ภาพที่เห็นจากหน้าจอมือถือของเขตแดน ทำให้หญิงสาวรู้สึกใจสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“พี่ซีล แสดงว่าเขารู้แล้ว”
“ไม่ต้องกลัวนะ” หนึ่งนทีดึงน้องสาวมาซบไหล่แล้วกอดปลอบ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกกังวลจนพูดอะไรไม่ออก
“แล้วนี่ มึงรู้เรื่องนี้ด้วยหรือวะ”
เขตแดนได้แต่ตอบรับในลำคอ ใช่ว่าจะมีเพียงคนของหนึ่งนทีที่สืบเรื่องที่เกิดขึ้นกับธารทีรา เพราะเขาก็ได้ให้คนสืบข่าวมาเช่นกัน
“แล้วพี่ซีลจะทำยังไงต่อคะ คือ…”
“กลับบ้านเลยนะ ไม่ต้องทำงานต่อแล้ว”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับอย่างเชื่อฟัง เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมขึ้นมา
หนึ่งนทีนิ่งไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักแล้วถามออกมาว่า
“ดิน กูยังมีงานสำคัญที่ต้องทำต่อที่ห้าง มึงช่วยไปส่งน้องกูได้หรือเปล่า”
“ไอซ์มีการ์ดค่ะ ไม่ต้องรบกวนคุณดินก็ได้”
ธารทีราบอกพี่ชาย เพราะไม่อยากอยู่กับเขตแดนแค่สองคน
“หึ! สงสัยการ์ดที่พี่ให้มาปกป้องเรา จะเป็นหนอนบ่อนไส้”
หนึ่งนทีพูดเสียงเหี้ยม เพราะบอดี้การ์ดที่เขาให้มาดูแลน้องสาว รู้จักไทเกอร์ทุกคน แต่กลับไม่มีใครมารายงานเขาสักคนว่าอีกฝ่ายมาที่นี่
“พี่มีนาน่ะหรือคะ” ธารทีราหน้าซีดเผือก เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยที่ดูจริงใจและไว้ใจได้ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า มีนาจะเป็นสายให้กับคนพวกนั้น
“วันนี้มีนาไม่อยู่ใช่ไหม” หนึ่งนทีถามน้องสาว
“แล้วคนของพี่มีนาล่ะคะ” ธารทีราพยักหน้า ชักใจคอไม่ดีเสียแล้ว เมื่อนึกถึงลูกน้องของมีนาที่มาทำงานเป็นการ์ดของเธอ
คำถามของน้องสาว ทำให้พี่ชายเงียบอยู่สักพัก แล้วเขาก็มองหน้าเพื่อนรักพลางถามเรียบ ๆ ว่า
“ฝากน้องกูหน่อย...ได้เปล่าวะ”
เขตแดนพยักหน้าตอบรับ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ
“งั้นเจอกันที่บ้านกูนะ ขอบใจมาก” หนึ่งนทีเอ่ยขอบคุณเพื่อนรัก ก่อนจะเดินออกไปจัดการบางอย่าง
ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องห่วงน้องสาวอีกแล้ว เพราะมั่นใจว่าเขตแดนจะปกป้องธารทีราได้เป็นอย่างดี
“ดะ...เดี๋ยวสิคะ พี่ซีล” หญิงสาวทำท่าจะเดินตามไปคุยพี่ชาย แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะอีกฝ่ายเดินหายไปเร็วมาก และในที่สุดเธอก็ได้แต่หันไปมองเขตแดนที่กำลังจ้องมองมาทางเธอ
เมื่อรับปากเพื่อนแล้วว่าจะพาน้องสาวกลับบ้าน เขตแดนก็พาธารทีรามาเก็บของที่ห้องทำงานของเธอ โดยชายหนุ่มเป็นคนถือกระเป๋าและเดินประกบหลังตามมายังลานจอดรถ
“รถฉันอยู่ทางโน้น” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินไปอีกทาง ซึ่งไม่ใช่จุดที่รถของเขาจอดอยู่
หญิงสาวจึงจำต้องเดินตามเพื่อนของพี่ชายไปอย่างจนใจ เพราะเธอไม่ต้องการเสียเวลาโต้เถียงกับอีกฝ่าย
เขตแดนเอากระเป๋าของธารทีราไปวางไว้ที่เบาะหลัง จากนั้นก็เดินไปยังประตูฝั่งคนขับ และช่วงเวลาที่เขากำลังเปิดประตูเพื่อจะเข้าไปนั่ง ชายหนุ่มก็ได้เอ่ยออกมาว่า
