Share

9

last update Last Updated: 2025-07-18 10:05:02

นรกภูมิ

ณ เมืองยมโลก ประตูสู่ดินแดนนรกที่วิญญาณทั้งหลายไม่อยากย่างกรายเข้ามา

“ยมบาลมัจฉา ช่วยติดต่อยมทูตปาณะให้เราหน่อยสิ เราอยากรู้ว่าทำไมจนป่านนี้แล้วยังตามหาดวงวิญญาณรนิดาไม่เจออีก เส้นตายแค่เย็นนี้แล้วนะ” ท่านพญามัจจุราชผู้ยิ่งใหญ่ในนรกภูมิ กล่าวกับยมบาลที่ทำหน้าที่แยกแยะความชั่วของมนุษย์อย่างร้อนใจ เพราะตอนนี้ก็กินเวลาเข้าไปหลายชั่วโมงแล้ว ที่ยมทูตผู้มีหน้าที่รับวิญญาณยังตามหาหญิงสาวที่ดวงยังไม่ถึงฆาต แต่ตกใจจนเตลิดหายไปจากร่างไม่พบ ที่สำคัญที่สุดร่างของเธอกำลังจะถูกเผาพร้อมกับบิดาของเธอในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้วด้วย

“เจ้านั่นมันอยู่กับมนุษย์นานจนลืมเรื่องเวลาไปแล้วหรือไร” พญามัจจุราชพึมพำกับตัวเอง

“ไม่ลืมหรอกขอรับท่านยมราช หนึ่งชั่วโมงของเราเท่ากับโลกมนุษย์หนึ่งวันกระผมยังจำได้ขึ้นใจขอรับ” ยมทูตปาณะขึ้นมารายงานตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับการติดต่อผ่านกระแสจิตจากทางนรกภูมิ

“แล้วทำไมเจ้ายังตามหาดวงวิญญาณของรนิดาไม่พบอีกเล่า เราร้อนใจนะ ถ้าเกิดร่างของนางถูกเผาขึ้นมา เราจะรับผิดชอบเรื่องนี้กันได้เหรอ”

“กระผมขอโทษขอรับท่านยมราช กระผมได้เจอกับดวงวิญญาณของนางหนหนึ่งแล้ว แต่ก็พลาดไปอย่างเฉียดฉิว นางหนีได้ไวมากขอรับ กระผมเรียกอย่างไรก็ไม่ฟัง”

“เธอคงตกใจมากสินะ” ท่านพญามัจจุราชนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ร่างของวิญญาณดวงนั้นกำลังจะถูกรถชน หน้าตาของเธอบ่งบอกว่าช็อกสุดขีดตอนที่รถคันใหญ่พุ่งเข้าใส่ ก่อนจะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดตอนที่ถูกกระแทกใส่ร่าง และวิญญาณก็หลุดลอยไปคนละทิศละทางกับร่างกายเมื่อกระแทกลงสู่พื้นถนน

“ท่านยมทูตปุลากลับมาแล้วขอรับท่านยมราช” ยมบาลมัจฉากล่าวรายงาน

“เร่งด่วนแบบนี้ทำไมเราไม่ให้ท่านยมทูตปุลาไปช่วยท่านยมทูตปาณะอีกแรงเล่าขอรับ เพราะอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งจะเกิดสึนามิที่ชายฝั่งอันดามันของไทย ยมทูตเกือบทั้งหมดจะต้องไปรับวิญญาณที่นั่นนะขอรับ” ยมบาลเมฆาที่ทำหน้าที่ตรวจสมุดบัญชีความตายเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม

“ทำตามที่เจ้าแนะนำก็แล้วกัน ยมทูตปาณะพายมทูตปุลาไปเดี๋ยวนี้เลย เวลาเราเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว”

“ขอรับท่านยมราช” ยมทูตทั้งสองขานรับพร้อมเพรียงพร้อมอาวุธสามง่ามและบ่วงรัดวิญญาณก่อนจะหายตัวไปในทันที

“เจ้าสองตนคิดว่าว่าสองยมทูตนั่นจะพาดวงวิญญาณของรนิดากลับมาได้ไหม”

“เรื่องนี้กระผมสุดคาดเดาขอรับท่านยมราช แต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ตั้งแต่กระผมทำงานกับท่านมาก็เพิ่งพบเจอไม่ถึงสิบครั้ง” ยมบาลมัจฉาตอบด้วยเหตุผล แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ชะตาลิขิต

“เฉลี่ยหนึ่งหมื่นสองพันปีต่อครั้งขอรับท่านยมราช ทั้งหมดเคยเกิดขึ้นแล้วแปดครั้งขอรับ ครั้งล่าสุดเคยเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งหมื่นห้าพันปีที่แล้วขอรับ” ยมบาลเมฆาตอบอย่างละเอียด

เฮ้อ! ท่านพญามัจจุราชถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม มองหน้ายมบาลเลขาทั้งซ้ายขวา

“เจ้าทั้งสองเตรียมร่างสัญญารอดวงวิญญาณของรนิดาเอาไว้ก็แล้วกัน แล้วก็ร่างโทษไว้ให้ยมทูตปาณะด้วย เขาเพิ่งทำผิดครั้งแรกใช่ไหม”

“ขอรับท่านยมราช”

“ถ้าเลือกได้เราไม่อยากทำโทษเขาเลย แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ” ก็แค่ต้องไปทำหน้าที่อยู่ในนรกภูมิชั้นที่เลวร้ายที่สุดหนึ่งปีเท่านั้น และหวังว่าเขาจะไม่ทำผิดพลาดอีก

“กระผมเข้าใจความรู้สึกของท่านดีขอรับ แต่เราไม่รู้ว่ายมทูตปาณะใจอ่อนกับดวงวิญญาณของรนิดาหรือเปล่า ดังนั้นที่ท่านตั้งกฎลงโทษเอาไว้ถือว่าทำถูกต้องแล้วขอรับ” ยมบาลเมฆาผู้เคร่งครัดตอบอย่างเฉียบขาด เตรียมสัญญาร่างสองฉบับไว้ให้หนึ่งดวงวิญญาณกับหนึ่งยมทูต

“อีหนูทำไมถึงมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ล่ะ”

ณ มุมหนึ่งของโรงพยาบาลอันกว้างขวาง รนิดาที่แอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยผ้าสีและพวงมาลัยปาดน้ำตา เงยหน้าขึ้นมองชายชราหน้าตาใจดีในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน

“หนูอยากเจอพ่อแต่หนูหาพ่อไม่พบค่ะคุณตา” เธอรู้ว่าบิดาเสียชีวิตแล้ว เพราะเห็นวันที่ครอบครัวมารับร่างที่ไร้ลมหายใจของท่านออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับร่างของตน จึงตามหาวิญญาณของท่านเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านไปด้วยกัน

แต่หาอย่างไรก็ตามหาไม่พบ ซ้ำยังเจอกับยมทูตหน้าตาดุดัน รูปร่างสูงใหญ่ ตามจับจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพื่อเอาตัวรอดให้ได้จนกว่าจะได้เจอกับบิดา เมื่อรู้สึกว่าปลอดภัยจากการตามล่าแล้วก็ออกตามหาบิดาใหม่จนทั่วก็ยังไม่เจอ ด้วยความท้อแท้ใจจึงมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงนี้และร้องไห้ออกมา

“ตามหาพ่อไม่เจอ”

“ค่ะคุณตา คุณตาช่วยหนูหน่อยสิคะ” เธอเดาเอาจากความคิดและเรื่องที่เคยได้ยินมาจากคนอื่นล้วนๆ ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าคุณตาท่านนี้ต้องเป็นเจ้าที่เจ้าทางของโรงพยาบาลแห่งนี้แน่ๆ

“ตาช่วยหนูไม่ได้หรอกนะ มนุษย์เราตายแล้วก็มีที่ไปเหมือนกัน ป่านนี้พ่อของหนูคงไปแล้วแหละ คงไม่ได้เร่ร่อนอยู่แถวนี้เหมือนหนูหรอก”

“แต่หนูก็เห็นวิญญาณอื่นๆ เหมือนกันนี่คะคุณตา”

“ที่หนูเห็นนั่นคือพวกสัมภเวสีต่างหาก หรือบางส่วนก็คือวิญญาณที่ยังไม่ถึงคราวตาย แต่เตลิดออกจากร่างเพราะความตกใจ ร่างของเขากำลังอยู่ในห้องไอซียู ห้องฉุกเฉิน รอการต่อชีวิต เดี๋ยวเขาก็ได้กลับเข้าร่างแล้ว” คุณตาเจ้าที่พยายามบอกใบ้ให้หญิงสาวรู้ตัว ว่าตัวเธอยังไม่ถึงที่ตายแทนการบอกไปตรงๆ  เพราะไม่อยากทำผิดกฎของโลกภูมิ นรกภูมิ “ทำไมหนูไม่กลับไปดูที่บ้านล่ะ บางทีพ่อหนูอาจจะไปรอหนูอยู่ที่บ้านก็ได้นะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลักรักอ๋องนักรบ   จบบริบูรณ์

    บทส่งท้าย (ตอนที่ 2)ตอนนั้นนายหญิงของนางแทบจะพลิกแคว้นหม่าตามหาลูกเหมือนคนบ้า หาในแคว้นหม่าไม่เจอก็ยังกลับไปที่เมืองหลวงของต้าหมิง เพื่อไปถามเกาอ๋องและชายาของเขาว่ารู้เห็นกับเรื่องนี้หรือไม่คุกเข่าขอความเมตตาขอลูกคืนจากเขา ขอโทษสำหรับเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดที่เคยทำไว้กับครอบครัวเขา เพราะคิดว่าพวกเขาขโมยลูกของนางไป แต่สุดท้ายฝ่ายนั้นก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ ตั้งแต่วันที่นางหนีออกไปจากจวน ถ้าไม่เชื่อก็ให้คนค้นจวนได้เลยด้วยความเป็นห่วงลูกน้อย นางจึงทำตามที่เกาอ๋องบอกอย่างไม่กริ่งเกรงใจ ค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่เจอ นางจึงคว้าน้ำเหลวกลับมาอีกครั้งกลับมาจากเมืองหลวงนางก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจอยู่เป็นปี แต่ก็ยังส่งคนคอยตามสืบตามหาคุณหนูอันอันจนทุกวันนี้ก็ยังไม่เลิก ด้วยหวังว่าจะได้เจอนางในสักวันความเศร้าโศกเสียใจของนางในครั้งนั้นเดือดร้อนถึงฮ่องเต้และฮองเฮาของแคว้นหม่า ต้องเรียกนางเข้าไปพบและพูดคุยให้สติ เยียวยาจิตใจนางด้วยคำพูดและความหวังจากนั้นนา

  • สลักรักอ๋องนักรบ   140

    บทส่งท้าย (ตอนที่1)สิบสองปีผ่านไป“ซินเอ๋อร์”“เจ้าค่ะท่านพ่อ” สาวน้อยวัยสิบสองขานรับคำเรียกบิดาแล้วรีบวิ่งออกจากกระท่อม “โอ้ว! น่ารักจังเลยท่านพ่อ” บอกบิดาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดี รีบเอาลูกสุนัขที่ท่านอุ้มไว้มาอุ้มแทน “มันชื่ออะไรหรือเจ้าคะ”“พ่อหามาให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่ลูก ลูกตั้งชื่อตามใจลูกได้เลย”“เช่นนั้นลูกขอตั้งชื่อมันว่าซิงน้อยได้หรือไม่เจ้าคะ ลูกอยากให้มันเป็นน้องชายของลูกมากกว่าสัตว์เลี้ยงเจ้าค่ะ”“แต่พ่อไม่ค่อยชอบชื่อนี้เลย” อาซิงหรือในอดีตที่มีชื่อว่าตงไห่ทำท่าไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “เพราะมันบังอาจชื่อเหมือนลูกสาวคนเดียวของพ่อ”“เช่นนั้นลูกเปลี่ยนเพื่อท่านพ่อก็ได้” เด็กน้อยยอมเปลี่ยนใจง่ายดายเพื่อท่านพ่อของนาง“เจ้าไม่เสียใจหรือลูกซิน”“ไม่เลยเจ้าค่ะ ลูกเป็นลูกของท่านพ่อ สิ่งไหนที่ทำให้

  • สลักรักอ๋องนักรบ   139

    “ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเจ้านะ เอาไว้ข้าจะให้ป้าเซียวทำอาหารแห้งมาฝากเจ้าด้วยก็แล้วกัน”“ขอบคุณลุงเซียวมาก ข้าซาบซึ้งยิ่งนัก”“มีเด็กก็ต้องมียาติดบ้านไว้บ้างนะ บ้านข้าก็มีลูกอ่อนเหมือนเจ้า เดี๋ยวข้าจะให้เมียข้าฝากป้าเซียวมาให้นะ”“ขอบคุณพี่ชายมาก” ตงไห่กล่าวอย่างซาบซึ้งน้ำใจ แต่ความจริงเขาก็มียาหลายเทียบติดตัวมาแล้ว“พวกข้าไปก่อนนะอาซิง มีอะไรก็ไปบอกพวกเราได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ”ตงไห่พยักหน้ารับ ยืนส่งจนพวกเขาเดินจากไปไกลจึงเดินเข้าไปในกระท่อมเขาเดินไปที่เปลที่มีทารกเพศหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มนอนหลับสบายอุรา ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนใด ๆ“ลูกเอ๋ย พ่ออยากฆ่าแม่ของเจ้านัก แต่เห็นแก่ความดีที่นางยอมคลอดเจ้าออกมา พ่อจึงไว้ชีวิตนาง ให้นางได้อาศัยอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความทุกข์ไปตลอดชีวิตแทน ส่วนเจ้า..พ่อขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องกำพร้าแม่ ต่อจากนี้ไปเราสองคนจะเป็นคนใหม่ พ่อไม่ใช่ตงไห่แต่เป็นอาซิง ส่วนเจ้าไม่ใช่ลูกหลานตระกูลฉง

  • สลักรักอ๋องนักรบ   138

    ฉงเถียนค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก แข้งขาแทบไม่มีแรงแต่ก็ยังฝืนประคองตัวเอาไว้ แล้วเดินโซซัดโซเซออกไปจากห้องตามหลังเสี่ยวผิงยืนมองสาวใช้ที่กำลังไล่ถามทุกคนในร้านด้วยความร้อนใจ แต่ทุกคนต่างก็ส่ายหน้าให้นาง“ทุกคนฟังทางนี้” นางรวบรวมเรี่ยวแรงแล้วตะเบ็งเสียงออกไปอย่างดังที่สุดเท่าที่ทำได้ เห็นทุกสายตามองมาก็พอใจยิ่ง “เมื่อคืนนี้ลูกสาวที่เพิ่งเกิดของข้าหายไปจากห้อง ถ้าใครสามารถชี้เบาะแสแก่ข้าได้ ข้าจะมอบบ้านและเงินให้เป็นรางวัล” พูดพร้อมกับชูตราประจำตระกูลขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นเสียงของคนในโรงเตี๊ยมดังระเบ็งเซ็งแซ่แทบจะทันทีเมื่อได้ยินและได้เห็นป้ายที่หญิงสาวถือไว้“ท่านคือธิดาของแม่ทัพฉงเหรอ” ชาวบ้านผู้หนึ่งตะโกนถามสตรีที่ยืนอยู่ชั้นบนของโรงเตี๊ยม“ใช่ ข้ามีนามว่าฉงเถียน เป็นธิดาเพียงคนเดียวของฉงเฉิน แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นนี้ ถ้าใครให้เบาะแสแก่ข้าได้ ท่านสามารถเลือกเอาได้เลยว่าอยากมีบ้านอยู่ในเมืองไหน ข้าจะเนรมิตให้ท่านทันที&rdquo

  • สลักรักอ๋องนักรบ   137

    น้ำตาสาวใช้เอ่อล้นตา ต่อให้อีกฝ่ายใช้คำพูดสวยหรูเพียงใด นางก็ไม่สบายใจเลยสักนิด แต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำขอ“ได้เจ้าค่ะ บ่าวสัญญาว่าจะเลี้ยงดูคุณหนูอย่างดีที่สุด”“ขอบใจมากนะเสี่ยวผิง” ฉงเถียนยิ้มกว้างด้วยความสบายใจ มองสาวใช้ด้วยความซาบซึ้ง ‘ข้าจะไม่ให้เจ้ากับลูกของข้าต้องอยู่อย่างลำบากหรอก ข้าจะต้องพาพวกเจ้ากลับถึงจวนของบิดาข้าให้ได้ ข้าถึงจะยอมตาย’ คิดในใจโดยไม่พูดออกไปเมื่อทำสำเร็จอย่างที่ตั้งใจแล้ว ต่อให้ตงไห่หรือคนของเกาอ๋องตามมาเอาชีวิต นางก็ยินดีก้มรับชะตากรรม“ท่านหญิง บ่าวขอถามได้หรือไม่ เหตุใดท่านจึงต้องแบกท้องแก่หนีมายังแคว้นหม่าด้วย ทำไมไม่คลอดลูกที่จวนเกาอ๋องเล่า ก่อนหน้านี้บ่าวเคยชวนท่านหนีท่านก็ไม่เห็นด้วย ยืนกรานว่าจะคลอดลูกที่จวนเกาอ๋องให้ได้ แต่ทำไมตอนหลังถึงเปลี่ยนใจง่ายดาย”“.....” ถึงแม้จะคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องถูกถาม แต่มันก็ยากที่ต้องตอบความจริงออกไป ฉงเถียนจึงได้แต่นิ่งเงียบเหมือนคนเป็นใบ้ไปชั่วขณะ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   136

    “หยุดพูดเรื่องนี้กันเถิดเจ้าค่ะ บ่าวยอมพาท่านเสี่ยงชีวิตข้ามแดนมาคลอดลูกที่แคว้นของเราแล้ว ต่อไปนี้ก็เชื่อฟังบ่าวบ้างเถิดนะเจ้าคะ” เมื่ออยู่ในแคว้นบ้านเกิดแล้ว นางก็ไม่จำเป็นต้องพูดจาปกปิดฐานะเพราะกลัวใครจะจับได้อีก“แต่ข้ายังไม่สบายใจจนกว่าจะกลับถึงบ้านของข้า”“ท่านหญิงกำลังกลัวอะไรกันแน่ บอกให้บ่าวเข้าใจหน่อยเถิด” เสี่ยวผิงเริ่มสงสัย“เปล่าหรอก ข้าก็แค่อยากพาลูกกลับบ้าน จะได้มีแม่นมช่วยดูแลนางเร็ว ๆ ก็เท่านั้น” ฉงเถียนสร้างเรื่องโกหก“เรื่องนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ข้าได้ใช้พิราบสื่อสารส่งข่าวไปทางบ้านแล้ว อีกไม่เกินสามถึงสี่วัน คนของเราน่าจะมาถึงที่นี่ ก็น่าจะเป็นเวลาที่ท่านรักษาตัวจนแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้พอดี และข้ายังได้บอกให้พวกเขาพาแม่นมมาด้วย”“..เจ้าช่างรอบคอบนัก ขอบใจนะเสี่ยวผิง” เจอความรอบคอบของสาวใช้ นางก็จนปัญญาจะแต่งเรื่องมาโกหก จึงได้แต่ดื่มยาในถ้วยจนหมด“อมบ๊วยแก้ขมสักหน่อยนะเจ้าค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status