“เจ้า…นี่เป็นเจ้าเองหรือ” หลีซงประหลาดใจ
คิ้วทรงกระบี่ปลายหนาเลิกขึ้น ไป๋เฉินเซียงพบความฉงนปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า มิใช่หลีซงที่ช่วยนางไว้ แต่กลับเป็นนายของเขาต่างหากที่รั้งแขนนางเมื่อครู่ ทั้งที่ดวงตาอีกฝ่ายมองไม่เห็นกระนั้นเขายังสามารถคว้าแขนของไป๋เฉินเซียงไว้ได้อย่างแม่นยำ
ไป๋เฉินเซียงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ทะ…ที่แท้เป็นพวกท่าน ดูเหมือนว่าเรามีวาสนาต่อกันจริง”
นักพรตน้อยเกาจวิ้นสาวเท้าเข้ามา “พวกท่านรู้จักกันหรือ”
ไป๋เฉินเซียงหลุบเปลือกตามองมือหยาบกร้านที่ยังกุมข้อมือของนางไว้แน่น จึงค่อย ๆ ขยับออกอย่างแนบเนียน
ริมฝีปากได้รูปกระตุกแผ่ว “อ่า…น้องชายผู้นั้นสินะ”
นักพรตเกาจวิ้น “น้องชาย?” เขาเหลียวมองไป๋เฉินเซียง
ไป๋เฉินเซียงยิ้มแหย “ศิษย์พี่ ไว้ข้าอธิบายให้ท่านฟังทีหลังนะเจ้าคะ” ไป๋เฉินเซียงย้ายสายตากลับไปยังบุรุษตรงหน้า “ไม่คิดเลยว่าพวกท่านจะมารับการรักษาที่นี่ ตอนนี้พวกเราถือว่าลงเรือลำเดียวกันแล้ว เช่นนั้นข้าน้อยขอเสียมารยาทถาม คุณชายทั้งสองมาจากที่ใดกันจึงได้เกียรติรับการ
ของสิ่งนั้นร่วงแหมะตรงปลายเท้าของสวีเยว่เข้าพอดี เขาลดตัวลงเชื่องช้าหยิบขึ้นมาเปิดอ่านด้วยมืออันสั่นเทา ครั้นเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในก็ตาโต เขาตวัดตามองเข้มจนราชทูตของชิงเป่ยเหงื่อแตกพลั่กหน้าเผือดสี “หมายความว่าอย่างไร”“องค์ชาย ท่านอย่าได้หลงกลรัชทายาท นั่นของปลอม”สวีอู๋เจ๋อกอดอก “ปลอมหรือไม่คนจากแคว้นชิงเป่ยรู้ดีแก่ใจ คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายกระมังว่าพวกเจ้าวางกลอุบายสกปรกเพียงใด หากไม่เพราะแม่ทัพไป๋หู่ใช้ปัญญามากกว่าพละกำลัง แล้วจะได้ของสิ่งนี้มาอย่างไร”“อธิบายมา” สวีเยว่เลื่อนลอยอีกฝ่ายไม่ตอบ เอาแต่มองกันหน้าซีด “องค์ชายสามนั่นมันเรื่องเหลวไหล มีที่ใดกันราชโองการตีเมืองในยามกระชับมิตร”“ข้ายังไม่พูดสักคำ แต่เจ้าก็พูดมันเสียแล้ว” สวีเยว่เสียงแข็ง“เรื่องนี้ต้องฟังเราอธิบายก่อน”“อธิบายอะไร! ในเมื่อกษัตริย์ของเจ้าหวังยึดอำนาจของข้าทั้งหมด เห็นข้าเป็นวัวเป็นม้าให้พวกเจ้ารึ ฝันไปเถอะ”สวีเยว่โมโหถึงขีดสุด เขาดาหน้าเข้าหาทูตทั้งสองด้วยความกราดเกรี้ยว ไม่ทันได้หวดดาบลงไปทูตจอมขี้ขลาดก็กระโจนลงน้ำเสียงดังสนั่นตู้ม!สว
เมื่อสามวันก่อน“นายท่านแย่แล้วขอรับ” ชายชุดดำเร่งร้อนเข้ามาท่าทางตื่นตระหนกเรือสำราญที่กำลังล่องอยู่กลางแม่น้ำมีชายสูงศักดิ์และชายต่างแคว้นนั่งเจรจากันหน้าเคร่งเครียด“อะไรของเจ้า ไม่เห็นหรือว่าเป็นเวลาใด”“ขออภัยองค์ชาย แต่ว่าทหารเงาของเรารายงานว่า แม่ทัพไป๋หู่หายจากอาการตาบอดแล้ว”“อะไรนะ!” เจ้าของร่างสูงผุดลุกเดี๋ยวนั้น“นี่มันเรื่องอะไรกัน ไหนว่าหมอหลวงตรวจสอบแล้วว่าอี้ซินไม่อาจรักษาดวงตาให้หายขาดได้”“ท่านแม่ทัพ เป็นเช่นนั้นจริงขอรับ แต่ว่าหมอที่ตรวจคนนั้นเป็นสายลับขององค์รัชทายาท”ทุกคนได้ฟังก็เข่าแทบทรุด ทั้งที่คิดว่าตามสืบและทำงานรอบคอบมาโดยตลอดกระนั้นพวกเขากลับถูกหลานอี้ซินตลบหลังจนเลือดซิบ จะขยับกายทิศทางใดก็เกรงจะเป็นการหลบหลุมแล้วพลาดตกบ่อทูตจากแคว้นชิงเป่ยลุกยืนเต็มความสูง สีหน้าของพวกเขาบ่งบอกถึงความเป็นกังวล “ไยพวกท่านไม่จัดการปัญหาคาราคาซังนี้ให้เรียบร้อย ส่วยที่ตกลงกันไว้สามส่วนก็ไม่ส่งมอบให้เราหลายเดือนแล้ว ครั้งก่อนที่เรายอมอ่อนข้อให้แม่ทัพชิงหลงก็เจรจากันรู้เรื่องแล้วมิใช่หรือ ไฉนยามนี้
ด้านนอกเริ่มเกิดจลาจลแล้ว ชายเมื่อครู่ชักเท้ากลับทันควัน เขาสบถเสียงดังด้วยความหัวเสีย “พวกเจ้าอยู่กันเงียบ ๆ หากใครส่งเสียงข้าจะจับตัดลิ้นให้หมด!” ปัง!เสียงโลหะกระทบกันดังครึกโครม กองกำลังลับของแม่ทัพไป๋หู่มาถึงที่เกิดเหตุทันเวลา หลานอี้ซินลดฝ่ามือที่ปิดปากหญิงสาวลง ไป๋เฉินเซียงได้สติ ร่างระหงรุดเข้าหาสหายน้อยทั้งสองด้วยความเป็นห่วง“เสี่ยวซี เสี่ยวอี้ พวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ไป๋เฉินเซียงเร่งร้อนแกะเชือกที่มัดแขนขาของเด็ก ๆ ออกเด็กชายทั้งสองส่ายศีรษะ “ไม่ขอรับ พวกเราปลอดภัยดี”ไป๋เฉินเซียงหันรีหันขวาง กวาดตามองบรรดาเด็กน้อยตาดำ ๆ ทีละคน หลานอี้ซินเองก็ออกมาช่วยเหลือและแก้มัดให้ทุกคนแล้ว ทว่าไป๋เฉินเซียงพยายามหาอย่างไรก็ไม่เห็นอีกคนที่อยากเจอ“เหยาเอ๋อร์เล่า เหยาเอ๋อร์อยู่ที่ใด” ไป๋เฉินเซียงหน้าซีดเด็กชายทั้งสองส่ายศีรษะพร้อมเพรียง “เหยาเอ๋อร์ ออกไปตามท่านพี่ฮ่าว ไม่รู้ว่านาง ฮึก…นาง…”ไป๋เฉินเซียงตระหนก พลันลุกพรวดและเร่งสาวเท้าไปยังด้านหน้าของประตู“เจ้าจะไปไหน” หลานอี้ซินปรามไ
หลังรอดพ้นจากสายตาของชายฉกรรจ์ทั้งสามอย่างหวุดหวิด ไป๋เฉินเซียงและลู่ฮ่าวจึงออกมาจากพื้นที่หลบซ่อน ประเมินจากสายตา ลู่ฮ่าวดูผอมโซมากกว่าตอนที่พบกันครั้งแรก“เสี่ยวฮ่าว ไยเจ้าผอมแห้งเพียงนี้”“ท่านพี่เซียง หลายเดือนมานี้พวกข้าถูกพวกเขาจับตัวไปใช้แรงงานขอรับ เพราะช่วงนี้พวกเราขอทานได้น้อยลงมาก พวกเขาเลยจะตัดแขนขาพวกเราขอรับ”ไป๋เฉินเซียงอุทานเสียงดัง “เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร แล้วตอนนี้พวกน้อง ๆ เล่าอยู่ที่ใด”“เรื่องมันยาวมาก ข้าจะพาท่านไปเอง แต่ว่าเราไปกันแค่สองคนเกรงว่าจะเป็นอันตราย”“อืม…ก็จริง” ไป๋เฉินเซียงขบคิดหนึ่งเด็กหนึ่งสตรีจะต่อกรกับอันธพาลพวกนั้นได้อย่างไร“เอาอย่างนี้เราไปตั้งหลักก่อน ข้าจะดูว่าพอทำอะไรได้บ้าง อีกอย่างเจ้าคงยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน เดี๋ยวข้าหาอะไรให้เจ้ารองท้องก่อน”ลู่ฮ่าวพยักหน้า “ขอรับท่านพี่เซียง”ทั้งสองเร่งร้อนจับจูงกันไปตามทางเดิน ทำให้ไป๋เฉินเซียงไม่ทันสังเกตว่าตนกำลังสวนทางกับใครบางคน ทว่าลมที่พาดผ่านในยามที่คนเราขยับร่างทำให้อีกฝ่ายต้องหยุดฝีเท้าลงทันควัน
เป็นเวลาร่วมสามวันที่หลานอี้ซินไม่กลับมาที่จวนสกุลวูเลย เขาทำราวกับเอานางมาทิ้งไว้แล้วตัวเองก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยท่านแม่ทัพไป๋หู่นี่อย่างไรมักทำตัวดั่งเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง [1] อยู่เรื่อย!“อีเอ๋อร์ นั่นเจ้าจะไปที่ใด”ไป๋เฉินเซียงชะงักฝีเท้าลง ร่างระหงหมุนตัวกลับหลังแช่มช้าฮูหยินวูสลดลง “แม่นางไป๋ เจ้าเองหรือ”“เจ้าค่ะ ข้าเอง”“ขอโทษด้วย เจ้าสองคนคล้ายกันมาก ข้าก็เลยคิดว่าเป็น...” ฮูหยินวูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไป๋เฉินเซียงสาวเท้าเข้าใกล้อีกฝ่าย มือเรียวเอื้อมจับมือของอีกฝ่ายมากุมเอาไว้พลางบีบเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม “ฮูหยินวู ท่านวางใจ ข้าเชื่อว่าท่านแม่ทัพจะต้องช่วยพวกเราได้แน่”ฮูหยินวูพยักหน้า เพราะต้องไม่ทำตัวให้เป็นที่ผิดสังเกตของบรรดาบ่าวไพร่ นางหลงลืมไปเสียสนิทว่ายามนี้วูหลิงอีไม่ได้อยู่ที่เรือนด้วย“เจ้าจะออกไปข้างนอกใช่หรือไม่ แต่ท่านแม่ทัพกำชับแล้วว่า…”ไป๋
ไป๋เฉินเซียงลุกพรวด ร่างระหงตรงดิ่งเข้าหาผู้มาเยือน “ท่านแม่ทัพ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”บุรุษตัวสูงยืนนิ่งหน้าไม่เปลี่ยนสี ไป๋เฉินเซียงเขย่าแขนเขาด้วยความใคร่รู้ “ท่านแม่ทัพ ไยจึงเงียบเล่าเจ้าคะ อย่าบอกว่าใต้เท้าวูไม่ยอมรับแผนการของท่านงั้นหรือ”ไป๋เฉินเซียงแหงนหน้ามองอีกฝ่ายตาละห้อย พริบตาถัดมานิ้วหยาบกร้านก็ดีดหน้าผากนูนเด่นเสียงดังฟังชัด“โอ๊ย!” ไป๋เฉินเซียงหน้าบูดบึ้งพลางลูบหน้าผากเพื่อคลายความเจ็บป้อย ๆ “ท่านแม่ทัพ ไยท่านต้องทำเช่นนี้อยู่เรื่อย มันเจ็บนะเจ้าคะ”“ท่านแม่ทัพงั้นหรือ ไยไม่เรียกท่านพี่แล้วเล่า”“เอ่อ…” ไป๋เฉินเซียงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ก็…อันที่จริงแล้วการแต่งงานของเราล้วนเป็นเรื่องลวงหลอก ข้าคงไม่กล้า…”“เด็กโง่ แล้ววันที่เจ้าเข้าพิธีวิวาห์กับข้าเป็นภาพลวงตางั้นหรือ”ไป๋เฉินเซียงส่ายหน้า ที่เขาพูดก็เป็นเรื่องจริง นางและหลานอี้ซินเข้าพิธีวิวาห์อย่างถูกต้องตามประเพณี ทว่าในตอนนั้นไป๋เฉินเซียงยังสวมรอยเป็นผู้อื่นอยู่มิใช่หรือ อีกอย่างนางและเขาก็เป็นสามีภรรยากันเพียงในนามเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ยังไม่เคยเกิดขึ้นจ