ด้านไทเกอร์ เมื่อเห็นธารทีรายังขืนตัวอยู่ในวงแขนของเขตแดนได้หันไปเอ่ยทัก
“ไอ้ดิน” เสียงของไทเกอร์ไม่เสนาะหูเอาเสียเลย ทำให้เขตแดนที่ไม่อยากจะสนทนาด้วยอยู่แล้ว หันไปมองด้วยสายตานิ่ง ๆ ระคนดุดัน
“ไอ้ไทด์ มึงมาทำอะไรที่นี่” เขตแดนถามอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“เอ้า! ไอ้ดิน ที่นี่โรงพยาบาล กูก็มาหาหมอน่ะสิ”
ไทเกอร์ตอบด้วยท่าทีกวนบาทา
“มึงเป็นอะไรถึงมาหาหมอ และทำไมต้องเป็นหมอ…”
เขตแดนยังไม่ทันเอ่ยจบก็ถูกชายหนุ่มตรงหน้าพูดแทรก
“กูไม่จำเป็นต้องตอบมึง” ไทเกอร์กระตุกยิ้ม เมื่อได้ยั่วอารมณ์โกรธของเขตแดน
อาการกวน ๆ ของไทเกอร์ ทำให้เขตแดนโกรธจนหน้าแดงก่ำ ซึ่งเขาได้หันไปใส่อารมณ์กับหญิงสาวข้างกายแทน
“แล้วนี่เธอจะไปไหน”
“นี่คุณเขตแดน ฉันเจ็บนะ ปล่อยมือฉันได้แล้ว”
ธารทีราร้องประท้วง
“บอกฉันมา เธอจะไปไหน” เขตแดนถามเสียงตึง ดวงตาคมดุจ้องไปยังดวงหน้าสวยที่ดูจะดื้อรั้นไม่ยอมฟังใคร
“ไปกินข้าวค่ะ ปล่อยได้แล้ว ฉันเจ็บนะ” หญิงสาวจำใจบอก พลางแกะมือหนาออกจากมือของเธอ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมง่าย ๆ
คำตอบของหญิงสาวและท่าทีหวงเนื้อหวงตัวของเธอทำให้เขตแดนยิ่งหมั่นไส้ จึงหันไปมองไทเกอร์ด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม
“ไปกับไอ้ไทด์เหรอ”
สรรพนามของเขตแดนที่เรียกไทเกอร์ ฟังดูเหมือนสองคนนี้จะสนิทกัน จึงทำให้ธารทีราต้องหันไปมองเขตแดนอีกครั้ง
“คุณรู้จักคุณไทเกอร์ด้วยเหรอคะ”
เขตแดนไม่ตอบคำถามของธารทีรา แต่เขากลับถามไทเกอร์ต่อว่า
“มึงคิดจะทำอะไร ไอ้ไทเกอร์”
“กูทำอะไร กูก็มาหาหมอ แล้วจากนั้นก็ชวนคุณหมอไปกินข้าวเที่ยง มึงมีปัญหาเหรอวะ” ไทเกอร์ยิ้มมุมปากใส่เขตแดน
“นี่คุณเขตแดนปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะ…” คุณหมอสาวทำเสียงแข็งใส่ชายหนุ่ม และไม่ทันเอ่ยจนจบประโยคว่า ‘ฉันจะไปกินข้าว’ เธอก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อมีเสียงของคนตรงหน้าดังแทรกขึ้นมา
“ไม่ต้องไปกับมัน " เขตแดนเห็นคนตรงหน้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยจึงรู้สึกโมโห พลางสั่งเธอเสียงเข้มพร้อมทั้งกระชากตัวเธอให้เดินตามไป
“เอ๊ะ! คุณดิน” ธารทีราฝืนตัวไม่ยอมเดินตาม ซึ่งเธอทั้งร้องห้ามและทุบมือของเขาที่ยังกุมมือตนไว้แน่น
“หึ!”
ด้านไทเกอร์ได้แต่ยืนมองเขตแดนลากหมอคนสวยตรงไปที่ลิฟต์ เขากระตุกยิ้มมุมปาก แล้วทำเสียงขึ้นจมูก เมื่อนึกถึงความสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้น
“คุณเป็นบ้าอะไรถึงลากฉันมาอย่างนี้ เสียมารยาทที่สุด”
ธารทีราต่อว่าเขตแดน พลางดันมือหนาออกจากมือของเธอ เมื่อได้อยู่ในลิฟต์ด้วยกันสองต่อสอง
“ถ้าเธอรู้ว่ามันเป็นใคร เธอจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำ”
เขตแดนยืนกอดอกหลังพิงผนังลิฟต์ที่เป็นกระจกใส พลางส่งยิ้มน่ากลัวมาให้
“เขาเป็นใคร แล้วทำไมฉันต้องขอบคุณคุณด้วย”
ธารทีราทำหน้างอใส่ เมื่อได้สบตาของคนเจ้าเล่ห์ อีกทั้งยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขตแดนพยายามสื่อด้วย
“ก็ลองไปถามพี่ชายเธอดูสิ” เขตแดนบอกหน้าตาย แล้วเดินล้วงกระเป๋าผ่านหน้าเธอออกไปจากลิฟต์ทันทีเมื่อลิฟต์เปิดออก
“นี่คุณ! คุณจะไปไหน หยุดคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
ธารทีราตะโกนเรียกตามหลัง ก่อนจะรีบวิ่งออกจากลิฟต์เพื่อตามชายหนุ่มไป
ด้านเขตแดนกระตุกยิ้มเล็กน้อย เมื่อหันไปมองคนข้างหลัง ซึ่งตอนนี้เขาเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของเลขาหน้าห้องเพื่อนรัก
บทที่ 32“ไอ้ซีลอยู่ไหม”“อยู่ข้างในค่ะ” มะปรางไม่ทันได้ตอบคำถามของเขตแดน เธอก็ต้องชะงักไป เมื่อเห็นธารทีราเดินเข้ามาชนเขตแดน ก่อนจะเดินแทรกตัวเข้าไปยังห้องทำงานของหนึ่งนทีอย่างไม่คิดแยแสว่าชายหนุ่มตรงหน้าเดินมาถึงก่อนเธอประตูห้องทำงานของหนึ่งนทีถูกเปิดออก โดยที่เจ้าของห้องไม่ทันได้อนุญาตด้วยซ้ำ ก่อนจะตามมาด้วยการปรากฏตัวของน้องสาว“พี่ซีล” เสียงสะบัดเหมือนไม่สบอารมณ์ของน้องสาวดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มวางปากกาไว้ที่กองเอกสาร เพื่อหันมาสนทนากับอีกฝ่าย“มีอะไรครับ”“พี่ชีลก็ถาม…” ธารทีราทำหน้าหักหน้างอใส่พี่ชาย แล้วส่งสายตาไปทางด้านหลัง เมื่อคนที่ทำให้เธออารมณ์เสียเดินตามเข้ามา“อ้าวไอ้ดิน มึงมา…” หนึ่งนทีทำหน้างง พลางมองทั้งสองสลับกันไปมา แล้วชี้ไปทางเพื่อนสลับกับน้องสาว พร้อมทำปากขมุบขมิบประมาณว่ามาด้วยกันได้อย่างไร“อย่ามองกูอย่างนั้น”เขตแดนรีบพูดขึ้นมา เพราะสายตาของเพื่อนทำเอาเขาร้อนตัวพิกล“มาหาน้องกูถึงนี่เลยหรือไง”“ไม่ใช่”“ไม่ได้มาหาน้องกู แล้วมึงมาหากูเหรอ มึงมีไรเปล่าวะ”“ปละ…” ด้านเขตแดนยังไม่ได้บอกเพื่อนจบประโยคว่า ‘เปล่า’ เขาก็หยุดพูด แล้วหันไปมองคนที่พูดแทรกขึ้นมาแทนธารทีรา
บทที่ 33ภาพที่เห็นจากหน้าจอมือถือของเขตแดน ทำให้หญิงสาวรู้สึกใจสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้“พี่ซีล แสดงว่าเขารู้แล้ว”“ไม่ต้องกลัวนะ” หนึ่งนทีดึงน้องสาวมาซบไหล่แล้วกอดปลอบ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกกังวลจนพูดอะไรไม่ออก “แล้วนี่ มึงรู้เรื่องนี้ด้วยหรือวะ”เขตแดนได้แต่ตอบรับในลำคอ ใช่ว่าจะมีเพียงคนของหนึ่งนทีที่สืบเรื่องที่เกิดขึ้นกับธารทีรา เพราะเขาก็ได้ให้คนสืบข่าวมาเช่นกัน“แล้วพี่ซีลจะทำยังไงต่อคะ คือ…”“กลับบ้านเลยนะ ไม่ต้องทำงานต่อแล้ว”“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับอย่างเชื่อฟัง เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมขึ้นมาหนึ่งนทีนิ่งไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักแล้วถามออกมาว่า“ดิน กูยังมีงานสำคัญที่ต้องทำต่อที่ห้าง มึงช่วยไปส่งน้องกูได้หรือเปล่า”“ไอซ์มีการ์ดค่ะ ไม่ต้องรบกวนคุณดินก็ได้”ธารทีราบอกพี่ชาย เพราะไม่อยากอยู่กับเขตแดนแค่สองคน“หึ! สงสัยการ์ดที่พี่ให้มาปกป้องเรา จะเป็นหนอนบ่อนไส้”หนึ่งนทีพูดเสียงเหี้ยม เพราะบอดี้การ์ดที่เขาให้มาดูแลน้องสาว รู้จักไทเกอร์ทุกคน แต่กลับไม่มีใครมารายงานเขาสักคนว่าอีกฝ่ายมาที่นี่“พี่มีนาน่ะหรือคะ” ธารทีราหน้าซีดเผือก เมื่อนึกถึงใบหน้า
บทที่ 34มันใกล้มาก...ใกล้จนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของเขา“นั่งเฉย ๆ จะรัดเข็มขัดนิรภัยให้” ชายหนุ่มเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเพื่อคาดเข็มขัดให้ ในระหว่างที่เขาสอดมือไปข้างเอวกิ่ว สายตาคมวาวก็ยังคงจ้องมองธารทีราอย่างไม่วางตา“ฉันทำเองได้ ไม่เห็นต้องทำให้เลย” คนพูดตัวแข็งทื่อ เกร็งตัวหลังบางแนบติดกับเบาะ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำเมื่อมีใบหน้าหล่อเหลาของเขตแดนอยู่ใกล้แค่เพียงคืบเมื่อเขตแดนรัดเข็มขัดนิรภัยให้แล้วก็ขยับตัวนั่งในที่ของตัวเอง จากนั้นก็ขับรถออกจากลานจอดรถมุ่งสู่ถนนใหญ่“หึ!”ธารทีราสะบัดหน้าหนี หันไปมองข้างทางผ่านกระจกหน้าต่าง ยามได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ซึ่งเธอไม่ชอบเสียงแบบนี้เอาเสียเลยหลังจากนั้นราวยี่สิบนาที ทั้งสองต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดของตนเอง และมีเพียงเสียงหายใจของกันและกันเท่านั้นที่ดังมาให้ได้ยิน“หิวหรือเปล่า” ชายหนุ่มตัดสินใจเอ่ยถาม เมื่อเห็นน้องสาวของเพื่อนเอาแต่นั่งเงียบ ไม่แม้แต่จะมองมาทางเขาเลย“นิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาบ่ายสอง เธอไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้ตัวเองเริ่มได้ยินเสียงท้องของตัวเองร้องประท้วงแล้ว“งั้นแวะกินข้าวกันก่
บทที่ 35เขตแดนพูดต้อน หวังให้อีกฝ่ายพูดอะไรบางอย่างออกมา เพราะตั้งแต่ที่พบกันวันแรก เขาก็คิดมาตลอดว่าบางทีธารทีราก็คือน้ำฟ้า น้องสาวคนสำคัญของเขาคำพูดของเขตแดน ทำให้ธารทีราเริ่มรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วจึงพูดเสียงเบาว่า“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องทางบ้านสักเท่าไรหรอก”“ไม่รู้จักแม้กระทั่งอาตัวเองเหรอ” เขตแดนจ้องตาเธอ เพื่อหาความจริงใจจากแววตาคู่งาม“ฉันรู้แค่ว่ามีคุณอา และคุณอาก็จากไปนานแล้ว พร้อมกับลูก ๆ ของคุณอาน่ะค่ะ” หญิงสาวพยายามควบคุมตัวเองให้นิ่ง และพูดคุยกับเขาให้เป็นปกติที่สุด“หึ!” เขตแดนหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นท่าทางเลิ่กลั่กของคนตรงหน้า ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ่งมั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาตามหามานานหลังจากกินอาหารไปราวหนึ่งชั่วโมง เขตแดนก็พาธารทีรากลับมาส่งบ้าน ตลอดทางทั้งสองไม่ได้สนทนาอะไรกันอีกเช่นเคย เพราะต่างฝ่ายต่างมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิดทันทีที่รถเคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้ามุขของคฤหาสน์หลังงาม หญิงสาวก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออก และหันมาเอ่ยขอบคุณ“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เขตแดนทำเพียงพยักหน้านิ่ง ๆ รับรู้ โดยไม่ยอมลงจากรถไปเปิดประตูรถให้หญิงสาว ทว่าธารทีราที่เข้าใจว่าเขาจะลงไปเปิดประตูให้ก็ยังคงน
บทที่ 36เขตแดนรออยู่ไม่นาน ลูกน้องคนสนิทของเขาก็เข้ามาพบตามคำสั่ง พร้อมกับนำเรื่องบางอย่างมารายงานด้วย“นี่ครับนาย”เมื่อภามยื่นซองเอกสารให้เจ้านายแล้ว เขาก็ขยับตัวถอยหลังมายืนประสานมือไว้ข้างหน้า“ได้เรื่องหรือเปล่า” เขตแดนถามในสิ่งที่ตัวเองมอบหมายให้ลูกน้องไปทำ“ชื่อของคุณน้ำฟ้า ถูกแจ้งว่าเสียชีวิตพร้อมกับหมอคาร์ลแล้วครับ”“แล้วธารทีราล่ะ” ชายหนุ่มถามเรียบ ๆ โดยไม่ยอมละสายตาไปจากเอกสารในมือ ซี่งเป็นประวัติของคุณหมอสาวที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปสืบมา“นี่แหละครับที่แปลก” ภามรีบรายงานเจ้านายต่อ เพราะเขาเจอพิรุธบางอย่างที่มันน่าจะเชื่อมกัน“มีอะไร” เขตแดนเงยหน้าจากเอกสารขึ้นจ้องหน้าลูกน้องตาเขม็ง“คุณไอซ์ไม่มีประวัติการแจ้งเกิดที่ไทย แต่ไปแจ้งเกิดที่อเมริกา เพิ่งจะมีการยื่นขอสัญชาติไทยเมื่อไม่กี่เดือนนี้เองครับ”ภามเดินเข้าไปยืนข้างโต๊ะทำงาน แล้วเปิดเอกสารให้เขตแดนดูชายหนุ่มครุ่นคิดขณะกวาดสายตาไปบนหน้าเอกสารที่ลูกน้องเปิดค้างไว้ พร้อมกับคิดถึงใบหน้าสวยหวานของธารทีราไปด้วย“ผมตามสืบได้ด้วยนะครับ ว่ามีคนหลายคนพยายามหาข้อมูลของคุณไอซ์อยู่เหมือนกัน”ความเงียบของเจ้านาย ทำให้ภามพูดต่อพลางเปิดภ
บทที่ 37เมื่อเดินตามมาถึงดาดฟ้าของผับ หนึ่งนทีเห็นเพื่อนเดินไปยืนมองทิวทัศน์เบื้องหน้า ที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่มีแสงสว่างให้เห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปยืนข้างๆ เพื่อน แล้วถามขึ้นว่า“มึงให้คนตามสืบเรื่องน้องกูทำไม”“กูแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง” เขตแดนดูดบุหรี่เข้าปอดทีหนึ่ง พลางส่งซองบุหรี่ให้เพื่อนด้วย หนึ่งนทีรับมาถือโดยมีเอีกฝ่ายช่วยจุดให้“เฮ้อ...” หนึ่งนทีถอนหายใจ พลางพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างเซ็ง ๆ“ปิดกูทำไม” ยิ่งเห็นท่าทางของเพื่อน เขตแดนก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งคิด แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ ทำไมทุกคนต้องปิดบังเขาด้วย“ปิดอะไร” หนึ่งนทีทำเป็นไม่รู้เรื่อง เพราะเรื่องนี้บรรดาผู้ใหญ่ต่างต้องการให้ปิดเป็นความลับ เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก“อย่าคิดว่ากูไม่รู้” เขตแดนพูดเสียงเย็น พลางมองเพื่อนอย่างจับพิรุธ แต่คนฟังยังคงเฉไฉ“มึงอย่าถามมากเลยน่า ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของยัยไอซ์หรอก”“แล้วมึงคิดว่ากูไม่ห่วงเหรอ” พอเห็นเพื่อนรักไม่ยอมพูดอะไร ชายหนุ่มก็สำทับต่อ “กูจะส่งคนของกูไปดูแลอีกทาง”เขตแดนรู้ว่าเพื่อนลำบากใจจึงเปลี่ยนเรื่องพูด อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เหมือน
บทที่ 38ด้านคุณจอห์น แม้ว่าลูกชายจะขึ้นห้องไปนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมและจมอยู่ในห้วงความหลัง สายตาไหวสะท้านแดงก่ำ ขณะมองรูปภาพของตัวเองที่ยืนเกาะบ่าน้องชายถ่ายรูปคู่กันด้วยใบหน้าแช่มชื่นมีความสุข“มึงจะจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน” เขาสบถออกมาคำหนึ่งด้วยความแค้นใจ ยามคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านเลย ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ ที่มีบอดี้การ์ดชุดดำยืนกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ต่างพากันวิ่งมายืนต้อนรับ เมื่อเห็นรถของไทเกอร์ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ“นายครับ” การ์ดคนสนิทรีบเปิดประตูรถให้ไทเกอร์ก้าวลงมาด้วยท่าทีนอบน้อม“ป๋าอยู่ไหนวะ” ไทเกอร์สอบถามการ์ด เมื่อก้าวลงจากรถ“อยู่ที่สวนบอนไซครับ”เมื่อสิ้นคำรายงาน ไทเกอร์ก็รีบเดินไปยังสวนบอนไซที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ ชายหนุ่มรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นว่าการ์ดเดินตามทันทีที่มาถึงสวนบอนไซ ชายหนุ่มก็รีบเดินตรงไปยังจุดที่บิดากำลังวุ่นวายอยู่กับการตกแต่งบอนไซทันที“ป๋าครับ” ไทเกอร์เรียกพ่อ แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ ๆ มือสองข้างประสานกันแล้วไขว้หลังไว้เสียงของลูกชาย ทำให้ดาเนียลนักธุรกิจในวงการสีเทาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอเมริกาชะงักนิ่งไป เขาหยุดตกแต่งกิ่งบอนไซ พลางวา
บทที่ 39นายหญิงของบ้านนามว่าอันนาที่ยืนฟัง และดูท่าทีของลูกทั้งสองสักพักแล้วเอ่ยเรียกลูกชาย เมื่อเห็นว่าลูกสาวของท่านเดินออกไปแล้ว“ไทด์”เสียงของแม่ทำให้ไทเกอร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดก่อนหน้านี้ต้องรีบปรับให้เป็นปกติ แล้วหันไปมองและยิ้มให้แม่“แม่ครับ”“น้องไปเที่ยวอีกแล้วหรือ”“แม่ลงมาทำไมครับ”ไทเกอร์มองสีหน้าซีดเซียวของแม่ แล้วก็เป็นห่วง ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปประคองแม่ และพาไปนั่งที่ห้องรับแขก“ไปทำงานมาเหรอลูก”“ครับ”“วันนี้ทำงานหนักไหมลูก ทำไมทำหน้าเครียดจัง”สีหน้ายุ่งยากใจของลูก ทำให้มาดามอันนายื่นมือเข้าไปประคองหน้าหล่อเหลาของลูกชายขึ้นมามองให้เต็มตา“เปล่าครับ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะดึงมือท่านมาจุมพิตด้วยความรัก“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะลูก” คนพูดเอ่ยขึ้นอย่างต้องการปลอบโยน ท่านเลี้ยงลูกมาเองกับมือ มีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังรู้สึกเช่นไรไทเกอร์ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วถามแม่ว่า“แม่ช่วยเล่าเรื่องของป๋ากับคุณจอห์นให้ฟังได้ไหมครับ”“ใครนะ” มาดามอันนาถามเสียงดัง เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมานานมากแล้ว“คุณจอห์นครับ แม่รู้จักเหรอครับ” ไทเกอร์ขมวดคิ้วจนหน้าผากเป็นรอยหย
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล