LOGIN"ถ้าบุษไม่มีธุระ จะมาหาคุณไม่ได้เลยเหรอคะ น่าน้อยใจจัง" หล่อนแกล้งทำหน้าเศร้า พร้อมกับแกล้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เพื่อให้ตุลารู้สึกเห็นใจ
"ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ผมแค่แปลกใจคิดว่าคุณมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าถึงได้มาหาผมถึงห้องทำงานแบบนี้" ตุลาพยายามสรรหาคำพูด ที่ทำให้คนฟังรู้สึกดี ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมาอธิบาย ในเมื่อหล่อนไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย
"พอดีว่า เย็นนี้คุณลุงกับคุณป้า โทรบอกให้บุษไปทานข้าวเย็นที่บ้าน บุษก็เลยแวะมาหาคุณตุลาก่อน เราจะได้เข้าไปพร้อมกันยังดีไหมคะ" บุษบาพูดออกมา พร้อมกับแอบชำเลืองมองไปที่ซันนี่ เมื่อเขาเป็นหนุ่มหน้าตาดีไม่แพ้ตุลาเลยสักนิด และถ้าเธอจำไม่ผิดเขาน่าจะอยู่ในวงการนักธุรกิจ ที่มีกิจการหลายอย่าง ร่ำรวยไม่แพ้บ้านตุลาอย่างแน่นอน
"อะไรนะครับ พ่อกับแม่ผมเป็นคนโทรไปชวนคุณ มาทานมื้อเย็นที่บ้านอย่างนั้นเหรอครับ" ตุลาถามออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เมื่อชายหนุ่มกำลังคิดว่า บิดากับมารดาของเขากำลังคิดที่จะทำอะไร ถ้าหากทั้งสองต้องการจับคู่ให้เขากับบุษบา ทั้งชีวิตของตุลาคงอยู่ในกระทะทองแดง ผู้หญิงที่แต่งตัวเปรี้ยว แถมท่าทางของเธอยังดูมั่นอกมั่นใจ เหมือนกับจะไม่แคร์ใคร ผู้หญิงแบบนี้ตุลาไม่มีวันหลงรักได้ลง เพราะสเปกของเขาต้องขาวหมวย แต่งตัวเรียบร้อย เป็นผู้หญิงที่ธรรมดา แต่สำหรับตุลา เขากลับคิดว่าผู้หญิงแบบนั้นดูมีเสน่ห์ จนน่าค้นหา
"ทำไมน้ำเสียงของคุณตุลา ที่ถามออกมาเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่บุษพูดออกไป" หญิงสาวถามออกมาพร้อมกับทำหน้างอ เหมือนหล่อนงอนเขาอยู่ ซึ่งเป็นท่าทางที่ตุลาไม่ชอบใจเลยสักนิด
"ไม่ทันไรก็พ่อแง่แม่งอนซะแล้ว" ซันนี่พูดขึ้นมาลอยๆ แต่ก็พลอยทำให้บุษบาทำหน้าเขินอายได้
"ซันนี่ เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านฉันนะ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับทำตาเล็กตาน้อย ขยิบตาซ้ายขวา เพื่อส่งซิกให้เพื่อนรักไปช่วยเป็นไม้กันหมาให้กับเขา เนื่องจากตุลานั้นไม่อยากจะสานสัมพันธ์ หรือทำความรู้จักกับผู้หญิงอย่างบุษบามากไปกว่านี้
"ได้สิ แต่ไปแป๊บเดียวนะ เพราะฉันต้องไปพบกับลูกค้าต่อ"
"ความจริงแล้ว ถ้าคุณซันนี่มีธุระสำคัญก็ไม่ต้องไปกับพวกเราก็ได้นี่คะ" บุษบาพูดเหมือนกับไม่อยากให้ซันนี่ไปด้วย ทั้งที่หล่อนเองก็เพิ่งจะรู้จักกับตุลาไม่กี่วัน แต่ดูเหมือนว่าบุษบากำลังพยายามจะทำตัวคุ้นเคย ถึงขณะที่บิดามารดาของตุลาเชิญไปทานมื้อเย็น ที่บ้านเขาด้วยตัวเองหล่อนคงไม่ธรรมดา นับต่อจากนี้ไปชีวิตของตุลาคงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
ณ บ้านหลังใหญ่
ภายในบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ตกแต่งประดับประดา ทุกชิ้นล้วนมีมูลค่ามีราคาแพงทั้งนั้น แต่ทว่าบรรยากาศภายในห้องเล่นเริ่มที่จะตึงเครียด เมื่อสองสามีภรรยากำลังถกเถียงกันเรื่องลูกชาย
"ฉันไม่เห็นด้วยเลยในสิ่งที่คุณกำลังคิดจะทำ คุณคิดดีแล้วเหรอคะ เราจะแน่ใจได้ไงว่าตุลาจะรักบุษบา" ฮันน่าพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ ตึงเครียด เมื่อผู้เป็นสามีเล่าถึงแผนการให้เธอได้ฟัง
"ผมก็พยายามจะหาผู้หญิงที่ดีที่สุดให้กับลูกของเรา หรือคุณอยากจะให้เขากับซันนี่ ทำเรื่องน่าอายให้กับครอบครัวก่อน แล้วจึงค่อยหาทางแก้ไข ผมคิดว่าเราควรตัดไฟแต่ต้นลมจะดีกว่า" น้ำเสียงของอีธาน ก็ดูเป็นกังวลไม่น้อยไปกว่าภรรยา เมื่อเขากำลังคิดว่าลูกชายกำลังคิดจะชอบไม้ป่าเดียวกัน เพราะตั้งแต่ตุลาโตเป็นหนุ่มเขาก็ไม่เคยมีแฟนเลยสักคน แถมตอนนี้ยังทำตัวติดกันกับซันนี่ยังกับตังเม
"คำว่าดีที่สุดสำหรับเรา อาจจะไม่ดีที่สุดสำหรับตุลาก็ได้นะคะ ถึงยังไงก็อย่าเพิ่งให้ลูกหมั้นกับใคร ให้พวกเขาดูใจกันไปก่อนก็ได้ รอให้ตุลามั่นใจแล้วลูกเป็นคนเอ่ยปากเองจะดีกว่านะคะคุณ"
"ถ้ารอให้ตุลาเป็นคนเอ่ยปาก จะมีวันนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"ฉันขอถามคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ อะไรทำให้คุณคิดว่าลูกเราชอบไม้ป่าเดียวกัน ฉันมองยังไงลูกเราก็แมนจะตาย ตุลาไม่มีทางที่จะชอบซันนี่หรือว่าผู้ชายคนไหนหรอกค่ะ" ฮันน่าพูดออกมาด้วยอารมณ์ออกมาขุ่นเคืองใจ เมื่ออีธานกำลังคิดที่จะจับคู่ให้กับลูกชาย
"ตุลาจะสามสิบแล้วนะคุณ ผมยังไม่เคยเห็นเขาข้องแวะกับผู้หญิงคนไหนสักคน ถามช่วงนี้ซันนี่ก็ทำตัวติดกันอย่างกับตังเม แล้วยังชอบไปค้างที่คอนโดบ่อยๆ "
"แล้วเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อยู่ในแผนการนี้ด้วยหรือเปล่า" คราวนี้ผู้เป็นภรรยาได้ชักสีหน้าใส่สามีด้วยความไม่ชอบใจ กับการที่เขากำลังจะมัดมือชกตุลา เพื่อหวังให้ลูกชายได้แต่งงานกับบุษบา
"มันเป็นทางเดียว ที่จะทำให้ตุลายอมรับในตัวบุษบาได้"
"คุณพูดแบบนี้มันไม่แฟร์กับตุลาเลยนะคะ ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง ฉันก็ยังคิดว่าเขาควรมีสิทธิ์ ที่จะตัดสินใจ เลือกใครเข้ามาในชีวิตเอง ความสุขไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบก็ได้ ชีวิตคู่มันต้องเริ่มต้นจากความรัก ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็พร้อมที่จะเติมเต็มให้กันและกัน ไม่อย่างนั้นมันก็มีแต่พังกับพัง"
ฮันน่าพูดจบก็ลุกเดินออกไปทันที ท่าทางของเธอที่แสดงออกมานั้น บ่งบอกชัดเจน ถึงความไม่พอใจ ในสิ่งที่ผู้เป็นสามีกำลังจะเยียดบุษบาให้กับตุลา เวลานี้อีธานก็ได้ทำหน้าเซ็งๆ ออกมา เมื่อภรรยาไม่เห็นด้วย เรื่องที่เขากำลังจะจับคู่ให้กับลูกชายคนโต
ตุลาจะรู้หรือเปล่าว่าคำพูดของเขา กำลังทำให้ใบหน้าขององุ่นร้อนผ่าว จังหวะการเต้นของหัวใจของเธอนั้นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น กำลังส่งผลให้หัวใจของเธอละลาย โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายถึงใคร "ฉันไม่สนใจหรอกนะเรื่องสถานะของคุณ คุณจะโสดจะมีเมียมีลูกกี่คนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ปล่อยฉันได้แล้วค่ะคุณตุลา" "คุณตกลงเป็นแฟนผมก่อนสิ ไม่อย่างนั้นเราก็ผมจะนอนกอดคุณไว้อย่างนี้ทั้งคืนเลย" "เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ นี่มันคือการมัดมือชกชัด ๆ คุณจะใช้วิธีเผด็จการแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะตรงนี้มันคือหัวใจไม่ใช่ธุรกิจของคุณ" องุ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยืนกราน พร้อมกับชี้ลงไปที่อกข้างซ้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเมื่อดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน ความนัยที่มีก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาทันที ต่างคนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะพบกัน "แค่การตกลงปลงใจเป็นแฟนกับผม ทำให้คุณต้องฝืนใจขนาดนั้นเลยเหร
พอหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทำให้องุ่นรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับไลฟ์สไตล์การตกแต่งห้องของชายหนุ่มที่ดูวินเทจ แต่ก็ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่เข้าไปด้วย ทำให้ดูอบอุ่นผ่อนคลายมีกลิ่นอายของความคลาสสิค จึงทำให้ห้องของเขาน่าอยู่มากขึ้น "มีใครอยู่ไหมคะ ฉันเอาข้าวมาส่งค่ะ วางไว้ตรงนี้นะ ฉันกลับแล้วนะคะ" องุ่นพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบใคร "ไม่อยู่ยังจะนัดให้เอาข้าวมาส่งอีก แกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย" องุ่นพูดพึมพำออกมาพร้อมกับทำหน้างอน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดน้อยใจด้วยซ้ำไป เขาจะอยู่ห้องหรือไม่อยู่มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย หน้าที่ของเธอคือการมาส่งข้าวให้เขาแล้วก็กลับทำไมต้องคิดหนักอยากเจอเขาด้วย หมับ!! "ว้าย!" องุ่นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือเรียวของเธอถูกชายหนุ่มดึงเข้าหา ในขณะที่ใบหน้าของ
องุ่นอ่านข้อความด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อประโยคสุดท้ายที่เขาระบุเอาไว้นั้น กำลังทำให้เธอหน้าแดง หญิงสาวไม่รู้ว่าตุลากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกเธออยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ข้อความเหล่านั้นกำลังทำให้หัวใจของเธอพองโต แม้จะยังไม่แน่ใจในความหมายของมัน แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงกับดอกเบี้ยที่ตุลาควรได้รับ"พี่องุ่น พี่ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ ป้าปรางให้มาเรียกมีออเดอร์เพียบเลยจ้ะ" เสียงของผักบุ้งดังขึ้นทำให้องุ่นรีบเก็บธนบัตรและกระดาษโน้ตไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที "พี่แค่มาเข้าห้องน้ำเฉย ๆ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า" วันนี้ทั้งวันจิตใจขององุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางครั้งก็ทำออเดอร์ผิด ลูกค้าสั่งผัดกะเพราแต่ได้ผัดผักแทนก็มี ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกค้าสั่งแกงจืดแต่ได้ต้มยำมาแทน "องุ่นตั้งแต่กลับมาจากส่งข้าวที่โรงงาน หนูเป็นอะไรทำไมใจลอยจัง" มารดาเดินเข้ามาหาลูกสาว หลังจากเวลาผ่านไป ซึ่งตอนนี้ร้านปิดร
"ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับคุณหรอกนะ มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกัน" "เดี๋ยว!" เมื่อองุ่นไม่ฟังคำสั่งของตุลา จึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบังคับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเผลอตะคอกมาเสียงดัง จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง "อะไรอีก... เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองนะคุณ ไม่อยากได้เงินคืนหรือไง จะรีบไปหาเงินมาใช้หนี้ มีอะไรก็รีบพูดมา" ในที่สุดองุ่นก็ยอมหันกลับมาพูดกับเขา แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ข้ออ้างที่เธอใช้คำว่าลูกหนี้ เนื่องจากเธออยากออกไปให้พ้นจากห้องนี้ เพราะว่าหญิงสาวยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้เขาแล้วหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรง ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต "ก็แล้วทำไม คุณหายใจเข้าหายใจออกต้องมีแต่เงินด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ถามหนี้คุณเลยนะ" "คุณไม่ถามแต่ฉันร้อนตัว ในเมื่อฉันเป็นหนี้คุณจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก๊กไว้นี่ จริงไหม" "แล้วถ้าดอกเบี้ย ผมขอคิดเป็นอย่างอื่นคุณจะว่ายังไง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉาย
ตุลาจอดรถอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ ก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาแปดโมงเช้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปภายในโรงงาน เพื่อเตรียมตัวทำตามแผนที่วางเอาไว้ พอชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักพัก จึงตัดสินใจ ยกโทรศัพท์โทรออกหาเลขาสาวในทันที เพื่อทำตามแผนการที่วางเอาไว้ทั้งคืน "ได้ค่ะคุณตุลา รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลจะจัดการให้ค่ะ" "อย่าลืมนะครับ คนที่จะมาส่งอาหารต้องเป็นผู้หญิงที่ชื่อองุ่นเท่านั้น" น้ำเสียงเข้มของตุลาทำให้เลขาสาวรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาจะต้องเจาะจงคนมาส่งอาหารด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถามเจ้านายหนุ่มออกไป ชายหนุ่มนั่งไม่ติด เมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าขององุ่นตลอดเวลา ซึ่งตุลาไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเขาจะสามารถทำให้หญิงสาวยอมทำตามได้หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะนี่มันคือทางเดียวที่จะทำให้เธอเดินเข้ามาหาเขาได้ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
"สวัสดีครับแม่ ธันวาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับร้อน ถ้าพี่ตุลาชอบดื่มน้ำส้มก็ดื่มแก้วนั้นไปด้วยสิ" ธันวาพูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้มารดากับพี่ชายมองหน้ากันและส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอ็นดูเหตุตัวธันวา "พ่อยังไม่กลับเหรอครับแม่" ตุลาพูดพร้อมกับหยิบน้ำส้มอีกแก้วขึ้นมาดื่ม "ยังเลยเห็นบอกว่าจะกลับดึก" ผู้เป็นมารดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เมื่อนึกถึงคำพูดของอีธานที่เขากำลังจะพยายามจับคู่ให้กับลูกชาย "แม่ครับเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม่ช่วยพูดให้พ่อยุติโครงการนี้ได้ไหมครับ" น้ำเสียงของตุลาดูมีความกังวลมาก เมื่อชายหนุ่มนึกถึงผลกระทบของทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะองุ่นที่เขาเพิ่งจะเจอเธอ ถ้าหากต้องจากกันอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานไหมถึงจะสามารถ ตามหาเธอเจออีกครั้ง "เรื่อง