“ยืนอยู่นั่นแหละ ทำไมไม่ขึ้นรถ”
ธารทีราเข้าใจว่าชายหนุ่มจะเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้กับเธอจึงไม่ได้ก้าวขึ้นไปในตอนแรก และพอขึ้นมานั่งประจำที่แล้วก็บ่นออกมาเบา ๆ
“ผู้ชายอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย”
แม้หญิงสาวจะบ่นกับตนเองเบาแค่ไหน เขตแดนที่นั่งอยู่เคียงข้างก็ยังคงได้ยิน เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้เธอ
“เอ๊ะ! คุณจะทำอะไร” หญิงสาวอุทานออกมา เมื่อจู่ ๆ หน้าของเขาก็ขยับเข้ามาประชิด และห่างกับใบหน้าของเธอเพียงแค่ฝ่ามือกั้น
บทที่ 34มันใกล้มาก...ใกล้จนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของเขา“นั่งเฉย ๆ จะรัดเข็มขัดนิรภัยให้” ชายหนุ่มเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเพื่อคาดเข็มขัดให้ ในระหว่างที่เขาสอดมือไปข้างเอวกิ่ว สายตาคมวาวก็ยังคงจ้องมองธารทีราอย่างไม่วางตา“ฉันทำเองได้ ไม่เห็นต้องทำให้เลย” คนพูดตัวแข็งทื่อ เกร็งตัวหลังบางแนบติดกับเบาะ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำเมื่อมีใบหน้าหล่อเหลาของเขตแดนอยู่ใกล้แค่เพียงคืบเมื่อเขตแดนรัดเข็มขัดนิรภัยให้แล้วก็ขยับตัวนั่งในที่ของตัวเอง จากนั้นก็ขับรถออกจากลานจอดรถมุ่งสู่ถนนใหญ่“หึ!”ธารทีราสะบัดหน้าหนี หันไปมองข้างทางผ่านกระจกหน้าต่าง ยามได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ซึ่งเธอไม่ชอบเสียงแบบนี้เอาเสียเลยหลังจากนั้นราวยี่สิบนาที ทั้งสองต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดของตนเอง และมีเพียงเสียงหายใจของกันและกันเท่านั้นที่ดังมาให้ได้ยิน“หิวหรือเปล่า” ชายหนุ่มตัดสินใจเอ่ยถาม เมื่อเห็นน้องสาวของเพื่อนเอาแต่นั่งเงียบ ไม่แม้แต่จะมองมาทางเขาเลย“นิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาบ่ายสอง เธอไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้ตัวเองเริ่มได้ยินเสียงท้องของตัวเองร้องประท้วงแล้ว“งั้นแวะกินข้าวกันก่
บทที่ 35เขตแดนพูดต้อน หวังให้อีกฝ่ายพูดอะไรบางอย่างออกมา เพราะตั้งแต่ที่พบกันวันแรก เขาก็คิดมาตลอดว่าบางทีธารทีราก็คือน้ำฟ้า น้องสาวคนสำคัญของเขาคำพูดของเขตแดน ทำให้ธารทีราเริ่มรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วจึงพูดเสียงเบาว่า“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องทางบ้านสักเท่าไรหรอก”“ไม่รู้จักแม้กระทั่งอาตัวเองเหรอ” เขตแดนจ้องตาเธอ เพื่อหาความจริงใจจากแววตาคู่งาม“ฉันรู้แค่ว่ามีคุณอา และคุณอาก็จากไปนานแล้ว พร้อมกับลูก ๆ ของคุณอาน่ะค่ะ” หญิงสาวพยายามควบคุมตัวเองให้นิ่ง และพูดคุยกับเขาให้เป็นปกติที่สุด“หึ!” เขตแดนหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นท่าทางเลิ่กลั่กของคนตรงหน้า ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ่งมั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาตามหามานานหลังจากกินอาหารไปราวหนึ่งชั่วโมง เขตแดนก็พาธารทีรากลับมาส่งบ้าน ตลอดทางทั้งสองไม่ได้สนทนาอะไรกันอีกเช่นเคย เพราะต่างฝ่ายต่างมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิดทันทีที่รถเคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้ามุขของคฤหาสน์หลังงาม หญิงสาวก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออก และหันมาเอ่ยขอบคุณ“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เขตแดนทำเพียงพยักหน้านิ่ง ๆ รับรู้ โดยไม่ยอมลงจากรถไปเปิดประตูรถให้หญิงสาว ทว่าธารทีราที่เข้าใจว่าเขาจะลงไปเปิดประตูให้ก็ยังคงน
บทที่ 36เขตแดนรออยู่ไม่นาน ลูกน้องคนสนิทของเขาก็เข้ามาพบตามคำสั่ง พร้อมกับนำเรื่องบางอย่างมารายงานด้วย“นี่ครับนาย”เมื่อภามยื่นซองเอกสารให้เจ้านายแล้ว เขาก็ขยับตัวถอยหลังมายืนประสานมือไว้ข้างหน้า“ได้เรื่องหรือเปล่า” เขตแดนถามในสิ่งที่ตัวเองมอบหมายให้ลูกน้องไปทำ“ชื่อของคุณน้ำฟ้า ถูกแจ้งว่าเสียชีวิตพร้อมกับหมอคาร์ลแล้วครับ”“แล้วธารทีราล่ะ” ชายหนุ่มถามเรียบ ๆ โดยไม่ยอมละสายตาไปจากเอกสารในมือ ซี่งเป็นประวัติของคุณหมอสาวที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปสืบมา“นี่แหละครับที่แปลก” ภามรีบรายงานเจ้านายต่อ เพราะเขาเจอพิรุธบางอย่างที่มันน่าจะเชื่อมกัน“มีอะไร” เขตแดนเงยหน้าจากเอกสารขึ้นจ้องหน้าลูกน้องตาเขม็ง“คุณไอซ์ไม่มีประวัติการแจ้งเกิดที่ไทย แต่ไปแจ้งเกิดที่อเมริกา เพิ่งจะมีการยื่นขอสัญชาติไทยเมื่อไม่กี่เดือนนี้เองครับ”ภามเดินเข้าไปยืนข้างโต๊ะทำงาน แล้วเปิดเอกสารให้เขตแดนดูชายหนุ่มครุ่นคิดขณะกวาดสายตาไปบนหน้าเอกสารที่ลูกน้องเปิดค้างไว้ พร้อมกับคิดถึงใบหน้าสวยหวานของธารทีราไปด้วย“ผมตามสืบได้ด้วยนะครับ ว่ามีคนหลายคนพยายามหาข้อมูลของคุณไอซ์อยู่เหมือนกัน”ความเงียบของเจ้านาย ทำให้ภามพูดต่อพลางเปิดภ
บทที่ 37เมื่อเดินตามมาถึงดาดฟ้าของผับ หนึ่งนทีเห็นเพื่อนเดินไปยืนมองทิวทัศน์เบื้องหน้า ที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่มีแสงสว่างให้เห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปยืนข้างๆ เพื่อน แล้วถามขึ้นว่า“มึงให้คนตามสืบเรื่องน้องกูทำไม”“กูแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง” เขตแดนดูดบุหรี่เข้าปอดทีหนึ่ง พลางส่งซองบุหรี่ให้เพื่อนด้วย หนึ่งนทีรับมาถือโดยมีเอีกฝ่ายช่วยจุดให้“เฮ้อ...” หนึ่งนทีถอนหายใจ พลางพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างเซ็ง ๆ“ปิดกูทำไม” ยิ่งเห็นท่าทางของเพื่อน เขตแดนก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งคิด แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ ทำไมทุกคนต้องปิดบังเขาด้วย“ปิดอะไร” หนึ่งนทีทำเป็นไม่รู้เรื่อง เพราะเรื่องนี้บรรดาผู้ใหญ่ต่างต้องการให้ปิดเป็นความลับ เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก“อย่าคิดว่ากูไม่รู้” เขตแดนพูดเสียงเย็น พลางมองเพื่อนอย่างจับพิรุธ แต่คนฟังยังคงเฉไฉ“มึงอย่าถามมากเลยน่า ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของยัยไอซ์หรอก”“แล้วมึงคิดว่ากูไม่ห่วงเหรอ” พอเห็นเพื่อนรักไม่ยอมพูดอะไร ชายหนุ่มก็สำทับต่อ “กูจะส่งคนของกูไปดูแลอีกทาง”เขตแดนรู้ว่าเพื่อนลำบากใจจึงเปลี่ยนเรื่องพูด อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เหมือน
บทที่ 38ด้านคุณจอห์น แม้ว่าลูกชายจะขึ้นห้องไปนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมและจมอยู่ในห้วงความหลัง สายตาไหวสะท้านแดงก่ำ ขณะมองรูปภาพของตัวเองที่ยืนเกาะบ่าน้องชายถ่ายรูปคู่กันด้วยใบหน้าแช่มชื่นมีความสุข“มึงจะจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน” เขาสบถออกมาคำหนึ่งด้วยความแค้นใจ ยามคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านเลย ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ ที่มีบอดี้การ์ดชุดดำยืนกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ต่างพากันวิ่งมายืนต้อนรับ เมื่อเห็นรถของไทเกอร์ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ“นายครับ” การ์ดคนสนิทรีบเปิดประตูรถให้ไทเกอร์ก้าวลงมาด้วยท่าทีนอบน้อม“ป๋าอยู่ไหนวะ” ไทเกอร์สอบถามการ์ด เมื่อก้าวลงจากรถ“อยู่ที่สวนบอนไซครับ”เมื่อสิ้นคำรายงาน ไทเกอร์ก็รีบเดินไปยังสวนบอนไซที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ ชายหนุ่มรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นว่าการ์ดเดินตามทันทีที่มาถึงสวนบอนไซ ชายหนุ่มก็รีบเดินตรงไปยังจุดที่บิดากำลังวุ่นวายอยู่กับการตกแต่งบอนไซทันที“ป๋าครับ” ไทเกอร์เรียกพ่อ แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ ๆ มือสองข้างประสานกันแล้วไขว้หลังไว้เสียงของลูกชาย ทำให้ดาเนียลนักธุรกิจในวงการสีเทาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอเมริกาชะงักนิ่งไป เขาหยุดตกแต่งกิ่งบอนไซ พลางวา
บทที่ 39นายหญิงของบ้านนามว่าอันนาที่ยืนฟัง และดูท่าทีของลูกทั้งสองสักพักแล้วเอ่ยเรียกลูกชาย เมื่อเห็นว่าลูกสาวของท่านเดินออกไปแล้ว“ไทด์”เสียงของแม่ทำให้ไทเกอร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดก่อนหน้านี้ต้องรีบปรับให้เป็นปกติ แล้วหันไปมองและยิ้มให้แม่“แม่ครับ”“น้องไปเที่ยวอีกแล้วหรือ”“แม่ลงมาทำไมครับ”ไทเกอร์มองสีหน้าซีดเซียวของแม่ แล้วก็เป็นห่วง ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปประคองแม่ และพาไปนั่งที่ห้องรับแขก“ไปทำงานมาเหรอลูก”“ครับ”“วันนี้ทำงานหนักไหมลูก ทำไมทำหน้าเครียดจัง”สีหน้ายุ่งยากใจของลูก ทำให้มาดามอันนายื่นมือเข้าไปประคองหน้าหล่อเหลาของลูกชายขึ้นมามองให้เต็มตา“เปล่าครับ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะดึงมือท่านมาจุมพิตด้วยความรัก“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะลูก” คนพูดเอ่ยขึ้นอย่างต้องการปลอบโยน ท่านเลี้ยงลูกมาเองกับมือ มีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังรู้สึกเช่นไรไทเกอร์ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วถามแม่ว่า“แม่ช่วยเล่าเรื่องของป๋ากับคุณจอห์นให้ฟังได้ไหมครับ”“ใครนะ” มาดามอันนาถามเสียงดัง เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมานานมากแล้ว“คุณจอห์นครับ แม่รู้จักเหรอครับ” ไทเกอร์ขมวดคิ้วจนหน้าผากเป็นรอยหย
บทที่ 40“เธอมีอะไร”“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ดาเนียล” มาดามอันนาถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ พลางมองสามีเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน แววตามีแต่ความเย็นชา“ฉันทำอะไร” ดาเนียลจ้องหน้าภรรยาตาเขม็งเช่นกัน“คุณให้ไทด์ไปยุ่งกับคุณจอห์นทำไม”“ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้”“คุณพรากครอบครัวน้องชายเขาไปหมดแล้วนะ จะจองล้างจองผลาญพวกเขาไปถึงไหน”ดาเนียลหน้ากระตุก ไม่คิดว่าภรรยาจะขึ้นเสียงใส่จึงพูดเสียงเหี้ยมว่า“ยัง...มันยังไม่จบ”“หมายความว่ายังไง”“เด็กที่ฉันให้ไอ้ไทด์ไปยุ่งด้วย คือลูกสาวของไอ้คาร์ล”ดาเนียลแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อบอกภรรยา“คุณว่าอะไรนะ!” มาดามอันนาตกใจไม่แพ้กันที่ได้ยินแบบนั้น“นังเด็กนั่นมันยังไม่ตายยังไงล่ะ” ดาเนียลบอกภรรยา ยามคิดถึงเรื่องอดีต แววตาของเขาก็วาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัว“นะ...นี่คุณ” มาดามอันนาตกใจมาก ที่ได้ยินคำตอบจากสามี“ใช่” ดาเนียลพูดไปหัวเราะไป ในตอนนี้เขาเหมือนคนโรคจิตก็ไม่ปาน“คุณมันบ้าไปแล้ว” มาดามอันนารับไม่ได้กับความเลวของสามี “คุณมันบ้าไปแล้ว”“หุบปาก!” ดาเนียลตวาดเสียงเหี้ยม“คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้นะดาเนียล” เธอพยายามขอร้องให้สามีหยุดการกระทำอันเลวร้าย แต่ดูเหมือนผู้เป็นสามีจ
บทที่ 41ช่วงเวลาที่นั่งรอพนักงานเอากระเป๋ามาให้ดู อุษาก็มองไปรอบด้าน แล้วดึงธารทีราให้ลุกขึ้น จากนั้นก็ลากเพื่อนไปดูกระเป๋ารุ่นใหม่ที่โชว์อยู่ในตู้“ขอดูสองใบนี้ได้ไหมคะ” อุษาหันไปบอกพนักงานคนใหม่ที่คอยเดินตามเธอ“ได้ค่ะ” พนักงานบอก แล้วเอากระเป๋าออกจากตู้โชว์มาวางตรงหน้าอุษา“มีสองใบเหรอคะ” อุษาถามพนักงาน พลางมองกระเป๋าราคาแพงสองใบที่วางอยู่ตรงหน้า“ค่ะ สำหรับรุ่นนี้ตอนนี้มีเข้ามาแค่สองใบค่ะ”“ไอซ์” อุษาหันมองเพื่อนที่ไม่ได้มีทีท่าอยากได้เลย“อื้อ” ธารทีราขานรับเสียงในลำคอ“ซื้อไหม เอาคนละใบ” อุษาเอ่ยถามเพื่อน“ไม่ดีกว่า ฉันมีกระเป๋าเยอะแล้ว” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ได้ติดแบรนด์เนมเลยสักนิด“ฮือ ไม่เอาอะแก ซื้อเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ รุ่นนี้มีแค่สองใบเองนะ ฉันใบหนึ่ง แกใบหนึ่งไง” อุษาทำท่าร้องไห้งอแงที่โดนปฏิเสธ“เออ ๆ ก็ได้ ซื้อก็ซื้อ” ธารทีราเห็นดังนั้นก็ปฏิเสธเพื่อนไม่ลงจึงพยักหน้ารับไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่อยากได้เลยเมื่อเพื่อนพยักหน้า อุษาก็ยิ้มกว้าง พร้อมทั้งบอกพนักงานตรงหน้า“เอาทั้งสองใบนี้เลยค่ะ”ในจังหวะที่พนักงานจะหยิบกระเป๋าอีกใบออกมา ห่อใส่กระดาษ
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล