ในห้องนอนของมาดามอันนา
เมื่อเห็นแม่บ้านเปิดประตูเข้ามา และทำท่าตื่นเต้น มาดามอันนาก็ถามแม่บ้านว่า
“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”
“มาดาม ฉันได้ยินมาว่าใครถูกซุ่มยิงนี่แหละค่ะ” แม่บ้านจีบปากจีบคอรายงาน สิ่งที่ตัวเองได้ยินให้นายหญิงฟัง
“แล้วคุณดาเนียลว่ายังไงบ้าง” มาดามอันนาปรับสีหน้าซีดเผือดให้เป็นปกติและหันไปมองแม่บ้านเวลาถามถึงสามี
“คุณดาเนียลพูดว่าคนที่ทำไม่ใช่คนของท่านค่ะ แล้วท่านยังสั่งให้คนตามคุณไทด์ด้วยนะคะ” แม่บ้านเข้าไปกระซิบเสียงเบา ๆ ที่ข้างหูของนายหญิง
“เขาไม่ไว้ใจไทด์เหรอ”
เมื่อได้ยินว่าสามีให้คนตามลูกชาย มาดามก็ยิ่งไม่ชอบใจ มือที่กำลังกำมือถือนั้นชื้นไปด้วยเหงื่อ แม่บ้านไม่พูด แต่พยักหน้าให้ ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้พูดอะไรกันต่อ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
แม่บ้านแทบจะหยุดหายใจ เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก แต่เมื่อเห็นว่าคนที่ก้าวเข้ามาเป็นใครก็เอ่ยด้วยเสียงที่โล่งอก
“คุณเดีย ป้าหัวใจจะหยุดเต้นเสียให้ได้”
“ป้าเข้ามาทำอะไร” นาเดียร์ทำหน้าสงสัย พร้อมเดินไปนั่งข้างแม่ ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง
“ไงลูกแม่” มาดามถามพร้อมทั้งยกมือลูบศีรษะของลูกสาว
“ป้ายังไม่บอกฉันเลย เข้ามาทำอะไรคะ” นาเดียร์ไม่ตอบคำถามของแม่ แต่กลับถามแม่บ้านแทน
“ป้าเข้ามานวดให้มาดามค่ะ” แม่บ้านบอก ทำทีเป็นนวดขาของมาดามอันนา
“คุณแม่เมื่อยตัวเหรอคะ” หญิงสาวถามแม่ด้วยความเป็นห่วง
“ใช่จ้ะ”
“พี่ไทด์ให้เดียพาคุณแม่ไปหาหมอค่ะ” นาเดียร์บอกแม่ เมื่อนึกได้ว่าวันนี้แม่ต้องไปหาหมอตามนัด
“แล้วพี่เราไปไหน” มาดามอันนาถามหาลูกชาย เพราะตั้งใจว่าจะคุยกับลูกเสียหน่อยตอนที่พาไปโรงพยาบาล
“ออกไปข้างนอกแล้วค่ะ เดียถามก็ไม่ตอบ คงโดนป๋าดุมาแน่ ๆ”
นาเดียร์ทำเสียงประชดเวลาเอ่ยถึง เพราะยังงอนพี่ชายที่ไม่ช่วยเธอเรื่องเขตแดน
มาดามอันนาได้แต่พยักหน้ารับ ทั้งที่ในใจกำลังอยากรู้ว่าลูกชายโดนดุเรื่องอะไร
“ไปกันเลยไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมพยุงแม่ลงจากเตียง
“จ้ะ” มาดามอันนาพยักหน้าให้
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ลงมาจากชั้นบน และเจอเข้ากับดาเนียลที่กำลังจะออกไปข้างนอกพอดี
“จะไปไหนกัน”
“เดียจะพาคุณแม่ไปหาหมอค่ะ”
“เป็นอะไร” ดาเนียลถามเสียงห้วน ดวงตาสีเข้มหันไปมองใบหน้าซีดเซียวของภรรยาเล็กน้อย
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่ไปตามนัด” หญิงสาวตอบแทนแม่ เพราะแม่ไม่ยอมตอบ หรือมองหน้าพ่อเลย
“อื้อ” ดาเนียลพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินออกไปทันที โดยมีลูกน้องสวมชุดสีดำเดินตามเป็นขบวนตรงไปยังรถเก๋งคันหรู
มาดามอันนามองรถของสามีที่ขับออกไป ด้วยแววตาที่เลื่อนลอยครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกให้แม่บ้านไปบอกคนขับรถให้เอารถออก และเมื่อรถถูกเคลื่อนมาจอดที่หน้ามุขของบ้าน มาดามอันนากับบุตรสาวก็ก้าวขึ้นไปนั่ง
“ไปโรงพยาบาล xxx”
“คุณแม่ แต่โรงพยาบาลนี้ ไม่ใช่…”นาเดียร์หันไปมองแม่ด้วยความสงสัย เพราะหมอประจำตัวของแม่ไม่ได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลที่แม่พูดว่าจะไป
“แม่ได้ยินมาว่าหมอที่นั่นเก่ง อีกอย่างแม่ก็ลองไปหาหมอที่นั่นมาหลายครั้งแล้วนะ” มาดามอันนาหาข้ออ้างมาบอกลูกสาว
“แม่เคยไปโรงพยาบาลอื่นด้วยเหรอคะ”
“จ้ะ แม่ลองไปดู ตอนที่พวกลูก ๆ ไม่ได้พาไปน่ะ หมอก็เก่งใช้ได้”
“งั้นเหรอคะ” นาเดียร์ไม่อยากเซ้าซี้แม่ จึงทำเพียงแค่พยักหน้า
“ออกรถได้” มาดามอันนาบอกคนขับ ซึ่งอีกฝ่ายก็ขับรถออกจากบ้านทันที
“ถ้าเก่งจริง คุณแม่จะได้หายสักที” หญิงสาวพยายามพูดเอาใจแม่
“แม่ไม่หายหรอกลูก " มาดามอันนายิ้ม ทั้งที่ในใจเศร้าหมอง
“อย่าพูดอย่างนี้สิคะ”นาเดียร์เข้าไปกอดแม่ไว้หลวม ๆ
“เดีย” มาดามอันนากอดตอบ แล้วเรียกเสียงเบาชิดศีรษะของลูกสาว
“คะ” นาเดียร์มองหน้าแม่ สงสัยมากที่เสียงของแม่ฟังดูจริงจังอย่างมาก
“ถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว เดียต้องคอยช่วยเหลือพี่ไทด์ด้วยนะ”
มาดามอันนาบอกลูกสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ความรู้สึกข้างในใจกลับหวาดกลัวไปต่าง ๆ นานา
บทที่ 57“คุณแม่อย่าพูดอย่างนี้สิคะ” เธอได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจรีบห้ามท่านทันที“รับปากแม่สิ” มาดามอันนามองหน้าลูกสาวอย่างคาดคั้น“คุณแม่ต้องไปบอกพี่ไทด์โน่น ว่าให้รักและดูแลเดียให้ดี”นาเดียร์ยังน้อยใจพี่ชายอยู่จึงพูดประชดมาดามอันนาขมวดคิ้วสงสัยกับท่าทีของลูกสาวจึงเอ่ยถาม“ทำไม มีอะไรไม่พอใจพี่เขาหรือ”“ก็พี่ไทด์ไม่ยอมช่วยเหลือเดียน่ะสิ” นาเดียร์ทำหน้างอนใส่แม่“เรื่องอะไร”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เดียก็พูดไปเรื่อย” แต่พอจะฟ้องจริง ๆ กลับไม่กล้าพูด เพราะกลัวจะโดนดุอีกคน จึงเลี่ยงที่จะไม่ตอบมาดามยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรต่อ รถก็ขับมาถึงโรงพยาบาล“มาดามครับ ถึงแล้วครับ”“ขอบใจ” มาดามอันนาลงจากรถ แล้วเดินเกาะแขนของลูกสาวเข้าไปในบริเวณโถงรับรองของโรงพยาบาล“ติดต่อเรื่องอะไรคะ” ประชาสัมพันธ์ยกมือไหว้ พร้อมเอ่ยถามเสียงไพเราะ เมื่อมีคนไข้มายืนตรงหน้าเคาน์เตอร์“มาติดตามผลตรวจสุขภาพค่ะ ขอคุณหมอผู้หญิงนะคะ” นาเดียร์บอกประชาสัมพันธ์“เชิญทางด้านนี้ค่ะ”ในจังหวะที่มาดามอันนาเดินเกาะแขนลูกสาวไปตามทางที่ประชาสัมพันธ์บอก มาดามก็ต้องชะงักเมื่อมีคนเรียกชื่อของตน“อันนา”พอมาดามอันนาหันไปมองก็ต้องตกใจ เมื่อเ
บทที่ 58หลังจากเดินไปส่งพ่อแม่ขึ้นรถกลับบ้านแล้ว หนึ่งนทีกับธารทีราก็กลับมาที่ห้องทำงาน ซึ่งมีเขตแดนนั่งรออยู่นานแล้ว“จะไปไหน” ชายหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อเห็นน้องสาวทำท่าจะเดินออกจากห้อง“ทำงานค่ะ”“ไม่ต้องทำแล้ว”“พี่ซีล” ธารทีราทำหน้ายุ่ง เมื่อพี่ชายห้ามเรื่องนี้“ขอให้พ้นช่วงนี้ไปก่อนนะ ให้พี่จัดการทุกอย่างจบก่อน”“แต่ไอซ์มีคนไข้ที่ต้องดูแลนะคะ”“ส่งให้คนอื่นทำ”เขตแดนนั่งฟังสองพี่น้องโต้ตอบกันไปมาอยู่นานแล้ว จึงตัดสินใจพูดแทรกขึ้นราวกับจะบังคับหญิงสาวอีกคน“ทำตามคำสั่งของไอ้ซีลซะ”ธารทีราไม่ได้พูดอะไร แต่กลับมองชายหนุ่มสองคนในห้องนั้นสลับกันไปมา“ทุกคนเป็นห่วงเธอนะ” เขตแดนลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปนั่งที่ขอบโต๊ะ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร่างบอบบางมากนัก “ก็ได้ค่ะ ไอซ์จะไม่มาทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ต้องให้ไอซ์ไปทำงานกับพี่ซีลด้วยนะ”“แต่งานของพี่มันอันตรายนะ”“ทำไมดื้ออย่างนี้นะ” เขตแดนยืนกอดอกมองคนตัวเล็กที่กำลังแสดงท่าทีเอาแต่ใจ“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ไอซ์ไปทำงานกับไอ้ดินเถอะ”หนึ่งนทีทำหน้าเจ้าเล่ห์ โยนความรับผิดชอบในตัวธารทีราให้เขตแดน“กับกูเนี่ยนะ”“เออ มึงจะไปทำงานที่ใต้ไม่ใช่เหรอ เอาน้องก
บทที่ 59สุดท้ายเขตแดนก็พาธารทีรามาทำงานด้วย ตามคำขอของหนึ่งนทีบนเกาะแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะชายหนุ่มได้ร่วมหุ้นกับพี่ชายของหญิงสาวมาทำโรงแรม และได้สร้างผับใหม่ที่นี่ด้วยเมื่อรถหรูจอดตรงบริเวณหน้าห้องพักที่ทางพนักงานจัดไว้ให้สำหรับเขาและเธอ ธารทีราก็หันไปมองแล้วถามคนตัวใหญ่ที่ยังนั่งอยู่ฝั่งคนขับว่า“นี่เหรอคะโรงแรงของพี่ดินกับพี่ซีล”“อื้อ” เขตแดนทำเสียงในลำคอแล้วลงจากรถ ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหน้ารถไป