Share

เทียนจื่อซาน 2

last update Last Updated: 2025-11-28 15:27:51

“ทำไม! ทำไมถึงเป็นข้าทุกที” เขาร้องเสียงดังแล้วยกไหเหล้ายกซดจนไหลล้นออกจากมุมปากเลอะเสื้อไปหมด แต่เสียงร่ำร้องของเขาก็ยังสู้โต๊ะอื่นในร้านไม่ได้

“ไม่ใช่ความผิดลูกพี่หรอกที่มีตาหามีแววไม่ ดูไม่ออกว่าสตรีคนไหนมีครอบครัวแล้วบ้าง”

“ไม่นะ ข้าว่าลูกพี่แค่โง่เง่าเท่านั้น”

“เกาเฟิงชุน! เจ้าเด็กนี่เอาอีกแล้วนะ ถ้าปากเจ้าว่างนั่งก็ยัดกับแกล้มเข้าไป” เสวียนหรงใช้ตะเกียบคีบ ๆ ยัดอาหารเข้าไปให้เต็มปากเจ้าตัวดี ก่อนจะพ่นอะไรไม่เข้าท่าออกมาอีก

บุรุษอกสามศอกแทบน้ำตาร่วงเผาะ เพราะโดนลูกน้องจิกกัดด้วยความบริสุทธิ์ใจ เกาเฟิงชุนทำงานดีและเป็นเด็กดีของพี่ ๆ มาก มาเสียก็แต่เขาปากพล่อยไปหน่อย จึงโดนพี่ชายทั้งหลายตบให้เข้าร่องเข้ารอยเป็นประจำ

“เอาน่าหัวหน้า อกหักแค่นี้ไม่ตายหรอก ลองใหม่ครั้งที่สิบเอ็ดก็ได้ ต้องมีสตรีสักคนที่ชอบพอท่านแน่”

“เพราะข้าอ่อนแอเกินไปหรือ” เทียนจื่อซานเริ่มตัดพ้อกับทุกอย่าง

“คนที่ตบสัตว์อสูรด้วยมือเปล่าเอาอะไรมาอ่อนแอเล่า”

“หรือท่าทางข้าน่ากลัวเกินไป?”

“บุรุษที่ดูอ่อนน้อมเหมือนเต้าหู้อย่างท่านไม่มีอีกแล้วในแคว้นอ้าย”

“ทำไมข้าไม่รู้สึกว่ากำลังโดนชมอยู่เลย” เขารู้สึกเหมือนโดนพี่น้องหลอกด่าอยู่มากกว่า

ต้าหยางเป็นการรวมรวมตัวของกลุ่มคนที่พลัดพรากจากพ่อแม่ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ และรับงานจากสำนักคุ้มภัยเลี้ยงชีพ รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็มีสมาชิกสิบคนแล้ว ศูนย์รวมใจของทุกคนคือเทียนจื่อซาน เขาจึงได้เป็นหัวหน้า

ทุกคนสนิทกับเขาพอ ๆ กับที่นับได้ว่าเขาอกหักมากี่ครั้ง…

เทียนจื่อซานเป็นบุรุษที่ดีคนหนึ่งในความเห็นของ

พี่น้องที่ตามติดกันมานาน เรื่องความรักที่ไม่สมหวังนี้คงบอกได้แต่เพียงว่าเขาโชคร้าย หากหญิงที่หมายตาไม่ได้เอาแต่พิศวาสใจกับชายชั่วก็ออกเรือนมีคู่ครองแล้ว ประสบการณ์ที่ได้คบหานั้นเป็นศูนย์ เพราะอกหักตั้งแต่เริ่ม

วันนี้เองก็เช่นกัน หรือพวกเขาควรเข้าวัดแล้วสวดภาวนาให้ฟ้าส่งใครสักคนมาดามหัวใจน้อย ๆ ของหัวหน้าพวกตนบ้าง

ระหว่างที่คิดไร้สาระกันอยู่ ตัวของเทียนจื่อซานก็ไหลพรืดลงจากเก้าอี้ไปกองที่พื้นเพราะซดเหล้าเหมือนน้ำเปล่าจนเมาแอ๋

“ลูกพี่!”

“แย่แล้ว ตัวเขาหนักอย่างกับควายป่า ข้าไม่แบกนะ พวกเจ้าจัดการแล้วกัน”

“ลูกพี่รองพูดอะไรไม่ดูตัวเองเลย ในที่นี้ถ้าจะมีใครแบกเขาได้ก็ท่านนั่นแหละ”

“ข้าขี้เกียจ” เสวียนหรงสะบัดหน้า โบกมือปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

“ให้เจ้าน้องเล็กแบกไปแล้วกัน”

เกาเฟิงชุนสำลักก่อนจะปล่อยแก้วเหล้าหลุดมือ

“นี่เป็นการทารุณกรรมน้องเล็กอย่างข้าหรือเปล่า?”

“ไปต่อร้านสองกันเถอะ!”

“โอ้!”

คำพูดของเกาเฟิงชุนไม่มีใครสนใจ สุดท้ายพวกเขาก็หิ้วปีกกันไปต่อร้านสองทั้งแบบนั้น

คนพึ่งเผชิญเหตุการณ์เจ็บปวดหัวใจมาเมื่อวานไม่สามารถกลายเป็นเทพเซียนได้ในชั่วข้ามคืน ฉะนั้นต่อให้ร้องไห้จนน้ำท่วมโรงเตี๊ยมก็ต้องลากสังขารมารับงานที่หอคุ้มภัยอยู่ดี

“ท่านหัวหน้า มีงานใหม่เข้ามาจะรับหรือไม่เจ้าคะ?” หญิงสาวที่ประจำอยู่จุดให้บริการเดินมาหา

เทียนจื่อซานมองเลยนางไปจนเห็นหญิงสาวท่าทางมีฐานะคนหนึ่ง นางมากับสาวใช้แล้วกำลังมองมาทางนี้ด้วยเช่นกัน เขารับใบภารกิจมาอ่านคร่าว ๆ แล้วมองจำนวนเงิน

ราคานี้ไม่เลวสำหรับระยะทางที่จะไป

“ตกลง”

“เช่นนั้นไปทางนั้น พุดคุยกับลูกค้าหน่อยไหมเจ้าคะ”

เทียนจื่อซานลุกตาม ค้อมตัวลงต่ำกว่าตามมารยาท ถึงจริง ๆ จะไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ แต่หากอีกฝ่ายเป็นขุนนางคงบอกว่าเขาทำตัวไร้มารยาทแล้วอาละวาดร้านพัง

“เงยหน้าขึ้นเถอะ ไม่ต้องนอบน้อมกับข้ามาก”

“คุณหนู!”

“ข้าไม่ใช่ลูกสาวขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์จากไหน

แค่บุตรสาวพ่อค้าธรรมดา เจ้าจะกดขี่เขาให้ได้อะไร”

“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าไม่เอ่ยแทรกแล้ว” เสี่ยวลี่ก้มหน้าถอยไปอยู่ด้านหลังอย่างสำรวม ถึงนางจะหวังดีรักษาเกียรติของเจ้านาย แต่ทำเกินไปหน่อย และนี่ยิ่งไม่ใช่สิ่งที่

กู้หลินฟางต้องการอีกด้วย

คุณหนูใหญ่หันกลับมามองคนที่อยู่ตรงหน้า

“ฝากตัวด้วยนะ”

“แน่นอนขอรับ” อีกฝ่ายตอบรับกลับมาพร้อมรอยยิ้มอย่างไว้ไมตรี

“ออกเดินทางได้เร็วแค่ไหน”

“ตามที่คุณหนูต้องการ”

“งั้นพรุ่งนี้เช้าเจอกันที่หน้าประตูเมืองนะ” นางเสร็จธุระแล้วก็หันกายจากไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   เดินทางร่วมกัน

    เทียนจื่อซานเอามือวางรองไว้ท้ายทอยข้างหนึ่ง คุยกับคุณหนูกู้ได้สามคำก็หลบตาหนึ่งที ท่าทางดูทำตัวไม่ถูกอย่างมาก กู้หลินฟางมองเขาด้วยความงุนงง แต่คิดว่าคงเป็นนิสัยของเขาจึงไม่ได้ติดใจอะไรมากนางค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแล้วเดินจากไป พอนางหันหลังก็มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวตามมาอีกเหมือนเคยการเดินทางนี้มีรถม้าสามคัน คันหนึ่งเป็นที่นั่งโดยสารของเจ้านายและสัมภาระส่วนตัว คันที่สองเป็นตัวอย่างสินค้าและของอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนคันสุดท้ายเป็นของผู้ติดตามและของจิปาถะอื่น ๆทันที่คุณหนูสั่งให้เดินทางรถม้าก็เคลื่อนออกไปถึงกู้หลินฟางจะชอบการค้าขายเป็นอย่างมาก แต่มีอย่างหนึ่งในองค์ประกอบนี้ที่นางไม่ชอบเลย นั่นคือการเดินทางเป็นเวลานาน ๆต่อให้นางหาวจนอยากหลับไปสักสามครั้งต่อวันก็ไม่อาจเร่งเวลาให้ไปถึงปลายทางได้เดี๋ยวนั้น มันคือช่วงเวลาที่น่าเบื่อที่สุดอย่างไม่อาจหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงได้“เสี่ยวลี่”“เจ้าคะ?”“น่าเบื่อจังเลย”“...”แล้วข้าจะทำอะไรได้เล่าเจ้าคะคุณหนู~คนถูกเรียกโอดครวญในใจ แต่ด้วยความภักดีนางก็อยากหาอะไรให้คุณหนูของตนทำแก้เบื่อเช่นกัน เสี่ยวลี่มองหาสัมภาระในรถม้าที่พอจะใช้ได้ แล้วสายตาก็ไปสะดุดก

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   แรกพบ

    หลังนางออกมาพ้นประตูร้านก็มีเสียงโวยวายอะไรสักอย่างตามมาพร้อม ๆ กับเสียงโครมคราม หญิงสาวไม่ได้สนใจมันมากนัก นางเสร็จธุระที่นี่แล้วก็กลับคฤหาสน์ตนเองสำนักคุ้มภัยมักตั้งอยู่ใกล้ประตูเมือง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการหาคนคุ้มกันเวลาเดินทาง ห่างอย่างมากก็อยู่ระหว่างประตูเมืองกับใจกลาง และแน่นอนพื้นที่อยู่อาศัยสัมพันธ์กับรายได้ คนมั่งมีจึงไม่นิยมอาศัยอยู่แถวนี้ ยามกู้หลินฟางเดินกลับก็ต้องผ่านย่านชุมชนแออัดเช่นกันทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปหาเรื่องใครที่ไหน แต่ก็ห้ามให้คนอื่นมาหาเรื่องตัวเองไม่ได้“ใครกันล่ะเนี่ย คุณหนูกู้ผู้สูงศักดิ์มาทำอะไรที่ตลาดเล็ก ๆ กันล่ะ”“สวัสดีคุณชายเฉียว” นางทักกลับตามมารยาทแล้วเดินเลยไป“เดี๋ยวสิ เดี๋ยว! คิดจะเมินกันไปแบบนี้ก็ได้เลยรึ!” ชายหนุ่มคนนั้นพยายามจะคว้าแขนนาง แต่ก็โดนสะบัดออก“ยังมีอะไรต้องพูดอีกเล่า หรือต้องให้ข้าพูดยกยอชื่นชมท่านจนตัวลอยไปถึงสวรรค์ก่อนถึงจะผ่านถนนเส้นนี้ได้” นางปรายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างโจ่งแจ้ง จะไร้สมองแค่ไหนก็รู้ตัวว่าโดนดูถูกกู้หลินฟางไม่ทำนิสัยเสียแบบนี้กับใครก่อน แต่กับเฉียวเชียนนั้นเป็นอีกเรื่อง บุรุษผู้นี้ดูถูกนางตั

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   เทียนจื่อซาน 2

    “ทำไม! ทำไมถึงเป็นข้าทุกที” เขาร้องเสียงดังแล้วยกไหเหล้ายกซดจนไหลล้นออกจากมุมปากเลอะเสื้อไปหมด แต่เสียงร่ำร้องของเขาก็ยังสู้โต๊ะอื่นในร้านไม่ได้“ไม่ใช่ความผิดลูกพี่หรอกที่มีตาหามีแววไม่ ดูไม่ออกว่าสตรีคนไหนมีครอบครัวแล้วบ้าง”“ไม่นะ ข้าว่าลูกพี่แค่โง่เง่าเท่านั้น”“เกาเฟิงชุน! เจ้าเด็กนี่เอาอีกแล้วนะ ถ้าปากเจ้าว่างนั่งก็ยัดกับแกล้มเข้าไป” เสวียนหรงใช้ตะเกียบคีบ ๆ ยัดอาหารเข้าไปให้เต็มปากเจ้าตัวดี ก่อนจะพ่นอะไรไม่เข้าท่าออกมาอีกบุรุษอกสามศอกแทบน้ำตาร่วงเผาะ เพราะโดนลูกน้องจิกกัดด้วยความบริสุทธิ์ใจ เกาเฟิงชุนทำงานดีและเป็นเด็กดีของพี่ ๆ มาก มาเสียก็แต่เขาปากพล่อยไปหน่อย จึงโดนพี่ชายทั้งหลายตบให้เข้าร่องเข้ารอยเป็นประจำ“เอาน่าหัวหน้า อกหักแค่นี้ไม่ตายหรอก ลองใหม่ครั้งที่สิบเอ็ดก็ได้ ต้องมีสตรีสักคนที่ชอบพอท่านแน่”“เพราะข้าอ่อนแอเกินไปหรือ” เทียนจื่อซานเริ่มตัดพ้อกับทุกอย่าง“คนที่ตบสัตว์อสูรด้วยมือเปล่าเอาอะไรมาอ่อนแอเล่า”“หรือท่าทางข้าน่ากลัวเกินไป?”“บุรุษที่ดูอ่อนน้อมเหมือนเต้าหู้อย่างท่านไม่มีอีกแล้วในแคว้นอ้าย”“ทำไมข้าไม่รู้สึกว่ากำลังโดนชมอยู่เลย” เขารู้สึกเหมือนโดนพี่น้องหลอ

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   เทียนจื่อซาน 1

    ปกติสาวบ่าวชายหรือสาวใช้จะไม่มีทางได้ออกไปไหนหากไม่ใช่การติดตามเจ้านาย แล้วเจ้านายส่วนใหญ่ก็ใช่ว่าจะมีงานที่ต้องเดินทาง การที่พวกนางได้เปิดหูเปิดตาต้องบอกว่าเป็นเพราะตระกูลกู้โดยแท้ เสี่ยวจูกับเสี่ยวลี่จึงคอยรับใช้อย่างภักดีเรื่อยมาการมาเยือนหอคุ้มภัยมักจะคุ้นเคยกับเสียงดังตั้งแต่ยืนอยู่หน้าประตู พวกเขาโบกมือแล้วโวยวายกันเป็นเรื่องปกติ เพราะมีโต๊ะนั่งให้กินดื่มเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนที่มารอรับงาน แต่พวกเขาไม่ใช่ร้านขายสุรา อย่างมากก็ยอมให้แค่คนละจอกพอชุ่มคอ เพราะถ้าสมาชิกหออาละวาดขึ้นมาหัวหน้าหอก็คงปวดหัวหนักแน่กู้หลินฟางเปิดประตูเข้าไปอย่างคุ้นเคย นางมาจ้างวานที่นี่บ่อยแล้ว ส่วนกลุ่มที่ได้รับการว่าจ้างก็เปลี่ยนไปตามจังหวะและเวลา นางเดินไปที่โต๊ะตัวยาวของแผนกจัดสรรงาน“ไปเมืองอู่ ทำสัญญาสองเที่ยว”“ต้องการคนจำนวนมากไหมเจ้าคะ”“รถม้าสามคัน”“ถ้าอย่างนั้นแนะนำเป็นกลุ่มคุ้มภัยที่มีสิบคนเป็นอย่างน้อยเจ้าค่ะ ถึงระยะทางไปเมืองอู่จะไม่ได้ยาวมาก ใช้เวลาไม่เกินสามวันก็ถึง แต่ระหว่างทางมีการพบเห็นสัตว์อสูรอยู่บ่อยครั้ง”“ตอนนี้มีกลุ่มที่เหมาะสมหรือเปล่า”“ตอนนี้ที่อยู่ที่นี่มีกลุ่มสิบคนขึ้นไป

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   คุณหนูสกุลกู้

    ตอนที่ได้พบรักกับสามีนางก็ประหลาดใจกับเรื่องนี้เช่นกัน สกุลกู้นั้นแตกต่างจากครอบครัวอื่นในเมือง ด้วยกฎที่ว่าบุตรคนโตไม่ว่าหญิงหรือชายจะต้องเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไป ส่วนน้อง ๆ ก็จะคอยเป็นผู้ช่วยหลังจากนั้นด้วยความที่แคว้นอ้ายยังไม่ได้เปิดรับกับเรื่องนี้พวกนางจึงถูกต่อต้านอยู่บ่อย ๆ นางเคยขึ้นเรือสำเภาไปกับสามีทำให้ได้เห็นโลกกว้าง และได้รู้ว่าบ้านเกิดของตนนั้นยังมีจุดบกพร่องอยู่มาก ถึงอย่างนั้นกำลังของคนไม่กี่คนไม่อาจพลิกผันสิ่งที่เชื่อ และทำตามกันมาอย่างเนิ่นนานได้ฉู่หลานได้แต่ภาวนาให้บุตรสาวทั้งสองได้พบคู่ครองที่จริงใจ และไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ ที่ผ่านมาเจอแต่คนเห็นแก่ตัวเพียงเพราะอยากอาศัยตำแหน่งในตระกูลของพวกนางกันทั้งนั้น ทำเอามารดาอย่างนางทั้งปวดหัวปวดใจไม่น้อยเลย“ท่านพี่ไม่ถูกใจกับว่าที่คู่หมั้นอีกแล้วหรือเจ้าคะ” นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่กู้หรูอันได้ยินเลย นางได้ยินมาจนเบื่อจนแทบแค้นใจด้วยซ้ำพี่สาววางมือบนศีรษะของผู้เป็นน้องแล้วลูบเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ยิ้มให้น้องสาวคลายกังวล เพราะนางหน้าหงอยลงทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ท่านพี่ของนางไม่ใช่คนนิสัยเลวร้าย หน้าตาก็ไม่ได้แพ้ใคร เหตุใดจึง

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   ไปดูตัว

    “สตรีอย่างเจ้าอย่างไรก็หาคนแต่งด้วยไม่ได้หรอก! ดีแค่ไหนที่ข้ายอมมาดูตัวด้วย ยังจะมาดูถูกข้าอีก!” บุรุษผู้หนึ่งตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโหหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมุ่นคิ้ว นางสะบัดพัดเก็บตบลงกลางฝ่ามือ“ใครกันแน่ที่ดูถูกกัน ข้าเป็นสตรีทำการค้าแล้วอย่างไร เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาดูแคลนข้า หรือตระกูลของข้า!”“คุณหนูกู้~ ท่านก็น่าจะรู้ว่าที่นี่แคว้นอ้าย รอบ ๆ นี้มีสักกี่แคว้นที่ยกย่องสตรีอย่างท่าน~”เจ้าคนหยาบคาย!“ขอบคุณคุณชายที่สละเวลา ข้าคงไม่รบกวนเวลาไปมากกว่านี้แล้ว”กู้หลินฟางยืนขึ้นเต็มความสูง เดินออกมาจากห้องโดยไม่สนใจอีกฝ่าย มีเสียงเรียกตะโกนไล่หลังมา แต่นางก็หาได้หันหลังกลับไปเมื่อออกมาพ้นร้านน้ำชา สาวใช้คนสนิทก็เอ่ยกับนางด้วยความอึดอัดใจ“คุณชายคนนั้นนิสัยแย่เกินไปแล้วนะเจ้าคะ”“ใช่เจ้าค่ะ ดีจริง ๆ ที่คุณหนูไม่ได้เกี่ยวดองกับคนแบบนั้น ขืนแต่งกันไปก็คงดูถูกดูแคลนคุณหนูทุกวันแน่”กู้หลินฟางถอนหายใจ เหมือนนางเกิดมาผิดยุคผิดสมัย หรือไม่ก็ผิดแผ่นดิน ความคิดอ่านถึงได้ไปคนละทางกับคนแถวนี้“ช่างเถอะ อาจจะไม่มีคนแบบนั้นที่แคว้นนี้ก็ได้” นางหมายถึงว่าที่คู่ครองที่เหมาะสมกับตน ถึงจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status