Home / โรแมนติก / วิศวะคลั่งรัก / ตอนที่ 11 เจอกันบ่อยไปไหม  

Share

ตอนที่ 11 เจอกันบ่อยไปไหม  

last update Last Updated: 2025-07-10 22:42:48

ตอนที่

11

เจอกันบ่อยไปไหม

เสียงจอแจในโรงอาหารอื้ออึง ปรายฟ้ากำลังหอบถาดข้าวแกงเดินหาที่นั่ง แต่ไม่มีโต๊ะว่างเลยสักโต๊ะ เหลือเพียงมุมเล็ก ๆ ที่มีภาคภูมินั่งอยู่คนเดียว ทำให้เธอตัดสินใจเดินตรงเข้าไปทันที

“ขอนั่งด้วยคนนะ” ปรายฟ้าพูดขึ้นเบา ๆ พลางมองหากัสและมีนาที่กำลังซื้ออาหารเพราะเธอจะได้เรียกเพื่อนของเธอมานั่งด้วย

ภาคภูมิพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อเหมือนไม่ใส่ใจ

ปรายฟ้านั่งลงตรงข้ามกับเขา วางจานข้าวลงบนโต๊ะพลางชำเลืองมองภาคภูมิที่ดูจริงจังแม้กระทั่งตอนกินข้าว เธอเห็นกัสและมีนากำลังเดินถือจานข้าวมาทางนี้พอดี จึงรีบกวักมือเรียกอย่างร่าเริง

“นี่กัส มีนา มานั่งนี่สิ โต๊ะนี่ว่างไ

กัสกับมีนาหันมามองก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ภาคภูมิที่นั่งอยู่กับปรายฟ้า ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มเดินตรงมาที่โต๊ะ

“โอ๊ย!!! ตายแล้วปรายฟ้า มานั่งกินข้าวกับนายภาคภูมิได้ไงเนี่ย” มีนากระซิบกัสแต่เสียงดังพอให้ทั้งโต๊ะได้ยิน

“นั่นสิ ฉันว่าแล้วเชียวทำไม ปรายฟ้าถึงชอบโรงอาหารเวลานี้” กัสแซวต่อพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ปรายฟ้าหน้าแดงเล็กน้อย “พวกแกสองคนนี่ก็นะ ฉันแค่ไม่มีที่นั่งเฉย ๆ หรือพวกแกจะไม่นั่งล่ะ ยืนกินไหมล่ะ” 

“นั่งกินค่ะ คุณปราย ใจเย็น ๆ เนอะ ไม่ใช้อารมณ์กับเพื่อนนะคะ” มีนาพูดแซวเพื่อนแล้วก็นั่งลงข้าง ๆ ปรายฟ้า

ภาคภูมิเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน ๆ ของปรายฟ้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะกินข้าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในขณะนั้นชัยวัฒน์และณัฐพลก็เดินถือจานอาหารมาพอดีจึงนั่งลงข้าง ๆ ภาคภูมิ

“อ้าว ๆ สาว ๆ นิเทศ วันนี้บังเอิญจังได้กินข้าวด้วยกัน” ชัยวัฒน์พูดขึ้นมาแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ก็ไม่ได้อยากบังเอิญนักหรอกนะ” ปรายฟ้าบ่นพึมพำแต่ก็ยังตักข่สงเข้าปาก ส่วนมีนาก็ทำหน้ายียวนใส่ชัยวัฒน์

“บังเอิญจนหน้าแดงเลยนะปรายฟ้า” ชัยวัฒน์แซวต่อพลางชำเลืองมองภาคภูมิ

“นี่ไงไอ้ภูมิเพื่อนของฉันเขินใหญ่แล้ว” 

ภาคภูมิเงยหน้าขั้นมองชัยวัฒน์ด้วยสายตานิ่ง ๆ “แกว่างมากใช่ไหมชัย ถ้าว่างมากก็รีบกินแล้วก็รีบไปทำงานช่วยฉันพูดมาก” 

“โอ๊ย!!! ดุจังเลยเพื่อน” ชัยวัฒน์แกล้งทำหน้าเศร้า

“แค่แซวเล่นนิดเดียวเอง ก็เห็นว่าช่วงนี้พวกแกตัวติดกันยิ่งกว่าปาท่องโก๋อีก” เขาพูดยั่วพร้อมหัวเราะคิกคัก

ปรายฟ้าวางช้อนเสียงดัง “ตัวติดกันอะไรกัน พวกฉันแค่ทำงานร่วมกัน โปรเจกต์มันใหญ่”

“จ้า ๆ ใหญ่จริงจ้า” มีนาแซวเสริม

“ใหญ่จนแกแทบจะไม่กลับหอแล้วเนี่ย” 

ณัฐพลที่ฟังอยู่เงียบ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มให้กับความสัมพันธ์ของเพื่อน ๆ แล้วเขาก็เหลือบมองกัสที่กำลังตั้งใจกินข้าวอย่างเงียบ ๆ พลางตักผักอาหารในจานของเขาให้กับกัสเล็กน้อย อย่างไม่ให้ใครสังเกตเห็น กัสหันมามองณัฐพลแล้วยิ้มให้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณ

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงแซวและเสียงหัวเราะเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงแม้จะมีบทสนทนาที่จิกกัดกันบ้าง แต่ก็สัมผัสได้ถึงมิตรภาพและความคุ้นเคยที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ

ช่วงสัปดาห์ต่อมา ทั้งภาคภูมิและปรายฟ้าและเพื่อน ๆ ต้องทำงานด้วยกันมากขึ้นและอยู่ใกล้ ๆ กันบ่อยมากขึ้น ปรายฟ้าเริ่มสังเกตเห็นว่าภาคภูมิไม่ได้เป็นคนเย็นชาอย่างที่เธอเข้าใจ

ภาคภูมิเองก็เริ่มสังเกตเห็นว่าปรายฟ้าไม่ได้วุ่นวายอย่างเดียว เธอมักจะมีไอเดียแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยคิดถึง เธอสามารถพูดคุยและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ทำให้โปรเจกต์ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

เวลาที่เธอหัวเราะเสียงใส ๆ หรือเวลาที่เธอกระตือรือร้นกับกิจกรรมที่เธอรัก มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด

ภาคภูมิเริ่มรู้สึกว่าเธอก็มีความสามารถในแบบของเธอและเธออาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นอย่างที่เขาเคยตัดสินไปก่อนหน้า

คืนวันศุกร์ ณ ผับแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเสียงเพลงดังกระหึ่มแสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่ว ภาคภูมินั่งอยู่บนโซฟามุมหนึ่งกับชัยวัฒน์และณัฐพลที่กำลังสนุกกับการดื่มและคุยกับสาว ๆ ที่เดินผ่านไปมา

“ไงไอ้ภูมิ ทำไมเงียบจังวะ” ชัยวัฒน์แซว

“ไม่ชวนปรายฟ้ามาด้วยล่ะ เห็นช่วงนี้อยู่ด้วยกันบ่อย”

ภาคภูมิแค่ยักไหล่ “เรื่องงาน” เขาตอบสั้น ๆ แต่สายตากลับกวาดมองไปรอบ ๆ ผับอย่างไม่รู้ตัว

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ปรายฟ้าก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับ กัสและมีนา เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ดึงดูดสายตาจากหลายโต๊ะ

“โอ๊ยตายแล้ว!!! ปรายฟ้ามาผับเนี่ยนะ” ณัฐพลหันไปกระซิบกับชัยวัฒน์

“ปกติเห็นแต่ในห้องประชุม”

ชัยวัฒน์เห็นปรายฟ้าก็ยิ้มกริ่ม “บังเอิญดีนะเนี่ย”

จังหวะที่ปรายฟ้าหันมาเห็นโต๊ะของภาคภูมิพอดี กัสก็โบกมือหยอย ๆ แล้วตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง

“ปรายฟ้ามานั่งด้วยกันสิ” 

ปรายฟ้าทำท่าจะปฏิเสธแต่กัสกับมีนาก็เดินนำไปแล้ว ทำให้เธอจำต้องเดินตามไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับภาคภูมิและเพื่อน ๆ ทันทีที่นั่งลง มีนาก็แทรกตัวไปนั่งข้าง ๆ ชัยวัฒน์ส่วนกัสก็ขยับไปนั่งใกล้ ๆ ณัฐพลอย่างเป็นธรรมชาติ

ไม่ทันไรก็มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่ดูท่าทางเป็นสาวสังคมจัดเดินเข้ามาคลอเคลียภาคภูมิ เธอวางมือบนต้นแขนของเขาอย่างสนิทสนมพลางยิ้มหวานหยดย้อย

“ไงคะ ภาคภูมิไม่เจอกันนานเลยนะ คิดถึงจัง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

ภาคภูมิพยักหน้าให้เล็กน้อย “ครับ” เขาตอบสั้น ๆ พลางพยายามขยับตัวออกห่างอย่างแนบเนียนแต่หญิงสาวคนนั้นกลับยิ่งโน้มตัวเข้ามาใกล้

ปรายฟ้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอแอบชำเลืองมองภาคภูมิด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวคนนั้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งขัดหูขัดตาขั้นมาทันที

“นี่มันเสือผู้หญิงชัด ๆ” ปรายฟ้าคิดในใจ

“ดูท่าทางไม่ค่อยจะสนใจ แต่ก็ปล่อยให้เขามาเกาะแกะแบบนี้” ความรู้สึกไม่ชอบใจก่อตัวขั้นในใจอย่างประหลาด ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของเธอเลยแท้ ๆ

ชัยวัฒน์และณัฐพลแอบมองหน้ากันอย่างรู้กัน พวกเขาเห็นแววตาของปรายฟ้าที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

“สงสัยต้องมีอะไรสนุก ๆ ให้ดูแล้วสิ” ณัฐพลกระซิบชัยวัฒน์

ภาคภูมิ ที่กำลังพยายามจะเอาตัวรอดจากสาวสวยคนนั้น ก็เผลอหันไปสบตากับปรายฟ้าเข้าพอดี สายตาของเขาดูเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างแต่ปรายฟ้าก็รีบเบือนหน้าหนีทันที ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดที่อธิบายไม่ได้

มีนาสังเกตเห็นท่าทีของปรายฟ้าก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม เธอกระซิบถาม ปรายฟ้า เบาๆ

“เป็นอะไรไปปราย เห็นทำหน้าเหมือนอยากจะพ่นไฟใส่ใครบางคน”

ปรายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อย “เปล่านี่! ฉันแค่รำคาญเฉย ๆ”

ขณะเดียวกันกัสก็แอบยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ณัฐพล “นายดื่มเยอะแล้วนะ”

ณัฐพลยิ้มกว้าง “ห่วงพลเหรอกัส”

กัสหน้าแดงเล็กน้อย “ใครห่วงแค่ไม่อยากให้เมาแล้วสร้างความเดือดร้อน”

ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ก็เริ่มก่อตัวและแสดงออกมาในแบบของตัวเอง ทั้งคู่กัด คู่แอบจีบและคู่ที่ยังคงปากแข็งใส่กัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิศวะคลั่งรัก   ตอนที่ 14 ตัวแปรความรู้สึก  

    ตอนที่14ตัวแปรความรู้สึก ช่วงบ่ายที่คณะนิเทศศาสตร์เสียงหัวเราะสดใสของปรายฟ้าดังคลอเคลียไปกับเสียงของรุ่นพี่ภูมิพัฒน์ รุ่นพี่สุดฮอตจากภาควิชาศิลปะการแสดงที่แอบชอบปรายฟ้ามานาน เขากำลังยืนเท้าแขนกับโต๊ะที่ปรายฟ้านั่งทำงานใต้ร่มไม้พลางยื่นถุงขนมให้กับเธอ“ปรายฟ้าเหนื่อยไหมครับ พักกินขนมก่อนนะ นี่ขนมร้านโปรดพี่เลยนะ” ภูมิพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล รอยยิ้มละลายใจสาวทำให้เพื่อน ๆ ที่อยู่บริเวณนั้นแอบมองกันเป็นตาเดียว“โอ๊ย!!! พี่พัฒน์ขอบคุณมากเลยค่ะ ไม่น่าลำบากเลย” ปรายฟ้ารับถุงขนมมาด้วยรอยยิ้มสดใส“ไม่ลำบากเลยครับ ถ้าเป็นปรายฟ้าพี่เต็มใจเสมอ” ภูมิพัฒน์พูดพลางยื่นมือไปปัดเศษผมที่ปรกหน้าปรายฟ้าอย่างอ่อนโยน“ว่าแต่ช่วงนี้เห็นปรายฟ้าทำงานโปรเจกต์หนักจังพักผ่อนบ้างนะพี่เป็นห่วง”ในจังหวะนั้นเอง ภาคภูมิที่เดินถือเอกสารเข้ามาในห้องทำงานพอดี สายตาของเขาเหลือบไปเห็นภาพตรงหน้าเข้า สายตาที่เคยเรียบเฉยตอนนี้มีความไม่พอใจเล็กน้ย เขากระแอมเบา ๆ เพื่อให้ภูมิพัฒน์และปรายฟ้าหันมามองเขา“เอกสาร” ภาคภูมิพูดเสียงเรียบ ๆ พร้อมกับวางเอกสารบนโต๊ะแรงกว่าปกติเล็กน้อย“โอเค” ปรายฟ้าตอบภาคภูมิพร้อมกับหันไปมองเล็ก

  • วิศวะคลั่งรัก   ตอนที่  13  วันหยุดแต่ไม่หยุดใกล้กัน

    ตอนที่ 13 วันหยุดแต่ไม่หยุดใกล้กันเช้าวันเสาร์ที่เงียบสงบผิดปกติของมหาวิทยาลัย ปรายฟ้าลากสังขารมายังห้องทำงานโปรเจกต์ ใบหน้ายังคงงัวเงียเล็กน้อย แต่พอเห็นกองเอกสารและอุปกรณ์วางรออยู่บนโต๊ะก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่“โอ๊ยวันหยุดทั้งทีทำไมไม่หยุดพักนะ” เธอพึมพำกับตัวเองไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออกภาคภูมิเดินเข้ามาพร้อมกองเอกสารอีกปึกใหญ่ ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยตามปกติ แต่ในมือมีแก้วกาแฟร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมกรุ่น“มาเช้าเหมือนกันนะครับ” ภาคภูมิพูดขึ้นเบาๆ วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ“ก็งานมันเยอะนี่นา” ปรายฟ้าตอบ“แถมยังต้องเตรียมงานสำหรับกิจกรรมใหญ่เดือนหน้าอีก”บรรยากาศในห้องเงียบกว่าปกติ มีเพียงเสียงพลิกกระดาษและเสียงกดปากกาเบา ๆ ปรายฟ้า รู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนตอนที่เพื่อน ๆ อยู่กันพร้อมหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมองภาคภูมิที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ“นี่ นายไม่เบื่อบ้างเหรอ” ปรายฟ้าเอ่ยขึ้น“ทำแต่งานทำแต่ตัวเลข”ภาคภูมิเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่เบื่อ”“โหชีวิต” ปรายฟ้าส่ายหน้า“ฉันล่ะเบื่อแทน”“แล้วปกตินายทำอะไรตอนวันหยุด” ภาคภูมิถามกลับอย่างไม่คิดอะไร“ก็ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยวกับเพื่อน ช็อปป

  • วิศวะคลั่งรัก   ตอนที่ 12 กิจกรรมที่วุ่นวายแต่สนุก

    ตอนที่12กิจกรรมที่วุ่นวายแต่สนุก เช้าวันเสาร์แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาปลุก ปรายฟ้าให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบ ๆ เธอพยายามลืมตาก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง“โอ๊ย ปวดหัวจัง” เธอพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างหงุดหงิด ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผับค่อย ๆ ฉายชัดขึ้นในหัว โดยเฉพาะภาพที่ภาคภูมิกับหญิงสาวคนนั้นที่เข้ามาเกาะแกะ ความรู้สึกไม่ชอบใจยังคงคุกรุ่นอยู่ในใจอย่างประหลาดมือถือของเธอสั่นครืด ชื่อมีนาเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ“ฮัลโหล” ปรายฟ้ารับสายด้วยเสียงงัวเงีย“ปรายแกตื่นยังเนี่ย ปวดหัวเหมือนกันเลยใช่ไหม” เสียงมีนาเจื้อยแจ้วมาตามสาย“เมื่อคืนสนุกมากเลยนะ โดยเฉพาะตอนที่แกทำหน้าบูดใส่ใครบางคนน่ะ”ปรายฟ้าถอนหายใจ “พอเลยมีนา ไม่ต้องมาแซวเลย” ปรายฟ้าพูดพร้อมลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาดื่ม“แล้วไอ้สองคนนั้นล่ะ กัสกับพลกลับถึงหอกันหรือเปล่า”“ถึงดิ เห็นพลดูแลกัสดี๊ดี พาไปส่งถึงหอเลยนะแก น่ารักอ่ะ” มีนาพูดด้วยน้ำเสียงชวนฝัน“นี่แหละนะ คู่แท้ไม่ต้องพูดเยอะ แค่มองตาก็รู้ใจ”ปรายฟ้ากรอกตา”เพ้อเจ้อ ไปหาอะไรกินแก้แฮงค์ดีกว่า ฉันหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย”“เออ ๆ เดี๋ยวไปหาที่ห้อง ขออาบน้ำแต่งตัวก่อนไว้ไปหา” มีนาบอกกับปรา

  • วิศวะคลั่งรัก   ตอนที่ 11 เจอกันบ่อยไปไหม  

    ตอนที่11เจอกันบ่อยไปไหม เสียงจอแจในโรงอาหารอื้ออึง ปรายฟ้ากำลังหอบถาดข้าวแกงเดินหาที่นั่ง แต่ไม่มีโต๊ะว่างเลยสักโต๊ะ เหลือเพียงมุมเล็ก ๆ ที่มีภาคภูมินั่งอยู่คนเดียว ทำให้เธอตัดสินใจเดินตรงเข้าไปทันที“ขอนั่งด้วยคนนะ” ปรายฟ้าพูดขึ้นเบา ๆ พลางมองหากัสและมีนาที่กำลังซื้ออาหารเพราะเธอจะได้เรียกเพื่อนของเธอมานั่งด้วยภาคภูมิพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อเหมือนไม่ใส่ใจปรายฟ้านั่งลงตรงข้ามกับเขา วางจานข้าวลงบนโต๊ะพลางชำเลืองมองภาคภูมิที่ดูจริงจังแม้กระทั่งตอนกินข้าว เธอเห็นกัสและมีนากำลังเดินถือจานข้าวมาทางนี้พอดี จึงรีบกวักมือเรียกอย่างร่าเริง“นี่กัส มีนา มานั่งนี่สิ โต๊ะนี่ว่างไกัสกับมีนาหันมามองก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ภาคภูมิที่นั่งอยู่กับปรายฟ้า ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มเดินตรงมาที่โต๊ะ“โอ๊ย!!! ตายแล้วปรายฟ้า มานั่งกินข้าวกับนายภาคภูมิได้ไงเนี่ย” มีนากระซิบกัสแต่เสียงดังพอให้ทั้งโต๊ะได้ยิน“นั่นสิ ฉันว่าแล้วเชียวทำไม ปรายฟ้าถึงชอบโรงอาหารเวลานี้” กัสแซวต่อพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรายฟ้าหน้าแดงเล็กน้อย “พวกแกสองคนนี่ก็นะ ฉันแค่ไม่มีที่นั่งเฉย ๆ หรือพวกแกจะไม่นั่งล่

  • วิศวะคลั่งรัก   ตอนที่ 10 แตกต่างและเหมือนจะแตกแยก  

    ตอนที่10แตกต่างและเหมือนจะแตกแยก ห้องประชุมเล็ก ๆ เต็มไปด้วยเอกสารตัวเลขและสีสันสดใสปรายฟ้า วาดภาพกิจกรรมเวิร์คชอปศิลปะรีไซเคิลอย่างกระตือรือร้น“เราจะจัดเวิร์คชอปทุกวันศุกร์ค่ะ มีสอนทำโมบายจากขวดพลาสติก มีทำกระถางต้นไม้จากรถยนต์เก่า แล้วก็มีประกวดไอเดียแต่งสวนจิ๋วด้วย” ปรายฟ้าพรีเซนด้วยแววตาเป็นประกาย“รับรองว่านักศึกษาสนุกแน่ ๆ ค่ะ” ภาคภูมิวางเครื่องคิดเลขบนโต๊ะเสียงเบา ๆ แต่สะท้อนความจริงจัง“งบประมาณที่เรามีจำกัดนะ กิจกรรมที่คุณเสนอมันใช้งบสูงเกินไปมาก” เขาชี้ไปที่ตารางงบประมาณ “ค่าวัสดุ ค่าวิทยากร และค่าอีกหลายอย่าง สองเดือนงบก็หมดแล้วครับ”“แต่มันจะดึงดูดคนได้เยอะนะคะ” ปรายฟ้ายืนกราน“แค่ปลูกต้นไม้อย่างเดียวใครเขาจะอยากมาดู” “งบประมาณต้องสมเหตุสมผลครับ” ภาคภูมิสวนกลับ“ถ้าเราจัดกิจกรรมใหญ่เดือนละครั้ง แต่มีคุณภาพดีเยี่ยมไม่ดีกว่าหรือครับ”การถกเถียงเรื่องตัวเลขกับความสร้างสรรค์ยังคงดำเนินไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ณัฐพลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้แต่ถอนหายใจ ส่วนกัสก็แอบจดเอาไว้เงียบ ๆ สุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องยอมประนีประนอมกัน“เฮ้อ!!! ในที่สุดก็จบลงได้สักที” ปรายฟ้าบ่นอุบเมื่อก

  • วิศวะคลั่งรัก   ตอนที่ 9 เริ่มต้นปวดหัวอีกครั้ง  

    ตอนที่9เริ่มต้นปวดหัวอีกครั้ง ห้องประชุมที่เดิมเพิ่มเติมคือความอึดอัดที่มากขึ้นกว่าเดิม ภาคภูมินั่งตัวตรงเป๊ะพร้อมกับแผนงานที่ดูเป็นระเบียบสุด ๆ“สำหรับโปรเจกต์มหาวิทยาลัยสีเขียวนี้ ผมเสนอแผนงานที่เน้นความยั่งยืนและวัดผลได้จริงครับ” ภาคภูมิเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“เราจะเริ่มจากการวางโครงสร้างพื้นฐาน การจัดระบบเพื่อลดการใช้ทรัพยากร”ปรายฟ้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำหน้านิ่ง ๆ ยิ้มเย็นเยือก เมื่อภาคภูมิเสนอจบเธอก็ลุกขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใสกว่าเดิม“ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยสีเขียว มันควรจะมีมากกว่าแค่การปลูกต้นไม้นะคะ เราควรสร้างมุมผ่านคลายสีเขียวที่มีต้นไม้ตั้งเป็นแนว หรือว่าเวิร์คชอปศิลปะรีไซเคิล เพื่อให้นักศึกษารู้สึกสนใจในโปรเจกต์นี้”“ความงามมันก็ต้องสิ้นเปลืองงบมากขึ้น” ภาคภูมิโต้กลับทันควัน“แต่ถ้าไม่สวย ไม่น่าสนใจใครจะอยากสนใจโปรเจกต์นี้” ปรายฟ้าย้อนถามกลับอย่างไม่ลดละ“เอาล่ะ ๆ พอแค่นั้นก่อน” อาจารย์โบกมือเป็นสัญญาณหยุดศึก“พวกคุณต้องแบ่งงานกัน”ปรายฟ้ากับภาคภูมิหันมามองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร“ฉันขอรับผิดชอบส่วนของกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ทั้งหมดค่ะ”ปร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status