เพื่อเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่ง“เงียบดีจัง” หญิงสาวสูดอากาศเข้าปอด ก่อนจะมองไปยังห้องพักที่เงียบสงบตรงหน้า“อยู่ได้ใช่ไหม”เขตแดนถามหลังจากได้บอกพนักงานให้มาขนของเข้าไปเก็บไว้ในห้องพัก“สบายมากค่ะ” ธารทีราหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม แล้วเดินไปยืนตรงต้นมะพร้าว สายตาคู่งามส่องแระกายระยิบระยับ ขณะมองคลื่นทะเลซัดฝั่งเสียงดังซ่าๆ“เดี๋ยวตอนเย็นจะพาไปดูพระอาทิตย์ตก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นขณะเดินไปยืนด้านหลังของหญิงสาว“ที่ไหนคะ” คนตัวเล็กไม่กล้าหันมามองชายหนุ่มที่ยืนชิดหลังเธอจนรู้สึกได้จากไออุ่นของเขาที่แผ่ซ่านมากระทบหลังตน“ทางโน้น” เขตแดนชะโงกหน้าไปกระซิบชิดข้างหู“อยากให้ถึงตอนเย็นเร็ว ๆ จ
บทที่ 60เวลานี้ความหึงหวงเริ่มก่อตัวขึ้นมา โดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ตัว เขาไม่อยากคิดเลยว่าตอนเธออยู่อเมริกาจะมีผู้ชายที่ไหนมาวุ่นวายแบบนี้หรือไม่“พี่ดินอย่าห้ามไอซ์สิคะ ไหนบอกว่าจะปล่อยให้กินดื่มตามสบายไง” ธารทีราบอกพร้อมดื่มเหล้าแก้วสุดท้าย แล้วลุกขึ้นยืนเต้นส่ายสะโพกไปมา เมื่อได้ยินเสียงเพลงที่ชอบ“นี่เขาไม่ได้เรียกว่าดื่มแล้ว หยุดเต้นแล้วมานั่งนี่” เขตแดนยังนั่งหลังพิงเบาะโซฟา แขนสองข้างกางออกพาดไว้ตรงพนัก สายตาสีเข้มมองหญิงสาวโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาอย่างไม่วางตาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ในสายตาของเขาก้มีแค่เพียงเธอ ทว่าบัดนี้ความรู้สึกในใจมันต่างออกไป เขาไม่ได้มองเธอเป็นเพียงน้องสาวคนสำคัญอย่างในวันวานอีกต่อไปแล้วไม่น่าเชื่อว่าจากกันไปหลายปี คนสำคัญที่สุดของเขาจะเติบโตไปมากขนาดนี้แล้ว ซ้ำยังมีเสน่ห์ที่สามารถมัดใจเขาได้อย่างเหลือร้ายด้วย“ไม่ พี่ดินมาเต้นกับไอซ์สิคะ”ธารทีราเดินไปยืนตรงหน้าเขา มือน้อยยื่นไปจับมือหนาเพื่อดึงคนตัวโตให้ลุกขึ้น“เฮ้ย!” เขตแดนอุทานด้วยความตกใจ เมื่อหญิงสาวตรงหน้าเสียหลักเซลงมาบนร่างของเขา“พี่ดินขี้โกง” ธารทีราขยับตัวนั่งบนตักแกร่ง พลางโอบลำคอหนา มืออีกข้
บทที่ 61“โอเค ใจเย็น ๆ” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบแห้ง เมื่อจุมพิตกันเนิ่นนาน ซึ่งเป็นเขาเองที่ตัดใจถอนจูบออก พลางซุกไซ้ไปตามลำคอหอมกรุ่นการถูกดูดดึงริมฝีปากอย่างร้อนแรง ทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บ แต่กลับไม่คิดห้ามปราม เธอแค่เพียงจิกนิ้วลงบนไหล่กว้างเพื่อระบายความรู้สึกร้อนแรงที่พุ่งพล่านอยู่ตอนนี้เท่านั้น“ฮื่ออ...เจ็บ”ธารทีราท้วงขึ้นเสียงเบาหวิว เมื่อรู้สึกว่าเขาจุมพิตตนเองอย่างดูดดื่มเกินไปแล้วพออีกฝ่ายเอ่ยประท้วง ชายหนุ่มก็ผละริมฝีปากออกมา พลางเลื่อนไล้ฝ่ามือไปตามเรือนร่างบอบบาง ดวงตาสองคู่สบประสานกัน ก่อนที่เขตแดนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่า“ไอซ์พี่ไม่ไหวแล้ว ขอนะ”“อา...พี่ดิน” ธารทีราเอ่ยเสียงกระเส่า เมื่อคนตรงหน้าบีบเคล้นที่หน้าอกของเธอเบา ๆ เพื่อสร้างอารมณ์ให้เขาและเธอเขตแดนยังคงทำหน้าที่ได้ดี ริมฝีปากอุ่นยังขบเม้มที่ซอกคอหอมกรุ่น พรมจูบไปทั่วใบหน้าสวย ส่วนมือข้างหนึ่งก็บีบเคล้นหน้าอกอย่างแผ่วเบาสลับร้อนแรง“อ๊ะ” หญิงสาวร้องอุทาน เมื่อถูกช้อนอุ้มให้ลอยจากโซฟา ขาสองข้างยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบไว้โดยอัตโนมัติชายหนุ่มไม่รั้งรอที่จะอุ้มหญิงสาวที่มีร่างกายหอมกรุ่นเย้ายวนไปยังห้องนอนที่อยู่
บทที่ 62ชายหนุ่มเหมือนจะอ่านสายตาหวาดหวั่นของอีกฝ่ายออก จึงขยับเข้าไปหา พร้อมกับจุมพิตหน้าผากมนอย่างอ้อยอิ่ง“ไม่ต้องกลัว” พอเอ่ยจบก็ดันให้เธอนอนราบลงบนฟูก ก่อนจะเคลื่อนกายเข้าครอบครอง แล้วกดเธอให้อยู่ใต้อาณัติของเขามือหนาถอดแพนตี้ตัวน้อยออกอย่างรีบเร่ง ก่อนที่เขาจะแทรกตัวเข้าไป ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวผ่านช่องทางคับแน่น หญิงสาวก็ถึงกับตัวสั่นด้วยความกระสัน เพราะแก่นกายของเขาสัมผัสอยู่ตรงจุดอ่อนไหวด้านหน้า“นุ่มมาก” เขตแดนพึมพำ ขณะใช้มือบีบเคล้นหน้าอกอิ่ม ส่วนริมฝีปากก็ดูดดึงยอดเต้างามสองข้างสลับกันไปมา และแม้แต่มืออีกข้างที่ว่างเขาก็เลื่อนมันลงไปปั่นป่วนดอกไม้น้อย ๆ ของเธอด้วยธารทีราร้องครางออกมา เมื่อเขาสอดนิ้วเข้าไปที่ร่องรัก เสียงน่าอายผสมกับเสียงครางเบา ๆ ทำให้เขตแดนเงยหน้าขึ้นจากอกอิ่ม แล้วประกบจูบปากนุ่ม ซึ่งธารทีราก็แหงนหน้ารับจูบจากเขาอย่างเต็มใจ“พร้อมนะ” เขตแดนถอนจูบ พร้อมกับถอนมือออกจากร่องรักของเธอ เพื่อขยับตัวลุกขึ้นนั่งมือใหญ่จับสะโพกกลมกลึงไว้ด้วยมือเดียว ส่วนมืออีกข้างจับแก่นกายของตนมาถูกับร่องรักที่เปียกชื้น“พะ พี่ดิน” ธารทีราเรียกหาเขา และเกร็งหน้าท้องอย่างเสียวซ่า
บทที่ 63ตอนเช้าเวลาสิบโมง ธารทีราตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย ทันทีที่หันไปมองด้านข้างก็พบเจ้าของดวงตาคมดุที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ไหลเข้ามาในหัว ทำให้หน้าร้อนวูบวาบ จนไม่อาจจ้องดวงตาคู่นั้นได้อีก“ตื่นแล้วเหรอ” เขตแดนเอ่ยถามเสียงนุ่ม ขณะจับเส้นผมนุ่มสลวย เขากระตุกยิ้มเมื่อหญิงสาวมีทีท่าหวาดหวั่น ราวกับกำลังปกปิดบางอย่าง“พี่ดิน” ธารทีราตัวแข็งทื่อ เรียกเขาเสียงเบาหวิว“ครับ” เขตแดนตอบรับ แล้วกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น“เอ่อ...” เธอหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ แล้วทำท่าอึกอัก“หึๆ” ท่าทีเช่นนั้นทำให้เขตแดนยิ้มเอ็นดู แล้วยกมือขึ้นมาเกลี่ยแก้มใสเบา ๆ“หิวหรือเปล่า”“หิวค่ะ” คนตอบพยักหน้าให้ ทั้งที่ความจริงอยากออกจากอ้อมกอดของเขาต่างหาก“กินพี่ไหม” ชายหนุ่มหยอกเอินอีกฝ่าย พร้อมกับจุมพิตที่เนินไหล่นวลเนียนด้วยความรักใคร่“พะ...พูดอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางแกะแขนกำยำออกจากเอว“ก็หิวไม่ใช่เหรอ” เขตแดนจ้องหน้าธารทีราแล้วยิ้มกวน ๆ“หิวข้าวค่ะ” คนรตอบนิ่วหน้าแล้วมองค้อน“เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำก่อน” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่เขาไม่ได้ใส่อะไรเลย“มะ...ไ
บทที่ 64เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ เธอก็รู้สึกผิดที่ปิดบังเขา จึงก้มหน้ามองอาหารโปรด เพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าเห็นว่ากำลังร้องไห้“ครับ” เขตแดนยื่นมือไปจับผมนุ่มสลวย แล้วเลื่อนมือไปเชยคางให้หญิงสาวหันมาสบตากัน พร้อมกับทอดมองเธอด้วยสายตาละมุนอบอุ่น“รู้นานหรือยังคะ” ธารทีรากะพริบตาหลายครั้ง เพื่อกักกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เมื่อเห็นความเจ็บปวดในแววตาของคนตรงหน้า“รู้อะไรครับ” เขตแดนไม่ตอบแต่ถามกลับ เพราะเขาต้องการที่จะได้ยินจากปากอีกฝ่าย และต้องการให้เธอยอมรับด้วยตนเอง“เรื่องที่ไอซ์…” เธอลังเลที่จะถาม“รู้มาสักพักแล้ว” เขตแดนหน้าเครียดขึ้นมาทันที เมื่อเอ่ยถึงเรื่องที่อีกฝ่ายจงใจปิดปังตนเมื่อหญิงสาวเงียบไป เขาจึงถามด้วยสายตาคาดหวัง“อยากจะบอกอะไรพี่ไหม”“ไอซ์ขอโทษ” ธารทีราน้ำตาไหล เมื่อได้มองหน้าเศร้า ๆ ของเขา“พี่ขอฟังเหตุผลจากปากเราได้ไหม” เขตแดนสงสัยจึงถาม และไม่ลืมที่จะเช็ดน้ำตาให้“ไอซ์แค่ต้องการหนีเขาโดยการเริ่มต้นชีวิตใหม่ค่ะ”“แต่ทุกคนรู้หมดยกเว้นพี่” เขตแดนตัดพ้อ น้อยใจที่ทุกคนปิดบังเรื่องของของธารทีรา น้องสาวคนสำคัญของเขา“พี่ซีลก็เพิ่งรู้ตอนไอซ์อายุครบสิบปีค่ะ”“แล้วทำไมไม่บอกพี่ด้วย”
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล