공유

บทที่ 4

last update 최신 업데이트: 2025-12-01 07:04:49

“ทำไมคนแซ่จวงมันโชคดีจังวะ ได้แต่งงานกับเจ้าหญิง ลูกกลายเป็นเต้ แล้วยังได้เป็นไฮโซอีก” เจียงอวี้เฉิงพูดด้วยความอิจฉาเต็มอก ก่อนจะนึกถึงตระกูลจวงในปัจจุบันที่ได้ยินผ่านสื่อโทรทัศน์บ่อย ๆ

จวงเหวินซิน ศัลยแพทย์หัวใจอัจฉริยะ ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการแพทย์ชั้นนำระดับโลก หลังกลับสู่ประเทศบ้านเกิดแล้ว เขาก็ได้กลายเป็นแพทย์มือหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขาได้ก่อตั้งเครือข่ายโรงพยาบาลนับสิบแห่งทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อเสียงอันเป็นที่น่านับถือของตระกูลจวง

จวงยู่หลุน นักการเมืองผู้ยึดมั่นในหลักการ ทำงานด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ จนได้รับการไว้วางใจจากประชาชน เลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายสมัย

จวงเจ๋อหยู อธิการบดีผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาก่อตั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติ จนมหาวิทยาลัยแห่งนี้กลายเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเรียนนับล้านทั่วประเทศ การันตีการเรียนจบที่มีคุณภาพและการได้งานทำที่มั่นคง ทำให้บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างสูง

จวงย่าจิ้ง คุณนายใหญ่แห่งตระกูลจวง ผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอได้ก่อตั้งมูลนิธิต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ ผู้ประสบภัยพิบัติ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

จวงซูหุ้ย นักธุรกิจหญิงที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในระดับประเทศ ด้วยทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลหลายร้อยล้านที่อยู่ในมือ เธอได้นำพาธุรกิจของตระกูลจวงให้เติบโตและขยายไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม สร้างงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง

จวงหลินฮุ้ย ดาราสาวหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง ด้วยทรัพยากรสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากตระกูลเบื้องหลัง แม้จะมีต้นทุนที่สูงกว่าผู้อื่น แต่จวงหลินฮุ้ยกลับมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ความสามารถของตนเองด้วยผลงาน และใช้ชื่อเสียงของเธอในการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ ยิ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่สดใสและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน

ยิ่งคิด เจียงอวี้เฉิงก็ยิ่งอิจฉา...

“ทำไมโชคชะตาถึงต่างกันขนาดนี้วะ” เจียงอวี้เฉิงพึมพำ

ทั้ง ๆ ที่ตระกูลจวงและตระกูลเจียงต่างก็เคยรุ่งโรจน์มาพร้อม ๆ กัน

ตระกูลจวงนั้นเป็นบัณฑิต เป็นสายบุ๋นเต็มตัว ออกนโยบายขับเคลื่อนประเทศชาติ ส่วนตระกูลเจียงเป็นแม่ทัพที่ออกรบ เพื่อปกป้องบ้านเมือง เป็นสายบู๊เต็มขั้น

แต่เพราะโดนใส่ร้ายด้วยข้อหาที่ร้ายแรงครั้งนั้นเพียงครั้งเดียว ทำให้จวนเจิ้นกั๋วกงที่เคยรุ่งโรจน์กลับต้องดับสิ้นลง...

“เดี๋ยวสิ! ถ้าตอนนั้น… ลูกชายนั่น ชื่ออะไรนะ?” เจียงอวี้เฉิงพลิกหน้ากระดาษกลับไปที่หน้าแรก ๆ “เจียงอวี้เฉิง... ชื่อเดียวกับเราเลยนี่หว่า”

เจียงอวี้เฉิงพึมพำ เพราะครั้งแรกที่เขาเปิดอ่านบันทึกนั้น เขาเลือกอ่านเพียงผ่าน ๆ เพื่อฆ่าเวลาในระหว่างที่คุกเข่า อีกทั้งยังสนใจเนื้อหาความเป็นไปมากกว่าตัวละคร

“ถ้าเจียงอวี้เฉิง... มันยอมไปงานคัดเลือก โชคชะตาในวันนี้ของตระกูลเจียงจะแตกต่างออกไปไหมนะ? หรือว่าองค์หญิงใหญ่อะไรนั่นไม่เด็ดดวงพอ เจียงอวี้เฉิงเลยไม่สนใจ อืม... ก็น่าจะเป็นไปได้...”

เจียงอวี้เฉิงก้มหน้าก้มตาเปิดอ่านบันทึกของตระกูลอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาไม่ได้สังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเลยแม้แต่น้อย

บานประตูไม้เก่า ๆ ที่มีขอบประตูลอยอยู่เหนือพื้นบ้านถูกผลักออกช้า ๆ เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นแผ่วเบา ร่างชายสูงวัยคนหนึ่งย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยมืดครึ้ม

เขากำไม้เบสบอลที่อยู่ในมือแน่น ย่างสามขุมไปทางด้านหลังเจียงอวี้เฉิงที่กำลังคุกเข่าอ่านบันทึกตระกูลเจียงอยู่

ในขณะเดียวกัน เจียงห้าวก็เดินถือจานที่มีหมั่นโถวสองลูกหอมกรุ่นออกมาจากห้องครัว

“เฉิงเอ๋อร์ มากิน... นั่น! แกจะทำอะไรน่ะ!!” เจียงห้าวตะโกนขึ้นมาทันที เมื่อเห็นชายสูงวัยกำลังยืนง้างไม้เบสบอลอยู่ด้านหลังบุตรชาย

นั่นมันลูกชายสุดที่รักของเขา สายเลือดคนสุดท้ายของตระกูลเจียงเลยนะ!!

“แกบังอาจมาทำร้ายเหอจุน ไปตายซะ!!”

ผัวะ!!

สิ้นเสียงตะโกน ไม้เบสบอลก็กระทบเข้ากับศีรษะของเจียงอวี้เฉิงอย่างแรง ร่างเด็กหนุ่มเซถลาตามแรงกระแทก ศีรษะล้มกระแทกพื้นซ้ำ เลือดสีแดงไหลเจิ่งนองเป็นวงกว้าง

“เฉิงเอ๋อร์!!” เสียงกรีดร้องจนแทบจะขาดใจดังก้องไปทั่วบ้านไม้หลังเก่า ๆ

“พ่อ...” เจียงอวี้เฉิงฝืนลืมตา เอ่ยเรียกบิดาที่เมื่อครู่ยังบังคับให้เขาคุกเข่าสำนึกผิด แต่บัดนี้กลับถลามาคุกเข่าตรงหน้าตน สองมือสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเอื้อมมาหมายจะประคองร่างของเขาให้ลุกขึ้น

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของเจียงห้าวซีดเผือด นัยน์ตาตื่นตระหนก ด้วยความหวาดกลัวว่าลูกชายตรงหน้าจะจากเขาไปอย่างสุดหัวใจ

พ่อ... อย่ากลัว...

เจียงอวี้เฉิงพยายามประคองสติ ฝืนทนความเจ็บปวด ทอดสายตามองหน้าบิดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง...

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 8

    หลังรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เจียงอวี้เฉิงก็เดินกลับเรือนเจิ้งจื้อของตนเองตามความทรงจำเดิม โดยมีหม่งหู่และติงหลี่ บ่าวรับใช้คนสนิทเดินตามหลังไม่ห่างเจียงอวี้เฉิงยังคงทำกิจวัตรประจำวันทุกอย่างเช่นเดิม เพื่อไม่ให้ผู้ใดผิดสังเกตเรือนเจิ้งจื้อเป็นเรือนส่วนตัวของเขาตั้งอยู่ในมุมที่เงียบสงบที่สุดของจวนเจิ้นกั๋วกง มีกำแพงเตี้ย ๆ ที่ก่อด้วยอิฐสีเทาและประตูไม้สีเข้มที่เรียบง่ายภายในลานเรือนไม่ได้ประดับด้วยดอกไม้หลากสีสัน แต่เป็นสวนหินที่จัดวางอย่างมีศิลปะ พร้อมด้วยต้นไผ่ที่เอนไหวไปตามสายลม และบ่อน้ำขนาดเล็กที่มีกอหญ้าขึ้นเขียวขจี ช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบเมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงกลางจะพบกับพื้นไม้สีเข้มที่ขัดเงาจนขึ้นเงา ผนังประดับด้วยภาพวาดพู่กันลายภูเขาและแม่น้ำ โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมกระดานหมากล้อมที่ยังคงมีตัวหมากวางค้างไว้อยู่ บ่งบอกถึงกิจกรรมยามว่างที่ซื่อจื่อคนก่อนชื่นชอบนอกเหนือจากการจับกระบี่และทวนยาวห้องที่เป็นส่วนตัวที่สุดคือห้องทำงานและห้องพักผ่อนที่มีกลิ่นหอมของไม้จันทน์หอมที่ใช้จุดบูชา ผนังห้องเต็มไปด้วยชั้น

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 7

    “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” เสียงหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขของเจิ้นกั๋วกงดังก้องกังวานไปทั่วห้องอาหารของจวนแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องผ่านบานหน้าต่างไม้ฉลุลาย บนโต๊ะไม้เนื้อดีเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส กลิ่นหอมของข้าวสวยร้อน ๆ คลุกเคล้าไปกับกลิ่นของเครื่องเทศและเนื้อสัตว์อบอวลไปทั่วห้อง“ท่านพี่อารมณ์ดีเสียจริงนะเจ้าคะ” ฉินซื่อ ฮูหยินของเขาเอ่ยพร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่น คอยตักอาหารให้สามีอย่างใส่ใจเจิ้นกั๋วกงตอบพลางคีบเนื้อเข้าปาก “ก็เฉิงเอ๋อร์ยอมไปคัดเลือกพระราชสวามีขององค์หญิงใหญ่แล้วนี่”“จริงรึ? ท่านพ่อ” เจียงจุนหลี่ น้องชายคนรองเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ “เมื่อคืน ท่านพี่ยังยืนกรานกับข้าว่าอย่างไรก็จะไม่เข้าคัดเลือกเป็นแน่ จริงหรือไม่? ท่านพี่”เจียงจุนหลี่หันไปถามเจียงอวี้เฉิง ในขณะที่เจียงอวี้เฉิงกำลังตาลายไปกับอาหารเลิศรสนานาชนิดบนโต๊ะ ทั้งปลานึ่งซีอิ๊ว หมูแดงย่างหอมกรุ่น ขาหมูพะโล้ ผัดผักตามฤดูกาล และที่ขาดไม่ได้คือไก่ตุ๋นยาจีนเนื้อนุ่ม หนังสีเหลืองทองชวนน้ำลายสอ ไอน้ำยังลอยกรุ่นขึ้นมาจากชามใหญ่แม่เจ้าโว้ย!! เกิดมายังไม่เคยมีอาหารเต็มโต๊ะขนาดนี้มาก่อนเลย!!

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 6

    “อ๊าก!!” เจียงอวี้เฉิงหมอบลงตัวกับพื้นแล้วร้องระบายออกมาสุดเสียงอย่างอัดอั้นแม่งเอ๊ย!! นึกว่าจะได้ร่างใหม่ที่หล่อเหลา ไม่มีรอยสักแล้วซะอีก...เสียงร้องโหยหวนของเขาสร้างความตกใจให้แก่บิดาคนใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมากเจิ้นกั๋วกงหันสบตากับจ้าวลี่ด้วยความตกตะลึง ไม่รู้ว่าวันนี้ บุตรชายของเขาเป็นสิ่งใด ล้วนแต่มีท่าทีแปลกประหลาด ตั้งแต่ร้องหาคันฉ่อง ไหนจะปรากฏรอยประหลาดที่ต้นแขนอีก“ฉะ... เฉิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นสิ่งใดไป? พ่อตีเจ้าเจ็บหรือ?”เจียงอวี้เฉิงที่ได้ยินน้ำเสียงห่วงใยนั้น ก็รีบเงยหน้าขึ้นมองหน้า เจียงซู่ เจิ้นกั๋วกงและเป็นบิดาของเขาในตอนนี้เจียงซู่ เหมือนเจียงห้าว พ่อของเขาไม่มีผิดเพี้ยน...ใบหน้า น้ำเสียง รูปร่าง แม้ว่าจะดุกับเขาไปบ้าง แต่อย่างไรก็รักและเอ็นดูเขาอย่างที่สุด“ข้าไม่เป็นไรขอรับ” เจียงอวี้เฉิงตอบด้วยเสียงอู้อี้หากวิญญาณของเขาข้ามมิติมาที่นี่แล้ว ร่างของเขาในโลกนู้นก็คงจะนอนแน่นิ่งแล้วสินะ...แล้วพ่อจะเป็นยังไงบ้างนะ? พ่อจะไม่คลั่งไปเลยเหรอ?ยิ่งกังวลอยู่ว่าเขาเป็นสายเลือดคนสุดท้ายของ

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 5

    “ไอ้ลูกไม่รักดี! คุกเข่าสำนึกผิดต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษตระกูลเจียงเดี๋ยวนี้!”น้ำเสียงและถ้อยคำที่คุ้นเคยดังผ่านหูของเขาอีกครั้ง เจียงอวี้เฉิงกะพริบตาตื่นขึ้นด้วยความตกใจภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือป้ายวิญญาณบรรพบุรุษที่วางเรียงรายหลายสิบป้ายอย่างเป็นระเบียบอยู่บนแท่นบูชาขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้หงส์แดง ขัดเงาจนขึ้นสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายป้ายวิญญาณบรรพบุรุษทำจากไม้แกะสลักอย่างประณีต ลงรักปิดทองอร่ามเรืองรองภายใต้แสงเทียนและตะเกียงน้ำมันที่จุดบูชาอยู่เสมอ รายนามและตำแหน่งของบรรพบุรุษแต่ละรุ่นถูกจารึกไว้อย่างเคารพและนับถือบ้านเขาไม่ได้ตั้งป้ายวิญญาณไฮโซแบบนี้นี่?กระถางธูปทองเหลืองขัดเงาที่ส่งกลิ่นหอมของกำยานอ่อน ๆ เชิงเทียนคู่ใหญ่ที่เปลวเทียนไหวระริกอย่างนุ่มนวล วางซ้อนด้านหน้าด้วยถ้วยน้ำชาสะอาดบริสุทธิ์บ้านเขายากจนขนาดนี้ จะไปมีกระถางธูปทองเหลืองได้ยังไง?เจียงอวี้เฉิงหันหน้าไปมา เพื่อมองรอบ ๆ ตัวแล้วจึงพบว่าตอนนี้เขากำลังคุกเข่าอยู่ในโถงบรรพชนขนาดใหญ่ที่บรรยากาศกำลังเย็นเยียบและเงียบสงัด แสงสว่างจากภายนอกลอดผ่านบานหน้าต่างไม้ฉลุลายที่ประดับด้วยกร

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 4

    “ทำไมคนแซ่จวงมันโชคดีจังวะ ได้แต่งงานกับเจ้าหญิง ลูกกลายเป็นเต้ แล้วยังได้เป็นไฮโซอีก” เจียงอวี้เฉิงพูดด้วยความอิจฉาเต็มอก ก่อนจะนึกถึงตระกูลจวงในปัจจุบันที่ได้ยินผ่านสื่อโทรทัศน์บ่อย ๆจวงเหวินซิน ศัลยแพทย์หัวใจอัจฉริยะ ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการแพทย์ชั้นนำระดับโลก หลังกลับสู่ประเทศบ้านเกิดแล้ว เขาก็ได้กลายเป็นแพทย์มือหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขาได้ก่อตั้งเครือข่ายโรงพยาบาลนับสิบแห่งทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อเสียงอันเป็นที่น่านับถือของตระกูลจวงจวงยู่หลุน นักการเมืองผู้ยึดมั่นในหลักการ ทำงานด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ จนได้รับการไว้วางใจจากประชาชน เลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายสมัยจวงเจ๋อหยู อธิการบดีผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาก่อตั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติ จนมหาวิทยาลัยแห่งนี้กลายเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเรียนนับล้านทั่วประเทศ การันตีการเรียนจบที่มีคุณภาพและการได้งานทำที่มั่นคง ทำให้บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างสูงจวงย่าจิ้ง คุณนายใหญ่แห่งตระกูลจวง ผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอได้ก่อตั้งมูลนิธิต่าง ๆ ม

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 3

    ฮ่องเต้ชิงหยางประกาศให้บุตรชายของตระกูลขุนนางเข้าร่วมงานคัดเลือก ซึ่ง เจียงอวี้เฉิง ซื่อจื่อแห่งจวนกั๋วกงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานคัดเลือกนั้นในท้ายที่สุด จวงหมิงรุ่ย ซื่อจื่อแห่งจวนจวงกั๋วซือ ของ จวงเหวินจิ่น ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นกั๋วซือของฮ่องเต้ในขณะนั้น ได้ผ่านการคัดเลือกเป็นพระราชบุตรเขยหลังจากที่องค์หญิงใหญ่ได้สนทนากับซื่อจื่อแห่งจวนจวงกั๋วซือก็เกิดความพึงพอพระทัยในการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างจากการใช้ชีวิตตามกฎเกณฑ์ของวังหลวงเป็นอย่างมากองค์หญิงใหญ่จึงได้ขอพระราชทานย้ายไปอยู่กับซื่อจื่อที่จวนจวงกั๋วซือ ซึ่งฮ่องเต้ชิงหยางก็ได้พระราชทานอนุญาต ตามพระทัยพระเชษฐภคินีหลังจากงานอภิเษกสมรส องค์หญิงใหญ่ได้ก้าวเข้าสู่จวนจวงกั๋วซือในฐานะฮูหยินซื่อจื่อ เพียงไม่นาน ก็มีข่าวว่าองค์หญิงใหญ่ได้ประสบอุบัติเหตุที่ใบหน้า จำต้องใช้ผ้าปิดใบหน้าเมื่อออกจากจวนอยู่เสมอแต่ความสงบสุขก็อยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่ง เย่เฉิง รองแม่ทัพคนสนิทของเจิ้นกั๋วกงได้เข้าไปทูลรายงานกับฮ่องเต้ชิงหยางว่าจวนเจิ้นกั๋วกงต้องการก่อกบฏ ติดต่อสมคบคิดกับแคว้นศัตรูเย่เฉิงมอบหลักฐา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status