แชร์

ตอนที่ 52 ข้าไม่ได้ตั้งใจ

ผู้เขียน: กุหลาบดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-16 07:42:51

“ข้าจะคิดเรื่องนี้ให้มากขึ้น เสด็จแม่” เขาตอบเสียงเรียบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน

“หยวนเจ๋อ” นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ลูกควรดูแลพระชายาให้มากกว่านี้ อย่าปล่อยให้นางรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะหากวันหนึ่งลูกเสียสิ่งสำคัญไปแล้ว ลูกจะเสียใจ”

องค์รัชทายาทชะงักไปเล็กน้อยกับคำเตือนของพระมารดา ดวงตาคมของเขาหลุบต่ำลงคล้ายครุ่นคิด ก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“เสด็จแม่ ลูกเพียงต้องการให้นางดูแลตัวเองและลูกในครรภ์ให้ดีที่สุด”

ฮองเฮาถอนพระทัยเบา ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง

“แล้วลูกเคยถามนางบ้างหรือไม่ ว่านางรู้สึกอย่างไร”

หลี่หยวนเจ๋อเงียบไป นางใช้โอกาสนี้กล่าวต่อ

“ตั้งแต่ลูกอภิเษกกับนางมา นางทำทุกอย่างเพื่อลูก ไม่เคยบ่น ไม่เคยร้องขอสิ่งใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีผู้กล่าวหาว่านางเป็นสตรีเอาแต่ใจ แต่ลูกเคยเห็นหรือไม่ว่านางเคยเรียกร้องอะไรจากลูกเลย”

ดวงตาของหลี่หยวนเจ๋อวูบไหวเล็กน้อย แม้สีหน้ายังคงสงบนิ่ง แต่ภายในใจก็เริ่มเกิดความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่อยากยอมรับ

“นางอาจดูเข้มแข็ง แต่ในใจลึก ๆ สตรีที่ตั้งครรภ์ย่อมต้องการกำลังใจ ต้องการให้สามีของนางเป็นที่พึ่ง ลูกอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 53 ข้าจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเจ้า

    คืนนี้ หลี่หยวนเจ๋อเดินตรงไปยังตำหนักของพระชายาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ปล่อยให้ระยะห่างระหว่างพวกเขายืดเยื้อต่อไปอีกแล้วเมื่อมาถึง แสงตะเกียงยังคงส่องสว่างอยู่ด้านใน เขาเปิดประตูเข้าไปเงียบ ๆ ภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเขากระตุก เหวิ่นจือหยูยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ มือเรียวพลิกเอกสารนางดูสงบนิ่งและตั้งใจทำงาน แต่แววตาของนางกลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเขาก้าวเข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าเคย“ดึกมากแล้ว เหตุใด้เจ้ายังนอน”เหวิ่นจือหยูเงยหน้าขึ้นมองเขาเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มลงทำงานต่อ“หม่อมฉันเพิ่งจัดการเอกสารเสร็จ เพคะ”คำตอบของนางสุภาพ ราบเรียบ แต่ห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด หลี่หยวนเจ๋อเม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงกำแพงที่กั้นระหว่างพวกเขา มันไม่ใช่ความเย็นชาหรือการต่อต้าน แต่มันเป็นความเฉยชา ที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบเขาเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะนั่งลงข้างนาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าอยากให้เจ้าพักผ่อน ช่วงนี้เจ้าทำงานหนักเกินไป”เหวิ่นจือหยูชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “หม่อมฉันเพียงทำในสิ่งที่ควรทำเพคะ”เขารู้ดีว่าตลอดมา นางพยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 52 ข้าไม่ได้ตั้งใจ

    “ข้าจะคิดเรื่องนี้ให้มากขึ้น เสด็จแม่” เขาตอบเสียงเรียบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน“หยวนเจ๋อ” นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ลูกควรดูแลพระชายาให้มากกว่านี้ อย่าปล่อยให้นางรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะหากวันหนึ่งลูกเสียสิ่งสำคัญไปแล้ว ลูกจะเสียใจ”องค์รัชทายาทชะงักไปเล็กน้อยกับคำเตือนของพระมารดา ดวงตาคมของเขาหลุบต่ำลงคล้ายครุ่นคิด ก่อนจะตอบเสียงเรียบ“เสด็จแม่ ลูกเพียงต้องการให้นางดูแลตัวเองและลูกในครรภ์ให้ดีที่สุด”ฮองเฮาถอนพระทัยเบา ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง“แล้วลูกเคยถามนางบ้างหรือไม่ ว่านางรู้สึกอย่างไร”หลี่หยวนเจ๋อเงียบไป นางใช้โอกาสนี้กล่าวต่อ“ตั้งแต่ลูกอภิเษกกับนางมา นางทำทุกอย่างเพื่อลูก ไม่เคยบ่น ไม่เคยร้องขอสิ่งใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีผู้กล่าวหาว่านางเป็นสตรีเอาแต่ใจ แต่ลูกเคยเห็นหรือไม่ว่านางเคยเรียกร้องอะไรจากลูกเลย”ดวงตาของหลี่หยวนเจ๋อวูบไหวเล็กน้อย แม้สีหน้ายังคงสงบนิ่ง แต่ภายในใจก็เริ่มเกิดความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่อยากยอมรับ“นางอาจดูเข้มแข็ง แต่ในใจลึก ๆ สตรีที่ตั้งครรภ์ย่อมต้องการกำลังใจ ต้องการให้สามีของนางเป็นที่พึ่ง ลูกอ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 51 เช่นนั้นแล้วข้าจะไม่พยายามอีกต่อไป

    ในเช้าวันต่อมา หลี่หยวนเจ๋อมาหาเหวิ่นจือหยูที่ห้องอักษร เมื่อคืนเขาไม่ได้ให้องครักษ์เปิดประตูให้พระชายาเข้าไปในตำหนักเขา เพียงเพราะอยากให้นางคิดทบทวนความผิด แต่จนแล้วจนเล่านางก็เอาแต่หมกตัวอยู่ห้องอักษร ครั้งนี้เขาจึงต้องมาคุยกับนางแต่เช้า แต่ครั้งนี้ฝีเท้าของเขาหนักแน่นกว่าทุกครั้ง และเมื่อยืนอยู่ตรงหน้านาง ใบหน้าของเขาก็ตึงเครียดจนสังเกตได้ชัดเหวิ่นจือหยูที่กำลังอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองเขา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัย “มีอะไรหรือเพคะ”แต่ยังไม่ทันที่นางจะพูดจบ หลี่หยวนเจ๋อกลับเอ่ยแทรกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้าคิดถึงลูกของเราบ้างหรือไม่”คำถามนั้นทำให้เหวิ่นจือหยูชะงักไป ดวงตาของนางไหววูบ ขณะที่หลี่หยวนเจ๋อจ้องมองมาอย่างไม่พอใจ“หม่อมฉัน” นางเอ่ยออกมาแผ่วเบา แต่ยังไม่ทันได้อธิบาย เขากลับพูดขัดขึ้น“ข้าลืมไป หากเจ้าเป็นห่วงลูกของเราจริง เจ้าจะไม่มัวแต่มัวแต่ทุ่มเทให้กับเพลงดาบ จนลืมไปว่าเจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตำหนิ และในดวงตานั้นมีทั้งความไม่พอใจ ความผิดหวัง และความกังวลปะปนกันเหวิ่นจือหยูลอบเม้มริมฝีปาก นางรู้สึกผิดและเข้าใจดีว่าหลี่หยวนเจ๋อกำลังพ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 50 ความไม่พอใจของหลี่หยวน

    “นางคืออัญมณีที่มีค่าในราชสำนัก”เสียงฮ่องเต้ดังกังวานไปทั่วท้องพระโรง ขณะพระองค์ทอดพระเนตรไปยังเหวิ่นจือหยูที่ยืนอยู่กลางงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ สายพระเนตรนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความเอ็นดู“พระชายา ไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังเป็นนักรบที่มีหัวใจและจิตวิญญาณที่กล้าหาญ” ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงชัดเจน ก่อนหันไปมองฮองเฮา“เจ้าเก่งมาก หยูเอ๋อร์” ฮองเฮากล่าวพร้อมจับมือของเธอไว้ “เจ้ากำลังพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าคือคนที่คู่ควร”เหวิ่นจือหยูยิ้มรับ “ขอบพระทัยเพคะ เสด็จแม่ ทุกอย่างที่หม่อมฉันทำได้ในวันนี้เพราะได้รับการสนับสนุนจากพระองค์”“ไม่ใช่เพียงข้าหรอก เจ้าต่างหากที่สร้างความเปลี่ยนแปลง” ฮองเฮาตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนฮ่องเต้ยิ้มพร้อมตรัสขึ้น “นอกจากความสามารถที่เจ้าแสดงให้เห็น ข้ายังได้รับข่าวดีเรื่องที่เจ้าตั้งครรภ์อีก นับเป็นข่าวดีในราชสำนักแห่งนี้”เสียงปรบมือและเสียงแสดงความยินดีดังกึกก้อง หลี่หยวนเจ๋อยืนอยู่ข้างพระชายาของตน แม้จะพยายามเก็บอาการ แต่รอยยิ้มบางๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เหวิ่นจือหยู ซึ่งกำลังพูดคุยกับแขกผู้มีเกียรติอ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 49 อัญมณีแห่งราชสำนัก

    ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นหลังจากการดวลเพลงดาบอันน่าประทับใจของเหวิ่นจือหยู เหล่าแขกจากแคว้นต่างๆ ที่มาร่วมงานต่างทยอยเข้ามาทักทาย โดยเฉพาะตัวแทนจากแคว้นตะวันตกที่ขึ้นชื่อเรื่องวรรณกรรมและศิลปะพร้อมล่ามได้เข้ามาทักทาย“Your Highness, I must say, your skills with the sword are truly remarkable,” แขกชาวต่างชาติคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ขณะเดินเข้ามาใกล้เหวิ่นจือหยู และชี้ไปที่ดาบในมือของนางอย่างสนใจ “I have never seen a woman wield a sword with such elegance and power.”“Thank you for your kind words,” เหวิ่นจือหยูตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ “I have trained hard, and it is an honor to showcase my skills today.”“พระชายา ความสามารถของท่านในการควงดาบนั้นยอดเยี่ยมมาก” ชายชาวต่างชาติกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ขณะเดินเข้ามาใกล้ “ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นสตรีนางใดที่ร่ายรำดาบได้ทั้งอ่อนช้อยและทรงพลังเช่นนี้มาก่อนเลย”“ขอบคุณสำหรับคำชม ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนมาอย่างหนัก และถือเป็นเกียรติที่ได้แสดงฝีมือในวันนี้”ผู้คนโดยรอบต่างพากันตกตะลึง ไม่เพียงเพราะท่วงท่าดาบที่สง่างามของพระชายา แต่ย

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 48 ความสามารถที่ไม่ทีใครรู้

    “นี่คือพระตำหนักที่ข้าตั้งใจจะสร้าง ซึ่งข้าขนานนามว่า ‘ตำหนักสวรรค์แห่งความสงบ’” เหวิ่นจือหยูเริ่มต้นอธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “พระตำหนักนี้ถูกออกแบบให้มีลมพัดผ่านและแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน เพื่อทำให้เย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว”บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงที่เคยเงียบเสียง เปลี่ยนเป็นความตื่นตัวเมื่อแขกเหรื่อเริ่มตั้งใจฟัง นางใช้พู่กันขยับวาดภาพอย่างมั่นใจ เส้นสายแต่ละเส้นที่ปรากฏบนกระดาษสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญ“ภายในพระตำหนักจะมีห้องนั่งเล่นกว้างขวาง สามารถรองรับงานเลี้ยงและการเฉลิมฉลองได้ ภายนอกมีสวนดอกไม้ล้อมรอบ พร้อมน้ำพุที่ให้ความสดชื่นและความสงบแก่ผู้ที่มาเยือน” เหวิ่นจือหยูเอ่ยพร้อมกับชี้นิ้วไปยังจุดต่างๆ บนภาพวาดที่งดงาม“จริงๆ แล้ว การออกแบบตำหนักไม่ใช่แค่การวาดภาพเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้ทางสถาปัตยกรรมและการจัดการสภาพแวดล้อมด้วย” นางกล่าวอย่างมีความรู้ เสียงซุบซิบดังขึ้นในหมู่แขก บ้างชื่นชม บ้างสงสัย แต่ทุกคนไม่อาจละสายตาจากภาพวาดที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง“สำคัญที่สุด วัสดุที่ใช้ต้องทนทาน เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข” นางหันไปสบตาเหล่าผู้ฟัง น้ำเสี

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 47 รับคำท้า

    “ข้าเชื่อว่า หากจัดการประลองความรู้รอบตัวและการทรงอักษร เพื่อแสดงว่าใครมีปัญญามากที่สุด คงจะน่าสนใจกว่าการแสดงดนตรีธรรมดาๆ นี้เป็นแน่”เหวิ่นลี่หยากล่าวท้าทายอย่างชัดเจน ทำให้ทุกสายตาหันมาจับจ้องและสนใจในความท้าทายนี้“มีใครเห็นด้วยกับข้าหรือไม่” เหวิ่นลี่หยาเอ่ยถาม ราวกับกำลังประกาศสงครามต่อทุกคนในงานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพฮ่องเต้ “มีนักปราชญ์ท่านใดหรือตัวเเทนจากแคว้นใดจะลงแข่งหรือไม่”คำถามนี้เปรียบเสมือนลูกธนูที่ยิงตรงไปยังเหล่าผู้ร่วมงาน บรรยากาศอันสงบเริ่มตึงเครียดขึ้นทันที ก่อนจะมีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากบุรุษผู้หนึ่ง“ข้าเอง ข้าองค์ชายเหลียงเซวียนไห่ จากแคว้นเฉวียนตู จะท้าประลองเอง มีใครจะอาสาประลองกับข้าหรือไม่” องค์ชายที่มีรูปร่างงดงามจากต่างแดนรับคำท้า เหลียงเซวียนไห่ลุกขึ้นจากที่นั่ง ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจจนทำให้ผู้คนรอบข้างพูดคุยกันอย่างตื่น“เขาว่ากันว่า องค์ชายเหลียง ทรงเป็นผู้รอบรู้ในศาสตร์ทั้งปวง อีกทั้งทรงมีไหวพริบและปฏิภาณดีมาก หากต้องการคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียม คงมีเพียงองค์รัชทายาทแคว้นหลี่เท่านั้น”เสียงขุนนางบางคนกระซิบอย่างเกรงขาม แต่ เหวิ่นลี่หยากลับยิ้มเย

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 46 โดนท้าทาย

    “ถ้าเช่นนั้น นับว่าเป็นเกียรติแก่พวกเรา เชิญพระชายาแห่งองค์ชายหลี่จวิ้นได้เลยเพคะ”คำเชิญทำให้เหวิ่นลี่หยาก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วยความมั่นใจ ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มอันนุ่มนวล“เราจะเล่นเพลงง่ายๆ ร่วมกัน” หญิงนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญกล่าวทันทีที่เสียงดนตรีเริ่มต้น ความไพเราะของบทเพลงได้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว เหวิ่นลี่หยาสามารถเล่นร่วมกับนักดนตรีได้อย่างลงตัว เสียงดนตรีที่ประสานกันสร้างความสุขแก่ผู้ฟัง แขกในงานต่างปรบมือด้วยความชื่นชม“ดูสิ พระชายาของเราทำได้ดีและดูงดงามมาก”องค์ชายหลี่จวิ้น กล่าวกับขุนนางใกล้เคียง น้ำเสียงภาคภูมิและชื่นขม เมื่อบทเพลงจบลง ผู้คนเริ่มส่งเสียงปรบมืออย่างดังกึกก้อง สร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและความสุขในงานเลี้ยง“ขอบคุณที่ให้โอกาสข้าได้แสดง” เหวิ่นลี่หยากล่าวพร้อมรอยยิ้มให้กับนักดนตรี “ท่านเก่งมากจริงๆ” หญิงสาวตอบ “ข้าหวังว่าเราจะได้มีโอกาสร่วมงานกันอีกในอนาคต”เมื่อการแสดงจบลง เหวิ่นลี่หยารู้สึกดีใจและมีความสุขอย่างมากที่สามารถดึงความนิยมกลับมาให้ตัวเองได้ นอกจากเสียงปรบมือที่ดังก้อง ยังมีผู้ชมที่ชื่นชมและพูดคุยกันเกี่ยวกับการแสดงของนางอยู่ทั่วงาน“เมื่อสั

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 45 ท้าดวล

    “เมื่อแสงจันทร์ส่องผ่านป่าช้า ความเงียบงันราวกับความหวังเลือนหาย กลางค่ำคืนที่หนาวเหน็บและยาวนาน จิตใจยังหวังถึงความรักที่ไม่ไกล”ผู้คนเริ่มปรบมือให้กับบทกวีที่สวยงาม ขณะที่ซือหยางรู้สึกกดดันขึ้น เขาตัดสินใจแสดงความสามารถของตนด้วยบทกวีของเขา“ในยามค่ำคืนเมื่อดาวระยิบระยับ เสียงลมพัดมาให้ใจเริ่มหวั่นไหว แสงแดดเจิดจ้าตอนเช้ากลับมา แต่ความรักของเจ้าหล่นหายไปไกล”ผู้คนเริ่มกระซิบพูดคุยกันเกี่ยวกับบทกวีของทั้งสอง เมื่อได้ยินคำกล่าวของซือหยาง ทุกคนก็เริ่มเป็นกังวลแทนพระชายาอีกครั้ง“ทำไมพระชายาไม่ร่ายอีกสักบท” ซือหยางถามเสียงหัวเราะ ทำให้ความกดดันเพิ่มขึ้นเหวิ่นจือหยูยิ้มและตอบว่า “เพราะข้ายังมีบทอีกบทหนึ่งที่อยากจะบอก”“ใครจะรู้ว่าวรรณกรรมยังมีอยู่ในใจ ข้าจะยืนยันว่าไม่มีใครสามารถปิดกั้น ความรู้ของข้าเต็มไปด้วยความหวัง แม้จะมีอุปสรรค ใจก็ไม่ยอมแพ้”การตอบโต้ในครั้งนี้ทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นไปอีก ซือหยางรู้สึกเริ่มอ่อนแรง เขาจึงตอบกลับไปด้วยบทกวีอีกบทหนึ่ง“ถึงแม้ใจจะเต็มไปด้วยความหวัง แต่จะมีกี่คนที่เข้าใจความหมาย ในที่มืดมน ความสว่างยังคงหลอกลวง ใจคนจึงมักหลงทา

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status