“เป็นยังไงบ้าง” หนึ่งนทีที่กำลังนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทีนิ่งๆ หันมาเอ่ยถามน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งแม้ว่าทั้งสอง จะโทรคุยกันตลอดแต่มันก็ไม่เหมือนกับตอนที่ได้เจอหน้ากันอยู่ดี
“ไอซ์สบายดีค่ะ แต่น้อยใจพ่อและพี่ชายนิดหน่อย ที่ไม่เคยไปหาเลย”ธารทีราพูดเสียงสั่น และทำท่าจะร้องไห้ด้วยความน้อยใจ ที่พี่ชายและพ่อไม่เคยไปหา มีแค่แม่และคุณป้าที่รู้จักเท่านั้นที่ไปหาบ่อยๆ
“ไอซ์ก็รู้ว่าพี่ไปไม่ได้ คุณพ่อก็เหมือนกัน”
ชายหนุ่มรีบยกขาลงแล้วขยับตัวไปข้างหน้าเพื่อจะยื่นมือไปปาดซับน้ำตาที่ติดอยู่บนขอบตาของน้องสาวอย่างอ่อนโยน
“ค่ะ ไอซ์รู้ ไอซ์เลยกลับมาหาทุกคนนี่ไง”
ธารทีราเห็นพี่ชายมีสีหน้ากังวลจึงยิ้มกว้าง แล้วรีบพูดเอาใจเขา เธอไม่ได้โกรธจริงจังเสียหน่อยพี่ชายของเธอคนนี้คิดมากเกินไปจริง ๆ
“คราวหลังถ้าจะมาก็บอกพี่ล่วงหน้าบ้างนะ ไม่ใช่หนีมาแบบนี้”
หนึ่งนทียิ้มเอ็นดูน้องสาวแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงติดกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย นี่ดีนะที่เขารู้เมื่อวานจากปากของเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศว่าธารทีรากำลังจะกลลับมาเมืองไทย เขาจึงได้ติดต่อเธอไปก่อนจะนัดแนะให้ซันไปรับที่สนามบิน
“ค่ะ ต่อไปไอซ์จะบอกพี่ซีลก่อนค่ะ แต่ว่าไอซ์คงไม่ได้ไปไหนอีกนาน เพราะตั้งใจไว้แล้วค่ะว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรเลย”
ธารทีราทำหน้าทะเล้น พลางย่นจมูกใส่พี่ชาย
“ป่านนี้คุณแม่กับป้านมคงชะเง้อคอรอเราแล้วมั้ง”
หนึ่งนทีเอนหลังพิงเบาะอย่างโล่งใจ เมื่อเห็นน้องสาวยิ้ม แล้วพูดถึงคนที่บ้าน ที่ป่านนี้คงจะรอน้องเขาแย่แล้ว โดยเฉพาะแม่ของเขา และป้านมที่เลี้ยงดูธารทีรามาตั้งแต่เด็ก และป้านมก็ยังไปอยู่กับน้องสาวเขาที่ต่างประเทศตั้งแต่ตอนที่เธออายุห้าขวบ และเพิ่งจะได้กลับมาไม่นานนี่เอง
“ไอซ์ก็อยากเจอทุกคนค่ะ คิดถึงและอยากกอดคุณแม่คุณพ่อและป้านมด้วยค่ะ” เมื่อพูดถึงบ้าน ธารทีราก็รู้สึกมีความสุขแล้ว เพราะถึงแม้จะไม่ได้กลับมานาน แต่เธอก็ยังมั่นใจว่ามันจะเป็นที่ปลอดภัยและอบอุ่นใจสำหรับเธอ
“ไอซ์แน่ใจนะว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวร”ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อถามถึงสิ่งที่น้องตัดสินใจเรื่องที่จะมาอยู่ที่นี่ถาวร
“ค่ะ ไอซ์ไม่อยากหนีแล้วพี่ซีล ไอซ์อยากอยู่กับทุกคนที่นี่”
ธารทีราพูดกับพี่ชายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง เพื่อยืนยันว่าตัดสินใจดีแล้วว่าเธอจะกลับมาอยู่บ้านอย่างถาวร และจะไม่ไปไหนอีกแล้ว
“ถ้าไอซ์ตัดสินใจดีแล้ว พี่ก็จะดูแลไอซ์ให้ดีที่สุด” หนึ่งนทีตอบรับพลางพยักหน้าให้น้องสาวอย่างยอมรับในการตัดสินใจของเธอ
“ขอบคุณพี่ซีลมากค่ะ” ธารทีราโน้มตัวไปจับมือพี่ชายมาจูบ และเอาไปแนบแก้มของตัวเองอย่างรักและนับถือ
“ดีเลย พี่จะได้มีคนมาช่วยงานที่โรงพยาบาล”
หนึ่งนทีละมือจากแก้มแดงระเรื่อ พลางเอาไปลูบหัวของน้องอย่างรักใคร่ และพูดถึงธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งมีโรงพยาบาลที่จะให้ธารทีราไปช่วยงานและสานต่อ
“ไอซ์สมัครเข้าไปทำงานตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่โน่นแล้วล่ะค่ะ”
ธารทีราพูดโอ้อวด เธอยื่นเรื่องขอเข้าทำงานเองโดยไม่ผ่านพี่ชายสักนิด เนื่องจากไม่อยากใช้เส้นสายในการเข้าไปทำงานในโรงพยาบาล
“คนเก่งของพี่” ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแปลกใจ แต่พอคิดได้ว่าน้องสาวของเขาคนนี้เก่งยิ่งกว่าใครก็ไม่ติดใจอะไร..
แล้วสองพี่น้องก็พูดคุยกันถึงเรื่องอื่น ๆ ต่อไป จนซันขับรถมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่คุ้นตา และอยู่ในความทรงจำของธารทีรามาตลอด เธอจึงได้หันไปมองไปรอบบ้านผ่านกระจกด้านข้าง ซึ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยนอกจากคฤหาสน์ที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยที่เค้าโครงหลักยังเป็นคฤหาสน์หลังเดิมในความทรงจำของตนเองเมื่อครั้งวันวาน
“นายน้อยครับ คุณหนูครับ” เมื่อจอดรถแล้ว ซันรีบลงจากรถเดินไปเปิดประตูรถให้เจ้านายทั้งสองทันที
“อืม” หนึ่งนทีลงจากรถก่อนธารทีราจากนั้นก็สั่งให้ซันบอกเด็กๆ ในบ้านให้มาขนกระเป๋าเสื้อผ้าของธารทีราเข้าไปด้านใน
“ครับ” ซันโค้งคำนับแล้วรีบเดินถอยหลังไปทำตามคำสั่งของเจ้านาย
และเมื่อลูกน้องไปแล้ว ชายหนุ่มก็ก้มมองธารทีราที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ซึ่งเขายื่นมือให้น้องสาวจับแล้วบอกว่า
“ลงมาสิไอซ์”
ด้านธารทีราจับมือพี่ชายแล้วก้าวลงจากรถ และช่วงที่เธอกำลังจะเดินไปยืนข้างพี่ชายนั้น
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