Home / มาเฟีย / วิวาห์รอหย่า / บทที่ 6 ข้อต่อรอง (03)

Share

บทที่ 6 ข้อต่อรอง (03)

last update Last Updated: 2025-09-16 20:17:46

เขาไม่ได้ดูสดชื่นขึ้น เหมือนคนนอนไม่ค่อยพอเสียมากกว่า ทว่าในจังหวะนั้นกลับต้องหันไปมองด้านหลัง เพราะรู้สึกว่ามีคนจ้องมอง

          ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ จังหวะนั้นหัวคิ้วเลิกคิ้ว เพราะเหมือนเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่ง คนที่เอาแต่จ้องเธอในงานที่ทิวัตถ์พาไป ก่อนจะมีอีกหนึ่งเรื่องสงสัยให้รีบดึงตาไปมองคู่สนทนา

          “นับวันมันยิ่งทำตัวน่าสงสัย พี่เห็นมันไปเรียนต่อยมวย เรียนต่อสู้ ยิงปืนด้วย ทำอย่างกับจะไปรบกับใคร” หลายเดือนที่ผ่านมาบนร่างกายของทิวัตถ์มักมีรอยช้ำ จนเขาต้องเค้นถามจากมันจึงได้รู้ว่ามันกำลังเรียนการต่อสู้หลายแขนง

          “คงเพราะเขากำลังจะเข้ารับตำแหน่งแทนหยางจินละมั้งคะ”         หญิงสาวคิดว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้สูง เพราะเขาคงรู้ว่าขาข้างหนึ่งเหยียบความเสี่ยงความตายไว้ จึงจะเตรียมพร้อม ถึงอย่างนั้นก็นึกห่วงขึ้นมา แล้วหันกลับไปมองในจุดโฟกัสก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบชายคนนั้นเสียแล้ว จึงคิดว่าตัวเองอาจจะจำผิด หรือไม่ก็แค่เรื่องบังเอิญ

          “ไอ้ไท่เนี่ยนะครับ” คนอย่างทิวัตถ์เนี่ยนะจะถึงขั้นขึ้นกุมบังเหียนต่อจากคนที่มันพูดถึงน้อย จนแทบจะไม่พูดถึงเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่นานมานี้เขาพอรู้มาบ้างว่าหยางจินกลับเข้ามาวนเวียนในชีวิตมัน แต่ไม่รู้ถึงขั้นว่าจะขึ้นเป็นใหญ่แทน

          “ลองถามคนของเขาหรือยังคะ” ปรีดิทานึกถึงลลิษา อีกฝ่ายคงให้คำตอบได้

          “เดี๋ยวเอาไว้พี่จะลองโทร.หาลลิษดู” ตนเคยพบลลิษาอยู่ไม่กี่ครั้ง และไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองสักเท่าไร รู้แค่มันซับซ้อนจนเดาไม่ถูก ก่อนมองเลยปรีดิทาไป เพราะเห็นถึงสายตาที่มองเขาไม่วางตา

          “ว่าแต่นั่นใครกัน แล้วป้านงล่ะโปรด”

          คำถามนั้นทำให้หญิงสาวเอี้ยวตัวไปมองเล็กน้อย

          “ป้านงกลับไปอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ส่วนนั่นเป็นคนของคุณลลิษ เธอส่งมาให้ดูแลโปรด”

          “ถ้าไม่ไหวบอกพี่นะ พี่จะช่วย” นครินทร์ไม่เข้าใจสมการความสัมพันธ์พิลึกพิลั่นนี่จริงๆ รู้แค่ว่าคนที่น่าสงสารที่สุดไม่พ้นหญิงสาวตรงหน้า

          “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับในความหวังดีนั้น

          “พี่คงต้องไปทำงานต่อแล้ว”

          นครินทร์เดินปลีกตัวไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนคุณแม่มือใหม่ก็นั่งรอหมอต่อไป ทว่าในหัวอดจะคิดเรื่องคนตัวโตไม่ได้ มีเครื่องหมายคำถามมากมายเกิดขึ้น

          “สวัสดีค่ะคุณหมอ” สักห้านาทีต่อมาปรีดิทาก็ถึงคิวพายัยตัวเล็กเข้าไปพบหมอ

          คุณหมอเด็กมือดียิ้มทักทาย ก่อนจะเริ่มเอ่ยถาม

          “น้องเป็นยังไงบ้างครับ”

          “ก็มีงอแงบ้างค่ะ”

          จากนั้นรายละเอียดที่ควรรู้ก็ถูกเอ่ยบอกออกไปอย่างครบถ้วน

          ไม่นานเท่าไรก็ถึงเวลาที่ยัยตัวเล็กต้องถูกฉีดวัคซีน ปรีดิทาไม่ได้กังวล เพราะเธอรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น ก่อนจะยิ้มภูมิใจเมื่อยัยหนูของเธอไม่ร้องงอแงเลย บวกกับคุณหมอมือเบามากเลยทำให้ปราณปรียาไม่มีน้ำตาอาบแก้ม

          “เก่งมากเลยค่ะคนดีของแม่”

          เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็พากันเดินไปขึ้นรถ หลังจากนี้ลูกของเธอยังต้องมาตามนัดเพื่อฉีดวัคซีนอีกหลายเข็ม พอขึ้นไปนั่งบนรถแล้วปรีดิทาก็เอ่ยบอกกับสรพัศ

          “พี่สรค่ะ ช่วยพาโปรดไปที่คาเฟ่แถวโรงพยาบาลเก่าของโปรดหน่อยได้ไหมคะ พอดีโปรดนัดเพื่อนไว้” แค่สิ้นประโยคเสียงของผู้ติดตามก็ดังขึ้น

          “ใครหรือคะคุณโปรด” รำนำไม่ปกปิดถึงอาการอยากรู้ของตัวเอง

          “เพื่อนของโปรดค่ะ” ปรีดิทาเอ่ยตอบ สิ่งไหนที่ไม่มากเกินไปเธอก็ให้คำตอบได้ ทว่ากลับมีอีกคำถามตามมา

          “ผู้หญิงหรือคะ”

          “ใช่จ้ะ เป็นคุณหมอที่เคยทำงานด้วยกัน”

          “คุณโปรดบอกคุณไท่หรือยังคะ” รำนำยังร่ายคำถาม แม้เริ่มเห็นสีหน้าไม่พึงพอใจ

          “นี่โปรดเป็นนักโทษหรือไงกัน”

          เธอรู้ว่าตนเองอยู่ใต้อาณัติของทิวัตถ์ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเธอนั้นเป็นนักโทษ หรือว่าตอนนี้รำนำกำลังทำหน้าที่ผู้คุ้มกัน

          “รำไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ รำแค่ห่วงความปลอดภัย”

          รำนำรีบอธิบาย ไม่ได้ตั้งใจจะให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี

          ปรีดิทาไม่ได้ตำหนิ พยายามเข้าใจถึงความห่วง แต่เธอเองก็ไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน และก็คงไม่ได้ออกไปไหนมาไหนบ่อยๆ เมื่อมีโอกาสจึงอยากจะเจอเพื่อนเพื่อได้ผ่อนคลายบ้าง พลันนิ่งมองรำนำเพราะเธอคิดว่ารำนำคงไม่ได้มีแค่หน้าที่ช่วยเลี้ยงปราณปรียา คงจะมีหน้าที่ติดตามเธอเพื่อรายงานให้เจ้านายรู้ด้วยกระมัง

          “โปรดแค่แวะไปหาเพื่อนไม่นานหรอก โปรดสัญญาว่าจะไม่ทำให้รำกับพี่สรเดือดร้อน”

          รำนำพยักหน้ารับ ส่วนสรพัศไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว พร้อมนำพาทั้งสามมุ่งหน้าไปแถวโรงพยาบาลที่ปรีดิทาเคยทำงานอยู่

          เส้นทางที่คุ้นเคยทำให้ปรีดิทาเลือกจะหันตาไปมอง เธอคิดถึงถนนเส้นนี้ คิดถึงร้านข้าวแกงป้ามล ร้านน้ำของพี่อ้อย หรือแม้ร้านขนมหวานของพี่ยาที่เธอเคยซื้อไปฝากเขา ใช้เวลาไปสักพักรถก็ไปถึงหน้าร้านที่เธอต้องการ แต่ที่จอดรถนั้นเต็ม หญิงสาวจึงต้องเอ่ยบอก

          “พี่สรจอดรถฝั่งนู้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้วโปรดจะเดินข้ามถนนไปค่ะ”

          “ได้ครับคุณโปรด”

          สรพัศกดหน้ารับ ปรีดิทาระบายยิ้มขอบคุณ แต่ยังไม่ได้ก้าวเท้าลงจากรถหันไปพูดกับผู้ติดตาม

          “เดี๋ยวรำไปกับโปรดก็ได้นะ จะได้สบายใจ” เธอก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับรำนำ พยายามคิดว่าอีกฝ่ายทำตามหน้าที่ ก็เหมือนกับเธอในตอนที่เป็นหมอ เธอรักษาคนไข้ทุกคนอย่างเต็มที่

          “ขอบคุณค่ะคุณโปรด”

          รำนำยิ้มโล่งอก แล้วรีบก้าวไวๆ เดินตามปรีดิทาไปพร้อมเปิดประตูให้อีกฝ่ายเดินลึกเข้าไปหาเพื่อนในร้าน ขณะที่ปราณปรียาในอ้อมกอดไม่ได้ร้องงอแงเลย

          “โปรด...”

          ปรีดิทาหันไปมองตามเสียงเรียก เห็นเพื่อนสนิทยกมือขึ้นโบกเรียก สองเท้าก้าวไวๆ ไปหาดนุภา จักษุแพทย์คนเก่ง

          “เป็นยังไงบ้าง” ดนุภาดีใจที่ได้เห็นหน้าเพื่อนที่เจอกันได้น้อยลง เพราะเธองานค่อนข้างยุ่ง ทางปรีดิทาก็ยุ่งกับการเป็นคุณแม่

          “โปรดสบายดี” หญิงสาวตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้ม แล้วถามกลับไปบ้าง        

          “แกล่ะหนูดี”

          “ก็เรื่อยๆ พวกเราคิดถึงแกนะยัยโปรด อ้อ เมื่อกี้ฉันสั่งน้ำให้แกแล้วนะ อีกเดี๋ยวคงได้”

          คำว่าพวกเรานั้นหมายถึงเพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงคุณหมอหลายคนที่ฝากความคิดถึงมาด้วย สายตาดึงไปมองคนที่ตามติดเพื่อนมาเล็กน้อย        ปรีดิทาเล่าให้ฟังบ้างว่าทิวัตถ์หาคนมาให้ช่วยเลี้ยงลูก คิดว่าคงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ถัดไป ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับหลานสาว

          “ดูยัยหนูสิ เหมือนแกมาก” เธอว่าปราณปรียาเอาส่วนผสมของเพื่อนรักมามากกว่าของทิวัตถ์

          “ว่าแต่แกโอเคไหมโปรด” ดนุภานึกห่วงเพื่อน

          “โปรดยังไหว แล้วที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้าง” คุณหมอสาวไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง

          “ก็เรื่อยๆ เบื่อแค่ต้องเจอหน้ายัยออมสิน ยัยนั่นตามพ่อไปทำงานแทบตลอด เพราะพ่อของออมสินเข้าไปบริหารที่โรงพยาบาลได้สองเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกันไปอีกกี่ชาติ ว่าแต่แม่นั่นได้ไประรานแกบ้างหรือเปล่า”

          “ไม่หรอก เราพยายามต่างคนต่างอยู่” แม้ไม่นานมานี้เธอกับออมสินจะปะทะวาจากันไป แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนกังวล พอรู้มาบ้างว่าบิดาของออมสินถูกแต่งตั้งให้เข้าไปเป็นหนึ่งในผู้บริหารงานโรงพยาบาลที่บิดาและเธอเคยทำงาน          ไม่ใช่แค่รุ่นเธอหรอกที่แข่งขันกัน มันมีมาตั้งแต่รุ่นบิดาแล้ว

          บิดาของเธอมักชนะ ท่านสอบติดหมอ ขณะอีกฝ่ายสอบไม่ติดจึงหันไปเรียนเกี่ยวกับการบริหารแทน แถมยังทำอะไรก็เป็นรองเสมอ ความชิงชังจึงเดือดปุด โดยเธอไม่เคยอยากเอาตัวเองไปอยู่ในวังวนนั้นเลย นาทีถัดมาต้องดึงตาไปมองเพื่อนแล้วยิ้มแห้งๆ

          “แปลกเนอะ แย่งของเขาไปแท้ๆ แต่กลับจิกกัดเขาไม่ยอมปล่อย” 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 7 อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน (02)

    ในตอนที่ได้ยินว่าอดีตน้องชายหวนกลับไปหาคนที่ชัง เขาคิดได้ทันทีว่าเป็นเพราะมันอยากกลับไปยืนข้างๆ ลลิษา หลังจากที่ครอบครัวของปรีดิทาสร้างหนี้พนันไว้ให้ แต่ติดที่สถานะของลลิษานั้นเป็นคู่หมั้นของเขา มันจึงต้องตะเกียกตะกายไปในเส้นทางที่เกลียด แต่ตอนนี้เขาอาจจะต้องเปลี่ยนความคิด มันอาจจะมีอะไรมากกว่าที่เห็นเสียแล้ว ส่วนปรีดิทาก้มมองการ์ดแต่งงานในมือ สีหน้ามีความหนักใจ ไม่รู้ทิวัตถ์จะรู้เรื่องนี้หรือยัง ขณะนั้นเองเสียงเล็กๆ ก็แผดร้องขึ้น “แง้ง” ปรีดิทาทุ่มความสนใจทั้งหมดไปยังลูก แล้วรีบพาแกกลับห้องนอน ในวันนี้เธอไม่มีคาบสอนแล้ว มีจารวีช่วยจัดการเรื่องอาหารให้อย่างเคย แต่ผ่านมาอีกหนึ่งชั่วโมงแล้วปราณปรียากลับยังร้องไห้เป็นระยะ “วันนี้งอแงหรือจ๊ะ ตัวก็ไม่ร้อน”

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 7 อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน

    บทที่ 7 อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน “ที่พี่สอนไป เรากลับไปทบทวนด้วยนะ” เสียงใสๆ ของปรีดิทาเอ่ยกับเด็กวัยมัธยมศึกษาผ่านโปรแกรมหนึ่งในโน้ตบุ๊ก เธอเริ่มกลับมาสอนพิเศษได้ราวๆ ห้าวันแล้ว ทุกอย่างเป็นไปเหมือนแต่ก่อน มีแต่หัวใจที่เกิดอาการพะว้าพะวง แต่ก็พยายามมีสมาธิอยู่กับการสอน “อาทิตย์หน้าเจอกันใหม่จ้ะ” ก่อนจะบอกคำปิดท้ายพร้อมยกยิ้มร่ำลา ปรีดิทาพับหน้าจอลงพร้อมขยับตัวลุกทันที สองเท้ามุ่งหน้าออกจากห้องตรงไปหาจารวีและรำนำ “ยัยหนูเป็นยังไงบ้าง งอแงไหม” เมื่อไปถึงเธอก็รับลูกมาไว้ในอ้อมกอด โชคดีที่การสอนของเธอมีช่วงเวลาพักอยู่หลายครั้งจึงเดินออกมาดูแก้วตาดวงใจได้บ้าง&nbs

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง (04)

    “แปลกเนอะ แย่งของเขาไปแท้ๆ แต่กลับจิกกัดเขาไม่ยอมปล่อย” ดนุภาไม่เข้าใจความคิดของออมสินสักนิด อีกฝ่ายแสดงออกว่าชังเพื่อนของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน เธอเองก็มักถูกยัยนั่นหาเรื่อง จนปรีดิทาต้องห้ามทัพอยู่หลายยก เธอมองว่าคนบางประเภทต้องสาดน้ำร้อนเข้าใส่ น้ำเย็นไม่ได้ผลหรอก ไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าแล้วเอ่ยบอกกับเพื่อน “แต่อย่างน้อยๆ แกก็ชนะแม่นั่นครั้งหนึ่ง” เพื่อนของเธอมักแพ้ออมสินเรื่องความรักเสมอ แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งก็ชนะ อีกฝ่ายแพ้ราบคาบเลย ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ให้หน้าเสีย “ฉันขอโทษ” ผลพวงของความสำเร็จทำให้เพื่อนของเธอเจ็บปวด มือยกขึ้นตีปากของตัวเอง ปรีดิทาสั่นหน้าว่าไม่เป็นไร พลางหันไปมองรำนำที่นั่งอยู่ถัดไป หลังเสียงสัญญาณของเครื่อง

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง (03)

    เขาไม่ได้ดูสดชื่นขึ้น เหมือนคนนอนไม่ค่อยพอเสียมากกว่า ทว่าในจังหวะนั้นกลับต้องหันไปมองด้านหลัง เพราะรู้สึกว่ามีคนจ้องมอง ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ จังหวะนั้นหัวคิ้วเลิกคิ้ว เพราะเหมือนเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่ง คนที่เอาแต่จ้องเธอในงานที่ทิวัตถ์พาไป ก่อนจะมีอีกหนึ่งเรื่องสงสัยให้รีบดึงตาไปมองคู่สนทนา “นับวันมันยิ่งทำตัวน่าสงสัย พี่เห็นมันไปเรียนต่อยมวย เรียนต่อสู้ ยิงปืนด้วย ทำอย่างกับจะไปรบกับใคร” หลายเดือนที่ผ่านมาบนร่างกายของทิวัตถ์มักมีรอยช้ำ จนเขาต้องเค้นถามจากมันจึงได้รู้ว่ามันกำลังเรียนการต่อสู้หลายแขนง “คงเพราะเขากำลังจะเข้ารับตำแหน่งแทนหยางจินละมั้งคะ” หญิงสาวคิดว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้สูง เพราะเขาคงรู้ว่าขาข้างหนึ่งเหยียบความเสี่ยงความตายไว้ จึงจะเตรียมพร้อม ถึงอย่างนั้นก็นึกห่วงขึ้นมา แล้วหันกลับไปมองในจุดโฟกัสก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบชายคนนั้นเสียแล้ว จึงคิดว่าตัวเองอาจจะจำผิด หรือไม่ก็แค่เรื่องบังเอิญ “ไอ้ไท่เนี่ยนะครับ” คนอย่างทิวัตถ์เนี่ยนะจะถึงขั้นขึ้นกุมบังเหียนต่อจากคนที่มันพูดถึงน้อย จนแทบจะไม่พูดถึงเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่นานมานี้เขาพอรู้มาบ้

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง (02)

    สามนาทีต่อมาก็วางถ้วยลงบนเคาน์เตอร์หน้าทิวัตถ์ จากนั้นพลิกตัวเดินกลับไปหาลูกที่ตาแป๋วรอเธออยู่ อาการโยเยหายไปจนคนเป็นแม่คลายความกังวลไปได้ ส่วนทิวัตถ์เดินขึ้นไปยังห้องของตัวเอง ขลุกอยู่กับเอกสาร โน้ตบุ๊ก โดยมีเสียงหนึ่งดังอยู่เป็นระยะ เสียงของเครื่องทำลายเอกสาร สีหน้าของคนบนเตียงมีแววครุ่นคิด เคร่งเครียด ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดู สลับกันไปมา เขาต้องจัดการสองเรื่องในเวลาเดียวกัน และเมื่อเอกสารไฟล์ใดที่ดูเสร็จแล้วก็จะถูกลบหรือไม่ก็กำจัดทิ้ง โดยชายหนุ่มเชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะจบเรื่องหนึ่งได้หลังทำมายาวนาน ขอแค่พบตัวคนที่หลุดรอดไปได้ ร่วมสองชั่วโมงกว่าก็พับเก็บทุกอย่างแล้วยัดใส่กระเป๋า ร่างกายของเขาอ่อนล้าไม่น้อย เพราะขาดการพักผ่อนอย่างเต็มที่มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทว่าก็หลับๆ ตื่นๆ ราวกับคนที่มีเรื่องให้คิดหรือมีเรื่องให้ระแวง เฮ้อ เมื่อตื่นขึ้นมาอีกรอบ ชายหนุ่มก็เลือกจะกระเด้งตัวมาผ่อนลมหายใจออกจากจมูก ก่อนตัดสินใจลงไปยังชั้นล่างของบ้าน เดินตรงดิ่งไปห้องรับแขก มือเปิดเลื่อนผ้าม่านมองไปรอบๆ คล้ายอยากจะเช็กความเรียบร้อย แ

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง

    บทที่ 6 ข้อต่อรอง “ลลิษส่งยามาให้แล้วกินหรือยัง” ทิวัตถ์เลิกคิ้วถาม สายตาจดจ้องอยู่เบื้องหน้า ปรีดิทาเข้าใจสาเหตุที่เขากลับมาที่นี่แล้วเพราะเธอคนนั้น แล้วมองหน้าคนที่มีท่าทางเหนื่อยล้า อ่อนเพลียคล้ายคนที่นอนไม่พอ ฝ่ายทิวัตถ์เมื่อไม่ได้คำตอบก็เอ่ยประโยคถัดมา “อย่าให้เสียของ เสียน้ำใจ” ทิวัตถ์พูดดักทาง ปรีดิทาสมควรรับน้ำใจไว้แต่โดยดี ไม่ควรทิ้งขว้างหรือปามันทิ้ง “ถ้ามันเป็นยาพิษ โปรดก็ต้องรักษาน้ำใจหรือคะ” เธออดจะประชดประชันไม่ได้ “ยอกย้อนเก่ง” 

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status