ปิ่นปัก....
"ฉันต้องการให้เธอเซ็นต์คืนทุกอย่างกลับมาเพราะเธอไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น"
"ได้ค่ะปิ่นจะคืนทุกอย่างให้คุณนนท์แต่ปิ่นมาข้อแลกเปลี่ยนหนึ่งข้อ"
"อะไร"
"ปิ่นขอแค่คุณนนท์ให้ปิ่นได้เรียนต่อปิ่นขอแค่นี้"
"เธอยังกล้ามาต่อรองกับฉันอีกงั้นเหรอ เหอะ เธอรู้ไหมว่าค่าเทอมเธอมันแพงขนาดไหนฉันจะต้องใจดีส่งเสียเธออีกงั้นเหรอห๊ะไม่ทุเรศไปหน่อยรึไง"
"ถ้าคุณนนท์ไม่ทำตามที่ปิ่นขอร้องเรื่องพินัยกรรมปิ่นก็จะไม่คืนค่ะ" ฉันแค่ขู่เขาไปอย่างนั้นเองเพราะถึงยังไงฉันก็ต้องคืนให้เขาอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่ของฉัน แต่ฉันขอแค่อย่างเดียวขอแค่เขายอมให้เรียนต่อจนจบมอหกแค่นั้นเอง อีกแค่ปีเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว
"ปิ่นปัก!!! เธอนี่มันเลวเหมือนแม่เธอไม่มีผิด" ฉันก้มหน้ายอมรับคำด่าจากเขาไม่โต้แย้งใดๆ
ชานนท์....
คืนนี้ผมมีนัดเพื่อนของผมไว้ ผมกับพวกมันไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ผมย้ายไปเรียนต่อเมืองนอก พอมันรู้ว่าผมกลับมามันก็เลยชวนผมมากินเหล้าที่ผับ
"ไอ้นนท์เพื่อนรักกูกลับมาแล้วโว๊ยยยแบบนี้ต้องฉลองทั้งคืน" ไอ้ทิวพอมันเจอหน้าผมมันก็รีบเดินมาหาแล้วพาผมไปนั่งที่โต๊ะทันทีก่อนจะจัดการเทเหล้าใส่แก้วให้ผม
"กูโคตรคิดถึงมึงเลยว่ะไอ้นนท์ไม่เจอมึงแม่งเป็นสิบปีเป็นไงบ้างวะ"
"ก็ดี" ผมตอบไอ้หมีเพื่อนผม พวกมันเป็นเพื่อนผมสมัยเด็กแล้วถึงจะไม่ได้เจอกันแต่พวกผมก็ติดต่อกันตลอด
"กูเสียใจเรื่องพ่อมึงด้วยนะเว้ย"
"อืม"
"ว่าแต่มึงจะกลับไปเรียนต่อที่อังกฤษอีกไหมวะ"
"ไม่อ่ะ กูว่าจะเรียนต่อที่นี่เลย"
"ดีว่ะว่าแต่มึงจะเรียนที่ไหนวะที่เดียวกับพวกกูไหม"
"ไม่อ่ะ กูไปสมัครที่มหาลัยKมาแล้ว"
"โหเขาว่ามหาลัยนั่นสอบยากชิบหายมึงสอบติดได้ไงวะพวกกูยังไม่ติดสักคน"
"มึงมันโง่ไงไอ้หมี มึงลืมไปแล้วเหรอว่าไอ้นนท์อ่ะมันสอบได้ที่หนึ่งตั้งแต่อนุบาล"
"เออนั่นดิกูก็ลืมไป"
"ว่าแต่มึงกลับมาเรียนต่อที่นี่ยัยซอลลี่แฟนมึงไม่ตามมาด้วยเหรอวะ"
"มีสิทธิ์อะไรมาว่าแล้วอีกอย่างกูกับซอลลี่ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ"
"อ่าวยังไงวะ"
"กูกับซอลลี่ก็แค่คบกันหลอกๆเพราะกูไม่ชอบให้ใครมาสนใจกู ใครเข้าหากูกูก็จะตอบว่ามีแฟนแล้วแค่นั้น" อยากจะบอกว่าตอนที่ผมเรียนที่โน่นมีผู้หญิงเข้าหาผมเยอะมากทั้งคนไทยด้วยกันทั้งต่างชาติจนผมรำคาญผมไม่ชอบให้ใครมาตอแยวุ่นวายผมชอบอยู่คนเดียวผมก็เลยขอร้องให้ซอลลี่เพื่อนของผมช่วยเป็นไม้กันหมาให้หน่อยซึ่งซอลลี่เองก็ยอมเป็นแฟนหลอกๆให้ผมมาตลอด ซอลลี่เธอเป็นลูกครึ่งและด้วยความบังเอิญเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ผมเอง แม่ของซอลลี่ท่านแต่งงานจากนั้นก็ย้ายตามสามีนักธุรกิจมาอยู่ที่นี่ ตอนแรกผมไม่รู้ว่าซอลลี่เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของซอลลี่มารับซอลลี่ที่โรงเรียนจู่ๆท่านเข้ามาทักผมเพราะท่านคุ้นหน้าผมท่านเคยเห็นแม่ผมโพสต์รูปผมตอนเด็กมันก็เลยทำให้ผมรู้ว่าท่านเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับแม่ของผม มันก็เลยทำให้ผมเปิดใจยอมรับซอลลี่เป็นเพื่อน อาจจะด้วยนิสัยของซอลลี่ด้วยซอลลี่เป็นผู้หญิงห้าวๆนิสัยผู้ชายไม่จู้จี้จุกจิกคุยด้วยแล้วสบายใจผมก็เลยคบกับเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว
"แล้วมึงคิดว่ามาเรียนที่นี่จะไม่มีใครสนใจมึงว่างั้น มึงแม่งทั้งหล่อแล้วก็รวยขนาดนี้มึงเตรียมตัวไว้ได้เลยสาวๆว้าวุ่นทั้งมหาลัยแน่"
"กูมีวิธีของกูพวกมึงไม่ต้องห่วง"
เวลาต่อมา.....
"กูจากลับแล้ว" ผมลุกขึ้นยืนโงนเงนอยู่ที่โต๊ะจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่มึนมึนหัวไปหมดไม่รู้พวกมันเอาอะไรให้ผมกิน
"มึงขับรถกลับไหวไหมวะไอ้นนท์"
"ไหวกูไหว" ผมตอบพวกมันทั้งที่สติก็ไม่ได้เต็มร้อย หรือเป็นเพราะผมไม่ค่อยได้ดื่มแอลกอฮอล์ก็เลยเมาง่ายเมาเร็ว
"สภาพนี้กูว่าไม่น่าไหวว่ะเห้ยไอ้หมี กูว่ากูกับมึงคงจะต้องไปส่งมันที่บ้านแล้วล่ะกูเป็นห่วงมัน"
ผมไม่รู้ว่าพวกมันพาผมกลับมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่จนกระทั่งมันสองคนเอาผมลงจากรถ
"ขอบใจพวกมึงมากที่มาส่งกู" ผมที่ยังพอมีสติหันไปขอบใจพวกมันไอ้หมีเอาผมนั่งมาด้วยส่วนไอ้ทิวมันขับรถผมตามหลังมา
"ถ้างั้นพวกกูกลับก่อนนะไว้เจอกันเพื่อน"
"อืมขับรถกลับกันดีๆล่ะ" พอพวกมันขับรถกลับออกไปผมก็เดินเข้าบ้านในสภาพที่ไม่ไหวคืนนี้คงได้นอนโซฟาเพราะผมคงไม่มีแรงเดินขึ้นไปชั้นบน
กุก กุก กัก กัก ผมที่กำลังจะงีบหลับจู่ๆก็สะดุ้งตื่น ผมพยายามเงี่ยหูฟังมาเสียงมาจากไหนผมฟังจนมั่นใจว่ามันดังออกมาจากข้างในครัวผมมองดูเวลาตอนนี้ก็ใกล้จะตีหนึ่งแล้วทำไมแม่บ้านยังไม่นอน ด้วยความสงสัยผมก็เลยพาร่างที่แทบจะไม่มีแรงเดินเดินเข้าไปที่ในครัวเพื่อดูว่าใครอยู่ในนั้น
ปิ่นปัก.....
"หิวจัง" ฉันบ่นกับตัวเอง ปกติฉันจะไม่ค่อยหิวกลางดึกเท่าไหร่แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรจู่ๆก็เกิดหิวขึ้นมา หรืออาจจะเป็นเพราะเมื่อตอนเย็นฉันไม่ได้กินข้าวเนื่องจากว่าวันนี้ฉันเลิกเรียนค่ำเพราะฉันต้องซ้อมดรัมเมเยอร์จนค่ำพอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เหลืออะไรให้ฉันกินแล้วพอถามป้าจิตแกก็บอกว่าแกทิ้งไปหมดแล้วเพราะคิดว่าฉันไม่กิน ฉันรู้ว่าป้าแกไม่ชอบหน้าฉันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแต่ไม่ใช่แค่ป้าจิตคนเดียวหรอกที่ไม่ชอบฉันทุกคนที่นี่ก็ไม่ชอบฉันเหมือนกันเพียงแต่ว่าเมื่อก่อนตอนที่แม่ฉันยังอยู่ทุกคนก็ไม่กล้าแสดงท่าทีอะไรออกมาแต่มาตอนนี้ทุกคนแสดงออกชัดเจนว่าเกลียดฉันมากแค่ไหน เหมือนตอนนี้ฉันไม่เหลือใครเลยเหมือนฉันอยู่ตัวคนเดียวในบ้านหลังนี้พี่แจ่มก็ไม่อยู่แล้วแต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะถ้าพี่แจ่มอยู่แกอาจจะไม่มีความสุขก็ได้
ตอนนี้ฉันรอน้ำร้อนเดือดเพื่อที่จะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทานเพราะมันเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวที่พอจะประทังความหิวได้ในตอนนี้ อันที่จริงอาหารที่ดีกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มีแต่ฉันก็ไม่กล้าจะหยิบอะไรมากินเพราะฉันกลัวป้าจิตแกจะบ่น
วี๊ดดดด วี๊ดดดด เสียงกาน้ำร้อนดังแล้วฉันยิ้มอย่างดีใจเพราะตอนนี้ฉันหิวมาก ฉันรีบปิดแก๊สแล้วเทน้ำร้อนใส่ถ้วยบะหมี่ทันที
"มาทำอะไรดึกๆดื่นๆในครัวห๊ะ" ฉันตกใจเมื่อได้ยินเสียงจากทางด้านหลังพอหันไปเจอหน้าพี่นนท์ฉันก็ตกใจซ้ำสองจนทำให้ฉันเทน้ำร้อนลวกมือตัวเองอย่างไม่ทันระวัง
"โอ๊ยยยย" ฉันรีบปล่อยกาน้ำร้อนจนมันล่วงลงพื้นด้วยความตกใจ แล้วน้ำร้อนในกามันก็ไหลนองที่พื้นมันไหลมาจนถึงตรงที่ฉันยืนทำให้เท้าของฉันถูกน้ำร้อนลวกไปด้วย ฉันรีบเดินถอยหลังออกมาด้วยความปวดแสบปวดร้อน ฉันไม่กล้าร้องออกมาเพราะกลัวเขาจะไม่พอใจ
"โง่!!!" แทนที่เขาจะถามฉันว่าเป็นยังไงบ้างเพราะเขาก็เห็นว่าฉันโดนน้ำร้อนลวกแต่เขากลับด่าว่าฉันโง่ ฉันพยายามไม่สนใจรีบเดินไปหาผ้ามาเช็ดพื้นแม้ว่าฉันจะแสบเท้าแสบมือมากแค่ไหนก็ตาม ตอนนี้ความหิวไม่หลงเหลืออยู่แล้วฉันก้มลงเช็ดพื้นทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวดมันปวดทั้งมือทั้งเท้าเลยถ้าพี่แจ่มยังอยู่แกคงรีบไปเอายามาทาให้ฉันแต่ตอนนี้ฉันไม่มีใครเลย ฉันจะเจ็บหรือจะเป็นอะไรก็คงไม่มีใครสนใจโดยเฉพาะคนตรงหน้าที่ตอนนี้เขากำลังยืนจ้องหน้าฉันอยู่ด้วยสายตาเกลียดชังไม่เคยเปลี่ยน
หลังจากจัดการทำความสะอาดพื้นเสร็จแล้วฉันก็รีบพาตัวเองกลับห้องนอนเพราะนี่มันก็ดึกมากแล้วพรุ่งนี้ฉันต้องออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียนแต่เช้ามืด คือตอนนี้ฉันไม่ได้มีรถรับส่งเหมือนเมื่อก่อนฉันต้องเดินออกไปขึ้นรถเมล์ตรงหน้าปากซอยทุกวันเป็นระยะทางเกือบหนึ่งกิโล อันที่จริงฉันจะเรียกแท็กซี่ให้มารับที่หน้าบ้านก็ได้แต่ค่าโดยสารมันแพงเกินไปฉันคงจ่ายไม่ไหว คือตอนนี้ฉันไม่กล้าใช้เงินเท่าไหร่แม้ว่าพี่นนท์จะให้เงินฉันไปโรงเรียนเหมือนที่แม่เคยให้ก็ตามแต่ฉันก็กลัวเขาจะว่าให้ฉันอีกว่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายฉันก็เลยต้องขึ้นรถเมล์ทั้งไปทั้งกลับเพื่อจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย
ปิ่นปัก..."ถ้าพี่นนท์ว่าดีปิ่นก็ว่าดีค่ะ^^" อะไรที่เขาคิดว่าดีฉันก็ไม่ขัดเพราะว่าเขาคงคิดมาเป็นอย่างดีแล้วถึงทำหลังจากจดทะเบียนกันเสร็จเราก็กลับมาที่บ้านเพื่อบอกข่าวดีกับทุกคนโดยเฉพาะน้องปันปันที่แกเคยพูดกับฉันหลายครั้งว่าอยากมีน้อง ตอนนี้แกกำลังจะมีน้องสมใจแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นผู้หญฺิงหรือผู้ชาย"เย้ เย้ เย้ น้องกำลังจะได้เป็นพี่สาวแล้วใช่มั้ยคะแม่""ใช่ค่ะน้องดีใจมั้ยคะ""ดีใจค่า ดีใจที่สุดเลย แต่..."จากตอนแรกที่ลูกยิ้มดีใจตอนนี้ลูกทำหน้าเศร้าจนฉันตกใจ"แต่อะไรคะ" "แต่น้องไม่มีพ่อ น้องในท้องของแม่มีพ่อคือคุณลุงแต่น้องไม่มีพ่อน้องอยากมีพ่อค่าแม่>พอได้ยินลูกพูดฉันก็รีบดึงลูกมากอดเพราะตอนนี้แกก็ยังไม่รู้ว่าพี่นนท์คือพ่อเพราะฉันไม่ได้บอกและพี่นนท์เองก็ไม่ได้บอกซึ่งฉันเองเป็นคนสั่งให้เขาไม่ให้บอกแต่ตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วที่น้องปันปันจะได้รู้ความจริงสักทีว่าแกก็มีพ่อเหมือนคนอื่นแต่ฉันคงต้องบอกพี่นนท์ก่อนฉันอยากให้พี่นนท์บอกกับลูกด้วยตัวเขาเอง"น้องปันปันขา""ขาแม่""พรุ่งนี้แม่มีข่าวดีจะบอกเรื่องพ่อของน้องนะแต่ตอนนี้ดึกแล้วแม่พาน้องไปนอนนะคะ""ค่าแม่" คืนนั้น...หลังจากส่งลูกเข
ชานนท์...."ทำไมเงียบไม่ตกใจเลยวะ หรือว่ามึงจำได้ว่ามึงเคยไล่ให้ปิ่นไปตาย""..........." ทำไมผมจะจำไม่ได้ผมจำได้หมดทุกอย่างนั่นแล่ะ"มึงรู้ไหมถ้าวันนั้นกูไม่ตามปิ่นมาตอนนี้มึงคงไม่มีเมียชื่อปิ่นไม่มีลูกชื่อปันปัน แล้วมึงรู้ไหมว่าชื่อลูกมึงน้องปันปันใครเป็นคนตั้ง....หึกูนี่กูกับเมียกูเป็นคนตั้ง""มึงต้องการอะไร หรือจะให้กูกราบขอบคุณมึง.. ได้ถ้ามึงต้องการเพราะกูก็เลวจริงที่ตอนนั้นทำร้ายปิ่นกับลูก" ผมไม่ได้พูดประชดนะผมพูดจากใจจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมยอมรับว่าผมผิดและมันก็มีบุญคุณที่ช่วยปิ่นไว้"มึงไม่ต้องไหว้กูเพราะกูไม่ต้องการ""แล้วมึงต้องการอะไร" "ถ้ามึงไม่อยากให้ปิ่นรู้ว่ามึงไม่ได้ความจำเสื่อมมึงต้องยอมยกลูกสาวมึงให้กับลูกชายกู""ห๊ะ!!! อะไรนะ" "มึงจะตกใจทำเชี่ยไร มึงก็เห็นว่าสายฟ้าลูกชายกูชอบน้องปันปันมากเดินตามต้อยๆไม่หยุดกูเป็นพ่อกูรู้ดีว่าลูกกูคิดอะไรอยู่เพราะฉะนั้นถ้ามึงไม่อยากให้ปิ่นรู้ว่ามึงตอแหลมึงก็ห้ามปฏิเสธ""ไอ้เหี้ยเหนือลูกกูกับลูกมึงอายุเพิ่งจะสี่ขวบเองนะ""เออจองไว้ก่อนมึงจะเอาสินสอดเท่าไหร่ก็บอกกูพร้อมเปย์เพื่อลูกสะใภ้ในอนาคต""เด็กอายุแค่นี้มึงจะอะไรโตไปก็ลืมกันแล้
บนรถ...."ปิ่นเชื่อว่าสักวันพี่จะต้องกลับมาจำทุกอย่างได้แน่ค่ะพี่อย่าท้อใจนะคะ" ปิ่นจับมือผมพร้อมกับให้กำลังใจเมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว"พี่ขอบใจปิ่นมากเลยนะครับที่อยู่ดูแลพี่เป็นกำลังใจให้พี่" ผมจับมือปิ่นแล้วดึงมาจูบอย่างแสนรักแม้จะรู้สึกผิดที่โกหกเธอ"เรากลับบ้านกันดีกว่านะคะพี่จะได้พักผ่อน""ครับที่รัก^^" ผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับปิ่นทุกวัน ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าไม่มีเธอผมจะอยู่ยังไงหลายอาทิตย์ต่อมา...ปิ่นปัก....ช่วงนี้พี่นนท์เป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะเหมือนเขาจะง่วงนอนทั้งวันแถมยังอาเจียนบ่อยด้วย"ปื่นพี่เหมือนจะตายเลย ช่วยพี่ที" ฉันพยุงพี่นนท์ออกมาจากในห้องน้ำแล้วพาไปนอน"ปิ่นอย่าไปไหนนะ""ค่ะปิ่นไม่ไหนหรอกพี่นอนเถอะ" ฉันอดสางสารเขาไม่ได้ก็เลยนั่งลงข้างๆให้เขาจับมือจนหลับไป เวลาต่อมา..."เธอจะร้องไห้เป็นห่วงมันทำไมเยอะแยะวะปิ่นผัวเหี้ยๆ แบบนี้สันดานก็ไม่ดีแถมยังจะมาความจำเสื่อมอีก ทิ้งมันไปเลยแล้วก็หาผัวใหม่ซะเอาที่นิสัยดีๆ ไม่ใช่แบบไอ่เชี่ยนี่"ฉันถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินประโยคนี้ของพี่ทิศเหนือ"เหนือมึงพูดอะไรแบบนี้เนี่ยไม่สงสารนนท์บ้างหรือไงเค้าป่วยอยู่นะ" พี่นับดาวว่าให้พี่ทิศเหนือแล้
ชานนท์....ตั่บ!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!!"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เสียวจังค่ะ พี่นนท์ปิ่นเสียวช่วยปิ่นที ฮือออ ฮือออ" ปิ่นครางลั่นห้อง ร่องรักของเธอเริ่มตอดรัดน้องชายผม แสดงว่าเธอใกล้จะเสร็จแล้วผมก็เลยจับเอวปิ่นไว้แน่นแล้วขยับตัวกระแทกสะโพกสวนขึ้นไปอย่างเป็นจังหวะปึก!!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!!!"อ๊ะ อ๊าาาา เสียว ฮือออ มันเสียวมากพี่นนท์ปิ่นจะไม่ไหวแล้ว ฮืออออ กรี๊ดดดดดดด" เสียงกรี๊ดของปิ่นมาพร้อมกับร่องรักที่กระตุกไม่หยุด สักพักน้ำหวานสีใสของเธอก็ชโลมไปทั่วท่อนเอ็นของผม ผมไม่รอช้าถอดตัวตนออกจากร่องรักของปิ่นแล้วขยับตัวลงไปก่อนจะใช้ลิ้นปาดเลียร่องรักที่มีน้ำหวานไหลทะลักไม่หยุดแผล่บ แผล่บ แผล่บ ผมค่อยๆใช้ลิ้นปาดเลียน้ำหวานที่เลอะเต็มสองกลีบกุหลาบ"อื้ออ พี่นนท์อย่าเลียแบบนี้ปิ่นเสียวค่ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา พี่นนท์ปิ่นจะตายแล้ว ฮือออ ฮือออ" ปิ่นดิ้นทุรนทุรายไปมาเมื่อผมใช้ปลายลิ้นสอดใส่เข้าไปด้านในแล้วใช้ลิ้นตวัดที่ติ่งเสียวของเธอ"อื้อออ พี่นนท์ปิ่นจะเสร็จอีกแล้ว ฮือออ" พอรู้ว่
ชานนท์...."ค่อยๆทานนะคะมันร้อน" ปิ่นพูดพร้อมกับเอาผ้ามาคอยเช็ดตรงมุมปากให้ ผมแม่งอยากดึงเธอเข้ามากอดทำไมเธอแสนดีขนาดนี้ทำไมเมียผมน่ารักได้ขนาดนี้นะ แบบนี้ถ้าผมจะยอมความจำเสื่อมไปตลอดชีวิตมันจะดีไหม"พี่ทานลำบากจังมาค่ะเดี๋ยวปิ่นป้อนพี่ดีกว่านะ" สุดท้ายปิ่นก็เป็นคนป้อนให้ผมตามเดิม"พี่อิ่มมั้ยคะหรือยังไม่อิ่มปิ่นจะได้ตักมาเพิ่มให้อีก" ปิ่นถามผมหลังจากตักข้าวคำสุดท้ายให้ผมกิน"อิ่มแล้วครับ^^" ผมไม่เคยกินข้าวมื้อไหนอร่อยเท่ากับเวลาที่ปิ่นป้อนเลยเชื่อไหม แม่งผมเป็นเอามากจริงๆ ตอนนี้ผมคลั่งรักเมียตัวเองขนาดนี้ได้ไงวะ"ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพี่กินยานะคะแล้วก็จะได้นอนพักผ่อน" "กินยาเสร็จแล้วปิ่นขึ้นมานอนกอดกับพี่เหมือนเดิมนะ" เพราะปกติเวลาผมกินข้าวเสร็จแล้วก็กินยาผมจะอ้อนขอให้ปิ่นขึ้นมานอนเป็นเพื่อนซึ่งเธอก็ยอมทำตามที่ผมร้องขอ"คือวันนี้ปิ่นจะไปงานวันเกิดพี่แดนค่ะอาจจะไม่ได้...""เห็นคนอื่นสำคัญกว่าพี่ก็ไม่เป็นไรครับไปเถอะพี่นอนหลับเองก็ได้แม้จะนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ก็เถอะ" พูดจบผมก็หยิบยามากินเองแล้วก็ล้มตัวลงนอนเอาผ้าคลุมตัวจนมิด สักพักผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าปิ่นเดินออกไปจากห้อง แม่งผมทำไมต้อง
ปิ่นปัก....ตอนนี้พี่แดนกลับไปแล้วเหลือแค่ฉันที่นั่งรอพี่นนท์อยู่ในห้อง ผ่านไปสักพักบุรุษพยาบาลรวมถึงพี่พยาบาลก็นำตัวเขากลับมาที่ห้องพักฟื้น "อาการพี่นนท์เป็นยังไงบ้างคะ" ฉันถามพี่พยาบาล"ผลเอกซเรย์จะออกวันพรุ่งนี้นะคะยังไงก็รอฟังคุณหมอบอกอีกที" พี่พยาบาลบอกกับฉันก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทำให้ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ฉันกับพี่นนท์ที่ยังคงนอนหลับสนิท"พี่นนท์อย่าเป็นอะไรนะคะ ปิ่นไม่อยากให้พี่เป็นอะไรไปเลย ถ้าพี่หายป่วยปิ่นมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพี่ด้วยนะ" ฉันบอกกับเขาที่นอนหลับอยู่ชานนท์...."พี่นนท์อย่าเป็นอะไรนะคะ ปิ่นไม่อยากให้พี่เป็นอะไรไปเลยพี่ต้องรีบหายนะ" นั่นคือสิ่งที่ผมได้ยิน คือผมอ่ะฟื้นตั้งแต่ก่อนที่พยาบาลจะพาผมไปเอ็กซเรย์แล้วตั้งแต่ตอนที่ไอ้แดนไทยมันมาเยี่ยมแล้วก็แซวปิ่นผมนี่ขากระตุกอยากลุกแต่ลุกไม่ไหวร่างกายไม่อำนวย พอเข้าห้องมาเจอปิ่นนั่งรออยู่ผมก็แกล้งทำเป็นหลับต่อทันทีเพื่อดูว่าเธอจะมีอากัปกิริยายังไง"พี่รีบหายนะคะปิ่นมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพี่" เรื่องสำคัญอะไรหรือว่าปิ่นจะบอกว่าเธอจะไปจากผม ใช่มันต้องเป็นแบบนั้นเพราะก่อนหน้านี้เธอบอกกับผมว่าเธอจะไปอยู่ที่อื่นเพราะเธอไม่อยากผ