ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูเคร่งเครียดจัด ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโกรธเมื่อของสำคัญได้หายไปจากงานแสดงเครื่องเพชรของ คิงส์คอปอเรชั่น และเครื่องเพชรชุดนั้นก็มีมูลค่ามหาศาลทั้งยังเป็นของรักของมารดาผู้ล่วงลับของเขา ชายหนุ่มหันมามองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขึ้งเครียด เมื่อรู้แน่แล้วว่าของสำคัญของเขานั้นอยู่ที่ไหนและกับใคร
อาเธอร์ คิงส์ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งแม็กซิกัน อเมริกันผู้หล่อเหลาและร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ 188 เซนติเมตร ผิวสีแทนคร้ามใบหน้าเรียวยาวได้รูปซึ่งประกอบด้วยดวงตาสีฟ้าสดคมเข้มภายใต้คิ้วหนายาว จมูกโด่งเป็นสันสวยไม่งองุ้มรับกับริมฝีปากหยักสีเข้ม ร่างแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามตึงแน่นอย่างที่เราเรียกกันว่าซิกแพ็กนั้น น่าลูบไล้สัมผัสด้วยปุยขนสีอ่อนนุ่มนวลสีเดียวกันกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยที่ตัดเล็มอย่างดีเยี่ยมรับกับรูปหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เขาเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถครอบครองหัวใจหนุ่มโสดเนื้อหอมคนนี้ได้ ในวัยสามสิบสามปีอาเธอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอันดับต้นๆ ของวงการนักธุรกิจ หนุ่มหล่อ รวย ชื่อเสียงโด่งดัง ช่างเป็นอะไรที่หญิงสาวทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา...
ในชีวิตของอาเธอร์ไม่เคยขาดหญิงงามข้างกาย พวกเธอทุกคนก็ล้วนแล้วแต่สวยโดดเด่นมีส่วนสัดที่ยั่วใจ และมีลีลารักที่เร่าร้อนช่ำชอง แน่นนอนเขาชอบสนุกกับพวกเธอ แต่ก็ไม่ได้จริงจังกับใครเป็นพิเศษ เพราะอาเธอร์คิดว่าไม่มีหญิงสาวคนไหนรักเขาที่ตัวตนที่แท้จริง ส่วนใหญ่พวกเจ้าหล่อนเหล่านั้นก็รักที่หน้าตาชื่อเสียงเงินทองของเขาเท่านั้น...
“แกแน่ใจนะว่าไอ้ดอนมันกบดานอยู่ที่นั่น” ชายนุ่มถามบอดีการ์ดคนสนิทของตนเสียงเครียด เมื่อกล่าวถึง ดอน ดักลัส นักธุรกิจมืดที่บังอาจมาลูบคมอาเธอร์ คิงส์
“ครับ ผมแน่ใจมันต้องการเอาเครื่องเพชรชุดนั้นไปแลกกับของบางอย่าง ตามสั่ง..” ริชาร์ต บอดีการ์ดหนุ่มคู่ใจของเขาตอบกลับมาอย่างหนักแน่น
“ดี ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เราไปเอาของเราคืน... ไปเตรียมทุกอย่างให้พร้อม...” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มแววตากร้าวจัด ก่อนร่างสูงองอาจจะนั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่หรูหรา แล้วถอนหายใจออกมาดังๆ เมื่อบอดีการ์ดคนสนิทออกไปแล้วมือหนายกขึ้นลูบใบหน้าคมอย่างนึกโล่งอก
“แม่ครับ ผมตามหาของสำคัญของเราเจอแล้วและคราวนี้ผมจะไม่ให้มันหายไปอีก ผมสัญญา ผมคิดถึงคุณแม่นะครับ...”
อาเธอร์พูดเบาๆ กับรูปของมารดา ซึ่งใส่กรอบงดงามที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของตน ใบหน้าสวยหวานกับเรือนผมสีทองอร่ามในวัยห้าสิบปี แต่ยังดูงดงามไม่สร่างนั้นยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน
อาเธอร์ชอบรูปนี้ของมารดาเพราะมันดูเหมือนกับว่าท่านนั้นมีความสุขและมีชีวิตชีวา ซึ่งในความจริงแล้วมารดาของเขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่มีความสุขเลยตั้งแต่บิดาได้ทิ้งเขากับมารดาไปกับหญิงสาวคราวลูกอย่างไร้เยื่อใย ปล่อยให้มารดาเลี้ยงดูเขาลำพัง... ในตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบขวบ ความทุกข์ใจของมารดาทำให้เขาฝังใจมาตลอดเวลา และนึกโทษหญิงสาวชาวไทยหน้าด้านคนนั้นที่แย่งบิดาไปจากเขากับแม่ และมันคือสาเหตุที่ทำให้เขาเกลียด ผู้หญิงไทย เป็นที่สุด...
แพรดาวรีบวิ่งเข้าห้อง แล้วปิดประตูเงียบเมื่อกลับมาจากดินเนอร์สุดหรูของเธอกับชายหนุ่มชาวต่างชาติ ที่เธอพบกับเขาทางอินเตอร์เน็ต แล้วคบกันได้สามเดือนอย่างเร่งรีบ ไม่ให้มารดากับน้องสาวเห็นแล้วรีบลงกลอนประตูด้วยความโล่งใจ ร่างระหงเดินไปทรุดนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง แล้วครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญ
เธอไม่น่าหลงกลไอ้ฝรั่งชั่วนั่นเลย แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะมารู้ตัวก็เมื่อสายเกินไป ว่าตัวเองถูกหลอกจนไม่เหลืออะไรแล้ว และจริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ไปดินเนอร์ด้วยแต่ไปทำงานบางอย่างให้ มัน
“ดาว... ลูกดาว ทำอะไรอยู่ให้แม่เข้าไปหน่อยลูก” เสียงเคาะประตูเบาๆ แต่ทำให้แพรดาวสะดุ้งอย่างหวาดระแวง ทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมเผชิญหน้าใครทั้งนั้น...
“ดาวอยากพักน่ะแม่ จะนอนแล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ”
“แต่ลูกดาวคะ คุณดอนเขาว่าไงบ้างลูกจะมาสู่ขอลูกดาวเมื่อไหร่ แม่จะได้ไปประกาศให้พวกชาวบ้านปากหอยปากปูมันฟังว่าแม่จะได้เขยฝรั่ง ทั้งหล่อทั้ง รวย...”
นางเดือนพูดพร่ำอยู่หน้าห้องบุตรสาวคนโปรดอย่างเพ้อฝัน ในขณะที่แพรดาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงคิดหาทางเอาตัวรอดจากผู้ชายหน้าเนื้อใจเสือคนนั้น ไม่สนใจเสียงของแม่ที่ร้องเรียก
พลอยไพลินมองมารดาที่เดินกลับเข้าห้องของตนไปอย่างผิดหวังเล็กน้อย เมื่อแพรดาวไม่เปิดประตูให้ หญิงสาวถอนหายใจแล้วนั่งมองซึ้งนึ่งขนมถ้วยของตนอย่างไม่ใส่ใจว่ามารดากับพี่สาวจะทำอะไร ในหัวสมองของเธอคิดอย่างเดียวว่า พรุ่งนี้จะทำขนมอะไร และจะขายอะไรที่ได้เงินมาให้มารดากับพี่สาวใช้ ชีวิตของเธอวันๆ ก็วนเวียนอยู่แค่นี้ แต่พลอยไพลินไม่รู้หรอกว่าในอนาคตอันใกล้ ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะความโลภและเห็นแก่ตัวของคนที่เธอรักที่สุด...
“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ทำร้ายน้องสาวของฉัน” แพรดาวถามชายหนุ่มผมทองผู้หล่อเหลา ร่างสูงสมาร์ตเต็มตึงด้วยมัดกล้ามน่าหลงใหล แต่นิสัยขัดกับหน้าตาลิบลับอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย จริงอยู่แม้ว่าเธอไม่เคยเห็นพลอยไพลินอยู่ในสายตา แต่การที่หลอกพลอยไพลินมาอย่างนี้เธอก็อดรู้สึกผิดไม่ได้...
