"นิทำมันตื่นขึ้นมาเองนะ รับผิดชอบพี่ด้วยละกัน"
"พี่ดินอยากเหรอคะ?" เสียงหวานสอบถาม นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจดจ้องมองใบหน้าหล่อละมุน ท่าทางท้าทาย "แล้วใครล่ะ..ทำให้พี่เป็นแบบนี้?" "อืมม แล้วพี่ดินอยากอะไรเหรอคะ..ถ้าไม่พูดออกมา นิก็ไม่รู้หรอกนะ" คนสวยเล่นลิ้น ยันกายลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคนตัวสูง ช้อนสายตามองใบหน้าคมที่กำลังแดงปลั่ง ในใจนึกหัวเราะคิกคัก..บดินทร์ช่างเป็นผู้ชายน่ารักซะจริง "พี่อยากครับ..อยากทำกับนิ" "ทำอะไรคะ? " "นิก็รู้" "ไม่รู้ค่ะ นิไม่รู้อะไรทั้งนั้น ถ้าพี่ดินไม่พูด" "พี่อยากมีเซ็กซ์กับผู้หญิงคนนี้!" ว่าแล้ว จึงจิ้มนิ้วใส่เธอ "รับทราบแล้วเจ้าค่ะ! นายท่าน” สิ้นคำพูด เข่ามนคุกลงกับพื้นกระเบื้องสาก เอื้อมมือไปปลดกระดุมกางเกง แล้วเลื่อนมันลงช้า ๆ เผยให้เห็นสิ่งสงวนที่ชอบหนักชอบหนา เพียงแค่มือนุ่มนิ่มลูบสัมผัสบริเวณส่วนหัว แล้ววนนิ้วเรียวคลึงเคล้าเบา ๆ กลับเป็นการกระทำที่สุดแสนจะทรมาน ราวกับว่าคนใต้ร่างนั้นต้องการทำให้เขาคลั่งตายเสียให้ได้ ทว่ายัยคนขี้แกล้งยังไม่พอใจ กำสิ่งนั้นแล้วรูดรึงช้า ๆ ขึ้นลง ขึ้นลง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เล่นเอาคนโดนกระทำต้องยืนตัวเกร็ง กัดริมฝีปาก สะกดกลั้นเสียงคำรามเอาไว้ในคอ "อีกนิดครับ นิดเดียว อ่าา..เร็วกว่านี้ หนูต้องทำให้เร็วกว่านี้อีก" ปากพร่ำเพ้อสั่งตามสมองคิด ภาพในหัวเบลอไปหมด..อันเนื่องมาจากสำลักความสุขที่ถูกมอบให้ คิดไม่ถึงว่าการที่ถูกเธอทำ มันจะแตกต่างจากมือของตัวเอง อย่างสิ้นเชิง ยิ่งแกนกายแข็งขืน..มากเท่าไหร่ ความรู้สึกโหยหาสัมผัสแสนอ่อนนุ่มในตัวเธอยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ท้ายที่สุดความต้องการที่มีมากล้น ทำให้เขาตัดสินใจปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการ จับร่างนวลนางที่ปรารถนาให้ลุกขึ้นยืน เอื้อมมือเลิกผ้าซิ่นจนถึงโคนขาอ่อน ดันกายงามชิดติดกำแพง พูดด้วยสั่นเครือเล็กน้อย "บนพื้นมันสกปรกนะ โอบคอพี่ไว้สิ" "พี่ดินอุ้มนิไหวเหรอ..ถึงจะทำท่านี้" "มาลองดูกัน" สิ้นเสียง ขาเนียนถูกจับให้มาเกี่ยวเอวไว้ข้างหนึ่ง เพื่อให้ตนได้สอดใส่ตัวตนเข้าไปง่าย ๆ นัยน์ตาอ่อนโยนหรี่ลงเล็กน้อย แอบลอบมองดวงหน้างดงามอันเต็มไปด้วยเสน่ห์แสนยั่วยวน บัดนี้กำลังบิดเหยเกจากแรงเสียงครูด แสนรัญจวนที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในตัว “อ๊ะ!” เสียงอุทานตกใจเล็ดลอดออกมาเบา ๆ เมื่ออยู่ดี ๆ บดินทร์จับขาอีกข้างที่ยันพื้นไว้มาเกี่ยวเอวตนไว้ จนร่างบอบบางลอยเหนือพื้น มีแหล่งให้เกาะพักพิงคือกายกำยำ และระหว่างกลางเรือนร่าง ซึ่งกำลังถูกสอดประสานกันไว้ลึกสุดใจ "ห้ามทำนิตกนะคะ" ไม่มีเสียงตอบรับหรืออธิบาย เขาอุ้มเธอเดินอย่างกับกล่อมเด็กน้อยนอนหลับ..ทว่านัยน์ตากลมโตจะปิดได้อย่างไร ในเมื่อช่วงล่าง ถูกกายแกร่งตอกอัด เข้าสู่กลีบสวยสีหวาน กระแทกกระทั้นอยู่แบบนั้น ไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อน ยิ่งห่าฝนกระหน่ำลงมาเสียงดังมากเท่าไหร่ เสียงแผ่วหวานระคนเสียงเนื้อกระทบกันก็ร่วมปะปนครวญครางปานใจจะขาด มากยิ่งขึ้นเท่านั้น "พี่ดินขาา..ได้โปรด" นิรณาอ้อนวอนน้ำเสียงกระเส่า พร่ำขอให้เขาส่งตัวเองขึ้นสวรรค์ ใช้นัยน์ตาฉ่ำหวานพยายามปรือตาขึ้นมองใบหน้าหล่อ ฉายแววเว้าวอนดูน่าสงสาร "อะไรครับ..ถ้านิไม่พูด พี่ก็ไม่รู้หรอกนะ" พอได้ยินคำถาม ทำเอาใบหน้าเนียนแดงเรื่อ เป็นลูกตำลึงสุก คำว่า อาย ๆ อาย โผล่ขึ้นมาเต็มสมอง อยากจะกระโดดลงไป ขุดหลุมมุดดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด ซ้ำยังคิดไม่ถึงว่าจะถูกผลการกระทำย้อนกลับมาเล่นงานตัวเอง เร่งตอบรับกลับไปเสียงอ้อมแอ้ม "ได้โปรด..ช่วยทำให้นิเสร็จสักทีเถอะค่ะ" พูดจบ คนสวยรีบซุกหน้าลงกับแผงอก เริ่มรู้สึกอาย จนไม่รู้จะทำยังไงดี เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการ บดินทร์คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมเรี่ยวแรงถาโถมกระหน่ำเป็นครั้งสุดท้าย ใส่ตัวตนกลับเข้าไปไม่ยั้ง จนร่างบางผวาเฮือก รีบกอดรัดเรือนกายหนาแน่นยิ่งกว่าเดิม แล้วสองหนุ่มสาวต่างพากันร่วมใจตอบรับจังหวะรักด้วยความเร่าร้อน ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สนสิ่งใด ท้ายที่สุดจุดหมายปลายทางแห่งความฝันก็มาอยู่ตรงหน้า ร่างบอบบางบิดเร่าสั่นสะท้าน อกอวบกระเพื่อม เสียดสีกับแผงอกแน่น ๆ ร่างกายเกร็งกระตุก ปลดปล่อยเสียงหวานให้กรีดร้องออกมาด้วยความสุขสม รับเอาความอุ่นซ่านที่พุ่งเข้ามาในตัว กักเก็บไว้ หมดแรงหอบอยู่บนตัวเขา ฝ่ายคนที่ใช้พลังทั้งหมดไปกับการทำให้นิรณาพอใจ ถึงกับทรงตัวแทบไม่ไหว เข่าทรุดลงกับพื้น แต่ก็ไม่วายจะจับดวงหน้างาม เชยคางมองมาที่ตัวเอง พร้อมกดจุมพิตลงไปแผ่วเบา..รับเอาความหวานละมุน แล้วมือหนา จึงจับผ้าซิ่นลงมาตามเดิม อุ้มเธอมาวางไว้บนแคร่ ก่อนจะเอื้อมมือปิดปากหาวไปหนึ่งรอบ "พี่ดินขาา ถ้าง่วงนอนขนาดนั้นก็หนุนตักนิเถอะ..ฝนหยุดตกเมื่อไหร่ นิจะเรียก" นกฮูกสาวให้คำมั่น เธอนั้นเป็นพวกกลางคืนไม่หลับกลางวันไม่นอน เน้นเข้านอน ตอนเช้ามืด แล้วไปทำงาน ช่วงเช้าตรู่ "ถามหน่อยสิ..ทำไมนิถึงอยากลองคบกับพี่ล่ะ?" คนนอนตักถามอย่างสงสัย นิรณาก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย และควรจะไปคบกับพวกรุ่นราวคราวเดียวกันเสียมากกว่า เล่นเอาอีกฝ่ายสะอึก พูดจาไม่ออก..จะบอกออกไปได้ยังไงว่าแค้นลูกสาวของเขาที่มาแย่งแฟนตัวเอง เลยตอบส่ง ๆ ไปว่า.. "หล่อค่ะ" "อีกหน่อย ถ้าพี่แก่มากกว่านี้ นิยังจะชอบอยู่อีกไหม?" "หน้าตาก็ส่วนหนึ่ง แต่นิสัยสำคัญกว่า ถ้าพี่ดินไม่นอกกาย นอกใจกัน นิก็พร้อมจะอยู่กับพี่ตลอดไป" "คำว่าตลอดไป มันไม่จริงหรอกครับ สุดท้ายพวกเราก็ต้องจากลากันอยู่ดี" พูดจบ บดินทร์นิ่งเงียบ คิดถึงใบหน้าซีดจางไร้รอยยิ้มของอดีตภรรยาที่ตายไป ใจยังคงเจ็บปวด "อยู่ ๆ มาดึงเข้าดราม่าซะงั้น นิว่าพี่ดินรีบ ๆ หลับไปเลยจะดีกว่าค่ะ" เสียงหวานบ่นอุบอิบ เธอไม่ค่อยชอบเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาสักเท่าไหร่ จึงเร่งพาเฉไฉไปทางอื่น "นิได้ยินพี่พูดถึงลูกสาวบ่อย ๆ เธอเป็นคนยังไงเหรอคะ? " นิรณาแสร้งถาม อยากรู้เหลือเกินว่าบีบี ในสายตาของบดินทร์เธอเป็นคนยังไง แล้วมุมมองนั้นต่างกัน มากหรือเปล่า "เด็กคนนั้นน่าสงสาร และไม่ควรจะเกิดมาเลยด้วยซ้ำ" "หมายความว่ายังไงเหรอคะ?" คนตัวเล็กเร่งถาม รู้สึกสงสัยสุด ๆ แต่แล้วบดินทร์กลับมองตาเธอด้วยแววตาว่างเปล่า ไร้ซึ่งอารมณ์ และยากจะที่จะคาดเดาออกมาเป็นคำพูด "ไม่มีอะไรหรอกครับ สงสัยพี่จะง่วงจนเบลอ ละเมอพูดไปเรื่อย..นิอย่าเก็บเอาไปใส่ใจเลยนะ" คำพูดนั้นเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าเธอไม่ควรสอใส่เกือกมากจนเกินไป จึงได้แต่นั่งนิ่งเงียบ มองดูเขานอนหลับไปช้า ๆ แต่ถ้าหากว่าวันไหนที่บดินทร์ยอมเปิดใจพูดออกมา คนเจ้าคิดเจ้าแค้นก็เชื่อว่าตนนั้น คงสามารถก้าวข้าม..ความโกรธเคืองในใจ ได้เช่นกันล่ะมั้งนิรณามองสามีด้วยแววตาอ่อนล้า หัวใจหนักอึ้งด้วยความเวทนา บดินทร์กลายเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่าห้าเดือนแล้ว ร่างกายที่เคยแข็งแรงบัดนี้นอนนิ่งไร้การตอบสนอง ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ"ขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้านิไม่ก้าวมาในชีวิตของพี่ เรื่องราวก็คงไม่เป็นแบบนี้" เสียงแผ่วเบาแฝงความเศร้าหมอง คำพูดเดิมที่เธอพร่ำบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลาที่เขาหลับใหล เธอเอาแต่โทษตัวเอง วันแล้ววันเล่าที่จมดิ่งอยู่กับความรู้สึกผิด ไม่อาจปลดเปลื้องความทุกข์ในใจได้แต่เพราะเด็กชายที่อยู่ในท้อง คนเป็นแม่จำต้องพยายามไม่ให้ตัวเองเครียดมากนัก หาสิ่งต่าง ๆ ทำวนเวียนไป เพื่อไม่ให้มีเวลาครุ่นคิดจนเกินไป แต่สุดท้าย ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด ก็ไม่อาจลบเลือนความคิดถึงที่มีต่อสามีได้แม้แต่น้อยทุกลมหายใจเข้าออกยังคงเป็น...บดินทร์หากการอ้อนวอนต่อฟากฟ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ จะช่วยได้ นิรณาอยากจะร้องขอสักครั้ง..ขอให้คืนคนรักของเธอกลับมาขอเพียงให้ลูกน้อยที่ใกล้จะลืมตาขึ้นมาเผชิญโลกกว้าง ได้มีพ่อที่เป็นปกติเหมือนเช่นคนอื่นได้โปรดแต่คำอธิษฐานดูจะไม่มีวันได้รับคำตอบ เวลาผ่านล่วงเข้าสู่เดือนที่เจ็ดของการหล
จนเวลาล่วงเลยผ่านมาอีกสามวัน นิรณายังคงวนเวียนอยู่แถวบริเวณนี้ เพื่อติดตามการค้นหาบีบีและเตชินใช้เส้นสายที่มีให้ติดประกาศจับ แต่ยังไม่พบเจอว่าคนทั้งคู่ไปหลบเลี่ยงอยู่ในรูไหน ทุกอย่างเลยมืดแปดด้าน"พี่! พี่..เจอแล้วพี่" นราภพวิ่งเข้ามาในห้องพัก ก่อนจะหยุดยืนหอบต่อหน้านิรณา แล้วยื่นมือถือมาให้ดู"สายของผมถ่ายรูปคล้ายกับไอ้เตชินได้แถวท่าเรือร้างทางใต้ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน ผมเลยให้มันไล่ตามไปแต่ก็คลาดกันจนได้" เสียงสั่นด้วยความเหนื่อยอธิบายเร็ว ๆฝั่งนิรณาเพียงแค่กวาดสายตามองรูปก็จำได้แทบทันที ว่าชายในภาพคือเตชิน แม้ว่าสภาพจะเละเทะ เนื้อตัวเสื้อผ้าสกปรกเปรอะเปื้อนไปดินโคลนทว่าสำหรับบุคคลที่เคยอยู่ร่วมกันมาหลายปีย่อมจำได้ แม้แต่ปลายเส้นผม เธอก็จำได้..จำได้ว่าเขาคือ เตชิน!"รีบเตรียมรถ พี่จะรออยู่ด้านหน้า" เสียงจริงจังหันไปสั่งน้องชาย ก่อนจะเดินไปหยิบอาวุธ และเช็กดูกระสุนในที่สุดสองพี่น้อง..ก็เดินทางมาถึงท่าเรืออันเงียบสงบ จนน่าประหลาดใจ เวลานั้นสัญชาติ..บอกให้นิรณาระวังตัว เธอเร่งหันไปส่งสัญญาณให้น้องชายตามมา ก่อนจะลัดเลาะไปตามตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงราย ดั่งเขาวงกตจนมาถึงอีกฝั่ง
ฝั่งนิรณาในที่สุด..ก็สามารถตามตัวเจอ จากข้อความที่นราภพ สู้อุตส่าห์ไปตามสืบ จนพบว่าคนพวกนั้น ไปปรากฎตัว อยู่แถวท่าเรือ อันเป็นสถานที่..ที่พวกอาชญากรทั้งหลายมักจะใช้หลบหนีออกนอกประเทศยิ่งทำให้กลัวใจ..กลัวว่ามันจะทำการหลบหนีได้สำเร็จ สองเท้าก้าวฉับ ๆ คว้าเอากุญแจรถ เตรียมมุ่งหน้าไปตามหาพวกมัน หวังจะจับให้ได้ด้วยมือตัวเองจวบจนเวลาเข้าสู่ยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำ นิรณาที่ขับรถวนรอบเกาะและท่าเรือที่คาดว่าพวกมันจะไปกลับไม่เจอเลยสักนิด จนรู้สึกท้อใจ ตัดสินใจแวะปั๊มทางข้าง ลงไปล้างหน้า ล้างตา ให้รู้สึกสดใส จะได้มีแรงฮึดต่อดวงตากลับเหลือบเห็นใครบางคนในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีดำ สวมแมส สวมหมวก ปิดบังใบหน้า แต่ออร่าความหล่อยังพุ่งกระจาย ยืนเคียงข้างกับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ในชุดเดรสสีชมพู สวมปีกกว้างกำลังยืนลังเล..อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆทว่าหากเป็นคนนอกมองมา คงคิดว่าเป็นคู่รักดารา แอบมาเที่ยวสวีทหวาน ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแต่นั้นไม่ใช่กลับนิรณา เธอมองแค่ปราดเดียวก็จำได้ทันทีว่า..สองคนนั้นแหละ! คือคู่ผัวเมียที่ตัวเองมาตามจับแต่ขณะที่ค่อย ๆ ย่องเข้าไป มือกำลัง เตรียมปืนจะยกขึ้นเล็งขู
สามอาทิตย์..ก่อนหน้านั้น"หมอขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ทางเราสามารถยื้อชีวิตคุณบดินทร์ได้แล้ว แต่เขาถูกสารเสพติดประเภทหลอนประสาท ทำลายสมองมากเกินไป ฝั่งการรับรู้เลยไม่ทำงาน" แพทย์วัยกลางคนอธิบายเสียงเศร้า อับจนปัญญาที่จะช่วยเหลือได้นอกจากรอเวลา ให้ร่างกายคนไข้ ฟื้นตัวเอง ซึ่งแทบจะไม่มีปาฏิหาริย์ เพราะสมอง ส่วนการรับรู้โดนฤทธิ์ของยานรกที่เกินขนาดเล่นงานให้"หมายความว่าพี่ดินจะต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้เหรอคะ?" สิ้นคำถาม แพทย์เจ้าของไข้พยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปตรวจอาการคนอื่นต่อนิรณาเลยได้แต่มองตามหมอจนลับสายตา ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาใส่ตัว เธอไม่น่าใช้บดินทร์เพื่อเป็น..เครื่องมือแก้แค้น ไม่น่าทำแบบนั้นเลยสักนิดมันความคิด..ที่ผิดพลาด ตั้งแต่เริ่ม ถ้าวันนั้นตัดสินใจ ไม่เข้าหา ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขาก็คงไม่ต้องมานอนหลับไม่รู้สติอยู่แบบนี้พอยิ่งคิดถึงความหลัง นิรณายิ่งโทษตัวเอง ได้แต่ถามว่าทำไม ๆ ทำไมบดินทร์ต้องเป็นคนรับกรรมที่ตัวที่เขาไม่ได้สร้าง ทำไม ไม่เป็นเธอที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้ทำไมทุกอย่างมันเลวร้าย แย่ลงไปหมด ทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ทั้งที่เขาทำดีทุกอย่างแต่สุดท้าย คนใจดีคนนั
"อโหสิกรรมให้กันเถอะนะ แล้วชาติฉันท์ใด อย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลย" สิ้นเสียงพูด นิรณายกมือไหว้ พร้อมปักธูปลงลงบนกระถาง ใบหน้าราบเรียบ ไร้ซึ่งชีวิตชีวา"ป้าเสียใจด้วยนะคะ..คุณนิ" หญิงวัยกลางเดินมาหาคนเป็นเจ้าภาพงานขาวดำครั้งนี้ แล้วยื่นมือไปรับธูป นำไปเคารพคนจากไป สีหน้าที่เศร้าสร้อย"หนูเสียใจด้วยนะคะ" หญิงสาวอีกคนที่ตามเข้ามาเอ่ยด้วยเสียงซึมเล็กน้อย นิรณาก็ไม่ได้พูดอะไร และยังคงตีสีหน้าเฉยเมย พร้อมยื่นธูปให้คนคนนั้นไป ดั่งหุ่นยนต์นัยน์ตาสีหวานว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึก ตอนนี้ชีวิตเคว้งคว้าง มองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยเถิด จนทำให้เธออยากจะเป็นบ้าอีกด้านหนึ่ง พวกคุณหญิงต่างพากัน หันหน้ามาซุบซิบ"เห้ออ..สงสารคุณนิเนอะ ท้องตั้งหลายเดือนขนาดนั้น ยังต้องมาคอยจัดการงานตัวคนเดียวอีก""ฉันได้ข่าวมาว่าเขาไม่มีญาติเหลือเลยสักคน""แบบนั้นก็น่าสงสารแย่เลย" หญิงอีกคนพูด รู้สึกเห็นใจ ทั้งนิรณาและคนเสียชีวิต"นั้นสินะ! ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงมาด่วนจากไปเร็วก็ไม่รู้""เมื่อเช้าฉัน..ก็ลองถามหาสาเหตุนะ แต่ว่าคุณนิไม่ยอมพูดอะไรเลย" อีกคนกล่าวสมทบ"เธอก็คงช็อกมากแ
นิรณากลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่ว่าจะทำยังไง..คนเห็นแก่ตัวก็ไม่หมดไปสักทีทำเอางานในมือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากคนปฏิบัติงานที่มีเพียงเพียงน้อยนิด ไม่สัมพันธ์กันแต่แล้วเมื่อเปิดประตูห้องนอนออก บดินทร์กลับไม่อยู่พอลองโทรหา ก็ไม่ติด ทำให้คนเป็นภรรยาเริ่มกังวลใจตั้งแต่คบกันมาเวลาเขาจะไปไหน มักจะส่งข้อความบอกตลอด แต่วันนี้กลับไม่มีปฏิบัติการตามหาสามีจึงเริ่มต้นขึ้น เธอออกสำรวจไปทั่วบ้าน จนถึงโรงรถพบว่ายังมีรถบดินทร์จอดอยู่ ไม่ได้ไปไหน"สวัสดีค่ะ คุณนิ" แม่บ้านคนหนึ่งเดินปะหน้ากับนิรณาพอดี ยกมือขึ้นไหว้ทักทาย เธอจึงส่งมอบรอยยิ้มกลับไป"ฉันมาตามหาพี่ดินค่ะ พี่พอจะรู้ว่าเขา อยู่ที่ไหนหรือเปล่าคะ?" เสียงหวานถามออกไปอย่างเป็นมิตร"คิดว่าน่าจะบ้านคุณบีบีนะคะ เห็นพวกแม่บ้านฝั่งนั้น วุ่นวายออกไปซื้ออาหารตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว""พวกเขามีนัดทานข้าวกันตอนเย็นเหรอคะ?" นิรณาถามอย่างงุนงง บดินทร์ก็นะ ไม่ยอมบอกอะไรเธอสักอย่าง"ค่ะ ฉันเห็นว่าคุณดิน ไปบ้านหลังนั้น ตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วนะคะ" แม่บ้านรายงานทุกอย่างตามความจริง"ขอบคุณที่บอกค่ะ""แล้วคุณนิจะไปบ้านคุณบีบีไหมคะ?""เกรงว่าถ้าไปแล้วระเบิ