Home / มาเฟีย / วิวาห์รอหย่า / บทที่ 6 ข้อต่อรอง

Share

บทที่ 6 ข้อต่อรอง

last update Huling Na-update: 2025-08-30 10:27:20

บทที่ 6 ข้อต่อรอง

          “ลลิษส่งยามาให้แล้วกินหรือยัง”           

          ทิวัตถ์เลิกคิ้วถาม สายตาจดจ้องอยู่เบื้องหน้า

          ปรีดิทาเข้าใจสาเหตุที่เขากลับมาที่นี่แล้วเพราะเธอคนนั้น แล้วมองหน้าคนที่มีท่าทางเหนื่อยล้า อ่อนเพลียคล้ายคนที่นอนไม่พอ ฝ่ายทิวัตถ์เมื่อไม่ได้คำตอบก็เอ่ยประโยคถัดมา

          “อย่าให้เสียของ เสียน้ำใจ” ทิวัตถ์พูดดักทาง ปรีดิทาสมควรรับน้ำใจไว้แต่โดยดี ไม่ควรทิ้งขว้างหรือปามันทิ้ง

          “ถ้ามันเป็นยาพิษ โปรดก็ต้องรักษาน้ำใจหรือคะ” เธออดจะประชดประชันไม่ได้

          “ยอกย้อนเก่ง”

          ชายหนุ่มเอ่ยคำชม แล้วหันไปด้านหลังเพื่อเรียกเด็กในบ้าน

          “เนมไปอุ่นยามา เสร็จแล้วเอามาให้ฉัน”  

          “โปรดไม่จำเป็นต้องกินยาให้คุณดู” คำสั่งของเขาบอกชัดว่ากลัวเสียเหลือเกินว่าเธอจะไม่รับความหวังดีของเธอคนนั้น แล้วได้ยินถ้อยคำที่ทำให้สะอึกเจ็บ

          “มีสิทธิ์ต่อรอง?”

          ทิวัตถ์เริ่มมีสีหน้าดุดัน มือยกขึ้นมากอดอกเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

          “ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสินะถึงจะยอมง่ายๆ เงินสักก้อนกับ…”

          ทิวัตถ์ยังไม่ปล่อยประโยคท้าย เขาทิ้งความนัยไว้ให้ปรีดิทาสงสัย คนฉลาดอย่างหญิงสาวรับรู้ได้ไม่ยากว่ามีเรื่องบางอย่างที่เธอสมควรรับรู้ แต่ไม่ต้องรอนานคำเฉลยก็แว่วมา

          “กับหมอดีๆ สักคนในการรักษามะเร็งเต้านม”

          “…” หญิงสาวยังนิ่งเงียบ มะเร็งเต้านมอย่างนั้นหรือ เธอมั่นใจว่าไม่ใช่เธอ แล้วทำไมทิวัตถ์ถึงเอ่ยขึ้นมา นาทีต่อมาก็ได้ฟังคำเฉลยให้หัวใจหล่นไปอยู่บนพื้น

          “นี่คงไม่รู้จริงๆ สินะว่าคนสนิทป่วย”

          “ป้านงหรือคะ” 

          ดวงหน้าของหญิงสาวซีดลงชัดเจน นงลักษณ์ป่วยอย่างนั้นหรือ ตั้งแต่ตอนไหนกัน แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ เมื่อช่วงหลังๆ มานงลักษณ์มักบอกว่าจะออกไปทำธุระให้หลานบ่อยครั้ง เธอมัวแต่ยุ่งกับการสอนจึงไม่ทันได้สังเกตใดๆ ทั้งที่ตัวเองก็เป็นหมอแท้ๆ

          ปรีดิทายิ่งรู้สึกผิด เพราะเธอละเลยคนใกล้ตัว แต่ก็ไม่วายมองทิวัตถ์อย่างไม่แน่ใจนัก

          “ลองโทร.ไปถามสิ” เขาไม่มีเหตุผลให้ต้องโกหก

          ปรีดิทาพลิกตัวกลับเข้าห้องไปหยิบโทรศัพท์ต่อสายหานงลักษณ์ทันที ไม่นานก็ได้พูดคุยกันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเมื่ออีกฝ่ายยอมรับว่ากำลังป่วยจริงๆ ที่ไม่บอกก็เพราะไม่อยากให้กังวล โดยผลของการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร แม้เพิ่งเป็นได้ไม่นาน

          หญิงสาวถึงกับเป่าปากและทรุดตัวนั่งลงบนเตียง ความห่วงใย ความกังวลลามล้นอก แต่ก็ยังพยายามเข้มแข็งพร้อมบอกนงลักษณ์ไปว่า เธอจะหาทางช่วยเหลือเอง

          “คุณรู้ แต่ก็ยังไล่ป้านงไป” เมื่อวางสายจากคนสนิทหญิงสาวก็วางยัยหนูลงบนเตียงนอน แล้วเดินกลับไปหาคนตัวโต

          “ที่นี่ไม่ใช่โรงทานหรือโรงพยาบาล” ทิวัตถ์ก็บอกชัดเหมือนเดิม ชัดตั้งแต่แรกแล้ว

          คนตัวเล็กปากสั่น เจ็บในความใจดำที่สาดใส่ใจหม่นๆ ให้สีมันยิ่งเปรอะเปื้อน ยิ่งฝังลึก แต่ไม่มีเวลามานั่งตัดพ้อ ชีวิตของนงลักษณ์สำคัญกว่า

          “คุณอยากได้อะไรบ้าง” หากเธอต้องการความช่วยเหลือ เขานั้นปรารถนาสิ่งใดเป็นการตอบแทน มือเลื่อนประตูให้ปิดลง ไม่อยากให้เสียงไปรบกวนเจ้าตัวเล็ก

          “ดีกับลลิษ และถ้าลลิษมาอย่าหวง...เด็กนั่นกับลลิษ” ทิวัตถ์บอกเสียงหนัก และมันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุด แม้จะเห็นถึงสายตากรุ่นๆ

          “ถ้าเธออยากมี เธอคงต้องมีเองค่ะ และลูกของโปรดไม่ใช่ตุ๊กตา” ปรีดิทาดุเสียงเข้ม อย่ามาคิดหรือมองว่าลูกของเธอเป็นแค่ตุ๊กตา ที่จะจับวางตรงไหนก็ได้ ฝ่ายทิวัตถ์ทำหน้าคล้ายเข้าใจ แต่อย่างไรเสียเกมนี้เขาก็เป็นคนคุมอยู่ดี

          “เลือก” ชายหนุ่มบอกสั้นๆ ถึงเวลาปรีดิทาต้องตัดสินใจ

          “โปรดก็แค่หมาจนตรอก ช่วยป้านงค่ะ”

          ตอนนี้คนจนตรอกจนแต้มอย่างเธอจะทำอะไรได้นอกจากยอมรับข้อเสนอ กระนั้นเธอมีข้อแม้

          “แต่ต้องตอนนี้เลย”

          “ได้สิ”

          ปรีดิทาจะได้รับสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ มือหนาล้วงหยิบสมาร์ตโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาต่อสายหาเพื่อนของเขาที่ทำงานโรงพยาบาลเดียวกับที่นงลักษณ์กำลังทำเรื่องขอรักษาตัวอยู่ พอเสร็จเสียงใสแต่ติดสั่นก็ดังขึ้น

          “ไปเอายามาสิคะ โปรดจะกินให้เห็น”

          ทิวัตถ์ไม่ตอบโต้พลิกตัวเดินไวๆ ไปยังห้องครัว เห็นจารวีกำลังเทยาลงถ้วยแก้ว

          “ฉันจัดการต่อเอง” ทิวัตถ์บอกเสียงเข้ม

          “ค่ะคุณไท่”

          จารวีถอยห่างจากเคาน์เตอร์แล้วเดินหลบฉากออกไป ส่วนปรีดิทายังยืนรออยู่ที่เดิม ก่อนตัดสินใจขยับเท้าไปยังห้องครัว จะได้ทำให้มันจบลงไวๆ

          ไม่ทันที่จะก้าวไปใกล้เคาน์เตอร์ เท้าก็ต้องหยุดลงเพราะภาพเบื้องหน้าที่เห็น

          ภาพที่คนตัวโตค่อยๆ บรรจงเป่าปากไล่ความร้อนของยา เหมือนที่เขาเคยทำให้เธอ

          ทิวัตถ์ที่รู้ว่ามีสายตาจับจ้องอยู่ผละหน้าห่างจากถ้วยยา แล้วไหวไหล่ไปพร้อมคำพูด

          “ฉันก็แค่จะพิสูจน์ให้ดูว่า มันไม่มียาพิษ” เขาค่อยๆ เลื่อนถ้วยยาจ่อปากแล้วจิบมันเพื่อพิสูจน์

          “ค่ะ”

          ปรีดิทาตอบสั้นๆ เธอยังไม่ทันจะว่าอะไรเลย แล้วรอให้เขายื่นถ้วยยามาเสียที แต่ทิวัตถ์กลับยังนิ่ง

          “โปรดเห็นแล้วก็ส่งมาสิคะ โปรดจะได้รีบกิน รีบกลับไปหาลูก”

          ทิวัตถ์ก้มหน้าลงมองถ้วยยาอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมส่งมันไปให้หญิงสาว ตามด้วยคำสั่งกำชับ

          “อย่าลืมกินยาให้ตรงเวลาและ...ทุกวัน”

          “ตามที่บัญชาค่ะ” ปรีดิทาไม่ขัดแย้ง มือค่อยๆ ยกยาขึ้นดื่ม แม้มันจะมีรสขมนิดๆ แต่ก็กินมันจนหมด หวังว่ามันจะได้ผลตามที่เขาต้องการ

          สามนาทีต่อมาก็วางถ้วยลงบนเคาน์เตอร์หน้าทิวัตถ์ จากนั้นพลิกตัวเดินกลับไปหาลูกที่ตาแป๋วรอเธออยู่ อาการโยเยหายไปจนคนเป็นแม่คลายความกังวลไปได้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 7 อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน (02)

    ในตอนที่ได้ยินว่าอดีตน้องชายหวนกลับไปหาคนที่ชัง เขาคิดได้ทันทีว่าเป็นเพราะมันอยากกลับไปยืนข้างๆ ลลิษา หลังจากที่ครอบครัวของปรีดิทาสร้างหนี้พนันไว้ให้ แต่ติดที่สถานะของลลิษานั้นเป็นคู่หมั้นของเขา มันจึงต้องตะเกียกตะกายไปในเส้นทางที่เกลียด แต่ตอนนี้เขาอาจจะต้องเปลี่ยนความคิด มันอาจจะมีอะไรมากกว่าที่เห็นเสียแล้ว ส่วนปรีดิทาก้มมองการ์ดแต่งงานในมือ สีหน้ามีความหนักใจ ไม่รู้ทิวัตถ์จะรู้เรื่องนี้หรือยัง ขณะนั้นเองเสียงเล็กๆ ก็แผดร้องขึ้น “แง้ง” ปรีดิทาทุ่มความสนใจทั้งหมดไปยังลูก แล้วรีบพาแกกลับห้องนอน ในวันนี้เธอไม่มีคาบสอนแล้ว มีจารวีช่วยจัดการเรื่องอาหารให้อย่างเคย แต่ผ่านมาอีกหนึ่งชั่วโมงแล้วปราณปรียากลับยังร้องไห้เป็นระยะ “วันนี้งอแงหรือจ๊ะ ตัวก็ไม่ร้อน”

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 7 อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน

    บทที่ 7 อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกัน “ที่พี่สอนไป เรากลับไปทบทวนด้วยนะ” เสียงใสๆ ของปรีดิทาเอ่ยกับเด็กวัยมัธยมศึกษาผ่านโปรแกรมหนึ่งในโน้ตบุ๊ก เธอเริ่มกลับมาสอนพิเศษได้ราวๆ ห้าวันแล้ว ทุกอย่างเป็นไปเหมือนแต่ก่อน มีแต่หัวใจที่เกิดอาการพะว้าพะวง แต่ก็พยายามมีสมาธิอยู่กับการสอน “อาทิตย์หน้าเจอกันใหม่จ้ะ” ก่อนจะบอกคำปิดท้ายพร้อมยกยิ้มร่ำลา ปรีดิทาพับหน้าจอลงพร้อมขยับตัวลุกทันที สองเท้ามุ่งหน้าออกจากห้องตรงไปหาจารวีและรำนำ “ยัยหนูเป็นยังไงบ้าง งอแงไหม” เมื่อไปถึงเธอก็รับลูกมาไว้ในอ้อมกอด โชคดีที่การสอนของเธอมีช่วงเวลาพักอยู่หลายครั้งจึงเดินออกมาดูแก้วตาดวงใจได้บ้าง&nbs

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง (04)

    “แปลกเนอะ แย่งของเขาไปแท้ๆ แต่กลับจิกกัดเขาไม่ยอมปล่อย” ดนุภาไม่เข้าใจความคิดของออมสินสักนิด อีกฝ่ายแสดงออกว่าชังเพื่อนของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน เธอเองก็มักถูกยัยนั่นหาเรื่อง จนปรีดิทาต้องห้ามทัพอยู่หลายยก เธอมองว่าคนบางประเภทต้องสาดน้ำร้อนเข้าใส่ น้ำเย็นไม่ได้ผลหรอก ไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าแล้วเอ่ยบอกกับเพื่อน “แต่อย่างน้อยๆ แกก็ชนะแม่นั่นครั้งหนึ่ง” เพื่อนของเธอมักแพ้ออมสินเรื่องความรักเสมอ แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งก็ชนะ อีกฝ่ายแพ้ราบคาบเลย ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ให้หน้าเสีย “ฉันขอโทษ” ผลพวงของความสำเร็จทำให้เพื่อนของเธอเจ็บปวด มือยกขึ้นตีปากของตัวเอง ปรีดิทาสั่นหน้าว่าไม่เป็นไร พลางหันไปมองรำนำที่นั่งอยู่ถัดไป หลังเสียงสัญญาณของเครื่อง

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง (03)

    เขาไม่ได้ดูสดชื่นขึ้น เหมือนคนนอนไม่ค่อยพอเสียมากกว่า ทว่าในจังหวะนั้นกลับต้องหันไปมองด้านหลัง เพราะรู้สึกว่ามีคนจ้องมอง ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ จังหวะนั้นหัวคิ้วเลิกคิ้ว เพราะเหมือนเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่ง คนที่เอาแต่จ้องเธอในงานที่ทิวัตถ์พาไป ก่อนจะมีอีกหนึ่งเรื่องสงสัยให้รีบดึงตาไปมองคู่สนทนา “นับวันมันยิ่งทำตัวน่าสงสัย พี่เห็นมันไปเรียนต่อยมวย เรียนต่อสู้ ยิงปืนด้วย ทำอย่างกับจะไปรบกับใคร” หลายเดือนที่ผ่านมาบนร่างกายของทิวัตถ์มักมีรอยช้ำ จนเขาต้องเค้นถามจากมันจึงได้รู้ว่ามันกำลังเรียนการต่อสู้หลายแขนง “คงเพราะเขากำลังจะเข้ารับตำแหน่งแทนหยางจินละมั้งคะ” หญิงสาวคิดว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้สูง เพราะเขาคงรู้ว่าขาข้างหนึ่งเหยียบความเสี่ยงความตายไว้ จึงจะเตรียมพร้อม ถึงอย่างนั้นก็นึกห่วงขึ้นมา แล้วหันกลับไปมองในจุดโฟกัสก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบชายคนนั้นเสียแล้ว จึงคิดว่าตัวเองอาจจะจำผิด หรือไม่ก็แค่เรื่องบังเอิญ “ไอ้ไท่เนี่ยนะครับ” คนอย่างทิวัตถ์เนี่ยนะจะถึงขั้นขึ้นกุมบังเหียนต่อจากคนที่มันพูดถึงน้อย จนแทบจะไม่พูดถึงเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่นานมานี้เขาพอรู้มาบ้

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง (02)

    สามนาทีต่อมาก็วางถ้วยลงบนเคาน์เตอร์หน้าทิวัตถ์ จากนั้นพลิกตัวเดินกลับไปหาลูกที่ตาแป๋วรอเธออยู่ อาการโยเยหายไปจนคนเป็นแม่คลายความกังวลไปได้ ส่วนทิวัตถ์เดินขึ้นไปยังห้องของตัวเอง ขลุกอยู่กับเอกสาร โน้ตบุ๊ก โดยมีเสียงหนึ่งดังอยู่เป็นระยะ เสียงของเครื่องทำลายเอกสาร สีหน้าของคนบนเตียงมีแววครุ่นคิด เคร่งเครียด ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดู สลับกันไปมา เขาต้องจัดการสองเรื่องในเวลาเดียวกัน และเมื่อเอกสารไฟล์ใดที่ดูเสร็จแล้วก็จะถูกลบหรือไม่ก็กำจัดทิ้ง โดยชายหนุ่มเชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะจบเรื่องหนึ่งได้หลังทำมายาวนาน ขอแค่พบตัวคนที่หลุดรอดไปได้ ร่วมสองชั่วโมงกว่าก็พับเก็บทุกอย่างแล้วยัดใส่กระเป๋า ร่างกายของเขาอ่อนล้าไม่น้อย เพราะขาดการพักผ่อนอย่างเต็มที่มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทว่าก็หลับๆ ตื่นๆ ราวกับคนที่มีเรื่องให้คิดหรือมีเรื่องให้ระแวง เฮ้อ เมื่อตื่นขึ้นมาอีกรอบ ชายหนุ่มก็เลือกจะกระเด้งตัวมาผ่อนลมหายใจออกจากจมูก ก่อนตัดสินใจลงไปยังชั้นล่างของบ้าน เดินตรงดิ่งไปห้องรับแขก มือเปิดเลื่อนผ้าม่านมองไปรอบๆ คล้ายอยากจะเช็กความเรียบร้อย แ

  • วิวาห์รอหย่า   บทที่ 6 ข้อต่อรอง

    บทที่ 6 ข้อต่อรอง “ลลิษส่งยามาให้แล้วกินหรือยัง” ทิวัตถ์เลิกคิ้วถาม สายตาจดจ้องอยู่เบื้องหน้า ปรีดิทาเข้าใจสาเหตุที่เขากลับมาที่นี่แล้วเพราะเธอคนนั้น แล้วมองหน้าคนที่มีท่าทางเหนื่อยล้า อ่อนเพลียคล้ายคนที่นอนไม่พอ ฝ่ายทิวัตถ์เมื่อไม่ได้คำตอบก็เอ่ยประโยคถัดมา “อย่าให้เสียของ เสียน้ำใจ” ทิวัตถ์พูดดักทาง ปรีดิทาสมควรรับน้ำใจไว้แต่โดยดี ไม่ควรทิ้งขว้างหรือปามันทิ้ง “ถ้ามันเป็นยาพิษ โปรดก็ต้องรักษาน้ำใจหรือคะ” เธออดจะประชดประชันไม่ได้ “ยอกย้อนเก่ง” 

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status