“ทำไมล่ะสตาร์ หรือว่านึกห่วงน้องสาวที่เธอไม่เคยสนใจเลยคนนี้ขึ้นมา” ดอนถามหญิงสาวคู่ขาคนล่าสุด ด้วยภาษาไทยชัดเจน
แพรดาวเป็นคู่ขาที่ร้อนแรง และยังเป็นเหยื่ออันโอชะให้เขาหากำไรจากร่างกายเธอได้มากโขอย่างเยาะหยัน ผู้หญิงไทย นี่โง่จริงๆ เห็นแก่เงินอยากได้สามีฝรั่งต่างชาติแห่แหนใคร่จะมีกันเหลือเกิน และนั่นล่ะคือช่องทางทำมาหากินของเขา ชายหนุ่มผู้คร่ำหวอดในการหากินบนเรือนร่างของผู้หญิงมานาน คิดอย่างสาแก่ใจ
“แล้วเงินในส่วนที่ฉันจะได้ล่ะ”
“เธอได้แน่นอนอยู่แล้ว และหากเธอหาผู้หญิงไทยหน้าโง่มาให้ฉันได้อีกเธอก็จะได้เงินเพิ่มอีกนะ สนใจมั้ยล่ะ งานง่ายๆ แต่รายได้งาม”
“ไม่ล่ะ ฉันคิดว่าพอแค่นี้ก่อน..” แพรดาวตอบเสียงเบานึกหวั่นใจกับงานที่เธอหลวมตัวทำไปแล้ว แต่หญิงสาวก็ไม่มีโอกาสได้คิดอะไรต่อ เมื่อร่างสูงของดอนเดินเข้ามาหาด้วยแววตากระหายหื่น และเธอรู้ตัวเองดีว่าไม่สามารถหนีพ้นเพลิงพิศวาสอันรุนแรงของเขาไปได้ เมื่อเขาจูงเธอเข้าไปยังอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับห้องที่พลอยไพลินนอนหลับใหลไม่ได้สติ เพื่อรับทัณฑ์สวาทของเขาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...
ตอนที่ 59.อาเธอร์กับพลอยไพลินจดทะเบียนกันก่อนที่เธอจะคลอดและเขาก็ขอเธอว่าจะจัดงานแต่งงานหลังจากที่คลอด เพื่อจะให้ลูกชายได้เข้าฉากถ่ายรูปพร้อมๆ กับพวกเขาด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ยินดี และงานนี้พลอยไพลินขอร้องให้เขาจัดเล็กๆ ก็พอ เพราะเธอไม่ต้องการอะไรที่เอิกเกริกใหญ่โต สำหรับพลอยไพลินแล้วแค่มีคนที่เธอรัก และครอบครัวที่อบอุ่น พิธีการต่างๆ ไม่สำคัญเลย และพลอยไพลินเอง ก็พอใจแค่ได้อยู่เคียงข้างเขากับลูกก็พอ...“ขอบคุณนะคะพี่อาร์ที่รักลินกับลูก และมอบของขวัญล้ำค่าให้ลิน แต่แค่มีพี่อาร์กับน้องอลัน ลินก็พอใจแล้วค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณพี่อีกครั้งสิจ๊ะลิลลี่จ๋า”ออดอ้อนเสียงหวานนัยน์ตาพราวระยับ แล้วก้าวขึ้นมาบนเตียง ตวัดผ้าห่มออกห่างจากกายสาวอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของเธออย่างร้อนรน เพราะอาเธอร์พยายามอดกลั้นตั้งหลายนาที เพื่อจะสวมสร้อยให้เธอ และตอนนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว“อุ้ย พี่อาร์นี่ล่ะก็ มันสายแล้วนะคะเดี๋ยวทุกคนจะรอ”“งานเลี้ยงของเราเริ่มตอนเย็นจ้ะที่รัก นี่มันเพิ่งสิบโมงเช้าเรามีเวลาเตรียมตัวอีกนาน คุณพ่อกับริค แล้วก็โจรับหน้าที่ดูแลน้องอลันกับน้องเรนนี่แล้ว เรามาทำน้องให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับน้องอลันดีกว
ตอนที่58.“พี่ทำลิลลี่เจ็บเหรอจ๊ะ คนดีอย่าร้องไห้นะ หากลินไม่ อยากให้พี่เข้าใกล้ พี่ไปนอนที่อื่นก็ได้”เขารีบถามเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่าเธอกำลังน้ำตาไหลพราก เขารีบมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“หากพี่อาร์ไปนอนที่อื่น ลินจะโกรธและไม่ให้พี่อาร์กลับมาหาพวกเราแม่ลูกอีกเลยคอยดูสิ”“ลิน... ลิลลี่ โอ ที่รักยกโทษให้พี่แล้วใช่มั้ย เย้ ดีใจจังเลย”อาเธอร์ร้องออกมาอย่างยินดี แล้วโผกอดเธออย่างรวดเร็วจูบแก้มซ้ายขวาของคุณแม่คนสวยอย่างแสนรัก จนหญิงสาวต้องผลักอกกว้างออกไปแล้วค้อนเขาอย่างหมั่นไส้“นอนได้แล้วค่ะ ดึกแล้ว”“งั้น พ่อขอนอนกอดหนูได้มั้ยครับลูกพ่อ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ ได้คืบจะเอาศอก“ไม่มั้งคะ เพราะคุณแม่ยังไม่หายงอนดีสักเท่าไหร่เลย”“โธ่ พ่อไม่กวนนะครับขอกอดนิดเดียว”อาเธอร์พูดเองเออเอง แล้วล้มตัวลงนอนกอดร่างอวบอิ่ม ที่นอนตะแคงหันหลังให้ด้วยความขัดเขิน แขนแกร่งโอบรอบกายคนตัวอวบอย่างแสนรัก กดจมูกลงบนพวงแก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปหาริมฝีปากนุ่มที่ เผยอค้างอย่างเชิญชวนอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้อีกพลอยไพลินเผยอปากรับจุมพิตอ่อนโยนจากเขาโดยดีหัวใจหนุ่มสาวที่แห้งแล้งมานาน พลันช
ตอนที่ 57.“เราออกไปทานข้าวกันได้แล้วค่ะ มิเชลทำอาหารเสร็จแล้ว”มิเชลเดินมาตามทุกคนไปรับประทานอาหารเย็น อาเธอร์ ลูเซียส ไรอัล และรสิตาลุกขึ้นเดินตามมิเชลไป แต่ในขณะที่พลอยไพลินกำลังจะลุกเดินออกไป เสียงคุณอีธานก็ดังขึ้นร้องเรียกเธอเบาๆ “ลิน อยู่คุยกับครูก่อนสิลูก”“ค่ะครู” หญิงสาวรับคำแล้วเดินไปนั่งข้างเตียงของท่าน ส่วนคนอื่นๆ ก็ออกไป แต่อาเธอร์ก็ยังเก้ๆ กังๆ อยากอยู่กับเธอก่อน แต่ลูเซียสกับไรอัลมาดึงเขาออกไปจนได้“ลินคิดอย่างไรกับพี่เขาบ้างล่ะลูก” คุณอีธานเอ่ยถามเมื่ออยู่กันลำพัง“ไม่รู้สิคะ”“ลิน ถามใจตัวเองดีๆ นะลูก ชีวิตคนเรานั้นสั้นนักและครูก็อยากได้ลินมาเป็นสะใภ้ อยากให้หลานของครูเป็นคิงส์โดยสมบูรณ์”“แต่คุณอาร์เคยบอกว่า... เอ่อ...”“สายเลือดของคิงส์จะไม่มีเลือดของผู้หญิงไทยอย่างลินปะปนอยู่” ผู้สูงวัยเอ่ยขึ้น และหญิงสาวก็พยักหน้าช้าๆ อย่างยอมจำนน“แล้วตอนนี้ลินคิดว่าเขายังรู้สึกอย่างนั้นอยู่รึเปล่าล่ะ”“ลินไม่รู้ค่ะ”“อาร์ไม่เคยง้อผู้หญิง และไม่เคยมีความอดทนกับอะไรนานๆ แต่กับลิน อาร์อดทนและยอมรับผิด ลินจะไม่ให้โอกาสเขาหรือลูก อะไรที่ผ่านๆ มาให้มันผ่านไปได้หรือไม่ ลินเองก็รู้ดีว
ตอนที่56.ดวงตาที่เริ่มพร่ามัวของหญิงชราค่อยๆ ปิดลง เมื่อนางได้พูดในสิ่งที่ควรจะพูด พลอยไพลินได้แต่สะอื้นไห้ จนไม่สามารถจะพูดอะไรได้ และเมื่อมือบางของมารดาที่เอื้อมมาลูบใบหน้าเธอด้วยความรักนั้น ทิ้งร่วงลงข้างลำตัว ที่ชุ่มโชกด้วยเลือด พลอยไพลินก็ฟุบหน้าลงกับอกของมารดาด้วยหัวใจที่แตกสลาย...งานศพของแม่ชีเดือนผ่านไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของครอบครัววาปีกับคนในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ แต่เจ้าภาพใหญ่ที่จัดการทุกอย่างและทุกเรื่องนั้นก็คือ หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่ทั้งหล่อและอัธยาศัยดี ที่ชาวบ้านต่างชื่นชม และดูเหมือนว่าชายหนุ่มเองก็ทำตัวตามสบาย และเป็นกันเองกับชาวบ้านทุกคนอย่างที่พลอยไพลินไม่เคยคิดว่า คนที่ถือตัวและค่อนข้างมีอคติกับคนไทยอย่างเขาจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ปักใจเชื่อภาพลักษณ์จอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นมา แม้ว่าทุกอย่างที่อาเธอร์ทำนั้น สื่อให้เห็นว่าเขาทำเพื่อเธอก็ตาม และแม้ว่าจะคลายความโศกเศร้าเรื่องมารดาลงบ้างแล้ว แต่เธอก็จะไม่มีวันยอมใจอ่อนกับเขาเด็ดขาด...“ลินจ๋ามาทานข้าวก่อนเร็ว วันนี้พี่อาร์ของลินเขาเข้าครัวทำเองเลยน้า..”วาปีเดินมาหาเพื่อนรักในห้องและพยายามชักชวนให้
ตอนที่55.คริสทิน่าก็เปิดฉากทันที ไม่จำเป็นต้องอารัมภบทมากมายเพราะคาดว่าพลอยไพลินน่าจะรู้ทุกอย่างแล้ว และยิ่งเธอเห็นว่าพลอยไพลินผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ที่เมื่อเทียบกับตนแล้ว ความงดงามของพลอยไพลินนั้นเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำแต่วันนี้คริสทิน่ารู้แล้วว่าความสวยงามของเธอนั้น เป็นรองพลอยไพลินไปทันที เพราะบัดนี้พลอยไพลินดูงดงามเปล่งปลั่งผิวขาวลอออมชมพู มีน้ำมีนวลผ่องใส ไม่เหมือนเธอที่ดูทรุดโทรมและไม่มีความสุข และหากเธอไม่มีความสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะมี... หญิงสาวคิดอย่างเห็นแก่ตัว มองคนตรงหน้าตาขวางพร้อมจะทำร้ายทุกคนที่เธอเกลียด ซึ่งคริสทิน่าเกลียดทุกคนที่ทำท่าว่าจะไปได้ดีกว่าเธอ...“เราไม่ได้มีอะไรบาดหมางกัน คุณทำร้ายพวกเราทำไมคะ..” พลอยไพลินถาม เมื่อมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมคริสทิน่าต้องจงเกลียดจงชังอะไรพวกเธอนัก“ทำไมจะไม่มี ก็เพราะแกกับพี่สาวร่านๆ ของแกไง ที่เข้ามาขวางทางฉัน หากไม่มีแกสองคน อาร์อาจจะหันมาสนใจฉัน และหากพี่สาวเธอมันไม่ร่าน คิดอยากมีผัวฝรั่งรวยๆ อย่างอาร์ มันก็คงไม่คิดจะกำจัดฉัน อย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะโง่รู้ไม่ทันเกมของพวกแกนะ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เพราะฉันมีแผนที่จะกำจัดมันก่อน
ตอนที่54.“สวัสดีค่ะแม่ชี” หญิงสาววางผลไม้ลงบนม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ซึ่งใกล้กันนั้น แม่ชีเดือน กำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงโรยเกลื่อนลานวัดด้วยกิริยาสงบงาม“มาแล้วเหรอลูก ไม่น่าลำบากมาเองเลยให้เด็กๆ ที่บ้านของหนูวาเอามาให้ก็ได้ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป”“ไม่เป็นไรค่ะ ลินอยากมาหาแม่ชีทุกวันอยู่แล้ว”พลอยไพลินหยิบไม้กวาดมาช่วยแม่ชีกวาดใบไม้อย่างแข็งขัน ใบหน้าผุดผ่องยิ้มละไมเหมือนเคย ใบหน้าที่แม่ชีเคยเมินเฉยไม่ใส่ใจ ที่เคยละเลยมาแสนนาน...“วันนี้ไม่มีสอนหนังสือหรือลูก”“ไม่ค่ะ วันนี้บังเอิญว่าทางโรงเรียนเขาพานักเรียนไปทัศนศึกษา ลินเลยว่างงานตั้งสองวัน เหงาจะแย่ยายวาก็ไปด้วย”หญิงสาวคุยกับมารดาอย่างมีความสุข ตอนนี้เธอรู้สึกปลดปลงอะไรได้เยอะ หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพี่สาวเมื่อแรกพบแม่ชีเดือน พลอยไพลินเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่มาพบมารดาอยู่ในวัด ที่ค่อนข้างห่างไกลสังคมเมือง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอะไรศิวิไลซ์อย่างที่มารดาเคยชอบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มารดาเคยมี แต่แม่ชีเดือนที่พบในวันนั้น หาใช่คนที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งชีวิตมารดาของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมมา