ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปรือลงอย่างช้าๆ เมื่อเธอกำลังจินตนาการว่าตัวเองนั้น กำลังเป็นนางเอกในซีรี่ย์ ที่มีหมอหนุ่มหน้าตาดี เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทำให้เธอตั้งครรภ์ ก่อนที่หญิงสาวจะไม่มีมดลูก
“คุณ... คุณฝนสุดา หลับอีกแล้วเหรอ” เสียงทุ้มของหมอหนุ่มที่ดังข้างใบหูของเธอ จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์
“เอ่อ... ขะ ขอโทษค่ะ” ฝนสุดารีบดีดตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับใบหน้าที่เหลอหลา ก่อนจะกล่าวขอโทษเขาออกมาด้วยคำพูดที่ติดอ่าง พร้อมกับรีบก้มหน้าลงต่ำ เพื่อหลบสายตาคมของหมอหนุ่ม เมื่อเธอเดาความรู้สึกของเขาไม่ออก การวางสีหน้าที่เรียบเฉยตลอดเวลา พร้อมกับเก๊กท่าวางมาดเข้ม บวกกับบุคลิกของหมอหนุ่มดูหล่อเท่สมาร์ต แต่ทว่าบางทีก็ดูลึกลับจนน่าค้นหา ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยของฝนสุดาอดที่จะหวั่นไหว ให้กับหมอวายุไม่ได้
“ผมเพิ่งบอกคุณไปไม่กี่นาที จะลุกจะเดินต้องระวัง ไม่อย่างนั้นคุณมีสิทธิ์แท้งแน่ ถ้าย้ายตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูกของคุณวันไหน คุณเตรียมตัวย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เลยฝนสุดา เพราะคุณต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ถ้าไม่อยากทำกิฟต์ใหม่” คำขู่ของหมอวายุที่ฟังดูมีหลักการ กำลังทำให้ฝนสุดาคิดหนัก เธอจะมาอยู่ที่นี่กับเขาได้ยังไง ในเมื่อเขาเป็นผู้ชาย ซึ่งเธอไม่รู้ว่าหมอหนุ่มมีครอบครัวหรือยัง และดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะมีห้องนอนแค่ห้องเดียว
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หลังจากทำกิฟต์เสร็จ ฉันจะพยายามระวังให้มากขึ้น”
“ไม่ได้ นั่นลูกทั้งคน คุณจะเอาชีวิตของพวกเขามาเสี่ยง ด้วยคำว่าพยายามไม่ได้” หมอหนุ่มรีบพูดแทรกขึ้นเสียงแข็ง จนหญิงสาวไม่กล้าถามในสิ่งที่ข้องใจ ซึ่งประโยคที่เขาพูดออกมาในทำนองว่า เธอจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดเด็กทารกมากกว่าหนึ่งคน
“ถ้าฉันมาอยู่ที่นี่ แฟนคุณจะไม่เข้าใจผิดเหรอคะ ฉันกลัวว่าตัวเองจะสร้างปัญหาให้กับคุณ” ฝนสุดาพยายามหาข้ออ้างขึ้นมา เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ เพราะเธอคิดว่ามันคงไม่เหมาะสมที่จะมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับเขา ซึ่งเธอไม่รู้ว่านิสัยใจคอเขาเป็นอย่างไร ถ้าเกิดเขาหน้ามืดปล้ำเธอขึ้นมาจะทำยังไง แม้ว่าลึกๆ ภายในใจจะรู้สึกดี ที่ได้ใกล้ชิดเขาแบบนี้ก็ตามที
“ผมโสด”
“ฮะ! จริงเหรอ” หญิงสาวถึงกับอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหู เมื่อผู้ชายที่ดูเพอร์เฟกต์สมบูรณ์แบบจะไม่มีแฟน แถมโพรไฟล์ยังเป็นถึงหมออีกต่างหาก
“ทำไม น่าแปลกตรงไหน คุณเองก็โสดไม่ใช่เหรอ”
คราวนี้ฝนสุดาถึงกับเถียงไม่ออก เมื่อสิ่งที่หมอหนุ่มพูดออกมานั้น มันคือความจริง ที่เธอโสดมันไม่แปลกอะไร แต่ผู้ชายอย่างเขาโสดนี่สิ หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ทำไมเธอต้องรู้สึกตื่นเต้นดีใจด้วย เรื่องนี้ยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับเธอ มากกว่าเขาโสดเสียอีก
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านของฝนสุดา หญิงสาวไม่รู้ว่าหมอวายุดูแลเอาใจใส่คนไข้แบบนี้ทุกรายหรือเปล่า ใบหน้าที่เรียบเฉยตลอดเวลาทำให้เธอ ไม่สามารถเดาความคิดของเขาได้ แต่คำพูดที่แกมบังคับให้เธอไปพักที่บ้านสวน ด้วยเหตุผลที่ฟังดูแล้วมีน้ำหนัก แต่หญิงสาวกลับไม่อยากจะไปพักที่นั่นเลย
“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์มาส่ง” หญิงสาวกล่าวขอบคุณหมอหนุ่ม พร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยออd
“เดี๋ยวก่อน” หมอวายุพูดพร้อมกับคว้าแขนฝนสุดาเอาไว้ ทำให้หญิงสาวชำเลืองสายตามองค้อนเขาออกไปอย่างไม่ชอบใจ
“ผมขอโทษ แค่จะถามว่าคุณอยู่บ้านกับใคร ทำไมถึงดูเงียบจัง” หมอวายุเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ทั้งที่ภายในใจอยากเก็บข้อมูล ในรายละเอียดของคนรอบข้าง ที่เกี่ยวข้องกับฝนสุดาให้มากที่สุด
“ฉันอยู่กับน้องสาวค่ะ แต่ตอนนี้เธอไปฝึกงาน และพักที่คอนโดกับเพื่อน ช่วงนี้ฉันเลยต้องอยู่คนเดียว ขอตัวนะคะ” ฝนสุดาพูดออกไปตามความเป็นจริง ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวเท้าลงไปจากรถ โดยที่เธอนั้นลืมไปว่า หมอวายุอาจจะหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้เธอนั้นยอมจำนนทำตามความต้องการของเขา อย่างไม่มีข้อกังขา แน่นอนหมอวายุไม่มีทางปล่อยให้ฝนสุดาอยู่ตามลำพัง ในขณะที่เธอนั้นกำลังตั้งครรภ์
ภายในห้องพักแพทย์ หมอพราวกนกเริ่มสงสัยในสิ่งที่หมอวายุกำลังคิดจะทำ เนื่องจากการตบมือข้างเดียวนั้น คงจะดังไม่ได้อย่างแน่นอน
“แพรวก็รู้จักหมอมานาน คุณฝนสุดาเธอมีอะไรพิเศษ ทำไมคุณหมอวายุถึงอยากได้มาเป็นแม่ของลูก แล้วนี่คุณหมอพร้อมที่จะเก็บเสปิร์มเมื่อไหร่ค่ะ” หมอพราวกนกเอ่ยถามหมอหนุ่มออกมาด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย เมื่อเธอทำใจเรื่องหมอวายุได้แล้ว
“ผมจะใช้เสปิร์มสด ขอแฝดสามได้ไหมหมอพราว” นายแพทย์จิรายุพูดออกมา ขณะที่เขายังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ภายในห้องพักแพทย์ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม แต่คนฟังกลับทำตาโตด้วยความตกใจ
“ท้องแรกแค่แฝดสองก็พอแล้วมั้งคะหมอ สงสารคุณฝนสุดาหน่อยเถอะค่ะ” หมอพราวถึงกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง เมื่อหมอวายุอยากได้ลูกแฝดสาม
“ผมมั่นใจในตัวของฝนสุดา ยังไงก็ต้องขอบคุณหมอแพรวล่วงหน้านะครับ ในภารกิจนี้”
“ถ้าแพรวปฏิเสธได้ คงทำไปแล้ว นี่เห็นว่าเป็นหมอวายุหรอกนะ แพรวถึงยอมทำให้” หมอพราวกนกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ระคนน้อยใจ เมื่อความใกล้ชิดไม่อาจทำให้หมอวายุ รู้สึกพิเศษกับเธอบ้างเลย
“เอาไว้ ถ้าฝนสุดาคลอดลูกเมื่อไหร่ ผมจะพาไปเลี้ยงฉลองนะครับหมอพราว” ทุกถ้อยคำที่หมอหนุ่มพูดออกมานั้น หมอสาวสัมผัสได้ถึงความลึกล้ำภายในใจ ที่เขาไม่เคยมีให้ใครมาก่อน ซึ่งเธอรู้จักกับเขามาหลายปียังเคยแอบคิดว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่า
“หมอได้เลี้ยงพราวแน่นอนค่ะ ขอตัวไปตรวจคนไข้ก่อนนะคะ” เมื่อหมอพราวกนกเดินออกไปจากห้อง ทำให้หมอหนุ่มที่มีใบหน้าเรียบเฉย เอื้อมมือไปหยิบสมาร์ตโฟนเครื่องแพงขึ้นมา ก่อนจะเปิดไปที่หมวดรูปภาพ ที่เขาแอบถ่ายฝนสุดาเอาไว้เมื่อตอนกลางวัน พร้อมกับเผยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากเห็นฟันล่างเล็กน้อย ซึ่งไม่บ่อยครั้งกับความรู้สึกดีๆ ที่จะทำให้หมอวายุมีรอยยิ้มแบบนี้
“ถ้าผมมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ยังจะยัดเยียดนุชวราให้กับผมอยู่อีกไหมครับ” หมอหนุ่มถามออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ จนบิดามารดาไม่สามารถเดาความคิดของเขาออก ซึ่งคนทั้งคู่คิดว่าลูกชายเพียงแค่อยากรู้คำตอบเท่านั้น “พ่อกับแม่ไม่ใช่คนใจร้าย ที่จะพรากลูกพรากเมียใครหรอกนะ ถ้าหมอมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ก็จะไม่บังคับให้ลูกต้องหมั้น หรือแต่งงานกับนุชวราหรอก แต่ลูกชายของแม่โสดไม่มีใคร แล้วทำไมจะแต่งงานกับหนูนุชไม่ได้ หรือว่าลูกชอบไม้ป่าเดียวกัน แม่ไม่ยอมแน่” ผู้เป็นมารดาเริ่มคิดไปต่างๆ นานา เมื่อลูกชายมีท่าทางที่อิดออด ไม่อยากจะแต่งงานกับสาวสวยที่เพอร์เฟกต์อย่างนุชวรา “ผมไม่มีใครหรอกครับแม่ แต่ขอเวลาอีกสามเดือนได้ไหมครับ ผมไม่เคยขออะไรจากแม่เลย ถ้าหากว่าผมจะต้องหมั้นหรือแต่งงานกับนุชวราจริงๆ ขอให้ผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผม เพียงแค่สามเดือนจะได้ไหมครับแม่”
“เอวาขอร้องได้ไหมคะ ระหว่างที่เราคบกันและคุณยังการันตีในความสัมพันธ์ของเราให้ใครต่อใครได้ทราบ ก็ให้เกียรติเอวาบ้างหน่อยเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า เมื่อเธอนั้นได้กลายเป็นเพียงแค่แฟนในนาม แต่เรื่องบนเตียงกลับเล่นจริงไม่ใช้สแตนด์อิน “รอให้หมอวายุหมั้นและแต่งงานกับนุชวราเมื่อไหร่ ผมจะปล่อยคุณไปให้เป็นอิสระ” เขาช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว แม้ว่าเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่เอวาได้รับนั้น จะเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากใช้ชีวิตร่วมกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงมากกว่า “คุณพายุ ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปีคุณไม่คิดที่จะมีใจให้เอวาบ้างเลยหรือไง” คราวนี้หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พัดพ้อ เมื่อเขาให้ความสำคัญในตำแหน่งแฟน เพียงแค่ต้องการให้หล่อนเป็นไม้กันหมาให้เขาเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาของชายหนุ่ม ก็ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนเนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนโต จึงถูกเลี้ยงดูตามใจมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่หมอวายุนั้นถูกบังคับ ให้ทำตามความประสงค์ของบุพการี ทั้งการเรียนและเรื่องของหัวใน ท้ายที่สุดเขาต้องเรียนแพทย์ ทั้งที่
ผับใจกลางเมือง มิรากำลังนั่งดื่มอยู่กับเบส สายตาของเธอได้เหลือบไปเห็นหญิงสาว ที่มีรูปร่างคุ้นตา แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่ขวัญดาวหรือเปล่า เนื่องจากโต๊ะโซนวีไอพี ซึ่งถัดออกไปจากเธอพอสมควร หญิงสาวกำลังนั่งดื่มอยู่กับคาสโนว่าตัวพ่ออย่างพายุ นักธุรกิจหนุ่มที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่เขายังคงเป็นคุณชายเจ้าสำราญไม่เลิกรา“ถ้าผมจะกลับมาคบกับคุณอีกจะได้ไหม มิรา” น้ำเสียงของกัปตันหนุ่มฟังดูน่าหลงใหล แต่มิรากลับรู้สึกไม่ไหว ถ้าหากเธอจะต้องมานั่งร้องไห้ เมื่อเขาบอกเลิก และที่เธอยอมออกมาดื่มเป็นเพื่อนแฟนเก่าก็แค่ต้องการปลอบโยน ที่เขานั้นได้เสียบิดาไป ในขณะที่แฟนใหม่ขอยุติความสัมพันธ์ ซึ่งมิราไม่มีวันจะกลับไปเป็นแฟนกับเขาอีกเป็นเด็ดขาด “เป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว อย่าพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาที่เดิม เมื่อใจสองดวงได้เปลี่ยนไปแล้ว มิราจะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเบสเสมอนะ” คำพูดของอดีตคนรัก ทำให้กัปตันหนุ่มซาบซึ้งใจ เขาไม่น่าทิ้งเธอไปทั้งที่คบกันมาเป็นสิบปี
ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปรือลงอย่างช้าๆ เมื่อเธอกำลังจินตนาการว่าตัวเองนั้น กำลังเป็นนางเอกในซีรี่ย์ ที่มีหมอหนุ่มหน้าตาดี เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทำให้เธอตั้งครรภ์ ก่อนที่หญิงสาวจะไม่มีมดลูก “คุณ... คุณฝนสุดา หลับอีกแล้วเหรอ” เสียงทุ้มของหมอหนุ่มที่ดังข้างใบหูของเธอ จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ “เอ่อ... ขะ ขอโทษค่ะ” ฝนสุดารีบดีดตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับใบหน้าที่เหลอหลา ก่อนจะกล่าวขอโทษเขาออกมาด้วยคำพูดที่ติดอ่าง พร้อมกับรีบก้มหน้าลงต่ำ เพื่อหลบสายตาคมของหมอหนุ่ม เมื่อเธอเดาความรู้สึกของเขาไม่ออก การวางสีหน้าที่เรียบเฉยตลอดเวลา พร้อมกับเก๊กท่าวางมาดเข้ม บวกกับบุคลิกของหมอหนุ่มดูหล่อเท่สมาร์ต แต่ทว่าบางทีก็ดูลึกลับจนน่าค้นหา ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยของฝนสุดาอดที่จะหวั่นไหว ให้กับหมอวายุไม่ได้ “ผมเพิ่งบอกคุณไปไม่กี่นาที จะลุกจะเดินต้องระวัง ไม่อย่างนั้นคุณมีสิทธิ์แท้งแน่ ถ้าย้ายตั
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งเอาไว้ในสไตล์นอร์ดิก แลดูโล่ง โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่ดูอบอุ่นเรียบหรูดูแพง ซึ่งมีโทนขาว เทาเป็นหลัก ทั้งผ้าปูและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งภายใน ผนังของห้องใช้สีพาสเทลอ่อนๆ บ่งบอกให้รู้ถึงรสนิยมของคนอาศัยที่มีใบหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญหมอวายุเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบ แต่คนรอบข้างมักจะนำพาความวุ่นวาย เข้ามาภายในชีวิตของเขาไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะเรื่องการหมั้นระหว่างเขากับนุชวรา คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ ค่อยๆ พลิกกายบิดตัวหาวออกมา เมื่อเธอรู้สึกสบายตัวที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม บวกกับที่นอนไม่หลับมาทั้งคืน เนื่องจากตื่นเต้นกับการมาตามนัด เพื่อรับฟังรายละเอียดในขั้นตอนของการทำร่างกายให้พร้อม สำหรับการตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้หญิงสาวหลับยาวไปหลายชั่วโมง "อืม..." ฝนสุดาครางออกมาจากในลำคอ พร้อมกับบิดขี้เกียจอย่างอ้อยอิ่ง เมื่อเธอไม่อยากลุกออกจากเตียงนุ่มนี่เลยสักนิด จากนั้นหญิงสาวจึงค่อยๆ พลิกกายกลับมานอนหงาย เธอปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะพบว่าเพดานของห้องนอน แปลกไปจากที่คุ้นเคย แน่นอนเพราะนี่มันไม
หลายวันผ่านไป หลังจากที่นายแพทย์หนุ่มหนุ่มพยายามเลื่อนนัดนุชวรามาหลายครั้ง ในวันนี้เธอจึงจำเป็นที่จะต้องบุกไปหาเขาที่โรงพยาบาล จนทำให้หมอหนุ่มจำใจต้องออกมารับประทานมื้อเย็นกับหญิงสาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเขานั้นจะรู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องออกไปรับประทานมื้อเย็น ภายใต้แสงเทียน หล่อนคงอยากสร้างความประทับใจให้กับเดตแรกระหว่างเธอกับหมอวายุ "พี่หมอค่ะ ทำไมต้องทำหน้าเหมือนกับว่า กำลังลำบากใจที่ออกมาทานข้าวกับนุช" นุชวราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เมื่อหล่อนพยายามเข้าใกล้ แต่หมอวายุกลับมีท่าทีถอยห่างออกไป ทั้งที่เขาก็ไม่มีใครทำไมไม่รับปากตกลงหมั้นกับเธอสักที "พอดีว่าช่วงนี้ผมมีเรื่องเครียดนิดหน่อย การเป็นหมอต้องอยู่ภายใต้แรงกดดัน ซึ่งคนไข้ได้ฝากชีวิตไว้กับแพทย์ที่รักษา ผมจึงอยากทุ่มเทชีวิตนี้ให้กับวงการแพทย์ ถ้านุชเจอใครที่ถูกใจ ก็รีบคว้าเอาไว้อย่าฝากความหวังไว้ที่ผมเลยนะครับ" ใบหน้าอันหล่อเหลาของหมอหนุ่ม ดูเรียบเฉยไร้วี่แววของการมีใจ บางครั้งนุชวราก็อยากเอ่ย