“เธอมีอะไร”
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ดาเนียล” มาดามอันนาถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ พลางมองสามีเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน แววตามีแต่ความเย็นชา
“ฉันทำอะไร” ดาเนียลจ้องหน้าภรรยาตาเขม็งเช่นกัน
“คุณให้ไทด์ไปยุ่งกับคุณจอห์นทำไม”
“ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้”
“คุณพรากครอบครัวน้องชายเขาไปหมดแล้วนะ จะจองล้างจองผลาญพวกเขาไปถึงไหน”
ดาเนียลหน้ากระตุก ไม่คิดว่าภรรยาจะขึ้นเสียงใส่จึงพูดเสียงเหี้ยมว่า
“ยัง...มันยังไม่จบ”
“หมายความว่ายังไง”
“เด็กที่ฉันให้ไอ้ไทด์ไปยุ่งด้วย คือลูกสาวของไอ้คาร์ล”
ดาเนียลแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อบอกภรรยา
“คุณว่าอะไรนะ!” มาดามอันนาตกใจไม่แพ้กันที่ได้ยินแบบนั้น
“นังเด็กนั่นมันยังไม่ตายยังไงล่ะ” ดาเนียลบอกภรรยา ยามคิดถึงเรื่องอดีต แววตาของเขาก็วาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัว
“นะ...นี่คุณ” มาดามอันนาตกใจมาก ที่ได้ยินคำตอบจากสามี
“ใช่” ดาเนียลพูดไปหัวเราะไป ในตอนนี้เขาเหมือนคนโรคจิตก็ไม่ปาน
“คุณมันบ้าไปแล้ว” มาดามอันนารับไม่ได้กับความเลวของสามี “คุณมันบ้าไปแล้ว”
“หุบปาก!” ดาเนียลตวาดเสียงเหี้ยม
“คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้นะดาเนียล” เธอพยายามขอร้องให้สามีหยุดการกระทำอันเลวร้าย แต่ดูเหมือนผู้เป็นสามีจะไม่แยแสแม้แต่น้อย
“น่ารำคาญ” ดาเนียลมองภรรยาอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินหนีขึ้นห้อง โดยไม่ยอมหันหลังกลับมามองภรรยาอีกเลย
“ดาเนียล คุณจะไปไหน กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน คุณจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะ” เธอพยายามจะตะโกนเรียกสามีให้มาคุยกัน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่คิดสนใจจริง ๆ มาดามอันนาเห็นเช่นนั้นก็หน้าถอดสี แววตาที่ฉายออกมาตอนนี้มีแต่ความเศร้า ขณะพึมพำชื่อใครคนหนึ่งออกมา
“โซ ฉันขอโทษ”
สองอาทิตย์ต่อมา...
วันนี้เป็นวันหยุดของธารทีรา แต่เธอถูกรบกวนตั้งแต่เช้า โดยอุษาได้ชวนเธอมาเดินเที่ยวเป็นเพื่อน ที่ห้างสรรพสินค้าของตระกูลบริพัฒน์สกุลเกียรติ
“แกจะมาซื้ออะไร” คนถามมองไปรอบ ๆ แล้วหันมาถามอุษา ซึ่งอีกฝ่ายก็เดินมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย
“ซื้อเสื้อผ้า แล้วก็อยากซื้อกระเป๋าด้วย” อุษาบอก พร้อมชี้มือไปยังร้านเสื้อผ้าที่เธอชอบและมาซื้อประจำ
“อื้อ” หญิงสาวพยักหน้าให้ แล้วเดินตามหลังเพื่อนตรงไปยังร้านเสื้อผ้า
ช่วงเวลาที่กำลังจะก้าวเข้าไปในร้านเสื้อ อุษาก็ทำหน้าเบื่อหน่ายแทนเพื่อน เมื่อเหลือบตาไปเห็นบอดี้การ์ดที่ตามมาด้วย
“นี่แกต้องใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ” อุษากระซิบถามเสียงเบา
“อะไร”
“หันไปดูข้างหลังแกสิ” อุษาพยักหน้าให้เพื่อนดูบอดี้การ์ดใส่สูทดำสองคนที่เดินตามหลังเพื่อนอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเธอยืน
“อื้อ”ธารทีราพยักหน้าให้เพื่อน เมื่อหันไปมองเห็นการ์ดสองคนเดินตรงมาหาเธอ
“ไม่อึดอัดเหรอถามจริง” อุษาถามขึ้นด้วยความสงสัย และไม่เข้าใจสถานการณ์ของเพื่อนมากนัก
“ก็มีบ้างนะ แต่ชินแล้ว” เธอบอกเพื่อน ทั้งที่ไม่ได้ตรงกับความรู้สึกในใจ เพราะความจริงแล้วเธออึดอัดจะตายที่มีคนเดินตามแบบนี้
ด้านอุษาพยักหน้าหงึก ๆ ให้เพื่อน แล้วหันไปเลือกซื้อเสื้อผ้าต่อ และเมื่อได้ชุดกระโปรงที่ต้องการก็เดินไปจ่ายเงิน จากนั้นก็เดินหาซื้อของใช้เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปเรื่อย โดยมีการ์ดของธารทีรามาช่วยถือของให้
“แบบนี้ก็สบายดีเหมือนกันนะ”อุษายื่นถุงหลายใบให้การ์ด แล้วหันไปหัวเราะคิกคักกับธารทีรา
หญิงสาวหัวเราะให้กับเพื่อน ที่เห็นอุษาทำเหมือนตัวเธอเป็นเจ้าหญิง
“ไปร้านนั้นกัน” อุษาชวน แล้วจูงมือพาเพื่อนวิ่งหนีการ์ดที่คอยเดินตามติด ๆ
“ไปร้านนั้นดีกว่าแก” ธารทีราเข้าใจเพื่อนทันที จึงเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับเป็นคนวิ่งนำหน้าเพื่อนไปยังร้านข้างหน้า ก่อนจะรีบดึงมืออุษาเข้าไปในร้าน เพื่อหลบหนีการ์ดที่วิ่งตามมา
“สวัสดีค่ะลูกค้า” พนักงานร้านกระเป๋าแบรนด์ดังออกมาต้อนรับลูกค้าด้วยท่าทางนอบน้อม
“กระเป๋ารุ่นใหม่เข้ามาหรือยังคะ” อุษาถามพนักงานขาย
“เข้าแล้วค่ะ”
“ขอดูหน่อยได้ไหมคะ”
“งั้นเชิญนั่งตรงนี้รอก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเอามาให้ดูค่ะ”
บทที่ 41ช่วงเวลาที่นั่งรอพนักงานเอากระเป๋ามาให้ดู อุษาก็มองไปรอบด้าน แล้วดึงธารทีราให้ลุกขึ้น จากนั้นก็ลากเพื่อนไปดูกระเป๋ารุ่นใหม่ที่โชว์อยู่ในตู้“ขอดูสองใบนี้ได้ไหมคะ” อุษาหันไปบอกพนักงานคนใหม่ที่คอยเดินตามเธอ“ได้ค่ะ” พนักงานบอก แล้วเอากระเป๋าออกจากตู้โชว์มาวางตรงหน้าอุษา“มีสองใบเหรอคะ” อุษาถามพนักงาน พลางมองกระเป๋าราคาแพงสองใบที่วางอยู่ตรงหน้า“ค่ะ สำหรับรุ่นนี้ตอนนี้มีเข้ามาแค่สองใบค่ะ”“ไอซ์” อุษาหันมองเพื่อนที่ไม่ได้มีทีท่าอยากได้เลย“อื้อ” ธารทีราขานรับเสียงในลำคอ“ซื้อไหม เอาคนละใบ” อุษาเอ่ยถามเพื่อน“ไม่ดีกว่า ฉันมีกระเป๋าเยอะแล้ว” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ได้ติดแบรนด์เนมเลยสักนิด“ฮือ ไม่เอาอะแก ซื้อเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ รุ่นนี้มีแค่สองใบเองนะ ฉันใบหนึ่ง แกใบหนึ่งไง” อุษาทำท่าร้องไห้งอแงที่โดนปฏิเสธ“เออ ๆ ก็ได้ ซื้อก็ซื้อ” ธารทีราเห็นดังนั้นก็ปฏิเสธเพื่อนไม่ลงจึงพยักหน้ารับไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่อยากได้เลยเมื่อเพื่อนพยักหน้า อุษาก็ยิ้มกว้าง พร้อมทั้งบอกพนักงานตรงหน้า“เอาทั้งสองใบนี้เลยค่ะ”ในจังหวะที่พนักงานจะหยิบกระเป๋าอีกใบออกมา ห่อใส่กระดาษ
บทที่ 42“พี่ไทด์”ชื่อที่ถูกเรียก ทำให้ธารทีราต้องชะงักแล้วหันไปมอง เธอยืนนิ่งไม่ขยับ เมื่อเห็นว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร‘คุณไทเกอร์’ “ไอซ์ แกเป็นอะไร” อุษารีบเดินไปเกาะแขนเพื่อน แล้วเอ่ยถาม เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งและจ้องเขม็งไปด้านหน้า“ปะ...เปล่า” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก็ยังจ้องไทเกอร์แบบไม่กะพริบตา“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณหมอ” ไทเกอร์ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้าเมื่อหันมาเห็นเธอ“สะ...สวัสดีค่ะ คุณไทเกอร์” ธารทีราพยายามทำหน้านิ่ง ๆ แล้วเอ่ยทักทาย แต่เธอก็อดที่จะเสียงสั่นไม่ได้“ครับ” ไทเกอร์พยักหน้ารับอย่างพอใจนาเดียร์ร์หน้างอที่พี่ชายเดินหนี จึงเดินตามมาเกาะแขนกำยำ แล้วถามเขาด้วยเสียงไม่พอใจว่า“พี่ไทด์รู้จักเธอคนนี้เหรอคะ”“รู้จัก” ไทเกอร์ตอบน้องสาวโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เพราะเขาเอาแต่มองคุณหมอคนสวยไม่วางตา“ชิ!” นาเดียร์ร์ทำเสียงไม่พอใจ เมื่อเห็นพี่ชายสนใจผู้หญิงอื่นมากว่าเธอท่าทีฮึดฮัดดึงแขนของเขาไม่หยุด ทำให้ไทเกอร์ละสายตาจากคุณหมอมามองน้องสาว เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าไม่สบอารมณ์จึงเอ่ยถาม“เป็นอะไร ทำไมหน้างอ”“ก็กระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่เดียจะมาซื้อ ถ
บทที่ 43เมื่อพวกนั้นเดินไปจนลับสายตาแล้ว นาเดียร์ก็หันมาถามพี่ชายด้วยความสงสัย“พี่ไทด์รู้จักพวกมันเหรอคะ”“รู้สิ” ไทเกอร์พยักหน้ารับ และยังไม่ยอมละสายตาจากจุกที่คุณหมอคนสวยเพิ่งเดินไป“ถ้าอย่างนั้นพี่ไทด์ต้องจัดการให้เดียนะ” นาเดียร์ดึงแขนพี่ชายแรง ๆ เพื่อให้เขาหันมาสนใจเธอ“อื้อ” ไทเกอร์ไม่อยากจะเถียงกับน้องสาวจึงพยักหน้ารับไปส่ง ๆท่าทีไม่จริงจังของพี่ชาย ทำให้นาเดียร์ต้องเอ่ยเรียกด้วยเสียงไม่สบอารมณ์“พี่ไทด์?”“อย่าทำหน้างอ ดูสิไม่สวยเลย บอกพี่มาจะไปไหนต่อ”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น พลางประคองหน้าน้องสาวที่สะบัดไปทางอื่นให้หันมาสบตากัน“พี่ไทด์กลับไปก่อนเลยค่ะ” นาเดียร์ร์ฉีกยิ้ม พร้อมแบมือขอกุญแจรถ“เดียจะไปไหน” ไทเกอร์ถาม เมื่อเอากุญแจรถของเขาให้น้องสาว“เดียจะไปหาพ่อของลูกเดีย” นาเดียร์พูดขึ้น แล้วทำหน้าเพ้อฝันถึงชายหนุ่มที่เธอเอ่ยถึง“ใคร”“ชื่อเขตแดนค่ะ เป็นเจ้าของผับที่เดียชอบไปเที่ยวไงคะ”นาเดียร์ร์บอกพี่ชายยิ้ม ๆ ขณะนึกถึงใบหน้าชวนฝันของชายหนุ่มคนนั้น“เธอห้ามไปยุ่งกับมัน” ไทเกอร์สั่งน้องสาวเสียงเข้ม เมื่อได้ยินชื่อของเขตแดน“ทำไมคะ พี่ไทด์รู้จักเขาเหรอคะ” นาเดียร์ถามหาเหตุผล ด้วย
บทที่ 44“ถ้าอย่างนั้นถ้าพรุ่งนี้นายนั่นไปที่โรงพยาบาลอีก ฉันจะรับหน้าให้แกเอง”“แกอย่าไปยุ่งกับเขาเลย” ธารทีราห้ามไม่ให้เพื่อนไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้น เพราะรู้ว่าพวกมันไม่ใช่คนดี แล้วเผลอ ๆ เพื่อนของเธอก็อาจจะได้รับอันตราย“ไม่ได้ คนแบบนั้นต้องเจอฉัน คนอะไร ไม่รู้จักแยกแยะ ไม่ถูกกับพี่เขา แต่มาทำให้น้องสาวเขากลัว”ด้านธารทีราไม่พูดอะไร เธอยิ้มแห้ง ๆ ให้เพื่อน และไม่อยากเล่าเรื่องเลวร้ายที่คนพวกนั้นทำกับครอบครัวของเธอให้ฟัง“เดี๋ยวพี่จัดการให้คนมาช่วยดูแลคุณหมออุษาเองค่ะ”มีนาเสนอขึ้นมา ซึ่งธารทีราก็ยิ้มรับพร้อมกับเอ่ยว่า“ขอบคุณพี่มีนามากค่ะ”แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่ชายของเธอจะเข้าใจมีนาผิดไปคิดว่าอาจเป็นพวกของไทเกอร์จนสั่งไปทำงานอื่น แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หญิงสาวก็คิดว่ามีนาไม่น่าจะใช่พวกเดียวกับคนพวกนั้นหรอกณ คอนโดของอุษามีนาจอดรถบริเวณข้างถนนฝั่งตรงข้ามคอนโดของอุษา หลังจากที่หญิงสาวบอกว่าจอดตรงนี้ได้ เมื่อรถจอดสนิทแล้ว อุษาที่นั่งอยู่เบาะหลังคู่กับธารทีราก็เอ่ยขึ้นว่า“ขอบใจที่มาส่งนะแก”“ไม่เป็นไร” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อน ก่อนที่จะลงจากรถ อุษาชะโงกหน้าไปฝั่งคนขับรถ แล้วเอ่ยขึ้
บทที่ 45“คุณคะ สวัสดีค่ะ เอ่อ....เข้าไม่ได้นะคะ”เลขาหน้าห้อง นามว่า ‘จอย’ ทักทาย และรีบลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะทำงานไปยืนขวาง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวแปลกหน้าทำท่าจะเดินเข้าไปยังห้องทำงานของเจ้านายตน“ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้ หลีกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะเข้าไปหาคุณเขตแดน” นาเดียร์ทำหน้ายักษ์ใส่เลขา เธอสืบมาหมดแล้วว่าอีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องเจอหน้าเขาให้ได้“ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่ได้นัดก็เข้าไปพบคุณเขตแดนไม่ได้ค่ะ” เลขาจอยบอกเสียงเรียบนาเดียร์โมโหมาก จึงตะคองเสียงเขียวว่า“นี่แก…” แต่ก็ไม่ทันได้พูดจบประโยคว่า ‘นี่แก แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร’ เธอก็หยุดพูดและหันไปมองตามสายตาของเลขาหน้าห้องเลาขาจอยยกมือไหว้ พร้อมทั้งเอ่ยทักทาย“คุณมีนา สวัสดีค่ะ”“คุณหนึ่งนทีกับคุณเขตแดนอยู่ข้างในใช่ไหม เลขาจอย”มีนาถามเลขา แต่สายตากลับเหลือบมองไปทางนาเดียร์ที่จ้องมองเธอและธารทีราเช่นกัน“ค่ะ” เลขาจอยพยักหน้า แล้วขยับหลีกทางให้“ไปกันเถอะค่ะคุณหนู” มีนาหันมาชวนเจ้านายของตนฝ่ายธารทีราไม่พูดอะไร และก่อนที่จะเดินนำหน้ามีนาไปยังห้องทำงานของพี่ชาย เธอก็เหลือบตามองหญิงสาวคนนั้นเล็กน้อย ซึ่งธารทีราแปลกใจม
บทที่ 46มีนาชิงอธิบายแทนอย่างรวดเร็ว“คุณคนนี้มาหาคุณเขตแดน แต่เลขาจอยไม่ให้เข้าไปเพราะไม่ได้นัดไว้ คุณคนนี้ก็เลยไม่พอใจค่ะ”“คุณเขตแดนต้องช่วยเดียนะ คนของคุณรังแกเดีย แล้วก็กีดกันเดียไม่ยอมให้เข้าไปหาคุณ”“มึงรู้จักเหรอ” หนึ่งนทีถามเพื่อนด้วยเสียงไม่พอใจเล็ก ๆเขตแดนส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเร็ว พร้อมกับแกะมือของนาเดียร์ออกจากแขน นาเดียร์หน้าเสียที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้จักกัน แต่คนอย่างเธอจะแพ้ไม่ได้จึงรีบแนะนำตัวเอง“คุณเขตแดน นี่นาเดียร์ไงคะ เราเคยเจอกันที่ผับของคุณ”“แล้ว?” เขตแดนถามอย่างฉงน เพราะเขายังนึกไม่ออกอยู่ดี วัน ๆ ที่ผับของเขามีคนเข้าออกมากมาย เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจนักหรอก“เดียมาหาคุณไงคะ” นาเดียร์ยังคงหน้าด้านเข้าไปกอดแขนของเขตแดนอีกครั้ง และครั้งนี้หล่อนยังซบหน้าลงบนต้นแขนกำยำอย่างไม่แคร์สายตาใครอีกด้วย“ขอโทษนะ เราไม่เคยรู้จักกัน” เขตแดนพูดเสียงนิ่ง พลางแกะมือออก พร้อมกันนั้นชายหนุ่มก็มองหน้าธารทีราไปด้วย“คุณเขตแดน!”“คุณกลับไปได้แล้ว และอย่ามาหาผมที่นี่อีก”“คุณเขตแดน นี่คุณไล่เดียหรือคะ” นาเดียร์ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำเช่นนี้กับเธอเลย
บทที่ 47“นี่มันอะไรกัน” ดาเนียลดันลูกสาวออกจากอก แล้วถามเสียงแข็ง“ป๋าคะ ป๋าต้องจัดการให้เดียนะคะ พวกมันทำเหมือนเดียไม่มีศักดิ์ศรี”นาเดียร์สะอื้นไห้ น้ำตาไหลอาบแก้มขณัฟ้องพ่อ“เกิดอะไรขึ้น ใครทำลูก บอกป๋ามาสิ” คุณดาเนียลถามลูกสาวด้วยความสงสัย“วันนี้เดียโดนหักหน้า พี่ไทด์ก็ไม่ช่วยเดียเลย” นาเดียร์ฟ้องเรื่องพี่ชายก่อน ที่ครั้งนี้ไม่ยอมเข้าข้างเธอเลยสักนิด“มีอะไรเล่าให้ป๋าฟังสิ” คุณดาเนียลถามด้วยเสียงที่เย็นลง เพราะถ้าไทเกอร์ที่ตามใจนาเดียร์มาตลอดทำแบบนี้ แสดงว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติแล้ว“เดียไปเที่ยวห้าง แล้ว...” นาเดียร์เล่าเรื่องที่ห้าง และเรื่องที่เธอไปหาเขตแดนที่บริษัทของเขาให้พ่อฟัง“นี่แกชอบไอ้เขตแดนหรือ”คุณดาเนียลได้ยินเรื่องที่ลูกสาวเล่าก็ชักสีหน้าไม่พอใจ“ค่ะ ป๋าต้องช่วยเดียนะ” นาเดียร์อ้อนพ่อ แต่สิ่งที่คุณดาเนียลบอกลูกสาวคือ“ไม่ได้”“ป๋า” นาเดียร์ร์เอ่ยเสียงดังเมื่อถูกขัดใจ“แกจะรักใครชอบใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ศัตรูของฉัน”ถึงจะรักลูกสาวมากแค่ไหน แต่คุณดาเนียลก็ไม่สนใจความรู้สึกของลูก เพราะนักธุรกิจด้านมืดอย่างเขา ไม่ได้มองเรื่องครอบครัวเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว“ป๋า” นาเดียร์เ
บทที่ 48ณ บ้านของคุณจอห์น“พี่เราได้บอกหรือยัง ว่าให้ลางานสักอาทิตย์” คุณจอห์นเอ่ยถามลูกสาว ขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่“นั่นสิ ลูกลางานหรือยัง” คุณหญิงโสภาเอ่ยถามเช่นกัน พลางตักอาหารใส่จานให้อย่างต้องการเอาใจ“จะไปไหนกันเหรอคะ ทำไมต้องลางานคะ หรือว่ามีอะไร”ธารทีราเอ่ยถาม ขณะมองหน้าพ่อแม่สลับกันไปมา“คือเราจะไปไร่ทานตะวันน่ะ” คุณหญิงฉีกยิ้ม เมื่อเอ่ยบอกลูกสาว“ไร่ทานตะวัน” ธารทีราทำหน้าสงสัย เธอรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็นึกไม่ออกว่าไปคุ้นมากจากไหน“จ้ะ ไร่ของคุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้วไง ลูกจำไม่ได้เหรอ”“อ๋อค่ะ คุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้ว เป็นอะไรเหรอคะ”“คุณลุงสิงหากับป้าม่านแก้วจะมีงานเลี้ยงน่ะ เลยชวนครอบครัวของเราไปด้วย” คุณหญิงโสภาอธิบายให้ลูกสาวฟังด้านคุณจอห์น พอเห็นสีหน้าตื่น ๆ ของลูกสาวจึงถามว่า“ที่โรงพยาบาลมีงานด่วนหรือเปล่า”“ไม่มีค่ะ” ธารทีราหันไปคุยกับพ่อ“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เราจะได้ไปเที่ยวกัน ตั้งแต่กลับมไอซ์ก็ทำงานเลย คงไม่มีเวลาได้พักผ่อน” คราวนี้คุณหญิงเป็นคนบอกลูกสาวด้วยความห่วงใย“คุณแม่คะ ไอซ์พักมานานแล้วนะคะ อยู่ที่โน่นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย”“แต่แม
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล