หลังจากที่ผ่านเรื่องราวครั้งนั้นมาได้ ชีวิตของลูซี่ก็อยู่ยากขึ้นไปอีก ออสตินให้เธอสวมใส่สร้อยคริสตัลแห่งคาร์ซัสเอาไว้ เพื่อกักเก็บพลังของเธอไม่ให้แผ่ขยายคลื่นพลังออกมา มันเลยทำให้พวกปีศาจสัมผัสหาตำแหน่งของเธอไม่ได้ แต่ยังมีเรื่องของมาร์คัสที่เขายังเป็นกังวลอยู่
“สองสาวกลับบ้านเลยเหรอ? ให้เราไปส่งไหม” มาร์คัสส่งยิ้มให้พร้อมกับแววตาที่มั่นคง
“โอกาสหน้านะ ^_^ เย็นนี้พวกเรามีงานจ๊ะ”
“งานอะไรอะ!? บาร์ของพวกเธอปิดปรับปรุงไม่ใช่เหรอ? ” น้ำเสียงสงสัยถามขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบจากจินดาแต่คราวนี้เธอกลับนิ่งเงียบไป
“ก็เด็กเสิร์ฟเหมือนเดิมนั่นแหละ เจอกันนะมาร์คัส ” ลูซี่สวนขึ้นตอบคำถามของชายหนุ่ม เธอเลี่ยงตอบไปเพราะไม่อยากให้เขาไปส่ง ช่วงนี้ออสตินยิ่งยืนคำขาดห้ามไม่ให้เธอเข้าใกล้อีกฝ่าย
งานใหม่ที่ว่าคืองานถ่ายแบบ ลูซี่แอบไปคุยเอาไว้ในวันที่ออสตินบอกว่าจะขอจีบเธอ และงานนี้ก็ได้เงินเยอะมากกว่าเด็กเสิร์ฟเสียอีกแม้ว่าสมบัติที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้จะมหาศาลใช้ยังไงก็ไม่หมดแต่ลูซี่ไม่อยากอยู่เฉยๆ ก็เลยหางานทำเป็นเพื่อนจินดา
“เลิกกองครับ!” เสียงทุ้มเข้มของผู้กำกับกังวานไปทั่วห้องสตูหลังจากที่เสื้อผ้าเซทชุดถ่ายจบลง
“เป็นยังไงบ้างครับ สองสาว? สนุกกว่างานเสิร์ฟใช่ไหม ” พี่ผู้กำกับเดินมาดักหน้าสองสาวที่กำลังเดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รอยยิ้มของเขาดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไร ดูมีเลศนัยแปลกๆ
“สนุกกว่าค่ะ ไม่เหนื่อยสักเท่าไร ยังไงจินกับลูซี่ต้องขอบคุณที่พ่อต้อมมากๆ นะคะที่ให้โอกาสเราสองคน ” จินดาส่งยิ้มพลางดันตัวของเพื่อนสาวที่อยู่ข้างกันหลบหลังของเธอ
เพราะแววตาของคนที่ชื่อต้อมไม่เพียงแต่ไม่น่าไว้ใจแต่ถ้ามองลึกๆ ลงไป เขาไม่มีแววตาด้วยซ้ำ ไม่พบเงาของสองสาวปรากฏในนั้นเลย.......
“น้องสองคนสวยขนาดนี้! พี่ให้โอกาสเสมอ….เจอกันพรุ่งนี้นะ ”
จินดาและลูซี่ยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยท่าทีที่น้อมนอบ หลังจากที่เขาหันหลังเดินออกไปเธอทั้งคู่เลยรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพักอย่างรวดเร็วเพราะได้เวลาที่ออสตินจะมารับแล้ว
“ขอบคุณนะคะคุณตินที่มาส่ง ”
ออสตินพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอผ่านกระจกมองหลัง เขาจอดรถอยู่ด้านหน้าคอนโดของจินดารอจนเห็นแผ่นหลังลับสายตาไปแล้ว เท้าหนาจึงค่อยเหยียบคันเร่งออกมาจากคอนโด
“บินกลับ! ถึงห้องแล้วนะเนี่ย…ไม่ต้องมานั่งรถติดหรอก ”
“ค่ะ! คุณลูซิเฟอร์! บินกลับเลยไหม เดี๋ยวหนูขับรถกลับเอง ” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชด เธอไม่ได้ขอให้เขามารับด้วยซ้ำ เขานั่นแหละอยากมาเอง
แสงไฟถนนที่เรียงรายเป็นแนวยาว เปล่งประกายสีส้มอ่อน ๆ สะท้อนกับพื้นถนนเปียกชื้นจากฝนที่เพิ่งหยุดตก กลิ่นดินและความเย็นของอากาศยามค่ำคืนลอยมาปะปนกับเสียงล้อรถที่บดไปกับพื้นถนน
“กินข้าวไหมคะ เดี๋ยวหนูทำให้ ”
ยังไม่ทันจะได้พักให้หายเหนื่อย ลูซี่ก็ยิงคำถามใส่เขาทันทีพลางเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่บนโซฟาตัวใหญ่
“ไม่อยากกินข้าวอะดิ ”
ลูซี่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม เธอเดินถือแก้วน้ำเปล่าเย็นๆ มาพร้อมกับใบหน้าที่ตั้งคำถาม
“แล้วอยากกินอะไรค่า~ ห้องหนูไม่ได้มีวัตถุดิบเยอะขนาดนั้นนะ ” เธอเอ่ยถามพลางยื่นแก้วน้ำเปล่าเย็นๆ ให้กับเขาแต่ก็ต้องตกใจสะดุ้ง
“ว้าย! ออสติน! เดี๋ยวน้ำหก! ” เสียงใสเปล่งออกมาอย่างตกใจ เธอชูมือขึ้นสุดแขนเพราะแทนที่เขารับแก้ว เขากลับกระชากเธอลงไปนั่งตักแทน
“วางลงก็ไม่หกแล้วไหม ” เขาหยิบแก้วออกจากมือของเธอ โน้มตัวลงไปข้างหน้าวางแก้วเจ้าปัญหาลงโต๊ะกลมเล็กก่อนที่เขาจะกลับมาให้ความสนใจกับหญิงสาวตรงหน้า
“แล้วสรุป! อยากกินอะไรคะ”
เขาตอบกลับเป็นรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ มือหนาเชยคางของเธอให้สบตาเขา ทั้งคู่สบตากันสอดประสานอย่างลึกซึ้ง ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นคนหิวกระหายก็ไม่อย่างรอช้าอีกต่อไป
“อื้อ”
ริมฝีปากอุ่นชื้นประกบลงมาทันทีโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งตัวรับมือ บดเคล้าครอบครองช่วงชิงลมหายใจของเธออย่างตะกละตะกลาม แทรกลิ้นร้อนชื้นผ่านไรฟันเข้าไปในโพลงปากนิ่ม
ปลายลิ้นของทั้งสองพันตวัดหยอกล้ออยู่ในโพรงปาก ส่วนมือหนาทั้งสองก็ไม่ปล่อยให้อยู่นิ่ง เริ่มล้วงเข้ามาภายในเสื้อนักศึกษาของเธอ ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อฝ่ามือใหญ่กอบกุมเต้าอวบเอาไว้เต็มมือแถมเขายังเขี่ยเบาๆ ที่จุกอก เพิ่มความเสียวให้เธอมากขึ้นอย่างทวีคูณ
“อื้ม”
เสียงครางทุ้มเล็ดลอดออกมาอย่างพึงพอใจ ขยับปลายลิ้นชื้นลากจากแก้มใสลงมาดูดเม้มที่ต้นคอ ฝังจมูกลงลึกๆ สูดดมความหอมจากกายสาว ลูซี่ก็ให้ความร่วมมือแหงนใบหน้าขึ้นหลับตาพริ้มกอดต้นคอของชายหนุ่มเอาไว้หลวมๆ
“อ๊ะ! คุณติน”
เธอสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนหื่นจะตื่นตัวเต็มที่ได้เร็วขนาดนี้ ท่อนเนื้อที่แข็งผงาดเป็นลำกำลังเสียดสีใจกลางกายของเธอ
“ขอเอาเลยนะ น้ำเยอะแล้ว”
พูดจบเขาก็จัดการพลิกตัวของเธอให้นอนราบบนโซฟา มือหนาลูบไปตามเรียวขาขาวเนียนก่อนจะค่อยๆ เลื่อนเข้าไปดึงรั้งกางเกงในลายลูกไม้สีดำออกอย่างช้าๆ ตามมาด้วยการถลกกระโปรงพลีทขึ้นไปกองเอาไว้ที่เอว
“เดี๋ยวก่อน!! ไหนคุณสัญญาว่าจะเล่าเรื่องพันธสัญญาให้หนูฟัง” มือนุ่มทั้งสองข้างรีบประคองใบหน้าหล่อที่กำลังจะมุดลงไปหาน้ำหวานให้ขึ้นมาคุยกันก่อนแต่เหมือนจะขัดจังหวะอีกฝ่าย
“เย็__ก่อนค่อยว่ากัน”
“อื้อ ออสติน”
เพียงแค่ลากปลายลิ้นไปสัมผัสที่กลีบดอกไม้ ลูซี่ก็แทบจะคลั่ง เธอจิกเล็บทั้งสองข้างลงขอบโซฟาอย่างแรงเพราะความเสียวที่ออสตินกำลังมอบให้กับเธอ
“แค่ลิ้นเองนะลูซี่!!! น้ำเยอะจังเลย”
“อื้ม หนูไม่ไหวแล้ว คุณใส่เลยไม่ได้เหรอ?? ”
เขาเงยหน้ามองเธอเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำตามที่หญิงสาวพูดหรอกนะ กำลังเล่นสนุกกับดอกไม้งามอยู่ แล้วอีกอย่างเธอยังไม่แตกใส่หน้าเขาเลย....
“อื้ม! ออสติน เร็วกว่านี้”
คนสวยออกคำสั่งเร่งเร้าเอาแต่ใจทันที ส่วนคนพี่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย เขาได้ใจแยงลิ้นเข้าไปพร้อมกระดกปลายลิ้นระรัวมิหนำซ้ำยังเพิ่มความเสียวให้กับเธอโดยการกระแทกนิ้วเข้าไปเพิ่มกลายเป็นว่าในช่องทางรักมีทั้งนิ้วและลิ้นกำลังจู่โจมหยอกอย่างต่อเนื่อง
“อื้ม!! เร็วๆ หนูจะแตกแล้ว อร๊าย!!” เธอดิ้นเร่าปานจะขาดใจก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อเสร็จสม สายน้ำทะลักไหลหยดลงโซฟาตัวใหญ่บ้างส่วนไหลลงไปตามท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่ม
“อ่า!! น้ำเยอะ! หวานฉ่ำเลยคนสวย”
คนหล่อเอ่ยชมอย่างชอบใจ ตวัดลิ้นละเอียดปลายนิ้วและฝ่ามือที่เต็มไปด้วยน้ำสีใสพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่นอนหอบอยู่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์และเต็มไปด้วยความต้องการ
“ซี้ด! ทำไมแน่นจังวะ ลูซี่”
ออสตินเชิดหน้าคำรามในระหว่างที่กำลังกดแก่นกายฝ่าเข้าสู่รูคับแคบ ออกแรงดันให้ช่องทางรักเชื่อมติดกันอย่างเนิบช้าจนเข้าสุดลำด้วยความอยากลำบาก อาจเป็นเพราะไม่ได้อีกอะไรกันนาน
ลูซี่เองก็เจ็บไม่แพ้กัน เธอรั้งต้นคอของชายหนุ่มลงมาจูบอย่างเร่าร้อนจนเกิดเสียงฉ่ำแฉะไปทั่วห้อง ส่วนท่อนเอ็นที่กดแช่เอาไว้ก็เริ่มขยับช้าๆ เมื่อเขารู้สึกว่าเธอเริ่มผ่อนคลาย
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านสีขาวบางเบาที่แกว่งไกวด้วยสายลมอ่อน ๆ อากาศในห้องนอนของลูซี่อบอุ่นด้วยแสงสีทองที่ทอผ่านกระจกหน้าต่าง โต๊ะเล็กข้างเตียงมีแจกันดอกไม้สดใสที่ดูราวกับเปล่งประกายจากแสงแรกของวัน
เตียงนอนที่ยุ่งเหยิงเป็นพยานถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ทั้งคู่ยังเปลือยกายนอนกอดกันกลม ไม่นานลูซี่ก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น ใบหน้าสวยระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนหล่อข้างกายตื่นก่อนอยู่แล้ว เขาส่งยิ้มก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวเข้ามาจูบลงที่หน้าผากนูนสวยของคนในอ้อมกอด
แม้กระนั้น ความเงียบก็ปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ราวกับทั้งสองกำลังหาคำพูดเพื่อเริ่มบทสนทนาที่สำคัญ........
“เรื่องพันธสัญญา! มันคืออะไรกันแน่คะ แล้วถ้ามันจบลง...เราจะเป็นยังไง? ” ลูซี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความกังวลใจ
ออสตินถอนหายใจยาว ดวงตาของเขาสะท้อนความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เขาโอบกอดเธอเอาไว้แน่นดวงตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของลูซี่ ราวกับกำลังประเมินว่าเธอพร้อมจะรับฟังความจริงมากแค่ไหน
“พันธสัญญานั่น มันผูกเราไว้ด้วยพลังและชะตากรรมของเรา แต่มันไม่ได้กำหนดทุกอย่าง...สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น อยู่ที่เราจะเลือก”
“แล้วถ้าหนูอยากยกเลิก ทำได้ไหม? ” ลูซี่จ้องมองเขา เอ่ยถามออกไปเผื่อจะมีทางออกแม้จะรู้อาจไม่มีทางแต่เธอก็ยังอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่มีเขาอยู่เคียงข้าง
“ได้!! แต่เธอต้องเล่นเกมชนะฉันก่อน!! ” ออสตินตอบกลับด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ เขาพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมเธอเอาไว้แบบหลวมๆ พร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน
“ก็แค่.....อื้อ” คำพูดส่วนท้ายกลืนหายไปกลายเป็นเสียงครางอู้ในลำคอ มือหนาช้อนใบหน้าสวยปรับองศาเอียงศีรษะของเธอเพื่อให้เขาได้จูบง่ายขึ้น
ลิ้นหนาร้อนชื้นแทรกเข้าไปตามแนวไรฟันจนกระทั้งเข้าไปด้านในโพรงปากนิ่มได้สำเร็จ แม้เธอจะพยายามใช้ฝ่ามือเล็กผลักดันแต่คนเอาแต่ใจยังไม่ยอมอ่อนให้ง่ายๆ เขารวบแขนทั้งสองของเธอขึ้นเหนือด้วยมือหนาของเขาเพียงข้างเดียวก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากบาง
“ อ๊ะ! อย่าดูดแรง หนูเสียว”
ปากร้องห้ามแต่ก็แอ่นอกรับปลายลิ้นที่ตวัดใส่หัวนมถี่ยิบจนเกิดเสียงดังลามกสะท้อนก้องอยู่ในอากาศ ส่วนอกอวบอีกข้างอย่าปล่อยให้น้อยใจบีบขยำอย่างเบาแรงสลับกันไปเพื่อเพิ่มความเสียว
“ ยังคิดอยากจะยกเลิกอยู่รึเปล่า หึ!!”
ออสตินไม่ได้เอ่ยถามอย่างเดียว เขายังถูไถแกนกายใหญ่ลงบนกลีบกายสาวให้ความชุ่มชื้นเคลือบแกนกายจนมันฉ่ำวาวก่อนจะค่อยๆ กดแทรกเข้าไปอย่างช้าๆ
“อยากค่ะ! ถ้าหนูชนะ...คุณต้องยกเลิกสัญญา”
“แต่ถ้าเธอแพ้!!! เธอต้องเป็นราชินีของฉัน ตกลงไหม”
“อื้อ...ตะ....ตกลงค่ะ”
ลมหายใจของเธอแทบหอบกระชั้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเจ้าท่อนเนื้อกระแทกโดนจุดกระสันของเธอ เสียงใสร้องครวญครางอย่างไม่เป็นภาษา ร่างกายกระเพื่อมไปตามแรงของคนด้านใน บทรักอันเร่าร้อนเริ่มขึ้นอีกครั้ง ออสตินไม่ปล่อยให้เวลาศูนย์เปล่า เขาตั้งใจแล้วว่าจะเอาเธอยันเที่ยงเลยแล้วค่อยไปส่งคนตัวเล็กเรียนในช่วงบ่าย
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา