ผับใจกลางเมือง
มิรากำลังนั่งดื่มอยู่กับเบส สายตาของเธอได้เหลือบไปเห็นหญิงสาว ที่มีรูปร่างคุ้นตา แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่ขวัญดาวหรือเปล่า เนื่องจากโต๊ะโซนวีไอพี ซึ่งถัดออกไปจากเธอพอสมควร หญิงสาวกำลังนั่งดื่มอยู่กับคาสโนว่าตัวพ่ออย่างพายุ นักธุรกิจหนุ่มที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่เขายังคงเป็นคุณชายเจ้าสำราญไม่เลิกรา
“ถ้าผมจะกลับมาคบกับคุณอีกจะได้ไหม มิรา” น้ำเสียงของกัปตันหนุ่มฟังดูน่าหลงใหล แต่มิรากลับรู้สึกไม่ไหว ถ้าหากเธอจะต้องมานั่งร้องไห้ เมื่อเขาบอกเลิก และที่เธอยอมออกมาดื่มเป็นเพื่อนแฟนเก่าก็แค่ต้องการปลอบโยน ที่เขานั้นได้เสียบิดาไป ในขณะที่แฟนใหม่ขอยุติความสัมพันธ์ ซึ่งมิราไม่มีวันจะกลับไปเป็นแฟนกับเขาอีกเป็นเด็ดขาด
“เป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว อย่าพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาที่เดิม เมื่อใจสองดวงได้เปลี่ยนไปแล้ว มิราจะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเบสเสมอนะ” คำพูดของอดีตคนรัก ทำให้กัปตันหนุ่มซาบซึ้งใจ เขาไม่น่าทิ้งเธอไปทั้งที่คบกันมาเป็นสิบปี
“เบส มิราขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวมา”
“ให้เบสไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไร มิราไม่ได้เมาสักหน่อย”
เมื่อเธอเห็นหญิงสาวเดินออกไปจากโต๊ะ โดยมีชายหนุ่มเดินตามเธอไปติดๆ ทำให้มิรารีบเดิมตามออกไปทันที เพราะเธอมั่นใจว่าหญิงสาวคนนั้น ต้องเป็นขวัญดาวน้องสาวของฝนสุดาอย่างแน่นอน ตอนนี้มิราได้เดินตามคนทั้งคู่มาที่ลานจอดรถ ซึ่งดูเหมือนว่าชายหนุ่มกำลังพยายามที่จะคว้าตัวขวัญดาวขึ้นรถไปกับเขา
“ปล่อยค่ะ หนูไม่ไปกับคุณ ดาวจะกลับคอนโด คุณโกหกบอกดาวว่าจะพามาเลี้ยงต้องรับ แต่ทำไมอิงฟ้าไม่มาด้วย” หญิงสาวเริ่มโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเธอนั้นไม่กระต่ายน้อยที่จะยินยอมพร้อมใจ ให้ผู้ชายอย่างเขาย่ำยีได้ง่ายๆ
“ผมไม่ได้โกหก อิงฟ้าเธอไม่ว่าง เลยมาไม่ได้ ขึ้นรถสิผมจะไปส่ง” พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ใจเย็น ทั้งที่ปกติแล้วเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน คงเป็นเพราะว่าปลายังไม่กินเหยื่อ เขาจึงยอมทำตัวให้ดูสุขุมน่าเชื่อถือ ซึ่งในตอนนี้ขวัญดาวเริ่มรู้สึกมึนๆ ตึงๆ โลกเริ่มจะหมุนรอบตัว เมื่อเธอดื่มน้ำไวน์เข้าไปหลายแก้ว แต่ก็ไม่ถึงกับเมา
“ขอบคุณนะคะ แต่ดาวจะกลับแท็กซี่” หญิงสาวพูดปฏิเสธออกไป จนพายุเริ่มฉันคิดว่าเธอเล่นตัวเพื่อโก่งราคา
“คุณต้องการเท่าไหร่ผมจ่ายไม่อั้น”
“หมายความว่ายังไงคะ ดาวไม่ได้ขาย ถ้าคุณจะเห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่สินค้าที่มีไว้สนองตัณหา ดาวขอแนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์”
หมับ!! ข้อมือเรียวของหญิงสาว ถูกชายตรงหน้าคว้าเอาไว้ พร้อมกับใช้แรงบีบอย่างแรงจนขวัญดาวรู้สึกเจ็บ
“โอ๊ย! ปล่อยค่ะ ดาวเจ็บ!” หญิงสาวพูดพร้อมกับพยายามแกะมือเขาออก แต่มันกลับไมเป็นผล เมื่อชายตัวโตตั้งใจที่จะใช้แรงที่มี บีบลงไปที่ข้อมือของเธอ เพื่อให้ขวัญดาวยอมขึ้นรถไปกับเขา
“ไม่อยากเจ็บตัวก็ขึ้นรถ” น้ำเสียงของชายหนุ่มดุดันและแข็งกร้าว จนทำให้ขวัญดาวรู้สึกหวาดกลัว
“ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิง ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญประการใดๆ การใช้กำลังประทุษร้าย โดยที่ผู้หญิงอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ ผิดกฎหมายอาญาตามมาตราไหนนะ” เสียงของมิราดังขึ้น พร้อมกับการบันทึกวีดีโอ ทำพายุถึงกับโกรธจนลมออกหู เมื่อเขานั้นกำลังตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบผู้หญิงเป็นครั้งแรกในชีวิต
“คุณเป็นใคร ถึงคิดที่จะหยิบยกเอาข้อกฎหมายมาใช้กับผม” น้ำเสียงของพายุดูเกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม ทั้งที่ภายในใจของชายหนุ่มเริ่มรู้สึกกลัว ถ้าหากคลิปที่ถูกหญิงสาวแอบถ่ายเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณชน
“พี่มิรา!” ขวัญดาวที่พยายามแกะมือชายหนุ่มออกได้หันมาตามเสียง เมื่อเห็นว่าคือมิรา เธอร้องออกมาด้วยความดีใจ
“รู้จักกันด้วยเหรอ ดีแล้วฉันจะได้ไม่เสียเวลาไปส่ง แล้วเธอก็กรุณาลบคลิปนั่นด้วย ถ้าถูกเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะ ฉันฟ้องเธอหมดตัวแน่ เพราะที่เธอพูดมานั้นมันไม่ใช่ความจริง แต่เอ...กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตราไหนน๊า...แต่ที่ผมรู้ค่าปรับน่าจะหกหลักสู้ไหวไหม หืม” เมื่อพูดจบประโยคพายุก็ปล่อยขวัญดาว ก่อนจะเดินข้าไปในผับ พร้อมกับสายตาที่ไม่เป็นมิตรกับมิราเลยสักนิด
“เป็นอะไรหรือเปล่า” มิรารีบสำรวจร่างกายขวัญดาว
“ดาวไม่เป็นไรค่ะ ต้องขอบคุณพี่มิรามากเลยนะคะ”
“คราวหลังอย่ามากับเขาอีก ผู้ชายคนนี้เสือตัวพ่อเลยนะพี่จะบอกให้” มิราเอ็ดขวัญดาวออกมาเบาๆ ด้วยความห่วงใย
“แต่เขาเป็นเจ้าของบริษัท ที่ดาวไปฝึกงานด้วย คงหลีกเลี่ยงยากค่ะ” ขวัญดาวพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ระวังตัวเอา มีอะไรรีบโทรหาพี่เข้าใจไหม”
“พี่ห้ามบอกเรื่องนี้กับพี่ฝนนะคะ ดาวไม่อยากให้พี่สาวต้องมีเรื่องทุกข์ใจอีก ตอนนี้พี่ฝนไม่สบายอยู่ด้วย”
“สบายใจได้ พี่ไม่บอกฝนหรอก ไปขึ้นรถเดี๋ยวพี่จะไปส่ง รถจอดอยู่ทางโน้นมาเร็ว” มิราจูงแขนขวัญดาวไปขึ้นรถ ซึ่งเธอไม่ลืมที่จะโทรหาเบส เพราะไม่อยากเข้าไปเจอหน้าใครบางคนในผับ ที่หญิงสาวไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ เมื่อเธอเห็นข่าวของเขาในโลกโซเชียล ล้วนมีแต่ข่าวคาวโลกีย์ทั้งนั้น
ภายในคอนโดที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราดูแพง แต่ทว่าบรรยากาศภายในห้องกลับอึมครึมไปด้วยความตึงเครียด เมื่อเอวาไม่ชอบใจที่พายุนั้นควงใครต่อใครเป็นว่าเล่น ทั้งที่เขามีเธออยู่แล้วเป็นตัวเป็นตน แม้ว่าข้อตกลงจะอยู่ในเงื่อนไขที่หญิงสาวเสียเปรียบ แต่เธอกลับยอมจำนน เพียงเพราะคำว่ารักที่มันไม่มีทางจะเป็นจริงได้เลย เมื่อสะพานที่เอวาทอดเอาไว้ พายุก้าวเท้าข้ามมาแค่เพียงตัว เมื่อหัวใจของเขารักใครไม่เป็น
“ถ้าผมมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ยังจะยัดเยียดนุชวราให้กับผมอยู่อีกไหมครับ” หมอหนุ่มถามออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ จนบิดามารดาไม่สามารถเดาความคิดของเขาออก ซึ่งคนทั้งคู่คิดว่าลูกชายเพียงแค่อยากรู้คำตอบเท่านั้น “พ่อกับแม่ไม่ใช่คนใจร้าย ที่จะพรากลูกพรากเมียใครหรอกนะ ถ้าหมอมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ก็จะไม่บังคับให้ลูกต้องหมั้น หรือแต่งงานกับนุชวราหรอก แต่ลูกชายของแม่โสดไม่มีใคร แล้วทำไมจะแต่งงานกับหนูนุชไม่ได้ หรือว่าลูกชอบไม้ป่าเดียวกัน แม่ไม่ยอมแน่” ผู้เป็นมารดาเริ่มคิดไปต่างๆ นานา เมื่อลูกชายมีท่าทางที่อิดออด ไม่อยากจะแต่งงานกับสาวสวยที่เพอร์เฟกต์อย่างนุชวรา “ผมไม่มีใครหรอกครับแม่ แต่ขอเวลาอีกสามเดือนได้ไหมครับ ผมไม่เคยขออะไรจากแม่เลย ถ้าหากว่าผมจะต้องหมั้นหรือแต่งงานกับนุชวราจริงๆ ขอให้ผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผม เพียงแค่สามเดือนจะได้ไหมครับแม่”
“เอวาขอร้องได้ไหมคะ ระหว่างที่เราคบกันและคุณยังการันตีในความสัมพันธ์ของเราให้ใครต่อใครได้ทราบ ก็ให้เกียรติเอวาบ้างหน่อยเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า เมื่อเธอนั้นได้กลายเป็นเพียงแค่แฟนในนาม แต่เรื่องบนเตียงกลับเล่นจริงไม่ใช้สแตนด์อิน “รอให้หมอวายุหมั้นและแต่งงานกับนุชวราเมื่อไหร่ ผมจะปล่อยคุณไปให้เป็นอิสระ” เขาช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว แม้ว่าเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่เอวาได้รับนั้น จะเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากใช้ชีวิตร่วมกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงมากกว่า “คุณพายุ ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปีคุณไม่คิดที่จะมีใจให้เอวาบ้างเลยหรือไง” คราวนี้หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พัดพ้อ เมื่อเขาให้ความสำคัญในตำแหน่งแฟน เพียงแค่ต้องการให้หล่อนเป็นไม้กันหมาให้เขาเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาของชายหนุ่ม ก็ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนเนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนโต จึงถูกเลี้ยงดูตามใจมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่หมอวายุนั้นถูกบังคับ ให้ทำตามความประสงค์ของบุพการี ทั้งการเรียนและเรื่องของหัวใน ท้ายที่สุดเขาต้องเรียนแพทย์ ทั้งที่
ผับใจกลางเมือง มิรากำลังนั่งดื่มอยู่กับเบส สายตาของเธอได้เหลือบไปเห็นหญิงสาว ที่มีรูปร่างคุ้นตา แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่ขวัญดาวหรือเปล่า เนื่องจากโต๊ะโซนวีไอพี ซึ่งถัดออกไปจากเธอพอสมควร หญิงสาวกำลังนั่งดื่มอยู่กับคาสโนว่าตัวพ่ออย่างพายุ นักธุรกิจหนุ่มที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่เขายังคงเป็นคุณชายเจ้าสำราญไม่เลิกรา“ถ้าผมจะกลับมาคบกับคุณอีกจะได้ไหม มิรา” น้ำเสียงของกัปตันหนุ่มฟังดูน่าหลงใหล แต่มิรากลับรู้สึกไม่ไหว ถ้าหากเธอจะต้องมานั่งร้องไห้ เมื่อเขาบอกเลิก และที่เธอยอมออกมาดื่มเป็นเพื่อนแฟนเก่าก็แค่ต้องการปลอบโยน ที่เขานั้นได้เสียบิดาไป ในขณะที่แฟนใหม่ขอยุติความสัมพันธ์ ซึ่งมิราไม่มีวันจะกลับไปเป็นแฟนกับเขาอีกเป็นเด็ดขาด “เป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว อย่าพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาที่เดิม เมื่อใจสองดวงได้เปลี่ยนไปแล้ว มิราจะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเบสเสมอนะ” คำพูดของอดีตคนรัก ทำให้กัปตันหนุ่มซาบซึ้งใจ เขาไม่น่าทิ้งเธอไปทั้งที่คบกันมาเป็นสิบปี
ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปรือลงอย่างช้าๆ เมื่อเธอกำลังจินตนาการว่าตัวเองนั้น กำลังเป็นนางเอกในซีรี่ย์ ที่มีหมอหนุ่มหน้าตาดี เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทำให้เธอตั้งครรภ์ ก่อนที่หญิงสาวจะไม่มีมดลูก “คุณ... คุณฝนสุดา หลับอีกแล้วเหรอ” เสียงทุ้มของหมอหนุ่มที่ดังข้างใบหูของเธอ จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ “เอ่อ... ขะ ขอโทษค่ะ” ฝนสุดารีบดีดตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับใบหน้าที่เหลอหลา ก่อนจะกล่าวขอโทษเขาออกมาด้วยคำพูดที่ติดอ่าง พร้อมกับรีบก้มหน้าลงต่ำ เพื่อหลบสายตาคมของหมอหนุ่ม เมื่อเธอเดาความรู้สึกของเขาไม่ออก การวางสีหน้าที่เรียบเฉยตลอดเวลา พร้อมกับเก๊กท่าวางมาดเข้ม บวกกับบุคลิกของหมอหนุ่มดูหล่อเท่สมาร์ต แต่ทว่าบางทีก็ดูลึกลับจนน่าค้นหา ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยของฝนสุดาอดที่จะหวั่นไหว ให้กับหมอวายุไม่ได้ “ผมเพิ่งบอกคุณไปไม่กี่นาที จะลุกจะเดินต้องระวัง ไม่อย่างนั้นคุณมีสิทธิ์แท้งแน่ ถ้าย้ายตั
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งเอาไว้ในสไตล์นอร์ดิก แลดูโล่ง โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่ดูอบอุ่นเรียบหรูดูแพง ซึ่งมีโทนขาว เทาเป็นหลัก ทั้งผ้าปูและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งภายใน ผนังของห้องใช้สีพาสเทลอ่อนๆ บ่งบอกให้รู้ถึงรสนิยมของคนอาศัยที่มีใบหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญหมอวายุเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบ แต่คนรอบข้างมักจะนำพาความวุ่นวาย เข้ามาภายในชีวิตของเขาไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะเรื่องการหมั้นระหว่างเขากับนุชวรา คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ ค่อยๆ พลิกกายบิดตัวหาวออกมา เมื่อเธอรู้สึกสบายตัวที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม บวกกับที่นอนไม่หลับมาทั้งคืน เนื่องจากตื่นเต้นกับการมาตามนัด เพื่อรับฟังรายละเอียดในขั้นตอนของการทำร่างกายให้พร้อม สำหรับการตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้หญิงสาวหลับยาวไปหลายชั่วโมง "อืม..." ฝนสุดาครางออกมาจากในลำคอ พร้อมกับบิดขี้เกียจอย่างอ้อยอิ่ง เมื่อเธอไม่อยากลุกออกจากเตียงนุ่มนี่เลยสักนิด จากนั้นหญิงสาวจึงค่อยๆ พลิกกายกลับมานอนหงาย เธอปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะพบว่าเพดานของห้องนอน แปลกไปจากที่คุ้นเคย แน่นอนเพราะนี่มันไม
หลายวันผ่านไป หลังจากที่นายแพทย์หนุ่มหนุ่มพยายามเลื่อนนัดนุชวรามาหลายครั้ง ในวันนี้เธอจึงจำเป็นที่จะต้องบุกไปหาเขาที่โรงพยาบาล จนทำให้หมอหนุ่มจำใจต้องออกมารับประทานมื้อเย็นกับหญิงสาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเขานั้นจะรู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องออกไปรับประทานมื้อเย็น ภายใต้แสงเทียน หล่อนคงอยากสร้างความประทับใจให้กับเดตแรกระหว่างเธอกับหมอวายุ "พี่หมอค่ะ ทำไมต้องทำหน้าเหมือนกับว่า กำลังลำบากใจที่ออกมาทานข้าวกับนุช" นุชวราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เมื่อหล่อนพยายามเข้าใกล้ แต่หมอวายุกลับมีท่าทีถอยห่างออกไป ทั้งที่เขาก็ไม่มีใครทำไมไม่รับปากตกลงหมั้นกับเธอสักที "พอดีว่าช่วงนี้ผมมีเรื่องเครียดนิดหน่อย การเป็นหมอต้องอยู่ภายใต้แรงกดดัน ซึ่งคนไข้ได้ฝากชีวิตไว้กับแพทย์ที่รักษา ผมจึงอยากทุ่มเทชีวิตนี้ให้กับวงการแพทย์ ถ้านุชเจอใครที่ถูกใจ ก็รีบคว้าเอาไว้อย่าฝากความหวังไว้ที่ผมเลยนะครับ" ใบหน้าอันหล่อเหลาของหมอหนุ่ม ดูเรียบเฉยไร้วี่แววของการมีใจ บางครั้งนุชวราก็อยากเอ่ย