ตอนที่
11
เจอกันบ่อยไปไหม
เสียงจอแจในโรงอาหารอื้ออึงดังคับคั่ง ปรายฟ้ากำลังหอบถาดข้าวแกงเดินหาที่นั่ง แต่ไม่มีโต๊ะว่างเลยสักโต๊ะ เหลือเพียงมุมเล็ก ๆ ที่มีภาคภูมินั่งอยู่คนเดียว ทำให้เธอตัดสินใจเดินตรงเข้าไปทันที
“ขอนั่งด้วยคนนะ” ปรายฟ้าพูดขึ้นเบา ๆ พลางมองหากัสและมีนาที่กำลังซื้ออาหารหวังว่าจะเรียกเพื่อนมานั่งด้วย
ภาคภูมิพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ดวงตาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง
ปรายฟ้านั่งลงตรงข้ามกับเขา วางจานข้าวลงบนโต๊ะพลางชำเลืองมองภาคภูมิที่ดูจริงจังแม้กระทั่งตอนกินข้าว เธอเห็นกัสและมีนากำลังเดินถือจานข้าวมาทางนี้พอดี จึงรีบกวักมือเรียกอย่างร่าเริง
“นี่กัส มีนา มานั่งนี่สิ โต๊ะนี่ว่าง”
กัสกับมีนาหันมามองก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ภาคภูมิที่นั่งอยู่กับปรายฟ้า ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มเดินตรงมาที่โต๊ะ
“โอ๊ย!!! ตายแล้วปรายฟ้า มานั่งกินข้าวกับนายภาคภูมิได้ไงเนี่ย” มีนากระซิบกัสแต่เสียงดังพอให้ทุกคนที่โต๊ะได้ยิน
“นั่นสิ ฉันว่าแล้วเชียวทำไม ปรายฟ้าถึงชอบโรงอาหารเวลานี้” กัสแซวต่อพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ปรายฟ้าหน้าแดงเล็กน้อย หันไปค้อนเพื่อนทั้งสองคน “พวกแกสองคนนี่ก็นะ ฉันแค่ไม่มีที่นั่งเฉย ๆ หรือพวกแกจะไม่นั่งล่ะ ยืนกินไหมล่ะ”
“นั่งกินค่ะ คุณปราย ใจเย็น ๆ เนอะ ไม่ใช้อารมณ์กับเพื่อนนะคะ” มีนาพูดแซวเพื่อนแล้วก็นั่งลงข้าง ๆ ปรายฟ้า
ภาคภูมิเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน ๆ ของปรายฟ้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะกินข้าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับพวกเธอเป็นเพียงเสียงรบกวน
ในขณะนั้นชัยวัฒน์และณัฐพลก็เดินถือจานอาหารมาพอดีจึงนั่งลงข้าง ๆ ภาคภูมิ
“อ้าว ๆ สาว ๆ นิเทศ วันนี้บังเอิญจังได้กินข้าวด้วยกัน” ชัยวัฒน์พูดขึ้นมาแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ไม่ได้อยากบังเอิญนักหรอกนะ” ปรายฟ้าบ่นพึมพำริมฝีปากเม้มแน่นขณะตักข้าวเข้าปาก ส่วนมีนาก็ทำหน้ายียวนใส่ชัยวัฒน์
“บังเอิญจนหน้าแดงเลยนะปรายฟ้า” ชัยวัฒน์แซวต่อพลางชำเลืองมองภาคภูมิ
“นี่ไงไอ้ภูมิเพื่อนของฉันเขินใหญ่แล้ว”
ภาคภูมิเงยหน้าขั้นมองชัยวัฒน์ด้วยสายตานิ่ง ๆ บ่งบอกถึงความรำคาญอย่างชัดเจน
“แกว่างมากใช่ไหมชัย ถ้าว่างมากก็รีบกินแล้วก็รีบไปทำงานช่วยฉันอย่าพูดมาก”
“โอ๊ย!!! ดุจังเลยเพื่อน” ชัยวัฒน์แกล้งทำหน้าเศร้า
“แค่แซวเล่นนิดเดียวเอง ก็เห็นว่าช่วงนี้พวกแกตัวติดกันยิ่งกว่าปาท่องโก๋อีก” เขาพูดยั่วพร้อมหัวเราะคิกคัก
ปรายฟ้าวางช้อนเสียงดัง ใบหน้าบึ้งตึง “ตัวติดกันอะไรกัน พวกฉันแค่ทำงานร่วมกัน โปรเจกต์มันใหญ่”
“จ้า ๆ ใหญ่จริงจ้า” มีนาแซวเสริม
“ใหญ่จนแกแทบจะไม่กลับหอแล้วเนี่ย”
