่ม โอ้โหบอกได้คำเดียวเลยว่าเหมือนไม่ได้มาเรียน แต่มาบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยาแทนพระพุทธองค์ม


![ผมไม่ได้ยั่ว เสี่ยต่างหากที่ห้ามใจไม่ได้[Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