ณัฐพลที่ฟังอยู่เงียบ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มให้กับความป่วนของเพื่อน ๆ แล้วเขาก็เหลือบมองกัสที่กำลังตั้งใจกินข้าวอย่างเงียบ ๆ พลางตักผักอาหารในจานของเขาให้กับกัสเล็กน้อยโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น กัสหันมามองณัฐพลแล้วยิ้มให้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงแซวและเสียงหัวเราะเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงแม้จะมีบทสนทนาที่จิกกัดกันบ้าง แต่ก็สัมผัสได้ถึงมิตรภาพและความคุ้นเคยที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ
ช่วงสัปดาห์ต่อมา ทั้งภาคภูมิและปรายฟ้าและเพื่อน ๆ ต้องทำงานด้วยกันมากขึ้นและอยู่ใกล้กันบ่อยมากขึ้น ปรายฟ้าเริ่มสังเกตเห็นว่าภาคภูมิไม่ได้เป็นคนเย็นชาอย่างที่เธอเข้าใจ เขามีมุมที่นุ่มนวลและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่แสดงออก
ภาคภูมิเองก็เริ่มสังเกตเห็นว่าปรายฟ้าไม่ได้วุ่นวายอย่างเดียว เธอมักจะมีไอเดียแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยคิดถึง เธอสามารถพูดคุยและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ทำให้โปรเจกต์ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก
เวลาที่เธอหัวเราะเสียงใส ๆ หรือเวลาที่เธอกระตือรือร้นกับกิจกรรมที่เธอรัก มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด และบางครั้งก็อดจะยิ้มตามไม่ได้
ภาคภูมิเริ่มรู้สึกว่าเธอก็มีความสามารถในแบบของเธอและเธออาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นอย่างที่เขาเคยตัดสินไปก่อนหน้า
คืนวันศุกร์ ณ ผับแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเสียงเพลงดังกระหึ่มแสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่ว ภาคภูมินั่งอยู่บนโซฟามุมหนึ่งกับชัยวัฒน์และณัฐพลที่กำลังสนุกกับการดื่มและคุยกับสาว ๆ ที่เดินผ่านไปมา
“ไงไอ้ภูมิ ทำไมเงียบจังวะ” ชัยวัฒน์แซว
“ไม่ชวนปรายฟ้ามาด้วยล่ะ เห็นช่วงนี้อยู่ด้วยกันบ่อย”
ภาคภูมิแค่ยักไหล่ “เรื่องงาน” เขาตอบสั้น ๆ แต่สายตากลับกวาดมองไปรอบ ๆ ผับอย่างไม่รู้ตัว
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ปรายฟ้าก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับ กัสและมีนา เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ดึงดูดสายตาจากหลายโต๊ะ
“โอ๊ยตายแล้ว!!! ปรายฟ้ามาผับเนี่ยนะ” ณัฐพลหันไปกระซิบกับชัยวัฒน์
“ปกติเห็นแต่ในห้องประชุม”
ชัยวัฒน์เห็นปรายฟ้าก็ยิ้มกริ่ม “บังเอิญดีนะเนี่ย บังเอิญจนน่าประหลาดใจหรือว่าจะมีใครเป็นเนื้อคู่ใคร”
จังหวะที่ปรายฟ้าหันมาเห็นโต๊ะของภาคภูมิพอดี กัสก็โบกมือหยอย ๆ แล้วตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง
“ปรายฟ้ามานั่งด้วยกันสิ”
ปรายฟ้าทำท่าจะปฏิเสธแต่กัสกับมีนาก็เดินนำไปแล้ว ทำให้เธอจำต้องเดินตามไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับภาคภูมิและเพื่อน ๆ ทันทีที่นั่งลง มีนาก็แทรกตัวไปนั่งข้าง ๆ ชัยวัฒน์ส่วนกัสก็ขยับไปนั่งใกล้ ๆ ณัฐพลอย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่ทันไรก็มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่ดูท่าทางเป็นสาวสังคมจัดเดินเข้ามาคลอเคลียภาคภูมิ เธอวางมือบนต้นแขนของเขาอย่างสนิทสนมพลางยิ้มหวานหยดย้อย
“ไงคะ ภาคภูมิไม่เจอกันนานเลยนะ คิดถึงจัง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
ภาคภูมิพยักหน้าให้เล็กน้อย “ครับ” เขาตอบสั้น ๆ พลางพยายามขยับตัวออกห่างอย่างแนบเนียนแต่หญิงสาวคนนั้นกลับยิ่งโน้มตัวเข้ามาใกล้จนแทบจะนั่งลงบนตักเขา
ปรายฟ้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอแอบชำเลืองมองภาคภูมิด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวคนนั้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งขัดหูขัดตาขึ้นมาทันที
“นี่มันเสือผู้หญิงชัด ๆ” ปรายฟ้าคิดในใจเสียงความคิดนั้นแฝงความขุ่นเคือง
“ดูท่าทางไม่ค่อยจะสนใจ แต่ก็ปล่อยให้เขามาเกาะแกะแบบนี้” ความรู้สึกไม่ชอบใจก่อตัวขึ้นในใจอย่างประหลาด ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของเธอเลยแท้ ๆ แต่เธอกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
ชัยวัฒน์และณัฐพลแอบมองหน้ากันอย่างรู้กัน พวกเขาเห็นแววตาของปรายฟ้าที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
“สงสัยต้องมีอะไรสนุก ๆ ให้ดูแล้วสิ” ณัฐพลกระซิบชัยวัฒน์
ภาคภูมิ ที่กำลังพยายามจะเอาตัวรอดจากสาวสวยคนนั้น ก็เผลอหันไปสบตากับปรายฟ้าเข้าพอดี สายตาของเขาดูเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างแต่ปรายฟ้าก็รีบเบือนหน้าหนีทันที ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดที่อธิบายไม่ได้ ราวกับภาพที่เห็นมันทิ่มแทงใจ
มีนาสังเกตเห็นท่าทีของปรายฟ้าก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม เธอกระซิบถาม ปรายฟ้าเบาๆ
“เป็นอะไรไปปราย เห็นทำหน้าเหมือนอยากจะพ่นไฟใส่ใครบางคน”
ปรายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อย “เปล่านี่! ฉันแค่รำคาญเฉยๆ รำคาญอะไรก็ไม่รู้”
ในขณะที่คนอื่นกำลังสนใจเหตุการณ์ตรงหน้า กัสก็แอบยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ณัฐพล "นายดื่มเยอะแล้วนะ"
ณัฐพลยิ้มกว้าง "ห่วงพลเหรอกัส"
กัสหน้าแดงเล็กน้อย "ใครห่วงแค่ไม่อยากให้เมาแล้วสร้างความเดือดร้อน"
คำตอบของเธอทำให้ณัฐพลหัวเราะเบาๆ แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เขาเอนตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหูกัสที่เต็มไปด้วยเสียงเพลง
"ก็ยังดีที่ไม่อยากให้ฉันสร้างความเดือดร้อน" เขาพูดแล้วก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ แต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ
กัสเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เธอแอบมองเขาเล็กน้อยแล้วก็ก้มลงมองแก้วเครื่องดื่มในมือตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่อาจจะบอกได้ว่าคืออะไรกำลังเต้นอยู่ในอกอย่างรุนแรง
ณัฐพลเห็นท่าทางของเธอ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ความเงียบระหว่างพวกเขามันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขายกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกับแอบมองเธอเป็นระยะๆ เขาชอบเวลาที่เธอเขินอาย ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อของเธอมันดูน่ารักมาก
กัสเผลอหันไปสบตากับณัฐพลเข้าพอดี หัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างประหลาด ณัฐพลยิ้มให้อย่างอบอุ่นก่อนจะยื่นแก้วเครื่องดื่มของเขาให้เธอ
"ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่ดื่มแล้ว" เขากระซิบเบาๆ ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าในผับที่เสียงดังวุ่นวาย มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่มองกันอยู่
ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ก็เริ่มก่อตัวและแสดงออกมาในแบบของตัวเอง ทั้งคู่กัด คู่แอบจีบ และคู่ที่ยังคงปากแข็งใส่กัน ราวกับทุกจังหวะดนตรีกำลังขับกล่อมเรื่องราวของพวกเขา
ตอนที่95ป้อนนมลูกแล้วอย่าลืมป้อนพ่อนะ (ตอนจบ) “งั้นเราไปป้อนนมพ่อกันดีกว่า”ปรายฟ้าพยักหน้าเบา ๆ ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ภาคภูมิยิ้มกว้าง ก่อนจะอุ้มปรายฟ้าขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของทั้งคู่ห้องนอนถูกจัดแสงสลัว ๆ ด้วยโคมไฟข้างเตียง ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติก ภาคภูมิวางปรายฟ้าลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เธอไม่ละสายตา“วันนี้เมียสวยจังเลย” ภาคภูมิเอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า พลางเลื่อนมือไปสัมผัสแก้มนวลของปรายฟ้าอย่างอ่อนโยนปรายฟ้าหลับตาพริ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่ลูบไล้ไปมา เธอกระซิบตอบกลับไปว่า“ภูมิก็หล่อค่ะ”ภาคภูมิยิ้มกว้างก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบปรายฟ้าอย่างดูดดื่ม จูบของเขาเต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนาและความคิดถึงปรายฟ้าตอบรับจูบนั้นด้วยความเต็มใจ เธอสอดมือเข้าไปในเส้นผมของภาคภูมิแล้วดึงรั้งท้ายทอยเขาเข้ามาใกล้ เพื่อให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน ราวกับต้องการเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปตลอดทั้งวันมือของภาคภูมิเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของปรายฟ้า ก่อนจะเลื่อนลงไปปลดกระดุมชุดนอนผ้าซาตินที่ปรายฟ้าสวมอยู่
ตอนที่94ป้อนนมลูกแล้วอย่าลืมป้อนพ่อนะ (ตอนจบ) หกเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ชีวิตของภาคภูมิและปรายฟ้า เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากคู่รักหนุ่มสาวกลายเป็นพ่อแม่เต็มตัวพร้อมกับสมาชิกใหม่สองคนคือน้องพายุและน้องสายฝนที่เติมเต็มชีวิตคู่ของทั้งสองให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นทั้งคู่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ใจกลางเมืองซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามและอบอุ่น มีพื้นที่กว้างขวางให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นและมีสนามหญ้าที่กว้างพอสำหรับเด็กน้อยสองคนภาคภูมิจัดสรรเวลาให้กับการทำงานและครอบครัวอย่างลงตัว ทุกวันหลังกลับจากบริษัท สิ่งแรกที่เขาทำคือตรงดิ่งกลับบ้านเพื่อมาเล่นกับลูก ๆ เสียงหัวเราะสดใสของน้องพายุและน้องสายฝนคือยาชั้นดีที่ช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้เป็นอย่างดีเขามักจะอุ้มลูกน้อยทั้งสองคนขึ้นมาโยนเบา ๆ จนลูก ๆ ส่งเสียงคิกคักด้วยความชอบใจหรือไม่ก็เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังจนกระทั่งลูก ๆ เคลิ้มหลับไปในอ้อมแขนปรายฟ้าเองก็ดูสดใสขึ้นมากแม้จะเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกแฝดแต่เธอก็มีความสุขกับบทบาทความเป็นแม่ปรายฟ้ามีพี่เลี้ยงสองคนคอยช่วยดูแลลูก ๆ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพราะหากไม่มีพี่เลี้ยงช่วย
ตอนที่94คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงเกือบเก้าเดือนที่ปรายฟ้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวัน ท้องของเธอโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มรู้สึกหนักตัวและอุ้ยอ้ายไปหมดทุกที่แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงมีความสุขในทุกวันที่มีภาคภูมิอยู่เคียงข้างและแล้ววันที่เธอกับภาคภูมิรอคอยก็มาถึงในช่วงกลางดึกปรายฟ้าเริ่มมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนภาคภูมิถึงกับตกใจ เขารีบพาเธอไปที่โรงพยาบาลทันทีโดยไม่ลังเล“คุณต้องหายใจเข้าลึก ๆ นะปราย” ภาคภูมิกล่าวกับปรายฟ้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล เขากุมมือของเธอไว้แน่นตลอดเวลาที่อยู่บนรถปรายฟ้ายิ้มทั้งน้ำตา “ปรายไม่เป็นไรค่ะ ปรายทนได้ค่ะ”เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ปรายฟ้าก็ถูกนำตัวเข้าไปในห้องคลอดทันที ภาคภูมิกอดเธอไว้แน่นแล้วกระซิบที่ข้างหูของเธอเบา ๆ“ภูมิจะอยู่เคียงข้างปรายเสมอนะครับปรายไม่ต้องกลัวนะ”ปรายฟ้าถูกนำตัวไปที่ห้องผ่าตัดทันทีที่คุณหมอตรวจดูว่าเหมาะสมแก่การผ่าคลอดเอาเด็กน้อยออกมาหลังจากนั้นไม่นานเสียงของเด็กทารกน้อยก็ดังขึ้นมา ภาคภูมิถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เขาหันไปมองหน้าปรายฟ้าด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ คุณหมออุ้มเด็กน้อยออกมาจากห้องคลอดแล้วกล่าวว่า“คุณได
ตอนที่93เลขาใหม่กับหัวใจที่ว้าวุ่นปรายฟ้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่สดชื่นแต่เมื่อภาคภูมิออกไปทำงานที่บริษัท เธอก็เริ่มรู้สึกเหงาและเบื่อหน่ายกับการอยู่บ้านเพียงคนเดียวความรู้สึกนี้ทำให้เธอคิดถึงเรื่องต่าง ๆ มากมายและสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกกังวลมากที่สุดก็คือเรื่องของเมย์เลขาคนใหม่ของภาคภูมิเธอพยายามที่จะไล่ความคิดเหล่านี้ออกจากหัว แต่ก็ทำไม่ได้เธอยังคงคิดถึงภาพของเมย์ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ภาคภูมิที่ห้องทำงานของเขา ความรู้สึกหึงหวงที่กลับมาอีกครั้งทำให้หัวใจของเธอไม่สงบเธอรู้ดีว่าภาคภูมิเป็นคนดีและไม่คิดอะไรกับใครแต่ความกังวลที่มาพร้อมกับการตั้งครรภ์ก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวและไม่มั่นคง“ยัยปรายหยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว” ปรายฟ้าพูดกับตัวเอง“ภูมิรักเราคนเดียว”แม้จะพูดกับตัวเองแบบนั้นแต่เธอก็ยังคงรู้สึกกังวลอยู่ดี เธอพยายามหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้เลยในตอนเย็นเมื่อปรายฟ้ากำลังนั่งดูโทรทัศน์อย่างเงียบ ๆ ภาคภูมิก็กลับมาจากบริษัทเขามองดูปรายฟ้าที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่อ่อนเพลียแต่ก็ยังคงความสง่างามอยู่ ภาคภูมินั่งลงข้าง ๆ เธอแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น
ตอนที่92ท้อง สามเดือนผ่านไปหลังจากงานแต่งงานอันแสนสุขของปรายฟ้าและภาคภูมิ ชีวิตคู่ของพวกเขาราบรื่นและเต็มไปด้วยความรัก แต่ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาปรายฟ้าเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเอง เธอรู้สึกอ่อนเพลียและคลื่นไส้อย่างไม่มีสาเหตุและที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่รู้สึกถึงอาการปวดประจำเดือนที่เคยเกิดขึ้นทุกเดือนเลยด้วยความสงสัยและความหวังเล็ก ๆ ในใจ ปรายฟ้าตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยตัวคนเดียว เมื่อคุณหมอบอกข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วปรายฟ้าถึงกับยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุขและความยินดี เธอดีใจมากที่ความรักของเธอและภาคภูมิได้มาถึงอีกขั้นที่สำคัญแล้วเมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียมปรายฟ้าก็รีบวิ่งเข้าไปหาภาคภูมิแล้วกอดเขาไว้แน่น ภาคภูมิสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในท่าทางของเธอ“เกิดอะไรขึ้นครับที่รัก” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลปรายฟ้ายื่นผลตรวจการตั้งครรภ์ให้กับเขา ภาคภูมิถึงกับตกใจ เขามองหน้าปรายฟ้าด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะอ่านผลตรวจแล้วยิ้มกว้างออกมาจนแก้มปริ“จริงเหรอครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ“
ตอนที่91เข้าเรือนหอ (18+)ห้องสวีทอีกห้องหนึ่งที่ตกแต่งในโทนสีอบอุ่น ประดับด้วยภาพวาดศิลปะล้ำค่า ชัยวัฒน์พยุงมีนาที่อยู่ในอ้อมกอดเข้ามาในห้องมีนาในชุดเจ้าสาวลูกไม้สีครีมดูงดงามราวกับนางฟ้าที่เพิ่งจุติลงมาจากสรวงสวรรค์ที่ทำให้ชัยวัฒน์แทบคลั่งชัยวัฒน์อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบขมับของเธออย่างแสนรัก และสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างลืมตัว “เมียจ๋าหอมชื่นใจที่สุดเลย”“ในที่สุดมีนก็เป็นของชัยอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะมีนเป็นของชัยแล้วจริง ๆ” ชัยวัฒน์กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม มือแกร่งของเขาประคองใบหน้าสวยหวานของเธอขึ้นมาสบตา ดวงตาของเขาฉายแววรักใคร่ลึกซึ้งและปรารถนาอย่างเปิดเผยมีนายิ้มหวานหยาดเยิ้ม เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้กระซิบข้างหูเขา“มีนรอคอยวันนี้มานานแสนนานเหมือนกันอยากจะเป็นของชัยในวันแต่งงานใจจะขาดแล้ว”ชัยวัฒน์อุ้มมีนาขึ้นในอ้อมแขน พาเธอไปยังกลางห้องที่ปูพรมหนานุ่มสีแดงก่ำ เขาวางเธอลงช้า ๆ บนพรม ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ จูบหลังมือเรียวของเธออย่างแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก“ชัยรักมีน รักหมดหัวใจและอยากให้มีนเป็นของชัยในคืนนี้อยากให้มีนรู้สึกดีที่สุด”มีนาน้ำตาคลอเบ้าด้วยความซาบซึ้ง เ